หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่ 91 หนึ่งเรื่องสามมุม



บทที่ 91 หนึ่งเรื่องสามมุม

บทที่ 91 หนึ่งเรื่องสามมุม

เมื่อปิดประตูลงจิตใจของอันหลิงหยุนสั่นเทิ้ม เมื่อเห็นกง ชิงวี่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า นางเริ่มกระวนกระวายขั้น

คิดอยากจะนำเข็มเงินออกมาปกป้องตัวเอง แต่การใช้เข็ม เงินรับมือกงชิงวี ก็เท่ากับฆ่าตัวเองเปล่าๆ

ยิ่งไปกว่านั้นเพราะเรื่องเคยใช้เข็มเงินรับมือกงชิงวี่ ยั่ว ให้กงชิงสี่อารมณ์ไม่ดี ความสัมพันธ์ของทั้งสองในตอนนี้ ราวกับน้ำและไฟ หากนางยังใช้เข็มเงิน เกรงว่าจะทำให้ สถานการณ์ยิ่งแย่ลงอีก

เมื่อเป็นดังนี้ อันหลิงหยุนจึงไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ

กงชิงวี่ที่ร่างกายเปลือยเปล่า นิ่งอยู่นานจึงเอ่ยขึ้น “เจ้ารีบ วิ่งมาที่นี่เพื่ออะไร ? ”

กงชิงวี่หูตาไว จากการเริ่มฝึกฝนตั้งแต่เด็ก ทำให้ความ ว่องไวของสายตาและการฟังของเขาเหนือกว่าคนทั่วไป นางที่เดินมาอย่างเร่งรีบนั้น ใจของกงชิงวี่ถึงกับอ่อนลง

เพียงแต่เกรงว่านางจะมาพูดอะไรที่เขาไม่อยากฟังอีก

“นอนไหมที่ข้าเลี้ยงไว้ออกจากรังแล้ว คิดว่าท่านอ๋อง น่าจะยังอยู่ ข้าจึงรีบมารายงานท่านอ๋อง ไม่ทันคิดอะไรก็ พรวดเข้ามา ต้องขอท่านอ๋องอย่าได้ตำหนิ”

อันหลิงหยุนในขณะที่กระวนกระวายนั้นเองก็ยังกเรื่องขึ้น

ได้

กงชิงวี่ลุกกายขึ้นจากเตียง หยิบเสื้อผ้าขึ้นสวม “ใหนข้า

ไปดู”

สวมรองเท้า พลางเดินก้าวออกจากประตูไป แต่อารมณ์ดี ขั้นบ้างไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว

อันหลิงหยุนตามไปที่ห้องของนาง เมื่อเห็นกงชิงที่ไม่ได้ สวมเสื้อผ้ามากนัก อันหลิงหยุนจึงหยิบผ้าคลุมผืนหนึ่งส่ง

ให้

“ให้ท่านอ๋องคลุมไว้” กงชิงวี่ไม่ได้หันกลับมา อันหลิงหยุ นจึงตามไปคลุมร่างเขาให้ราวกับดูแลเจ้านายตัวเอง
เมื่อก้าวเข้าห้องไปปาวใช้และอาหยู่ต่างรีบคำนับทำความ

เคารพ

“ท่านอ๋อง”

“หงเถาคำนับท่านอ๋อง”

“ลุ่ยหลิ่วคำนับท่านอ๋อง”

กงชิงวี่รู้สึกแปลกใจขึ้น “ป่าวใช้ในจวนมีชื่อหงชื่อลุ่ยแต่ เมื่อไหร่ ?”

“ตอบท่านอ๋อง เป็นพระชายาตั้งให้เจ้าค่ะ เดิมทีเป็นมู่เถา และมู่หลิ่ว พระชายาคิดว่าไม่น่าฟัง จึงเปลี่ยนชื่อให้เจ้าค่ะ” หงเถาตอบ

กงชิงหันหน้ามองกลับไปยังอันหลิงหยุน “ข้ามองไม่ ออกจริงๆ พระชายากลับชอบดอกหงลุ่ยหลิว ?”

“ทำให้ท่านอ๋องต้องหัวร่อย่อแล้ว ข้าเพียงตั้งขึ้นเท่านั้น อาจไม่วิจิตรบรรจงเลือกคำได้เท่าท่านอ๋องเลย หากเป็น ท่านอ๋อง นับว่าต้องเลือกได้ดีกว่าข้า ตั้งชื่อได้ดีกว่าข้า แน่นอน”
กงชิงวีเดิมที่อารมณ์ดีขึ้นแล้ว เวลานี้นับว่าดีขึ้นอีก หั่น กายกลับไปใกล้ชิดมากขึ้น “พระชายาหมายถึง บัดนี้นับว่า ข้าเหนือเทียมชั้นได้ใช่หรือไม่ ?”

ความร้อนกู่หนึ่งพัดมา อันหลิงหยุนคิดอยากหนี แต่เพราะ ครั้งก่อนทำผิดกับกงชิงพี่ไว้ และก็ไม่อาจต้านทานจริงๆ จึง ไม่ได้หนีไป

“ท่านอ๋องนับว่าเก่งจริงๆ”

เมื่ออันหลิงหยุนเอ่ยจบก็รีบรุดหน้าไป

นางเก็บใบหม่อนวางไว้บนถาดหลายใบ ซึ่งนับว่ามีคุณค่า เป็นอย่างมาก เพราะเวลานี้ อากาศเย็นจนเป็นน้ำแข็ง แต่ นางก็สามารถหาใบหม่อมมาได้

และเพราะฟ้าไม่ทำร้ายคนผู้มีความพยายาม หนอนไหม ของนางก็เติบโตได้แข็งแรง กับความเร็วระดับนี้ ไม่กี่วันก็ คงเติบใหญ่ และอีกหน่อยก็คายไหมได้แล้ว

เวลานั้นนางเพียงขอให้บรรดาหนอนไหมเหล่านั้นเป็น เพศผู้มากกว่าเพศเมีย และขยันขันแข็งกินใบหม่อน
ตามที่คัมภีร์แพทย์ได้บอกไว้หนอนไหมคายไหมต้อง ฝ่าฟันความหนาว แต่เท่าที่นางดูแล้วดูจะเป็นไปไม่ได้นัก หนอนไหมฤดูหนาวต่างไม่ต้องฝ่าฟันความหนาวใดๆ ไหม ที่คายออกมาจะมีความเย็นได้อย่างไร

กงชิงวี่ลองกัมดู พลางเอ่ยถาม “เจ้าแมลงเหล่านี้นะ หรือ ?

“อย่าดูถูกพวกทันเชียว เดิมทีพวกมันก็นับเป็นยาได้เลย ทว่าบรรดาแพทย์ในจวนอาจไม่รู้ ความสำคัญของยานั้นอยู่ ที่ใด ดังนั้นไม่ว่าเก็บไปเท่าไหร่ ก็นำไปใช้ประโยชน์มาก ไม่ได้อันหลิงหยุนเมื่อคิดถึงบรรดาหมอจวนเหล่านั้น แม้ จะเจนจัดเรื่องหารรักษา แต่ไม่นับว่าเชี่ยวชาญเรื่องยานัก ทำให้ใช้ส่วนประกอบต่างๆ ได้ไม่เต็มที่

กงชิง วี่ประหลาดใจแล้ว ว่าอย่างไรนะ ?”

“พวกเจ้าออกไปก่อน ท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ไม่มีอันตรายอะไร

หรอก”

“เจ้าค่ะ”
เมื่อหงเถาลุ่ยหลิ่วสองคนนั้นออกไป อันหลิงหยุนจึง เอ่ยขึ้น “แท้จริงแล้วประโยชน์สูงสุดไม่ได้อยู่ที่ตัวหนอน ไหม แต่อยู่บนใบไม้ที่มันกลืนลงไป บรรดาใบหม่อนเหล่า นี้จะสร้างสารอะไรบางอย่างที่คล้ายกับใบหม่อนโบราณ ใบของต้นนี้รักษาอาการเจ็บป่วยยามหน้าหนาวและ อาการเย็นเหน็บกระดูกได้ แต่หากเป็นมนุษย์กินจะไม่เกิด ประโยชน์อะไร อย่างแรกคือจะกินไม่ลง เพราะใบเหล่านี้มี รสขมจัด อย่างที่สองคือบนใบไม้จะมีพิษที่ร่างกายมนุษย์ ขับออกไม่ได้ แต่บรรดาหม่อนสามารถกำจัดออกไปได้ จึง เหลือเพียงความสามารถในการรักษาอาการป่วยได้

แต่อย่างไรใบไม้ประเภทนี้ก็นำมาใช้โดยตรงได้เลย เพียง แต่ประสิทธิภาพจะไม่ดีนัก เพียงเป่าลมให้แห้ง นำใบไม้ใส่ ถุงไว้ แล้วนำมาวางไว้บนร่างกาย ก็สามารถใช้รักษาอาการ ป่วยลมหนาวได้

เพียงแต่หากนำมาใช้เลยประสิทธิภาพจะไม่ดีเท่าการใช้ กับหนอนไหม หากพลิกไปมาใบไม้จะแหลกละเอียดไปได้ บางคนอาจจะถึงกับแพ้ ทำให้ไม่สบายตัว หากใช้หนอน ไหม ไม่เพียงจะสบาย ยังสามารถรักษาระยะเวลาการใช้ได้ นานขึ้น คุณประโยชน์ที่ดีที่สุดคือยาที่มาจากหนอนไหม ประสิทธิภาพดีกว่าใบไม้
จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่เข้าใจ หนอนไหมทำไมมี ประสิทธิภาพที่ดีกว่ายาใบไม้ แต่หากเท่าที่ข้าดูแล้ว หนอน ไหมเย็นมีคุณสมบัติอะไรบางอย่าง และตัวคุณสมบัติยา เองก็มีจดบันทึกไว้ แต่คุณสมบัติจริงๆ ของมา ข้าก็ต้อง ศึกษาต่อไปถึงจะรู้ได้”

“หากตามที่เจ้าพูดมาแล้ว เจ้าให้หนอนไหมเย็นกินใบ หม่อมเหล่านี้ลงไป ไหมที่คายออกมาสามารถรักษาอาการ เจ็บป่วยของไข้หนาวได้ ?”

“เป็นเช่นนั้น”

อันหลิงหยุนคิดอย่างนั้นเช่นเดียวกัน แต่ที่นางอยากได้ ไหมของหนอนไหมเย็นยังมีเพื่อวัตถุประสงค์อื่น นำมาใช้ ทำยาเป็นเพียงวัตถุประสงค์รอง

“หมอประจำจวนคนนั้นลองใช้แล้วแจ้งว่าสามารถรักษา ความอบอุ่นภายในได้ นักว่าผิดแล้ว ? ”

“อืม ข้าเองก็คิดว่าผิดแล้ว แท้จริงแล้วคุณสมบัติใยไหม ประเภทนี้ใช้สำหรับทอผ้า นำมาใช้กับการรักษานับว่า เป็นการเพิ่มขีดการใช้”
hงชิงวี่เงียนไปครูหนึ่ง ยารักษายังนับเป็นการเพิ่มขีดการ ใช้อะไรอีกหรือ

“เพิ่มโอการใช้อะไรกันเล้าใีชัยานี่รักษาแสด็จแม่มีไซ หรือ?”

ใช้นะใช้แน่ ข้ามีวิธีใช้มันกับแสด็จแม่อยู่ เจ้าหนอนไหม เย็นนี้หากใช้ในขณะเย็นนักว่าดีที่สุด หากไม่เย็นเข้าก็มีวีธี ของข้า เพียงแต่พวกเขาไม่รู้แท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหนอนไหมเป็นนี่ตามเชื่อของมันก็ดูจะ มีความเย็นในตัว แต่คุณสมบัติกลับใช้ขับตานร้อนใน ร่างกาย สามารถใช้ขับพิษใช้ได้

หนอนไหมเย็นถูกนำมาศึกษาหลายครั้ง โดยต้วของมัน เองมีคุณสมบัติเป็นยา แต่หากนาไปใส่ในยาร้อนแล้ว นับว่า ใช้ไม่ได้

หมอยาใน รัยโบราณ เทียนกับดำนาใน ยุคหลังนี้ปับว่า ในมาก ยกันอันทลิงทนุนไม่รู้จะอธิบาย อย่างไร จึงตอบไปตามความเป็นจริง
กงชิงวีเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ “ยุคหลัง ? ”

อันหลิงหยุนสะดุ้งตกใจ เพียงไม่ทันระวังก็แทบจะเอ่ย ความจริงออกมาแล้ว มีชีวิตอยู่ที่นี่นับว่าช่างยากเย็นเหลือ เกิน !

“ก็คือหนังสืออื่นๆ”

“พระชายาเจ้าเคยอ่านมาก่อน?” สายตาของกงชิงวี่วาว ขึ้นอย่างประหลาด ดูไปแล้วยังมีเรื่องที่เขาเองยังไม่รู้อีก มากนัก

“ท่านอ๋องจริงๆ แล้วหนังสือเล่มนั้นเรียกว่า ยุคหลัง เนื้อหามีมากมาย ภายในระบุเนื้อหาตากต่างกันไป เรื่อง ราวประหลาดต่างๆ มากมาย ที่ข้าพูดก็อาจไม่นับว่าถูกต้อง นัก ยังคงต้องศึกษาต่อไป ท่านอ๋องก็อย่าคิดเป็นจริงเลย” อันหลิงหยุนยิ่งอธิบายยิ่งดูสับสน ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

น่าเสียดาย กงชิงที่ไม่ใช่คนที่จะพูดจาให้หลอกลวงได้

นางเพียงคาดหวัง กงชิงที่จะเป็นเหมือนอ๋องตวน ล่อ หลอกง่ายหน่อย !
ข้าเองก็อยากเห็น” กงชิงวีมองอันชิงวีด้วยความสนใจ

“หนังสือเล่มนั้นหายไปนานแล้ว เดิมที่หนาเท่ากับหมอน ข้าวางไว้บนเตียงใช้แทนหมอนหนุน ก่อนนอนก็นำมาอ่าน เมื่อดูแล้วก็ง่วงนัก ต่อมาเก็บไว้ในบ้านนั้น ไม่รู้คนภายใน จวนคนใดนำของของข้าไปทั้งเสียได้จากนั้นก็ไม่เห็นอีก แล้ว

ทว่าหากท่านอ๋องสนใจ ข้าก็นับว่าเอ่ยเล่าเรื่องราวใน หนังสือให้ท่านฟังได้

แท้จริงแล้วหนังสือเล่มนั้นเป็นหนังสือที่มีเนื้อหารวมๆ กัน เมื่อครั้งข้ายังเด็กบิดาไม่ได้อยู่ข้างกายเท่าใด จึงนำ หนังสือเล่มนั้นมากล่อมข้านอน เล่าไปเล่ามาข้าก็จำได้ ขึ้นใจ

“จริงรี ข้าไม่รู้จริงๆ แม่ทัพอันมีทหารในจวนมากมาย ขนาดนี้ หากพระชายาไม่เอ่ย ข้าก็นับว่ามีความรู้อ่อนด้อย ยิ่งนัก ? ” กงชิงวี่เอ่ยเสียงราบเรียบ ใครจะเชื่อนางกัน เล่า !

“ท่านอ๋องสั่งสอนได้ถูกต้องแล้ว” อันหลิงหยุนมัวแต่ คำนับทำความเคารพ ผู้ชาญฉลาดจะไม่ยอมเสียเปรียบเพียงทำตัวโง่เง่าไปจึงนับเป็นเรื่องจริง

กงชิงไม่เชื่อดังนั้น แต่ก็ไม่อยากสืบสาวราวเรื่องต่อไป กลับถามขึ้น “อย่างนั้นเจ้าคิดแล้วหรือยังว่าจะให้เสด็จแม่ ใช้ใยไหมอย่างไร ?”

“ข้าคิดไว้แล้ว” อันหลิงหยุนคิดวิธีการใช้ไว้แล้ว

เมื่อมองดูริมฝีปากน้อยของอันหลิงหยุนที่พูดไม่หยุด กง ชิง จึงอยากลองทดสอบดู

เมื่ออันหลิงหยุนหันตัวกลับจะเอ่ยอะไรบางอย่าง กงชิง พลันคว้าที่คางของนางไว้ อันหลิงหยุนถึงกับตาเบิกโพลง ตาดำไม่ทันหลุบลง

ถูกจูบอยู่เนิ่นนาน เท้าทั้งสองข้างของอันหลิงหยุนอ่อน ยวบลง กงชิงที่ไม่ลังเลอีกต่อไป ดึงตัวนางไปยังเตียง ความรุ่มร้อนในตัวพลันควบคุมไม่ได้ หากเป็นอย่างนี้ต่อไป นับว่าร่างกายของเขาคงรุ่มร้อนยิ่งนัก !

“ขึ้นมาให้ข้าทดลอง !”

เมื่อเอ่ยจบกงชิงวีกดอันหลิงหยุนไว้กับเตียง ยกขาขึ้นหน้าของอันหลิงหยุนพลันตื่นตระหนก “เรื่องนี้ไม่รีบนัก ขอ

ท่านอ๋องสงบลงก่อน”

กงชิงหยุดลง “ข้าไม่ดีตรงไหน ?”

“.”อันหลิงหยุนพลันไม่มีคำพูด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับดีหรือ %23 ไม่ดี เพียงแต่คิดเรื่องที่เขาเพียงพูดไม่ถูกคอก็พลันโมโห ขึ้นไม่มีปีไม่มีขลุ่ย อันหลิงหยุนทำได้เพียงเงียบไป

จะอย่างไรนางก็เป็นสตรีอายุใกล้เลขสาม เมื่อเห็นชาย หนุ่มผู้เร่าร้อนเช่นนี้ ก็นับว่าไม่รู้จะทำอย่างไรได้เช่นกัน

ช่างเถิด ก็ไม่นับว่าเสียโอกาส จะอย่างไรกงชิงวี่ก็นับว่า เป็นของสดใหม่ !

“อย่างนั้นเจ้าก็เบาๆ หน่อย อย่าให้คนอื่นได้ยินก็แล้วกัน”

อันหลิงหยุนหุบขาลงเงียบๆ หากไม่อดเสียเล็กน้อย จะ ผิดแผนใหญ่ ต้องค่อยเป็นค่อยไป !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ