บทที่ 80 สายลมยามค่ำคืน
บทที่ 80 สายลมยามค่ำคืน
หมอจวนพ่อลูกกอดคอกันร้องไห้ ก่อนจะไปก็กล่าว ขอบคุณอีกครั้ง อันหลิงหยุนไม่แม่แต่จะมอง
ไม่ใช่ว่านางหยิ่ง แต่เป็นเพราะไม่สามารถวางของที่อยู่ ในมือลงได้ พลังทั้งหมดในตัวนางถูกใช้ไปหมดแล้ว หน้า ผากก็เต็มไปด้วยเหงื่อ นางเกรงว่าเหงื่อจะหยดลงไปใน หม้อดิน หากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างที่ทำมาก็สูญเปล่า
รอบตัวเงียบสงบลงอันหลิงหยุนรู้ว่าในที่สุดก็ไม่มีคนแล้ว ไม่มีคนมารบกวน นางจะได้ทำอย่างตั้งใจเสียที
แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหมือนกัน ที่ข้างตัวนางมีคนเพิ่มขึ้น มาหนึ่งคน
กงชิงที่นำผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาผืนหนึ่ง มาเช็ดเหงื่อบนหน้า ผากให้นาง อันหลิงหยุนไม่กล้ามอง คิดว่าเป็นอาหยู่: “อาห ยู่ เจ้าช่วยไปบอกท่านอ๋องแทนข้าที่ว่าวันนี้ข้าไม่กินข้าวเย็น”
กงชิงชยุดชะงักไปชั่วครู่ แล้วจึงผละตัวออกมา หันไป มองอาหยู่ อาหยู่สั่นโดยไม่มีสาเหตุ แล้วจึงรีบออกไปข้าง
นอก
กงชิงขี่มองไปอีกด้านหนึ่ง แล้วจึงเดินไปนั่งที่เก้าอี้
เป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมง ในที่สุดอันหลิงหยุนก็หยุด เคลื่อนไหว วางมือลง เหนื่อยจนแทบขาดใจแล้ว แล้วจึง ถอยหลังไปนั่งลงบนเก้าอี้
ไม่นั่งยังไม่เท่าไหร่ พอนั่งแล้วอันหลิงหยุนรู้สึกใจสั่นโดย
ไม่มีสาเหตุ
แล้วจึงค่อยๆหันไปมอง มองเห็นคนที่กำลังมองนางจึงรีบ วิ่งเข้าไปหา
กงชิงวี่ลุกขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงปกติ: “ทำเสร็จแล้วหรือ?”
อันหลิงหยุนตกใจ: “ท่านอ๋อง ทำไมมาอยู่ที่นี่เพค่ะ?”
“ข้าถามเจ้าเช่นนี้หรือ?” กงชิงวี่เดินเข้าไปใกล้ สองคนยืน ห่างกันเพียงหนึ่งก้าว กงชิงวีสูงกว่าประมาณครึ่งหัว อัน หลิงหยุนจึงรู้สึกเหมือนถูกกดอยู่
นางถอยหลังจากจะหลีกหนีไป แต่ขาเป็นตะคริวจึงกำลัง จะล้มลงไปบนพื้น อันหลิงหยุนสีหน้าเคร่งขรึมขั้นทันใด แล้วรีบดึงอันหลิงหยุนไว้ ยื่นมือออกไปยาว แล้วคว้าอัน หลิงหยุนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของกงชิง วี่ นางตกใจจน หน้าซีด อย่าจะผละตัวออกมา แต่กงชิงวี่ก็กอดนางไว้แน่น
“ท่านอ๋อง…”
“หุบปาก!”
เมื่อเห็นปากที่พูดไม่หยุดของนาง เขาก็ไม่ชอบใจนัก เหนื่อยขนาดนี้ยังจะวิ่งอีก ไม่รู้จักกลัวตายจริงๆ!
อันหลิงหยุนถูกอุ้มออกไป ตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดแล้ว
ด้านนอกโถงด้านหน้ายังมีองครักษ์อยู่อีกหลายคน เมื่อ เห็นอันหลิงหยุนถูกกงชิงอุ้มออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะตก ตะลึง จึงค่อยๆก้มหน้าก้มตาไม่มองโดยพร้อมเพรียงกัน
อันหลิงหยุนพูดว่า: “ข้าเดินเองได้ ขอท่านอ๋องทรงวางข้า
ลงด้วย!”
พยายามข่มหัวใจที่เต้นแรง อันหลิงหยุนจึงร้องขอ
ทันใดนั้นกงชิงวี่ก็หยุดเดิน แล้วยกมือขึ้นเตรียมที่จะโยน อันหลิงหยุนลง แล้วถามว่า: “จะให้ข้าปล่อยเจ้าลงเช่นนี้
ไหม?”
อันหลิงหยุนตกใจ จึงดึงเสื้อของกงชิงวี่ไว้ ตัวก็แนบชิด เข้าไป
ไม่ใช่เพคะ”
กงชิงวี่หดมือกลับ แล้วอุ้มอันหลิงหยุนเดินต่อไป
อันหลิงหยุนไม่กล้าพูดอะไรอีก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกกงชิงที่โยนลงบนพื้น จึงทำได้เพียงอยู่ในอ้อมกอดของ กงชิงวี่อย่างว่านอนสอนง่าย
ประตูเปิดออก อันหลิงหยุนถูกวางลงบนเตียง กงชิงจึง เดินแยกตัวออกไปปิดประตู
อันหลิงหยุนรีบลุกขึ้น ตอนที่เพิ่งลุกก็เกือบจะล้มลงบน
พื้น
ตอนที่กงชิงหันกลับไป อันหลิงหยุนนั่งหมอบอยู่ที่ข้าง เตียงแล้ว และนางก็กำลังค่อยๆลุกขึ้น
กงชิงวี่ถาม: “ขาเป็นอะไร?”
อันหลิงหยุนส่ายหน้า: ไม่ทราบเพคะ”
ตอนนี้พวกเขาต่างทำสีหน้าจริงจัง กงชิงวี่พบว่า ขาของ อันหลิงหยุนดูเหมือนจะไม่ค่อยดี ยืนไม่ได้ ไม่มีแรง
เรื่องที่อาซิววางยาพิษก่อนหน้านี้ ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ของกงชิงวี่ เขาหันหลังกลับ แล้วตะโกนว่า: “อาซิวอยู่ไหม?”
อาหยู่ตกใจ แล้วรีบบอกว่า: “สองวันมานี้เขาผ่าฟืนอยู่ที่ ลานด้านหลัง ไม่ได้ออกมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”
อันหลิงหยุนก็รู้สึกว่าไม่ใช่อาซิว นางรู้สึกว่าขาเป็นตะคริว ไม่กล้าขยับ
จึงถอยหลังไปนั่งบนเตียง อันหลิงหยุนนำเข็มเงินออกมา แล้วฝังเข็มให้กับตัวเอง
ฝังลงไปสองเข็ม อันหลิงหยุนก็ค่อยๆรู้สึกดีขึ้น
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
รู้ความสามารถของนาง กงชิงจึงถามนาง
อันหลิงหยุนโล่งใจ: “ร่างกายนี้ไม่ดี ยืนนานไปจะทนไม่ ไหว ขาก็จะเริ่มเป็นตะคริว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพคะ”
กงชิงวีนึ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปนั่งลงข้างๆอันหลังหยุน สองมือจัมเช่าไว้ แล้วถามว่า : “ไม่เป็นไรจริงๆ หรือ?”
เพคะ ไม่เป็นไร ขอบพระทัยท่านอ่องที่ทรงเป็นห่วง ตอนนี้อันหลิงหยุนรู้สึกสงบลงอย่างมาก แล้วมองดูขาทั้ง สองข้างด้วยความงุนงง
เพื่อครีมความงาม นางก็เต็มใจ ยืนตั้งนานเกือบจะทำให้ ขาเสียแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะอยู่ได้ง่ายๆจริงๆ
อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้า วันนี้เป็นวันอะไรกัน นางอยากจะ พาท่านพ่อแม่ทัพของนางหนี้ไปเสียจริงๆ
“ไม่เป็นไรแล้วเศร้าทำไม?” คงชิงวี่เห็นใบหน้าของนาง เต็มไปด้วยความโศกเศร้าจึงอดที่จะกังวลไม่ได้ ถ้าไม่เป็น ไรจริงๆจะถอนหายใจทำไม?
เมื่อพูดออกมา กงชิงวี่ก็ตกใจโดยไม่รู้สาเหตุ เมื่อไหร่กัน ที่เริ่มเป็นห่วงนางเช่นนี้
“เพคะ ไม่เป็นไร”
หลังหยุน สองมือจัมเช่าไว้ แล้วถามว่า : “ไม่เป็นไรจริงๆ หรือ?”
เพคะ ไม่เป็นไร ขอบพระทัยท่านอ่องที่ทรงเป็นห่วง ตอนนี้อันหลิงหยุนรู้สึกสงบลงอย่างมาก แล้วมองดูขาทั้ง สองข้างด้วยความงุนงง
เพื่อครีมความงาม นางก็เต็มใจ ยืนตั้งนานเกือบจะทำให้ ขาเสียแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะอยู่ได้ง่ายๆจริงๆ
อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้า วันนี้เป็นวันอะไรกัน นางอยากจะ พาท่านพ่อแม่ทัพของนางหนี้ไปเสียจริงๆ
“ไม่เป็นไรแล้วเศร้าทำไม?” คงชิงวี่เห็นใบหน้าของนาง เต็มไปด้วยความโศกเศร้าจึงอดที่จะกังวลไม่ได้ ถ้าไม่เป็น ไรจริงๆจะถอนหายใจทำไม?
เมื่อพูดออกมา กงชิงวี่ก็ตกใจโดยไม่รู้สาเหตุ เมื่อไหร่กัน ที่เริ่มเป็นห่วงนางเช่นนี้
“เพคะ ไม่เป็นไร”
“อาบน้ำก็เจ้า กินข้าวก็เจ้า เจ้าจะทำอะไรกันแน่?” กงชิง รู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ! เขาเป็นถึงท่านอ๋อง พูดกลับไปกลับ มาเช่นนี้ แล้วบ่าวไพร่จะมองเขาอย่างไร!
“รตัวเหนียวเหนอะหนะ เหงื่อออกมาทั้งวัน หากอาบน้ำจะ ได้สดชื่นเพคะ!” อันหลิงหยุนอธิบาย
“กินเสร็จค่อยอาบสิ”
กงชิงลุกขึ้นเดินไปนั่งที่โต๊ะ แล้วหันไปมองอันหลิงหยุน ที่สาวใช้ยืนเคาะประตูอยู่
“ท่านอ๋อง อาหารเย็นเตรียมเสร็จแล้วเพคะ”
“เข้ามาสิ”
สาวใช้เปิดประตูเข้ามา นำอาหารเย็นวางบนโต๊ะแล้วเดิน ออกไป อันหลิงหยุนเองก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะอาบน้ำ แล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร
ขาดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่
ร่างเดิมสุขภาพไม่ดี เหล่านี้ล้วนเกิดจากความเหนื่อยล้า พักผ่อนสักหน่อยคงจะดีขึ้น ดังนั้นนางจึงไม่ต้องรู้สึกเป็น
ห่วง
“ท่านอ๋อง เสวยเถอะเพคะ”
อันหลิงหยุนเองก็หิวแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะลงมือกินก่อนจะ
ต้องรอให้เจ้านายลงมือก่อน
กงชิงวี่ถือตะเกียบขึ้น แล้วคืบกับกินนิดหน่อย
อันหลิงหยุนจึงไม่เกรงใจแล้ว จึงเริ่มยกถ้วยข้าวขึ้นมา
นางกินข้าวไม่เร็วนัก แต่ก็ไม่ได้โอ้เอ้บิดไปบิดมา ดูแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าจริงใจและไม่เสแสร้ง
กงชิงที่กินไปหนึ่งคำ อันหลิงหยุนกินได้สองคำ แต่ก็ไม่ได้
ดูหยาบคาย
อันหลิงหยุนกินเสร็จก็วางตะเกียบลง แล้วพูดว่า: “ท่าน อ๋อง หม่อมฉันเสวยเสร็จแล้วเพคะ”“อิม”
กงชิงี่วางตะเกียบลงตาม ข้ามมื้อนี้ถือว่ากินผ่านไปแล้ว
อันหลิงหยุนเหลือบมองถ้วยข้าวของกงชิงวี่ที่สะอาด
เหมือนใหม่ เป็นคนเหมือนกัน อันหลิงหยุนสงสัยจริงๆว่า คงชิงวีอิ่มทิพย์หรืออย่างไร
กินข้าวแค่สองสามคำ ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยแล้ว กินแค่นี้เอง
หรือ!
อันหลิงหยุนหมดคำพูด
มีคนเข้ามาเก็บถ้วยชาม กงชิงวีจึงสั่งให้คนไปเตรียมถัง อาบน้ำ อันหลิงหยุนจึงเตรียมตัวเพื่อที่จะอาบน้ำ
นางเองก็ชินแล้ว ตอนที่ถอดเสื้อผ้า ขอแค่กงชิงวี่หันหน้า
ไปทางอื่นก็พอแล้ว
ข้อแรกปลอดภัย ข้อสองหากกงชิงที่มีความคิดเป็นอื่น นางก็จะวิ่งชนกำแพงได้
นั่งลงในถังอาบน้ำอย่างสมาย จดหลิงหนุนส่งเสียงผ่อน คลายออกมา กงชิงวีศ่อยๆ กำมือแห่น หันหน้ามองไปทาง ถังอาบน้ำ มีความรู้สึกอึดอัดเกิดขึ้น และเริ่มหายใจหอมขึ้น
เขาไม่ใช่คนลามก แต่เมื่อเห็นความน่าเย้ายวนของอัน หลิงหยุนแล้ว หากเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ก็คงผิด ปกติแล้ว!
ถ้าหากปกติ ทำไมเมื่อก่อนไม่รู้สึก?
อันหลิงหยุนเห็นกงจึงไม่เดินออกไป จึงนึ่งอาบน้ำหัน หลังให้กงชิง นางไม่อยากที่จะนั่งจ้องหน้าอาบน้ำกับ ผู้ชาย
กงชิงวิตาเป็นประกาย ภาพแผ่นหลังของอันหลิงหยุน ปรากฏขึ้นมาในสายตา น้ำที่ค่อยๆกระเพื่อมแล้วแยกออก ดูเหมือนมีแผ่นหยกวางพิงอยู่ที่ตรงนั้น มีหยดน้ำกลิ้งไปมา อยู่ด้านบน
คงชิงวีหันหน้าไปทางอื่น: “ดีขึ้นไหม?”
อันหลิงหยุนพูดว่า” ใกล้แล้วเพคะ”
ไม่ต้องรีบ!”
อันหลิงหยุน ตกใจ หันกลับไปมองกงชิงวีที่ไม่ได้มองนาง แล้วรู้สึกชื่นชม อย่างน้อยก็เป็นสุภาพบุรุษ รู้ว่าอะไรเหมาะ สมไม่เหมาะสม
เพียงแต่เสียดายที่ร่างเดิมได้ทำเรื่องบ้าบอคอแตกไว้ ไม่ เช่นนั้นก็อาจจะยังมีโอกาส
อันหลิงหยุนลุกขึ้นจากถังน้ำ ยื่นมือออกไปหยิบเสื้อผ้า เตรียมที่จะลุกเดินไป
แต่ด้านนอกเหมือนจะมีเสียงลมดังขึ้น อันหลิงหยุนรู้สึก ได้จึงหันกลับไปมอง กงชิงวี่พุ่งเข้าไปดึงอันหลิงหยุนไว้ พาคนขึ้นมาจากถังน้ำ แล้วถอดเสื้อคลุมบนตัวออก ห่อคน ทั้งสองเข้าด้วยกัน ขาทั้งสองข้างของกงชิงวี่เขย่งหล่น เข้าไปหลังฉากกั้นตัวของอันหลิงหยุนอยู่ในอ้อมกอดของ กงชิงวี่ ตอนที่เงยหน้า กงชิงอยู่บนฉากกั้น กำลังฟังเสียง เปิดประตู
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ