บทที่ 132 จัดส่งยาเข้าวัง
“ได้ยินแล้วใช่มั้ย ให้ท่านถางไปดำเนินการสร้างห้องเรียน” อัน
หลิงหยุนพูดอย่างลวกๆ
“ขอรับ”
พ่อบ้านกำลังวุ่นอยู่กับการไปดำเนินการ อันหลิงหยุนสั่งนัก บัญชี คำนวณจำนวนเงินที่ต้องใช้ออกมา นักบัญชีไม่กล้าชักช้า เร่งอยู่กับการคำนวณ
อันหลิงหยุนเลือกคนมาหลายคน เพื่อมาตรวจดูอีกครั้ง
สอบถามไปหลายประโยค ถามถึงเหตุผลเบื้องลึก ไม่มีปัญหา ใดๆแล้วจึงให้ทั้งหมดกลับไป
ในเวลานี้ทุกคนในจวนอ่องต่างมีความสุขกันถ้วนหน้า ทุกคน ต่างพากันยกย่องอันหลิงหยุน ในใจหงเถาลุ่ยหลิวต่างก็มีความ สุขเช่นกัน โดยปกติแล้วรายได้ของพวกนางเดือนหนึ่งตกแค่ เดือนละหนึ่งตำลึงเท่านั้น ซึ่งถ้าคนในจวนมองก็ถือว่าไม่น้อย แล้ว แต่ว่าตอนนี้เพิ่มเป็นสิบตำลึง ซึ่งเยอะกว่ามากเมื่อเทียบกับ รายได้ในหนึ่งปีของชาวบ้านด้านนอก
อาหย่ยิ่งรู้สึกหดหู่มากขึ้น แต่เดิมเงินรายเดือนของเขาก็มีสาม ตำลึง ไม่ต่างกันเท่าไหร่กับหมอจวน แต่ตอนนี้กลับได้เงินเพิ่ม มากขนาดนี้ พวกหญิงรับใช้ในจวนต่างพากันจ้องมองเขาตาเป็น มัน เสมือนดั่งหมาป่าจ้องมองเหยื่อ ทำให้อาหย่รู้สึกประหม่า
ดูสมุดบัญชีหมดแล้วอันหลิงหยุนให้นักบัญชีไปที่เรือนอื่น รู้สึก โล่งอก หยิบผ้าห่มมาห่ม แล้วผล็อยหลับไป
ในฝันอันหลิงหยุนฝันเห็นเรื่องแปลก นึกไม่ถึงเลยว่าจะกลับไป ยังห้องทดลอง ทั้งนางยังเห็นซูมู่หรง อีกด้วย
ซูมู่หรงสวมเสื้อสีดำ สวมเสื้อคลุมสีขาวด้านนอก เวลานี้กำลัง ยืนตรงหน้านาง
“หลิงหยุน” ซูมู่หรงเรียกนาง อันหลิงหยุนตกใจสะดุ้งตื่น
อันหลิ่งหยุนลืมตาขึ้นแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มันเหมือน ความจริงมาก
เรื่องอันใดกันแน่?
“เป็นอันใดไปรึ?” กงชิงวี่อยู่ข้างตัวอันหลิงหยุน เห็นนางตื่นแล้ว จึงถามนาง
อันหลิงหยุนส่ายหัว ลุกขึ้นนั่งและเอนตัวไปด้านข้าง มองไปที่ กงชิงวี่ตกอยู่ในภวังค์
คิดถึงว่าเขากลัวว่านางจะจากไปอยู่ตลอด นางคงได้รับผลกระ ทบมาด้วย ไม่งั้นนางตายแล้วหรือทำไมถึงเห็นซูมู่หรงได้?
พักผ่อนไปสองวันอาการหวัดของอันหลิงหยุนก็หายขาด กงชิง วี่กลับมาจากวังไปดูอันหลิงหยุน เห็นบริเวณห้องยาอันหลิงหยุน เป็นครั้งแรก และมันก็ถูกเปิดออกแล้ว
กงชิงวี่เดินเข้าไปดู คนไม่น้อยเลย หาคนที่อยากพบไม่เจอ
อันหลิงหยุนกำลังเตรียมยาสำหรับฮองเฮา เพิ่งจะบรรจุเสร็จ กงชิงวี่พลักประตูเข้าห้อง
อันหลิ่งหยุนหันหลัง เก็บขวดยาในมือ
กงชิงวี่อยู่ตรงประตู ปิดประตูลงถามนาง “ซ่อนอันใดอยู่”
“ยาที่จะให้ฮองเฮา”
อันหลิงหยุนหันหลังกลับไป กงชิงถาม “ยาบำรุงครรภ์ของ
ฮองเฮา”
อันหลิงหยุนหดหู่ ถ้าเป็นยาบำรุงครรภ์ก็คงดี เสียดายอันนี้ เป็นยาที่ใช้รักษาชีวิต
อันหลิงหยุนนั่งลงถามว่า “ท่านอ๋องทําไมออกจากวังเร็วนักล่ะ?
“อืม เรื่องของเขื่อนตูฟางจุ้นมีความคืบหน้าแล้ว ข้าดูคนไม่ผิด จริงๆ ซือคงเลี้ยงมีวิธีจริงๆ ไม่ถึงสามวัน เขาก็บอกข้าด้วยความ มั่นใจ สามารถสร้างเขื่อนตูฟางจุ้นขึ้นใหม่ได้
แต่อาจต้องให้ชาวบ้านยากลำบากสักหน่อย” กงชิงวี่นั่งลง กล่าว อันหลิงหยุนนั่งตามลงไปด้วย มองเขาสักครู่ไม่ได้กล่าว อันใด
พระชายามีธุระ?” กงชิงวี่กุมมือนางเอาไว้ อันหลิงหยุนพยัก “
หน้า
“ท่านอ๋อง ข้าจะเข้าวัง”
“ให้ข้าไปด้วย ?”
อันหลิงหยุนเงียบไป ดูท่าจะไม่มีเรื่องอันใดที่เขาไม่รู้ แม้แต่ เรื่องที่นางจะเข้าวังเขายังรู้
อันหลิงหยุนลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า กงชิงวี่ตามไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อันหลิงหยุนให้เขารอ เขากลับเข้าห้องถอดเสื้อผ้าออก “ท่านอ๋อง เมื่อคืนจัดการเรื่องนี้ไปแล้วหรือเพคะ?” อันหลิงหยุ นถูกกดติดไว้กับกำแพงแล้วถอดเสื้อผ้าออก ดิ้นไม่หลุดเลย จํายอมให้กงชิงวิ่
กงชิงวอุ้มอันหลิงหยุน หันกลับไปที่เตียง
“ แต่วันนี้ข้ายัง”
.” จะพูดกระไร ชั่วยามหน้ายังจะจัดการอีก?
อันหลิงหยุนออกจากเรือนหลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ตั้งใจอาบน้ำอีก
รอบ
ไม่อย่างนั้นกลัวว่าจะเป็นการรบกวนพระองค์ บ่ายคล้อยทั้ง สองออกจากห้อง คนของลานโอวหลานกลับไปหมดแล้ว ทำให้ อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้ายิ่งนัก
กงชิงวี่ต้องตั้งใจแน่ กลางวันแสกๆทำเรื่องแบบนั้นในเดือน ก็ไม่ กลัวคนหัวเราะเยาะ
เมื่อถึงประตูวังอันหลิงหยุนนิ่งไปสักพักหนึ่ง ไม่ได้เห็นมานาน แล้ว!
ศัตรูที่ไม่อยากเห็นกลับพบกันง่ายและบ่อยจริงๆ มาพบกับสามี ภรรยาอ่องตวนซะได้ อันหลิงหยุนกำลังจะลงจากรถม้ากงชิงวี่ยื่นมือเขาให้นาง รู้ว่า นางเพิ่งหายดีต้องการความช่วยเหลือค่อนข้างมาก จึงไม่กล้า ละเลย
อันหลิงหยุนจะลงจากรถม้ากงชิงวี่ก็ขึ้นไปอุ้มลงมา อันหลิงหยุ นไม่รู้สึกเขินอาย ปกติชายผู้นี้ก็เป็นคนใจกล้าอย่างนี้อยู่แล้ว
อุ้มไว้แบบนั้น แล้วกงชิงวี่ก็เดินหมุนไปรอบหนึ่ง อันหลิงหยุนก็ ถูกอุ้มแบบเจ้าหญิงไปยังหน้ารถม้า อาหยุ่บังคับรถม้าไปทางอื่น อันหลิงหยุนจึงถูกปล่อยลงมา
เมื่อเท้าทั้งคู่ถึงพื้นอันหลิงหยุนก็จัดความเรียบร้อยเสื้อผ้า มอง เห็นสามีภรรยาอ่องตวน
อ๋องตวนกำลังกุมมือจุนฉูฉูอยู่ ทั้งสองสวมเสื้อสีฟ้านกยูง เวลา นี้จุนฉูฉูช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูชวนให้หลงใหล อ่องตวนดูมีสง่า ราศี ทั้งสองก็เพิ่งลงจากรถม้า แต่ทั้งสองต่างมองมาที่อันหลิงหยุ นกับกงชิวี่ เวลานี้อันหลิงหยุนรู้สึกอึดอัดใจเหลือเกิน ทำเหมือน ว่านางได้รับการโปรดปรานโอ้อวดให้จุนฉูฉูอย่างงั้นแหละ รู้ อย่างนี้ลงจากรถม้าเองดีกว่า สถานการณ์ตอนนี้ช่างน่าอึดอัดใจ
จุนฉูฉูยิ้มขำๆ มองไปทางอ๋องตวน “ท่านอ๋อง เราไปกันเถอะ”
อ๋องตวนพยักหน้ารับ มองกงชิงวี่สักครู่อย่างมีความหมายลึกๆ สองสามีภรรยาเดินเข้าวังไปก่อน
ท้องฟ้าเริ่มเย็นแล้ว อันหลิงหยุนรู้สึกดีว่า ผู้ที่ยังสามารถเดิน เข้าวังในเวลานี้ได้ จะต้องมีเรื่องที่สำคัญมาก จุนฉูฉูคงไม่หา เรื่องชวนนางทะเลาะเป็นแน่
เข้าวังแล้วอันหลิงหยุนไปยังพระตำหนักจรุงจิตขอเข้าเฝ้า ฮ่องเต้ชิงหยู่ กงชิงวี่รออยู่กับนางที่หน้าประตู ไม่คิดเลยว่าตวน อ๋องกับชายาตวนก็รออยู่ที่นั่น
ทั้งสี่คนเพิ่งจะแยกจากกันไม่นานก็พบหน้ากันอีก
อันหลิงหยุนถูกกงชิงวี่จับมือตลอดทางที่เดินมาพระตำหนัก จรุงจิต บอกกับกงกงว่าเชิญรายงาน ก็รออยู่หน้าพระตำหนักจรุง จิตพร้อมสามีภรรยาอ๋องตวน
“หนาวหรือไม่” อันหลิงหยุนเพิ่งหายดี กงชิงวี่จึงไม่อาจวางใจ ได้ ถ้าเป็นกลางวันก็พอว่า ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว หนาวก็ยังหนาว อยู่ดี
นึกถามอันหลิงหยุนดู
อันหลิงหยุนส่ายหน้า “ไม่หนาว”
“ไม่หนาว มือเย็นขนาดนี้” กงชิงวี่ถึงมืออันหลิงหยุนไปถึงปาก เป่าลมอุ่นแล้วลูบเบาๆ
จุนฉูฉูดึงมือออกไปจากมืออ๋องตวน สิ่งที่คนอื่นทำนางรังเกียจ
เมื่อมืออ่องตวนว่างลงเขาก็รีบ หันหน้าไปที่กงชิงกับอันหลิง หยุนกล่าวว่า “กลางที่สาธารณะแบบนี้ พวกเจ้าทำแบบนี้ ได้ กระไร ให้คนข้างล่างหัวเราะเยาะเอาหรือ”
อันหลิงหยุนแปลกใจ หันหน้าเข้าหาตวนอ๋อง ทำเหมือนปกติ เขาไม่ทําอย่างงั้นแหละ
กงชิงวีไม่ได้พูดอันใด ดึงเอามืออันหลิงหยุนกลับไปอีก ลูบมือ ต่อไปอีก อย่างนี้ถึงจะยอมให้จับอยู่เฉยๆ
อ๋องตวนถูกเพิกเฉยย่อมที่จะไม่พอใจ กล่าวต่ออีกว่า “ต่อหน้า พระพักตร์ฝ่าบาท คิดจะอุ้มลงจากรถม้าก็อุ้มลงมา พูดออกไป มันจะไม่เป็นที่ครหานินทาหรือ”
อ๋องตวนก็พูดเกินไป นี่เป็นเรื่องของเราสองผัวเมีย เกี่ยวข้อง “ อันใดกับอ๋องตวน? ข้าอยากจะทำอันใด มันก็เป็นเรื่องของข้า ต้องให้อ๋องตวนมาชี้ไม้ชี้มือหรือ? หรืออ๋องตวนท่านอิจฉา?” ตอนแรกอันหลิงหยุนไม่คิดจะสนใจอ๋องตวน แต่หากปล่อยเขา ไร้เหตุผลถึงขั้นสามต่อไป เขาไม่ยอมจบง่ายๆแน่
อ๋องตวนรู้สึกโกรธหลายอย่าง “ข้าพูดกับน้องสาม ไหนเลยจะ มีส่วนให้เจ้าได้พูด”
อันหลิงหยุนทําหน้าดูถูก “อ่องตวนพูดไม่ชัดเจนเอง ท่านไม่ได้ เอ่ยนาม ข้าจะไปรู้ได้กระไรว่าท่านพูดกับท่านอ๋อง หรือว่าพูดกับ ” ข้า?
“เจ้า…… อ๋องตวนกำลังจะพูดต่อ กงกงก็ออกมาพอดี กงชิง ก็ไม่ได้พูดอันใด ทําให้อ่องตวนยิ่งโกรธไปอีก
“น้องสามเจ้าไม่ว่านางรึ?” อ๋องตวนทำตัวเองเสียหน้า
กงชิงวี่ถึงมองไปที่อ๋องตวน ลำบากใจอย่างมาก “พี่รอง ท่านจะ ไปถือสาหาความอันใดกับน้องสะใภ้ นางก็เป็นแค่หญิงที่แต่งงาน แล้วคนหนึ่ง บางครั้งก็อาจพูดอันใดโดยไม่คิด ข้าเองก็ไม่สนใจ นาง รองก็ท่านอย่าจริงจัง ทำไมต้องไปคิดให้เสียอารมณ์
หยุนหยุน ดูสิว่าเจ้าทำให้พี่รองโกรธแล้ว เจ้าคิดว่าพี่รองเป็นข้า งั้นหรือ ที่ไม่หาความกับเจ้า? ยังไม่ขอโทษอีก”
อันหลิงหยุนชำเลืองมองอย่างดูถูก หันหลังและสะบัดมือกงชิง ออก พอดีกงกงบอกว่าฮ่องเต้ให้พวกเขาเข้าไปเข้าเฝ้าได้ อัน หลิงหยุนนำหน้าเข้าพระตำหนักจำรุงจิต
สวีกงกงสีหน้ามึนงง มองดูสามคนที่เหลือ หันหน้าตามไป
เดินไกลแล้วสวีกงกงรีบบอกว่า “พระชายาเดินช้าๆหน่อย เข้าไปแล้วเดินไปทางใต้ มีคนรออยู่”
อันที่จริงสวีกงกงก็ไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่พระชายาเสียนเข้าวัง ฮ่องเต้ต้องหาทางพบหน้า ไม่รู้ว่าข้างในนี้มีเรื่องอันใด
ตามหลักไม่น่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ชายหญิง เห็นแก่หน้า ของแม่ทัพฮ่องเต้คงไม่ทำ
หลายปีมานี้ฮ่องเต้ปฏิบัติกับฮองเฮาด้วยความจริงใจ ถ้ามีความ คิดนั้น วังหลังก็คงไม่เงียบเหงามาหลายปี
อีกอย่างนิสัยของพระชายาเสียนก็ไม่ใช่แบบที่ฮ่องเต้ชอบ
จริงๆ
สวีกงกงนำคำมาให้แล้ว อันหลิงหยุนก็เข้าไปในพระตำหนัก จรุงจิต สวีกงกงรีบถอยกลับออกไป
อันหลิงหยุนทำตามที่สวีกงกงบอกเดินไปทางทิศใต้ของพระ ตำหนักจรุงจิต พระตำหนักจรุงจิตเตรียมการล่วงหน้าไว้แล้ว
ไม่มีคนเลย เดินเข้าไปรอบๆ ทางทิศใต้มีทางเดินยาวไปยังวิหารบรรทมรอง มาแล้วถึงก็ได้พบกับฮ่องเต้ชิงหยู่
“หม่อมฉันคำนับฮ่องเต้เพคะ” เห็นฮ่องเต้ชิงหยู่อันหลิงหยุนรีบ เข้าไปหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ชิงหยู่ เตรียมคุกเข่าลงฮ่องเต้ชิงหยู่ ประคองอันหลิงหยุนลุกขึ้น
“ไม่ต้องแล้ว ข้ายังต้องไปพระตำหนักจรุงจิต เรื่องยาวพูด สั้นๆ มาเถอะ” ฮ่องเต้ชิงหยู่ปล่อยมือและกล่าว อันหลิงหยุนก็ไม่ ชักช้าอีก หยิบเอาขวดยาออกมา
“ฝ่าบาท นำยานี้ผสมกับน้ำดื่มส่งให้ดื่มได้เลย ดื่มลงไปแล้ว จะไม่มีความรู้สึกใดๆ แต่หลังจากสามวันไปจะไม่เห็นรอบ เดือน ท้องก็จะค่อยๆโตขึ้น แต่การแกล้งตั้งครรภ์ก็มีผลเสียต่อ ร่างกาย”
หม่อมฉันทำสุดความสามารถแล้ว แต่หม่อมฉันจะพยายาม ปกป้องฮองเฮาอย่างเต็มที่ เช่นนี้แล้ว พระองค์ต้องนำสิ่งของบาง อย่างมาให้ฮองเฮา และต้องนำติดตัวตลอดเวลา ถึงจะสามารถ เอามาใช้ตอนใกล้คลอด เพื่อรับประกันความปลอดภัยของ ฮองเฮา”
อันหลิงหยุนหยิบถุงหอมจากอกเสื้อ ข้างในนางใส่ยาสมุนไพร ลงไปด้วย กลิ่นหญ้าหอมจางๆ ฮ่องเต้ชิงหยี่หยิบไปดมดู มองอันหลิงหยุน “นี่คืออันใด”
“ในนี้มีกลิ่นยาตัวหนึ่ง ใช้ตัวตุ๊กแกบดเป็นผง ผสมกับยา สมุนไพรชั้นดีบางตัว จะยังไม่ได้ใช้ชั่วคราว แต่สิ่งนี้จะทำให้ตัว ฮองเฮามีกลิ่นหอมนมของเด็กทารก
ร่างกายหญิงตั้งครรภ์จะมีกลิ่นหอมที่เหมือนเด็กทารก นี่จะใช้ ในการปกปิดเรื่องที่ฮองเฮาแกล้งตั้งครรภ์ได้
และกลิ่นหอมนมนี้ ใช้เพื่อช่วยปกป้องฮองเฮา
จะปกป้องฮองเฮา ต้องเริ่มใช้ยาตั้งแต่ตอนนี้เลย หม่อมฉันกลัว ว่าถึงเวลาจะได้ไม่คุ้มเสีย
ข้างในมียาอยู่สองเม็ด ต้องรอเวลาที่เซียวกุ้ยเฟยคลอด ให้ ฮองเฮาใช้ ชีวิตฮองเฮาจะไม่เป็นอันตราย นอกจากนั้นฮองเฮาจะ มีอาการของการคลอด(บุตร)”
“อาการของการคลอดบุตร?” ฮ่องเต้ชิงหยู่ถามอย่างแปลกใจ อันใดคืออาการของการคลอดบุตร
อันหลิ่งหยุนรีบอธิบาย “ก็คือการคลอดลูกเพคะ”
“อืม ข้ารู้แล้ว ข้าไปก่อนนะ” ฮ่องเต้ชิงหยู่หยิบของเดินจากไป อันหลิงหยุนคํานับ น้อมส่งเสด็จเพคะ”
ฮ่องเต้ชิงหยู่จากไป อันหลิงหยุนเพิ่งจะเดินกลับไปอีกทาง ตอนที่นางปรากฏตัวในพระตำหนักจรุงจิต ฮ่องเต้ชิงหยู่กำลังพูด อยู่ ส่วนกงชิงวี่มองหานางอย่างคนที่จิตใจไม่อยู่กับตัว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ