บทที่ 123 การต่อต้านของราชสำนัก
บทที่ 123 การต่อต้านของราชสำนัก
จุดจบของการสร้างความไม่พอใจให้แก่กงชิงนางถูก กระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บนเตียงไปหลายรอบ อีกทั้งยังใช้ ทักษะศิลปะการต่อสู้ทั้ง18 ชนิดจนหมดไปแล้วด้วย
อันหลิงหยุนตื่นขึ้นในตอนเช้า เอวและหลังของนางปวด เมื่อยระบมไปหมด แม้กระทั่งการลงจากเตียงยังต้องกินแรง
แต่สำหรับใครบางคน การจับๆ โยนๆ เมื่อคืนนั้นเทียบเท่าได้ กับยาชูกำลังขนาดใหญ่ ร่างกายของเขาสบายอย่างยิ่ง
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปก่อนเวลา
อันหลิงหยุนลุกขึ้นและทานข้าว วันนี้นางตั้งใจจะจัดการกับ ตุ๊กแก ดังนั้นจึงไม่มีแผนออกไปไหน
เมื่อมองไปที่ตุ๊กแก อันหลิงหยุนก็ทำใจไม่ลง แต่ถ้าหากมัน ไม่ตาย คนที่ตายก็คงจะเป็นฮองเฮาแทน
แม้ว่าฮองเฮาจะเลวร้ายอย่างยิ่ง แต่นางก็ไม่มีความผิดถึง
ตาย
ทุกคนมีความใฝ่ฝันของตัวเอง คนอย่างเช่นฮองเฮา หากไม่ เหี้ยมโหดอยู่บ้าง ตำแหน่งที่นางนั่งอยู่นั้น คงทำมาได้ไม่ถึงวัน
นี้
คนโบราณมีการต่อสู้แก่งแย่งภายใน แม้ว่าอันหลิงหยุนจะไม่ เก่งในการต่อสู้ แต่นางก็รู้เช่นกัน
เกิดในสถานที่เช่นนั้น ย่อมเป็นตัวกำหนดชะตาของชีวิตไป แล้ว โดยเฉพาะสตรี ในราชวงศ์นี้ ถ้าไม่ร้ายกาจสักหน่อย การ คิดจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักวันยังเป็นเรื่องยาก
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าฮองเฮาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สิ่งแรกที่ ฮ่องเต้ชิงหญ้จะจัดการก็คือตัวนางเอง ดังนั้นนางจึงไม่กล้าที่จะ ปล่อยให้ฮองเฮาตาย
นางหยิบมีดเล่มเล็กออกมา อันหลังหยุดตัดใจลงมือ ใน ขณะที่ด้านหนึ่งลงมืออีกด้านหนึ่งนางก็เอ่ยซ้ำแล้วซ้ำอีก “เจ้า ตุ๊กแก ชีวิตในชาติหน้าไปเป็นคนจะต้องไปในที่ที่ดี ชาตินี้ถือว่า ได้สะสมคุณธรรมและความดีแล้ว
หงเถาและลุ่ยหลิ่วพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ยามฆ่าขึ้นมาก็ ลงมีดอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต หลังจากฆ่าแล้วก็ทนไม่ได้ขึ้น
มา
พระชายานั้นช่างแตกต่างออกไปจริงๆ แม้กระทั่งควา เมตตากรุณาก็ยังน่ากลัวได้ขนาดนี้
กงซิงกลับมาจากราชสำนักอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าไปในจาน ก็เห็นอันหลังหยุน นางเริ่มทำการแปรรูปตุ๊กแกแล้ว ก่อนอื่น ทอดให้เหลืองเข้มด้วยไฟอ่อนๆ แล้วปล่อยให้เป็นเมื่อมีกลิ่น
ในขณะที่กำลังปล่อยให้เย็นลงอันเมื่อหลิงหนุนกันเป็นกอง ที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งสองมองไปที่กงซึ่งด้วยสีหนักให้ความยินดี สักนิด หากแต่เต็มไปด้วยความเศร้าสล
อันหลังหยุนวางตุ๊กแกลง จากนั้นจึงหันไปล้างมือ และ ฝากฝังให้หงเถาและลุ่ยหลิวมันเอาไว้ จากนั้นนางจึงออก จากห้องไปด้านนอก
วันนี้อันหลังหมุนขอให้คนมาทำความสะอาดห้อง ห้องหนึ่ง ถูกจัดไว้เป็นพิเศษในลานโลกหลานนางกำลังจะเตรียมห้อง ยาของตัวเอง หากสามารถเชื่อมต่อกับห้องนอนของนางได้ก็ จะดีที่สุด
แน่นอนว่าย่อมไม่เชื่อไปถึงห้องนอนของกงซิงรี มีเพียงแค่
ห้องของนางเท่านั้น
นางเลิกสนใจเรื่องของกงชิงไปชั่วครู่ แต่นางยังคงต้องเตรี
ยมห้องที่นี่
หลังออกมาอันหลิงหยุนก็เห็นกงชิง นางโน้มตัวคำนับ “ท่านอ๋อง”
กงชิงวอารมณ์ไม่ดี เขาโบกมือให้นาง “ไม่จำเป็น”
“หรือเมื่อคืนท่านอ๋องจะเหนื่อยล้าเกินไป?” อันหลิงหยุน จงใจแกล้งกงชิงวี่ ดังนั้นสีหน้าของเขาถึงค่อยดีขึ้นมา
เขามองไปที่อันหลิงหยุนอย่างเรียบๆ “เนื้อตัวของพระชายา
ไม่ปวดเมื่อยแล้วหรือ?”
ภัยคุกคาม นี่คือการคุกคามอย่างหมดเปลือก
อันหลิงหยุดหดหูลงทันที เมื่อเทียบกับชายหนุ่มแล้ว
ร่างกายของผู้หญิงเทียบไม่ได้จริงๆ
คนที่ออกแรงเห็นชัดๆ ว่าเป็นเขา แต่นางกลับยังรู้สึกไร้พลัง
เห็นได้ชัดว่านางถูกจับพลิกไปพลิกมาจนเหนื่อยเกินไป
ท่านอ๋องทรงครอบงำดุดันมากขนาดนั้น หม่อมฉันจะไม่ปวด ได้กระไร ตอนนี้เอวและหลังของหม่อมฉันยังคงปวดเมื่อยอยู่ เลย ท่านอ๋องช่วยหม่อมฉันนวดๆ สักหน่อย?” อันหลังหมุน เดินไปหยุดลงตรงหน้าของเขา จากนั้นจึงจับมือของถุงชิงมา วางไว้บนเองของตน กงชิงวี่ทั้งโกรธทั้งสิ้น
สตรีสมควรรักษาจรรยา ช่างไม่ละอาย
ทันทีที่อาหยูได้ยินเช่นนี้ เขาก็รีบออกไปทันที ไม่กล้าฟังต่อ
อันหลิงหยุนหันหลังกลับคิดจะเดินจากไป แต่กลับถูกลงซิง ขวางเอาไว้ “ปวดขนาดนั้นจริงหรือ?
เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน กงชิววี่ก็เป็นห่วงอยู่บ้าง เมื่อคืน ออกแรงมากเกินไปหน่อย นางสุขภาพไม่ดี อย่าได้เจ็บป่วยขึ้น
จริงๆ เลย
อันหลิงหมุนขมวดคิ้ว “ก็ยังพอไหว ข้าเป็นหมอ พักฟื้นสัก หน่อยก็ดีขึ้น เพียงแต่จิตวิญญาณนักรบของท่านอ๋อง หม่อม ฉันได้แต่ยอมรับความพ่ายแพ้จากใจจริง
หลังจากได้ยินเช่นนี้กงชิงก็ค่อยสบายใจขึ้นมา ใบหน้าของ เขาสมใจ อารมณ์หงุดหงิดภายในใจสูญสลายไป เมฆหมอกที่ปกคลุมอยู่เกิดเป็นแสงสว่างขึ้นมา
เขาไม่ใช่คนที่ชอบฟังคำพูดยกยอปอปั้น แต่เมื่อฟังจากหญิง สาวผู้นี้แล้วมันกลับแตกต่างออกไป
“ข้ายังต้องขยันให้มากขึ้นอีกหน่อย จะได้ให้กำเนิดทารก ได้โดยเร็วที่สุด” กงชิงวอารมณ์ดี เขาวางแผนที่จะกลับไปพัก ผ่อน แต่กลับถูกอันหลิงหมุนขวางเอาไว้
“ท่านอ๋อง เมื่อเช้าท่านกลับมาท่าทางดูไม่ยินดีเท่าไหร่ มี ใครในราชสํานักชักสีหน้าใสท่านหรือเปล่า?” อันหลิงหยุนตบ หน้าอกของกงชิง
ใบหน้าของกงชิง มืดลง “ใครกล้าชักหน้าใสข้า แค่ข้าไม่ แสดงสีหน้าใส่พวกเขาแค่นี้ก็ดีอย่างยิ่งแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น เหตุใดท่านอ๋องถึงอารมณ์เสีย?
“มีผู้เสียชีวิตจํานวนมากในเขื่อนดูฟางงัน แต่พวกที่ในยาม ปกติมีได้รับการยกย่องในเรื่องการอนุรักษ์น้ำเหล่านั้น มาวัน นี้กลับกลัวที่จะออกหน้า แต่ละคนล้วนหัวหด ไม่มีใครมีความ สามารถมากพอที่จะไปจัดการกับเรื่องเขื่อนตูฟางจุ้นได้ ความ หวังเดียวของข้าก็คือเสนาบดีกรมโยธาธิการซือคงเสียง แต่ เอาก็อ้างว่าเขาแก่และอ่อนแอ ไม่สามารถทํางานที่สำคัญเช่นนี้ได้อีกต่อไป ไม่กล้ารับปากที่จะทำงานนี้ให้ข้าได้ วันนี้ฝ่าบาททรงกริ้วอย่างยิ่ง ชี้หน้าว่าข้าไร้ประโยชน์
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ กงชิงก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
หลิงหยุนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ “ฝ่าบาทพูดเช่นนี้จริงหรือ?”
“ข้าจำไม่ได้แล้ว” กงชิงจำได้ว่าฮ่องเต้ชิงหยู่เลิกคิ้วและ มองเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาชัดเจน แต่ความยั่วยุ ในดวงตานั้นกลับชัดเจนอย่างยิ่ง ราวกับกำลังถามว่า เจ้าเป็นผู้ สําเร็จราชการแทนพระองค์แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ก็ยัง ไม่สามารถจัดการได้ดี น่าอับอายหรือไม่
หลิงหยุนพูดไม่ออก นี่ไม่ได้กำลังให้ร้ายฮ่องเต้หรอกหรือ?
ฮ่องเต้ไม่เอ่ยอย่างชัดเจน เจ้าก็ช่างดียิ่ง กำหนดไปในคำ
เดียว
พอถามเจ้า เจ้าก็ทำท่าทีกำกวม บอกว่าจำไม่ได้
ฮ่องเต้ดูเหมือนจะถูกตัดสินโดยไม่ยุติธรรมไปหน่อย
ท่านอ๋องโมโหแล้ว?” เมื่อเห็นว่ากงชิงวี่ยังไม่สบอารมณ์ อัน ” หลังหยุนก็ยังคงถามต่อไป และค่อยวกกลับเข้ามายังเรื่องการ เก็บกวาดห้องๆนั้น กงชิง ตามใจนาง
“ข้าไม่ได้โกรธฮ่องเต้ แต่โกรธพวกไร้ประโยชน์พวกนั้น แต่ เติมพวกเขากล่าวโทษเสนาบดีกรมโยธาธิการ มาวันนี้เพื่อนดู ฟางจุ้นเกิดเรื่องขึ้น ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเรื่องการเชิญซือคง เสียงกลับมา
สิ่งที่น่ารําคาญกว่านั้นคือพวกขุนนางเหล่านั้น บางคนกลับยัง ก้มหน้าก้มตา ไม่เต็มใจออกหน้ากับเรื่องนี้
แต่เดิมข้าต้องการเชิญซือคงเสียงกลับมา แต่พวกเขากลับ ลังเล กังวลว่าซือคงเสียงจะส่งผลต่ออนาคตของพวกเขา ดัง นั้นจึงไม่เห็นด้วย
พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้ราชสำนักเสียหน้า ถึงแม้ว่าข้า จะพยายามต่อสู้อย่างเต็มที่ที่ แต่ก็ยังมีบางคนขัดขวาง
อันหลิงหยุนสงสัย “วันนี้ท่านอ๋องก็ไม่นับว่าอยู่ต่ำคนเพียง คนหนึ่งแต่เหนือคนอีกเป็นหมื่น อีกทั้งยังเป็นผู้สำเร็จราชการ แทน เหตุใดจึงยังมีผู้ที่กล้าต่อกรกลับท่านได้? หากในราช สำนักจะต้องสนับสนุนใครสักคน คนผู้นั้นย่อมต้องเป็นท่าน อ๋องอย่างแน่นอน!
เรื่องในราชสำนักอันหลังหยุนไม่มากนัก แต่ก็เข้าใจเหตุผล อยู่บ้าง กงชิงเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ อีกทั้งยังเป็นผู้สำเร็จ ราชการแทน เหล่าขุนนางเหล่านั้นเองก็มิใช่คนโง่ เหตุใดจะ ไม่เข้าใจสถานะของการชิง
ต่อให้กงชิงจะไม่อาจนับว่าเป็นตัวแทนของฮ่องเต้ได้ แต่เขา ก็เป็นขุนนางคนโปรด พวกเขามีเหตุผลอะไรที่จะต้องต่อต้าน กัน?
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ กงชิงก็ไม่พอใจอย่างมาก “วันนี้ลูก ฮ่องเต้แต่งตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ก๊กใหญ่ ก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง มาวันนี้ขาต้องเจอกับเรื่องเพื่อนทางจัน เขาก็ยิ่งทำตัวเป็นปรปักษ์กับข้า
ข้าต้องการให้ซือคงเสียงกลับมา แต่เขาบอกว่าไม่ได้
พูดไปแล้วสุดท้ายก็เป็นเพราะมีคนเป็นปรปักษ์ อันหลังหมุน เอ่ยถาม “กุ๊กกู้ใหญ่ไม่ใช่ลุงแท้ๆ ของท่านอ๋องหรอกหรือ
“ในเมื่อเป็นท่านลุงแท้ๆ ของท่าน เหตุใดจึงต้องทำเรื่องให้ ท่านอ๋องลำบากด้วย?” อันหลังหมุนไม่เข้าใจ หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวของตนก็ต้องทะเลาะกันงั้นหรือ
ราชสำนักแบ่งออกเป็นสามฝ่าย ราชครูจุนถือตระกูลหนึ่ง หวางฮองไทเฮาตระกูลหนึ่ง และเงินเฉิงเสียงอีกตระกูลหนึ่ง นอกเหนือจากนี้ก็กระจัดกระจายออกไปอย่างยิ่ง
กงชิง ถือเป็นคนของฮ่องเต้ ย่อมไม่ได้อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน เหล่านี้
แต่ทั้งสามตระกูลมาในวันนี้ตระกูลเสิ่นกำลังฟื้นตัว ในเมื่อ ท่าทีของฮ่องเต้เองก็ดูเป็นปกติอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีกุ้ยเฟยอง ค์ใหม่เข้าวัง ฮองเฮาก็ยังคงเป็นไข่มุกในมือของเขา ท้ายที่สุด แล้วท่าทีของจักรพรรดินั้นถูกต้องมาก แม้ว่าพระสนมองค์ใหม่ จะเข้ามาในวัง แต่จักรพรรดินีก็ยังคงเป็นตาของเขา เขาไม่ เพียงแต่เอาใจใส่ฮองเฮาทุกวัน แม้กระทั่งเสิ่นหยุนเจ๋ที่ไม่ได้ มีผลงานอะไรก็ยังได้รับราชทานรางวัล แค่นี้ก็พอจะเห็นได้ถึง ความตั้งใจของฝ่าบาทแล้ว
สําหรับตระกูลราชครูจน ถึงแม้จะมองไม่เห็นความโดดเด่น อะไร แต่ในเมื่อเซียวกุ้ยเฟยนำเรื่องน่ายินดีมาให้ถึงสองเรื่อง ฮ่องเต้เองก็ไม่มีบุตร มาวันนี้มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น ถึงแม้เรื่อง นี้จะไม่มีใครกล้าเอ่ย แต่เซียวกุ้ยเฟยก็ประสบความสําเร็จไม่ น้อย ราชครูจุนก็ย่อมเจริญรุ่งเรืองไปด้วย กลายเป็นคนเด่นดัง ในราชสํานัก
หากเซียวกุ้ยเฟยให้กำเนิดองค์ชาย และฮองเฮาให้กำเนิด องค์หญิง เช่นนี้ตระกูลจุนก็จะยิ่งรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นไปอีกใน ราชสํานัก
สําหรับตระกูลหวาง อันหลังหยุนรู้มาว่า ถึงแม้ตระกูลหวา งจะมีอำนาจไม่น้อย แต่ก็ไม่เคยสร้างความแตกแยกเพื่อผล ประโยชน์ส่วนตัว บวกกับหวางฮองไทเฮาไม่ยุ่งเกี่ยวกับราช สํานักมานานหลายปีแล้ว ถึงแม้จะมีพลังอำนาจมากล้น แต่ กลับไม่เห็นพวกเขาออกมา
เหตุใดวันนี้ถึงได้ออกหน้ากัน?
แปลกอย่างยิ่ง
อีกทั้งยังต่อกรกับหลานชายของตัวเองอีกด้วย!
“ไม่มีคำว่าครอบครัวในราชสำนัก ทุกคนล้วนมีหน้าที่ของ ตนเอง อีกทั้งก๊กอู๋ใหญ่เองถึงม้ามปกติจะไม่ค่อยออกหน้า แจ่ เขากลับเป็นคนที่มีบารมีอย่างยิ่ง ประการแรกเนื่องจากฐานะ ของเขาสูงส่ง เขาเองเป็นถึงน้องชายของเสด็จแม่ และกำเนิด จากมารดาเดียวกัน ดังนั้นถึงนับว่าเป็นบุตรชายคนโต
เมื่อตอนที่เสด็จพ่อยังอยู่ ก๊กอู๋ใหญ่ให้การสนับสนุนเสด็จพ่อไปไม่น้อย ความสัมพันธ์ระหว่างบุตรบิดานับว่าไม่เลว
แม้ว่าเสด็จแม่จะอายุมากแล้ว แต่วไท่เฟยก็ยังไม่กล้าทำ อะไรผลีผลาม เนื่องจากเบื้องหลังของเสด็จแม่ก็คือตระกูล หวาง
พูดตรงไปตรงมาเขาคือการสนับสนุนของทั้งครอบครัวในวัง
พูดตรงๆก็คือ เขาคือแรงสนับสนุนของทั้งตระกูลหว่าง
ฮ่องเต้เองก็ยังต้องไว้หน้าเขาเช่นกัน
ข้าเองก็ไม่ต้องการจะไปถกเถียงหน้าดำหน้าแดงกับเขา แต่ เขากลับมารังแกข้าเพราะข้ายังอายุน้อย ไม่ว่าเรื่องอะไรล้วน กดเอาไว้สามส่วน
เดิมที่ข้าไม่คิดจะคิดแค้นอะไรเรื่องนี้กับเขา กระไรเสียเขาก็ คือผู้อาวุโส บวกกับเขาเองก็คิดเพื่อประโยชน์ของราชวงศ์ ข้า เองก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเขา
แต่เรื่องของเขื่อนตูฟางหุ้นนั้นร้ายแรงอย่างยิ่ง ข้าหยิบยก เรื่องนี้มาพูด เขาก็ไม่จบไม่สิ้นกับข้าขึ้นมา
ข้าโมโหอย่างยิ่ง “ยิ่งคิดข้าก็ยิ่งโมโห ต่อให้อารมณ์ดีอีกแค่ ไหนก็ถูกท่านลุงใหญ่ผู้นั้นทำลายมันลง
เมื่อพูดถึงก๊กอู๋ใหญ่ผู้นี้ อันหลิงหยุนก็พยักหน้า “พูดเช่นนี้ คนผู้นี้ช่างทำให้คนโมโหเสียจริง ก่อนหน้านี้ท่านเคยพูดกับข้า เรื่องของอ๋องจันโก๋ เกรงว่าหากไม่ใช่เพราะเขา อ๋องลุ้นโก๋เอง ก็คงไม่กําเริบเบสานได้ขนาดนี้
เสด็จแม่จัดการกับกลุ่มคนในจวนอ๋องลุ้นโก๋ ส่วนหนึ่งก็น่าจะ
เกี่ยวข้องกับเขา”
สิ่งที่น่าโมโหที่สุดก็คือซือคงเลี้ยงปฏิเสธที่จะกลับมายังราช “ สํานัก หากเขายินยอม ข้าเองย่อมต้องเอ่ยพูดอะไรบ้างแน่
กงชิง นั่งลงด้วยสายตาเย็นชา
เรื่องนี้เร่งเร้าอย่างยิ่ง เขาเองก็อยากให้มันประสบคงาม
สําเร็จ
อันหลิงหยุนนั่งลงตาม “ท่านอ๋อง หากซือคงเสียงสัญญาว่า จะกลับไปที่ราชสำนัก ท่านอ๋องสามารถโน้มน้าวก๊กอู๋ใหญ่ได้
หรือไม่?”
กงชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “แน่นอนว่าต้องมีวิธี อันที่จริงก๊กอู๋ ใหญ่เองก็ไม่มีวางอำนาจอะไรบางนักในยามปกติ เพียงแค่ครั้งนี้การที่ข้าได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนทำให้เขารู้สึกขัดใจ อยู่บ้าง
กรณีจองอ๋องจันโก๋ เขาก็ไม่ได้ยินดีอะไร เนื่องจากจวน ฉง หยางกล้าทําการเป่าหูต่อหน้าต่อตาเขา
แต่ตอนนี้เรื่องเขื่อนตูฟางจุ้นกระชั้นชิดเข้ามาทุกทีแล้ว หาก ไม่ตัดสินใจโดยเร็ว เห็นความสูญเสียคงมากยิ่งขึ้นไปอีก วัน นี้มีคนตายไปแล้ว หากไม่รีบจัดการประชาชนก็จะโกรธแค้น ขึ้นมา และทำให้ชื่อเสียงของฮ่องเต้ต้องมัวหมอง”
“ท่านอ๋อง เหตุใดท่านจึงใส่ใจฮ่องเต้ขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะ เป็นพี่ชายของท่าน แต่ตั้งแต่สมัยโบราณมา พี่น้องภายใต้ราช สํานัก น้อยยิ่งนัก จะมีเยื่อใยต่อกัน ส่วนมากมักจะเย็นชา แด่ ท่านอ๋องกลับไม่ใช่
อันหลิงหยุนกล้าหาญอย่างยิ่ง นางรู้จักอารมณ์ของกงชิงใน ช่วงนี้ดีแล้ว ถึงแม้เขาจะดูเป็นคนที่โหดร้ายไร้ความปรานี แต่ จริงๆ แล้วเขาเข้ากับคนอื่นได้ง่ายอย่างยิ่ง อีกทั้งยังปฏิบัติต่อ คนรอบข้างไม่เลวร้ายอะไร
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ