หมอเทพเซียนของอ๋องเสียน

บทที่43ฮ่องเต้ทรงพิโรธ



บทที่43ฮ่องเต้ทรงพิโรธ

บทที่43ฮ่องเต้ทรงพิโรธ

“พูดแบบนี้แล้วนับว่าเป็นความผิดของข้าหรอกหรือ ? ”

หวางฮองไทเฮาสีหน้าไม่พอพระทัยเสินหยุนชวอนขอ ด้วยน้ำตา”เสด็จแม่หยุนเอ๋อแม้นบรรลุนิติภาวะแต่หม่อม ฉันคิดไปแล้วเรื่องนี้ยังต้องคิดวางแผนในระยะยาวหม่อม ฉันเอ่ยถึงเรื่องคุรหนูสองตระกูลจุนก็ยังยากแล้วหากเพิ่ม เรื่องหยุนเอ๋อไปอีกนั่นไม่นับว่าจะยากไปกว่าเดิมหรือ หากฮ่องเต้ทรงพิโรธขึ้นมาก็จะปฏิเสธเสียหมดหม่อมฉัน กลัวแต่เพียงจะเอ่ยถึงเรื่องนี้ไม่ได้อีก”

หวางฮองไทเฮามองไปยังเสินหยุนชูด้วยสายตาเย็น ชา”พูดอย่างนี้แล้วไม่อย่างนั้นก็ให้หยุนเอ๋อไปอยู่ข้าง กายอ๋องเสียนเสียเลยสิก็นับเสียว่าเป็นความเมตตาจาก ข้าในเมื่อนางต้องใจอ๋องเสียนตัวข้าก็ไม่อาจพรากคู่รัก ออกจากกันตั้งนางให้เป็นพระชายารองก็แล้วกัน”
4. “ใจของเสินหยุนซูเจ็บปวดราวถูกคมมีดกรีดน้องสาว ของนางซึ่งมีศักดิ์เป็นถึงฮองเฮากลับถูกแต่งตั้งในเป็น พระชายารองหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปนางจะเอา หน้าไว้ที่ไหน ?

แต่เพื่อแผนในวันนี้นางจะทำอะไรได้เล่า?

“หม่อมฉันขอคำนับขอบพระทัยในความเมตตาของ เสด็จแม่”

“ลุกขึ้นเถอะหากฮ่องเต้เอ่ยถึงเรื่องนี้เจ้ารู้ใช่ไหมว่าควร พูดอย่างไร ? “หวางฮองไทเฮาถามขึ้นเสินหยุนชูทรง กายขึ้นพลางพยักหน้าใบหน้าแต้มรอยยิ้ม

“หม่อมฉันจะตรัสตอบทั้งหมดเป็นความคิดของหม่อม ฉันเอง”

“อือไม่มีเรื่องอะไรแล้วฮ่องเต้ประทับอยู่ที่พระตำหนัก จรุงจิตคงทรงงานราชการเหนื่อยแล้วตำหนักในก็มีเพียง เจ้าคนเดียวข้าก็ปวดใจเจ้าไปก่อนเถอะ”

หวางฮองไทเฮาโบกมือไม่รอให้เสินหยุนชูคำนับลาก็หันหลังเดินเข้าไปในพระตำหนัก

เสินหยุนชูคล้ายดั่งเหม่อลอยไปพลางวุ่นวายกับการ

คำนับลา

ระหว่างทางเดินกลับเสินหยุนชู่จิตใจสับสนหว้าวุ่นเบื้อง หลังมีนางกำนัลแปดคนเดินตามหนึ่งในนางกำนัลเอ่ย ขึ้นเสียงค่อย”ฮองเฮาเพคะแจ้งให้ท่านนายทราบดีหรือ ไม่เพคะ?”

“แจ้งให้ท่านทราบเถิดไม่อย่างนั้นเมื่อถึงเวลาจะวุ่นวาย กันไปหมด”เสินหยุนชูยังมีกำลังใจตากำลังกายของนาง ได้สูญสิ้นไปเสียแล้วนางกลับไปยังวังเพิ่งหยี

กว่าอันหลิงหยุนจะออกจากพระราชวังฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ขณะออกจากประตูอาหยู่รีบพานางกลับไปยังจวนอ๋อง เสียนอันหลิงหยุนหลับในรถม้าไปจีบหนึ่งเอลงจากรถก็ เดินไปทางห้องของตัวเอง

“พระชายาท่านอ๋องกำลังรอท่านอยู่”พ่อบ้านเห็นนาง กำลังเดินไปรีบรั้งนางเอาไว้อันหลิงหยุนทำได้เพียงแค่ตามไปโดยดี

นางเข้าวังไปกงชิงวี่แน่นอนต้องเป็นห่วงนาง

ยิ่งทุกครั้งที่นางไปต้องเกิดเรื่องขึ้นทุกที

เมื่อย่างก้าวเข้าประตูไปกงชิงวี่คลุมตัวด้วยเสื้อผ้าฝ้าย ผืนหนึ่งบนร่างกายไม่ได้ใส่อะไรร่างกายของซูมู่หรงเป็น ที่พบเห็นบ่อยๆเมื่อตอนยังไม่มาที่นี่อันหลิงหยุนเรียกได้ ว่าเป็นหมอส่วนตัวของซูมู่หรงเลยทีเดียวบาดแผลบนตัว ซูมู่หรงก็เป็นนางเองที่รักษา

ร่างกายของซูมู่หรงนับว่าดีอยู่เพียงแต่ครั้งหนึ่งเคย บาดเจ็บทนบาดแผลอยู่เป็นอาทิตย์ตัวคนผ่ายผอมลงไป มากโขร่างกายดูราวกับขาดน้ำ

“มองอะไรหน่ะ ?”

หน้าตากงชิงดูอารมณ์ไม่ดีนักใช้มือดึงปลายเสื้อทั้ง สองข้างเข้าหากันแต่ก็ปิดบังอะไรไม่ได้มากนัก

ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลงเล็กน้อยเอ่ยขึ้นอย่างโกรธเคือง “เป็นผู้หญิงยิงเรือทำไมไม่รู้จักเขินอาย เสียบ้างมองจ้องข้าอยู่นั่นแหละไม่กลัวตาบอดหรือ อย่างไร !

อันหลิงหยุนจึงหลบสายตานั่งลงอีกด้านหนึ่ง “ตา ของข้าบอดไปนานแล้วไม่อย่างนั้นจะชอบท่านอ๋องได้ อย่างไร

อันหลิงหยุนรู้สึกเสียใจกับความรอบรู้อันรวดเร็วนั้นขึ้น มาทันทีชายคนนี้ทั่วทั้งตัวนอกจากมีเนื้อหนังอันงดงาม แล้วส่วนอื่นๆช่ายไม่มีอะไรให้คนพิสมัยได้เลยอันหลิง หยุนไม่เข้าใจนะกร่างเดิมทำไมถึงชอบเขาไปได้

“เจ้าพูดอะไรน่ะ? “กงชิงวี่เริ่มโมโหขึ้นมา

อันหลิงหยุนยกถ้วยชามาพร้อมเทน้ำลงไปดื่มน้ำพลาง เดือนสติเขา”ไม่อยากให้ทั้งร่างเอ็นยึดดีดกันก็เป็นเด็กดี ตั้งใจฟัง”

กงชิงโกรธแต่ก็ยอมกลับไปนั่งลงพร้อมปั้นหน้าเย็นชา : สะบัดเสียงถามขึ้น”เสด็จแม่ว่าอย่างไรบ้าง ? ”
อันหลิงหยุนเมื่อนึกถึงเรื่องในวังขึ้นมาก็ปรายตามอง ไปยังพ่อบ้านท่านออกพำนักนอกพระราชวังพ่อบ้านต่าง เป็นคนของวังหลวงคนอย่างกงชิงนี้คนรอบข้างต่าง ต้องเป็นคนของหวางฮองไทเฮานางต้องระมัดระวังอยู่ ต่อหน้าคนของเขาจะปั้นแต่งเรื่องหรือพูดจาไร้สาระก็ดู จะไม่ดี

“ก็ไม่ได้ตรัสอะไรเสด็จแม่ยังดีแต่ไห่กงกงหนะสิบอก กับข้ามาเรื่องหนึ่ง”

กงชิงขี่มองไปยังทางพ่อบ้านแวปหนึ่ง”เจ้าออกไปก่อน ทำอะไรมาให้ข้าด้วยข้าหิวแล้ว”

“พะยะค่ะ”

เมื่อพ่อบ้านออกไปพร้อมปิดประตูแล้วอันหลิงหยุน จึงพูดขึ้น”เสด็จแม่ประสงค์ให้ฮองเฮาเรียนทูลฮ่องเต้ จัดการเลือกพระสนมเข้าวังไห่กงกงบอกว่าเสด็จแม่ สนใจองค์หญิงสองตระกูลจุนดังนั้นจึงให้ข้าไปพูดกับ ฮองเฮา”

กงชิงวีกลับสงบนิ่งมองอันหลิงหยุนอย่างพิจารณา”จนถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ความเป็นความตาย”

“.จะเป็นจะตายก็ยังมีท่านอ๋องจะกลัวอะไรนี่ก็กลับมาดี อยู่มิใช่หรือ ? “เมื่อลุกขึ้นยืนอันหลิงหยุนเกิดหาวขึ้นมา แล้วจึงขอตัวลาแล้ว

กงชิงวี่อยากเอ่ยอะไรคนก็ไปเสียแล้ว

เสียงเย็นชาแค่นขึ้นกงชิงขี่มองออกไปนอกหน้าต่างดู ไปแล้วพายุหมะคงกำลังจะเข้าแล้ว

คืนที่ผ่านมาช่างเป็นฝันที่ดีอันหลิงหยุนกำลังตื่นพลาง ลุกขึ้นจากเตียงข้างนอกก็มีราชโองการเรียกตัวอันหลิง หยุนเข้าวัง

อันหลิงหยุนรับราชโองการด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายกงชิง ที่อยู่เบื้องหลังเรียกคนมาให้รางวัลสวีกงกงจึงกลับออก

ไปข้างนอก

“รู้จักกลัวแล้วหรือ ? “กงชิงวี่ก็รู้สึกแปลกใจตอนนี้ควร เป็นเรื่องเลือกนางสนมทำไมถึงนำราชโองการมามอบให้ที่นี่พร้อมประกาศให้อันหลิงหยุนเข้าวังช่างน่า

แปลกใจเสียจริง

“จะกลัวหรือไม่อย่างไรก็ต้องไปท่านอย่าลืมทานยาอย่า ตายก่อนข้าจะกลับมาหล่ะ”เมื่อวางพระราชโองการลงอัน หลิงหยุนก็กำลังคิดที่จะไปทว่ากงชิงวี่เรียกตัวนางไว้”

“หยุดอยู่ตรงนั้น”

อันหลิงหยุนหันกลับมา”มีเรื่องอะไร ? ”

“ข้าจะเรียกคนไปแจ้งยังแม่ทัพอันระวังตัวด้วย ! ทำคน ของข้าหายไปข้าไม่ให้อภัยเจ้าแน่”

“วางใจเถิดแม้นท่านตายข้าก็ยังไม่ตายหรอก”

เมื่อพูดจบอันหลิงหยุนก็หันกายเดินออกประตูไป

กงชิงวี่สีหน้าคั่งแค้นความตายรออยู่ตรงหน้ายังกล้าต่อ ล้อต่อเถียงมันน่าโมโหยิ่งนัก !
ตามสวีกงกงเข้าวังระหว่างทางมาไม่มีการพูดคุยอะไร เมื่อลงจากรถม้าอันหลิงหยุนก็ไปยังพระตำหนักจรุงจิต

เมื่อเข้าประตูไปสวีกงกงก็เรียกให้ทุกคนออกไปรอ

รักษาการณ์ด้านนอก

อันหลิงหยุนคุกเข่าคำนับก็ถูกฮ่องเต้ชิงหยู่โยนสาส์น ลงมาทำให้นางตกอกตกใจทำได้เพียงกดหน้าลงเพื่อไม่ ให้โดนใบหน้าไม่อย่างนั้นจะพบเจอผู้คนยากยิ่ง

“เมื่อวานฮองเฮาคุกเข่าทั้งคืนเจ้าคิดว่าจะให้ข้าจัดการ อย่างไรกับเจ้าดี ?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ตะโกนขึ้นอย่างกราดเกรี้ยวอันหลิงหยุน ถึงเข้าใจเรื่องราวต่างๆเมื่อคืนฮองเฮาใช้ชีวิตเป็นเครื่อง ประกัน

“ฮ่องเต้หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ”

“เจ้าไม่รู้ข้าว่าเจ้านั้นไม่เห็นโลงศพไม่หลังน้ำตาถ้าข้าไม่ลงโทษเจ้าแล้วคงลบความเกลียดในใจข้าไม่ได้

ทหาร…”

“ฮ่องเต้หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ !

อันหลิงหยุนรีบรับผิดในทันทีฮ่องเต้ชิงหยู่กลับสงบขึ้น แล้ว

ฮ่องเต้เดินจากด้านบนลงมาหยุดอยู่เบื้องหน้าอันหลิง หยุนพลางเอ่ยถามขึ้น”เรื่องนี้เป็นความคิดของใคร”

“ฮ่องเต้ท่านทรงทราบอยู่แล้วเหตุใดยังทรงถามหม่อม ฉันอีก ?”

อันหลิงหยุนนับว่ามองออกแล้วในวังหลวงแห่งนี้ไม่มี คนดีในขณะที่แยกพันธมิตรศัตรูกันไม่ออกสู้ใช้โอกาส เดินเกมส์ก่อนดีกว่า

ฮ่องเต้ชิงหยู่ปั้นสีหน้าเย็นชา “เหอะเจ้าไม่กล้าพูด

หรือ ?”
“ฮ่องเต้นางกำนัลคนนั้นพูดอะไรกันแน่เพคะ ?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่แววตาลึกขึ้นบ้าง”ข้าดูแล้วเจ้าไม่ต้องพูด อะไรแล้วลากออกไปลงโทษเสียดีกว่า”

“ฮ่องเต้โปรดอย่าโมโหเลยศีรษะหม่อมฉันไม่มีราคา เท่าใด”

“เหอะแล้วข้าขาดเงินหรือ ? “ความโกรธของฮ่องเต้ชิง หยู่ลดทอนลงบ้างอันหลังหยุนรู้สึกปลอดภัยในชีวิตแล้ว ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง

สถานที่แห่งนี้นับว่าไม่ใช่ที่ให้คนมาแท้ๆ

“ข้าให้เจ้าคิดหาวิธีมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับข้าไม่อย่าง นั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”

“ฮ่องเต้เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับหม่อมฉันเลย”อันหลิง หยุนรู้สึกไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันกายกลับไปในบัดดลสบสายตาทั้งคู่ ด้วยความโกรธ”เจ้ายังจะพูดอีกหรือ ? ”
“อันหลิงหยุนก้มหน้าแม่เอ้ย !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ