หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่149 แจ้งความลับ



บทที่149 แจ้งความล้ม

พักผ่อนไปครึ่งเดือน อันหลิงหยุ่นเข้าวังไปตรวจชีพจรทั้งสองวัง ไป ที่เซียวกุ้ยเฟยก่อน

“พระชายาเสียน ช่วงนี้ข้าแน่นหน้าอกบ่อยๆ ไม่รู้เป็นเพราะผลจาก การตั้งครรภ์หรือเปล่า?” จุนเซียวเซียวสีหน้าซีดเซียว

เหมือนเพิ่งหายป่วย

แต่อันหลิงหยุนดูแล้ว ไม่ใช่เกิดจากการป่วย แต่เป็นเพราะความซึม เศร้า

รู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่อาการอย่างนี้อันหลิงหยุนก็พูดไม่ถูก

อันหลิงหยุนลุกขึ้นรายงาน “ทูลกุ้ยเฟย ร่างกายท่านไม่เป็นไร ชีพจรทายาทในครรภ์ก็ปลอดภัย เป็นเพราะว่าท่านมีปัญหา

ทางจิตใจและคิดมาก ต้องปรับตัวกลับมา

จุนฉูฉูพูด “ข้าเข้ามาในวันก็หลายเดือนแล้ว น่าจะคิดถึงบ้าน”

อันหลิงหยุนก็ไม่พูดอันใดมาก เรื่องของคนอื่น จะคิดถึงบ้านหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับนาง แต่ท้องของนางเกี่ยวข้องกับชีวิตนาง ไม่สนใจคงไม่ได้

“กุ้ยเฟย หม่อมฉันเตรียมของสิ่งหนึ่งให้ท่านใช้ ช่วยคลายอาการ ทางจิต บรรเทาอาการแน่นอก และสามารถช่วยทารกในครรภ์ให้

แข็งแรง

จุนเซียวเซียวใบหน้างดงาม “ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพระชายาเสียน

“ได้ช่วยดูแลครรภ์ให้กุ้ยเฟยเป็นบุญของหม่อมฉัน เรื่องนี้ต้องระวัง อีกอย่างมีโรคทางจิตใจ กระทบต่อทารกในครรภ์ คิดว่าฮ่องเต้คง กังวลเรื่องนี้ หม่อมฉันเป็นข้าน้อย ต้องระมัดระวังและภักดีต่อฮ่องเต้ สุดชีวิต”

อันหลิงหยุนพูดอธิบาย ทำให้จุนเซียวเซียวหัวเราะ

จุนเซียวเซียวลุกขึ้นมากุมมืออันหลิงหยุน “พระชายาเสียน ไปเดิน เป็นเพื่อนข้าหน่อยได้หรือไม่?”

อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองจุนเซียวเซียว ก้มตัว “พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อทั้งสองเป็นเพื่อนกัน จุนเซียวเซียวพูดก่อน

เจ้ากับข้า ถือว่า ข้าเป็นพี่สะใภ้เจ้า ถึงแม้ฐานะข้าจะต่างกันเจ้า แต่ สุภาษิตพูด… ” จุนเซียวเซียวเกือบพูดออกมา

แต่ก็ยังปากเอาไว้ อันหลังหยุนเข้าใจ จุนเขียวเชียวหมายถึงอันใด

จุนเซียวเซียวอยากพูดว่า คนที่มีอำนาจขนาดไหนเมื่อหมดอำนาจก็ ไม่มีประโยชน์อันใด แต่นางก็ไม่กล้าพูดตอบ

ทุกคนต่างดูออก ว่าสถานการณ์ของจุนฉูฉูเป็นกระไร ฮ่องเต้ได้จัด ให้จุนฉูฉูอยู่ตรงนี้ แต่อันหลิงหยุนก็รู้จักขอบเขต

เรื่องของราชวงศ์ ใครจะมาดูถูกไม่ได้ นอกจากนี้ยังเป็นกุ้ยเฟยของ พระชายา

เรื่องในตำาหนัก จากเมื่อก่อนถึงวันนี้ ไม่มีใครราบรื่นมาตลอด ใน เมื่อมาถึงตรงนี้ ก็ต้องเตรียมตัวสิ้นพระชนม์ไว้ตลอด

จุนเซียวเซียวไม่ใช่คนโง่ ถึงนางไม่เข้าใจ แต่ตระกูลจุนก็ต้องบอก

นางอยู่แล้ว?

“กุ้ยเฟยกังวลมากไป ร่างกายสำคัญ ช่วงนี้อากาศไม่ดี กุ้ยเฟยไม่ ต้องคิดมาก ควรดูแลทารกในครรภ์

อันหลิงหยุนปลอบใจ”

“ข้าแค่หาคนมาพูดคุยเท่านั้น ถึงแม้วังจิ่งซิ่วจะกว้างขนาดไหน แต่ ไม่มีคนที่สามารถคุยกับข้าได้ ตอนที่ข้ายังไม่แต่งงาน ข้าไม่ออก จากบ้านเลย ตอนนั้นในสวนมีผู้หญิงนางบำเรอเยอะมาก ข้าคิดว่ามัน วุ่นวายเกิน มาถึงตรงนี้ นอกจากฮ่องเต้ ไม่มีใครเป็นเพื่อนคุยกับหม่อมฉัน ข้า

รู้สึกอึดอัดและวิตกมาก

ตั้งแต่เข้าวัง นอกจากไปเคารพหวางฮองไทเฮา ไม่เคยออกจากวัง จิ่ง ว

ตอนแรกได้ไปอยู่รับใช้ที่ตำหนักจรุงจิต ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ฮ่องเต้ สุขภาพอ่อนแอ ก็ไม่เคยไปเลย

ก็เหงาและเบื่อมาก” จุนฉูฉูพูดเย็นชา แต่ได้พูดถึงความอึดอัดใจ

ของนาง

อันหลิงหยุนเป็นคนที่รู้หน้าที่ “สิ่งที่กุ้ยเฟยพูด ข้าน้อยสัมผัสได้ ไม่ ปิดกุ้ยเฟย ตอนที่ข้าน้อยยังไม่แต่งงานก็มีชีวิตอิสระ

ตั้งแต่แต่มาอยู่ในจวนอ๋องเสียน ก็กลายเป็นผู้หญิงที่ไม่มีอิสระใน จวนอ๋องเสียน

ถ้าอ๋องเสียนเหมือนฮ่องเต้ก็ดี รู้จักทะนุถนอม

แต่ว่า อ๋องเสียนเป็นคนที่.

อันหลิงหยุนพูดเสร็จก็มองซ้ายมองขวา ดูแล้วไม่มีคน ใบหน้าหมด อารมณ์ “คนนั้นไม่แบ่งแยกชั่วดี ตอนที่ข้ายังไม่แต่งงาน

ได้ทำสิ่งไม่ดีไว้ แต่งงานแล้วเขายังฝังใจ ทุกครั้งที่พวกข้าเจอกัน เขาต้องเกลียด าเหมือนเจอศัตรู

อยู่ต่อหน้าคนภายนอก เขาเหมือนดีต่อข้ามาก แต่ถ้าไม่มีคนอื่น เขา ก็จะไม่ให้เกียรติ

ช่วงก่อนไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับอ่องเสียน มอบหมายงานดูแลบ้าน ให้ข้าน้อยจัดการ ข้าน้อยก็ทำเต็มที่ แต่สักพักเขาก็เปลี่ยนใจขังข้า น้อยไว้ที่บ้านร้าง จนข้าน้อยเกือบสิ้นพระชนม์

ข้าน้อย ต้องกังวลตลอด กลัวเวลาท่านไม่พอใจ ในช่วงที่ไม่มีคน เห็น จะฆ่าหม่อมฉัน”

สาวใช้อดใจไม่ได้หัวเราะ จุนฉูฉูมองไปอย่างไม่พอใจ “เจ้าจะโดน

ตบปากหรือเปล่า?”

“ข้าน้อยมิกล้า กุ้ยเฟยไว้ชีวิต ไว้ชีวิตข้าด้วยเพคะ!”

สาวใช้รับรีบคุกเข่า ตกใจจนตัวสั่น

สู้จีนก้มตัวคำนับ “กุ้ยเฟย อภัยโทษนางเถอะ”

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนใช้ของข้า และก็ตาม ข้าเข้ามาในวัง ข้าก็จะไม่ลงโทษเจ้าเหรอ” จุนฉูฉูพูด อย่างไม่พอใจ

อันหลิงหยุนหมดปัญญา นี่เจ้านายกับลูกน้องเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก็เลยขอร้อง “ขอให้กุ้ยเฟยอย่าโกรธ นางไม่ได้จงใจทำ

ที่จริง บางทีข้าก็พูดไม่สุภาพ ไม่ใช่ความผิดของนาง

“พระชายา ที่จริงท่านไม่ต้องอย่างนี้ เจ้าเป็นคนจิตใจดีที่ข้าไม่ค่อย เจอ”

อันหลิงหยุนอยากหัวเราะ อยู่ในสถานที่โหดเหี้ยมขนาดนี้ จิตใจดี มันจะมีค่าแค่ไหน?

“กุ้ยเฟยก็เป็นจิตใจดี”อันหลิงหยุนพูด จุนเซียวเซียวตะลึงไปเลย

ย้อนกลับมา จุนเซียวเซียวจับมืออันหลิงหยุนเดินต่อไปข้างหน้า สองคนพูดคุยกันอีกสักพัก อันหลิงหยุนอ้างว่ายังมีธุระ

อื่น จุนเซียวเซียวก็ไม่ได้รื้น ส่งอันหลิงหยุนถุงหน้าประตูวังจิ่งชั่ว แล้วจากไป

อันหลิงหยุนก้มตัวจากไป หันตัวแล้วเดินไปพร้อมสวีกงกง

มองอันหลิงหยุนเดินไป จุนเซียวเซียวก็ถอนหายใจยาว ก้มหัวมอง ท้องตัวเอง หันตัวกลับเข้าไป “กุ้ยเฟย” สู้จิ่นเดินอยู่ข้างๆ มองจุนเซียวเซียวด้วยความกังวล ยกมือ ขึ้นเพื่อให้คนข้างๆถอยออกไป

จุนเซียวเซียวพูด “มองดูแล้วนางช่างโง่เขลา แต่สายตาของนาง หลอกใครไม่ได้”

“กุ้ยเฟยหมายความว่า?” สู้จิ่นไม่เข้าใจ ถึงอันหลิงหยุนจะเปลี่ยนไป จริงตามข่าวลือ แต่นางก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก

ท่าทางการพูดเมื่อกี้ ก็เหมือนในข่าวลือ สายตาคู่นั้น กุ้ยเฟยพูด นางมองอันใดไม่ออกเลย

จุนเซียวเซียวยิ้มจางๆ ไม่ว่าอันหลิงหยุนจะหลอกทุกคน ครั้งนี้นาง ต้องช่วยข้าแน่

“เพราะอันใด?” สู้จิ่นไม่เข้าใจ

จุนเซียวเซียวส่ายหัว “เพราะนางจะเป็นคนทำคลอดให้ข้า การเกิด ของเด็กทารกคนนี้เกี่ยวพันกับชีวิตนาง ถึงนางจะโง่หรือ

ฉลาดก็ต้องกราบทูล

“กุ้ยเฟย ข้าน้อยหวีผมให้ท่าน?”

จุนเชียวเขียวส่ายหัว “ผู้หญิงจะชอบแต่งหน้าเพื่อคนรัก ถ้าไม่มีคน รัก แต่งหน้าไปก็ไร้ประโยชน์ สะอาดเรียบง่ายแบบนี้ ดีกว่า ถ้าเขามีใจให้ ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า?

อีกอย่าง ฮ่องเต้ก็ไม่มาอยู่แล้ว”

“ข้าน้อยรับทราบ

สู้จิ่นพยุงจุนเซียวเซียวกลับวังจิ่งซิ่ว อันหลิงหยุนก็ตามสวีกงกงไปวัง เพิ่งหยีเพื่อตรวจชีพจรให้ฮองเอาเสินหยุนซู

ตลอดทางอันหลิงหยุนรู้สึกหดหู่ ทั้งสองวังนี้เกิดปัญหาขึ้นไม่ได้ แต่ ก็มิอาจห้ามไม่ให้เกิดปัญหาได้

สวีกงกงถาม “พระชายาเสียนมีความในใจอันใดหรือเปล่า ตั้งแต่ ออกจากวังจิ่งซิ่วก็เหมือนคนไม่มีความสุขเลย?”

อันหลิงหยุนมองหน้าสวีกงกง แล้วพูดเบาๆ “กงกงไม่รู้ เมื่อกี้ข้าจับ ชีพจรให้เซียวกุ้ยเฟย กุ้ยเฟยมีปัญหาทางจิตใจแน่น

หน้าอก

ถ้าปกติ จัดยาให้บำรุงหน่อยก็ได้แล้ว แต่เวลานี้กุ้ยเฟยตั้งครรภ์ ทายาทราชวงศ์ เวลาจัดยาต้องระมัดระวังผิดพลาดไม่ได้”

อันหลิงหยุนรู้สึกหดหู่แล้วส่ายหัว สวีกงกงรีบถาม “จริงหรือ?” สวีกงกง เรื่องอย่างนี้ข้าจะกล้าพูดเล่นเหรอ?” อันหลิงหยุนขมวด

คิ้ว ได้แต่ส่ายหัว

สวีกงกงเริ่มรู้สึกกังวล ฮ่องเต้ได้โชคสองขั้น ชดเชยข้อบกพร่อง หลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา

คงจะทำให้ฮ่องเต้ผิดหวังมาก

“พระชายาเสียน มีวิธีอันใดหรือไม่?”

กำลังคิดวิธีแก้ไข ข้ายังไม่เจอฮองเฮา ถ้าฮองเฮาสบายดี ค่อยคิด “ แก้ปัญหาของเซียวกุ้ยเฟย”อันหลิงหยุนเหมือนคนแก่ ส่ายแต่หัว

สวีกงกงฟังแล้วรู้สึกมีเหตุผล เพราะฮ่องเต้จะใส่ใจฮองเฮามากกว่า

สองคนมาถึงวังเพิ่งหยี คนในวังมารอรับหน้าประตู พอเห็นอันหลิง หยุนก็ก้มตัว “ข้าน้อยคำนับพระชายาเสียน ทักทายกงกง” “อันหลิง หยุนได้รับค่าสั่งมาตรวจชีพจรฮองเฮา ไปกราบทูล” อันหลิงหยุนพูด เรื่องธุระ

“พระชายาเสียนฮ่องเต้กับฮองเฮารออยู่ข้างใน” สาวใช้ถอยออก อัน หลิงหยุนเข้าไปพบฮ่องเต้ชิงหยู่กับเงินหยุนซู

เข้ามาวังเพิ่งหยี อันหลิงหยุนยกเสื้อคลุมขึ้นแล้วกำลังจะคุกเข่า ฮ่องเต้ที่นั่งตรงเก้าอี้ได้เรียกไว้ “ลุกขึ้นเถอะ ถึงเจ้าจะมียศต่ำกว่า เมื่ออยู่ในวังเพิ่งหยีก็เหมือนกลับมาบ้าน ลุกขึ้น

“หม่อมฉันขอบพระทัย

อันหลิงหยุนเงยหน้า มองเห็นเส้นหยุนดูแล้วจะคุกเข่า เสินหยุนซูรีบ พูด “พระชายาเสียนไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้น

“หม่อมฉันขอบพระทัยฮองเฮา” อันหลิงหยุนลุกขึ้น การกระทำครั้ง นี้ ทําให้หัวใจนางตื่นตระหนกมาก

คุกเข่าให้คนโน้นคนนี้ หัวเข่าไม่มีค่าเลยรึ

ยืนอยู่สักพัก ฮ่องเต้ชิงหยู่ถาม “เซียวกุ้ยเฟยเป็นกระไรบ้าง?”

“ทูลอ่องเต้ เซียวกุ้ยเฟยกับทายาทปลอดภัยดี”

สวีกงกงมองไป อดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง ฮ่องเต้ชิงหยู่ขมวดคิ้ว เห็นทุก อย่างอยู่ในสายตา สวีกงกงรีบก้มหัวลง ไม่กล้าพูดอันใด

ฮ่องเต้ชิงหยู่กำลังครุ่นคิด แล้วพูด “มาดูให้ฮองเฮาหน่อย”

“เพคะ”

อันหลิงหยุนค่อยๆก้มตัวเดินไปหาเสินหยุนชู นั่งลงตั้งใจตรวจ ชีพจรให้เงินหยุนซู ระบบสแกนทํางาน ในเวลาอันรวดเร็วก็ตรวจ เสร็จเรียบร้อย ร่างกายไม่มีอันใดเปลี่ยนแปลง แสดงว่าควบคุมได้ดี

อันหลิงหยุนลุกขึ้นกราบทูล “กราบทูลฮ่องเต้ ฮองเฮากับทายาท ปลอดภัย ”

“อ่อ พระชายาเสียนทํางานเหนื่อยจริงๆ ข้ามีความสุขมาก” ฮ่องเต้ ชิงหยู่ซี้ไปอีกทาง สวีกงกงรีบเดินไป ถือถาดมาให้อันหลิงหยุน ใน ถาด ลูกปัดหยกขนาดใหญ่ ลูกปัดเป็นเม็ดสีเขียวสะดุดตา มีขนาด เท่าไข่นกกระทา

อันหลิงหยุนตกตะลึง นี่ถ้าเอาไปไว้ในสมัยใหม่ คงโดนปล้นแน่

ฮ่องเต้ก็คือฮ่องเต้ ตอบแทนให้อย่างน่าตกใจ

อันหลิงหยุนยอมรับ ของตอบแทนที่เคยได้มากมาย แต่ลูกปัดหยก พวงนี้ นางชอบมากที่สุด

สวรรค์คงรู้ นางชอบหยกมากที่สุด

“พระชายาเสียนรีบขอบพระทัยเร็ว คนมียศบรรดาศักดิ์เป็นคนนำ สร้อยลูกปัดหยกมา มีน้อยมาก

สวีกงกงรีบท้วงติง อันหลิงหยุนหันตัวมาขอบพระทัย แล้วหยิบ สร้อยขึ้นมา ฮ่องเต้ งหมองอันหลังหยุน “ข้ามีธุระจะไปตำหนักจรุงจิต วันนี้ ของเขารู้สึกเบื่อๆ พระชายาอยู่เป็นเพื่อนคุยกับฮองเฮา

“เพคะ”

ฮองเต้ชิงหยู่ลุกขึ้นเดินออกไป อันหลิงหยุนก้มตัวไปส่งให้ฮ่องเต้ชิง หญ่ สวีกงกงหันกลับมองอันหลิงหยุนอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็รีบตาม ฮ่องเต้ออกไป

รอพวกเขาไปแล้ว อันหลิงหยุนไปดูเสินหยุนซู ก้มตัวให้เงินหยุนซู แล้วพูด “ฮองเฮา หม่อมฉันมีเรื่องกราบทูล”

เงินหยุนซูมองคนรอบข้าง “ถอยออกไป”

จากนั้นเงินหยุนซูเดินไปหลังวัง อันหลิงหยุนก็ตามไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ