บทที่ 74 การมาเยือนของเสินหยุนเอ๋อ
บทที่ 74 การมาเยือนของเสินหยุนเอ๋อ
ในใจของอันหลิงหยุนรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก เรื่อง นี้ไม่ใช่เรื่องของการหลบหรือไม่หลบ แต่เป็นเพราะเขา
กอดนางอยู่ ทำให้นางรู้สึกไม่สบายตัว
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่สบายตัวเพคะ”
อันหลิงหยุนบิดตัวเพื่อที่จะลุกขึ้น แต่แขนของกงชิงวี่ ก็โอบเอวนางไว้อยู่ สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของนาง:
“อย่าขยับ”
อันหลิงหยุนจึงไม่กล้าขยับเขยื้อนอีก
ผู้ชายคนหนึ่งกำลังกอดผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนตัก ห้าม ไม่ให้เจ้าขยับ แล้วผลสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้นนะ?
ถึงจะไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน แต่ก็เคยเห็นมา บ้าง ในโทรทัศน์ก็แสดงแบบนี้ทั้งนั้น
อันหลิงหยุนมองไปทางอื่นอย่างเขินอาย ในโทรทัศน์ ตอนต่อจากนี้จะต้องแสดงอย่างไรต่อนะ?
กงชิงวี่ขยับคางของอันหลิงหยุนให้ชิดเข้ามา แล้วมอง ดูใบหน้าของนาง ดูอย่างละเอียดแล้วก็ยังคงเป็นใบหน้า เดิมนั้น แต่เมื่อก่อนเขารู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก แต่มา ตอนนี้กลับอยากแสดงความเป็นเจ้าของ มันเกิดอะไรขึ้น กันแน่?
“ข้าขอถามเจ้าหน่อย สิ่งที่เจ้าแสดงออกก่อนหน้านี้ ล้วนแล้วแต่แสร้งทำใช่หรือไม่?” กงชิงวี่เอ่ยถามอย่างไม่ ค่อยสบอารมณ์
อันหลิงหยุนเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเจตนาของกงชิงวี่อย่าง ชัดเจนนัก จึงพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า: “เรื่องที่ ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป อย่าได้นำกลับมาใส่ใจอีกเลย เพคะ หม่อมฉันเองแต่เล็กก็ไม่มีใครดูแล ท่านพ่อเอง ก็นำกำลังทหารอยู่ที่ชายแดน เหล่าบรรดาตนใช้ในจวน ต่างก็เอาใจหม่อมฉัน หม่อมฉันอายุยังน้อยไม่รู้ความ จึง ถูกเลี้ยงมาจนกลายเป็นคนหยิ่งผยอง ท่านอ๋องทรงรู้สึก ไม่พอพระทัยก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
หม่อมฉันรู้ตัวดีว่าตนเองไว้ซึ่งคุณธรรม ไม่คู่ควรกับท่าน ต้อง สามารถอยู่ร่วมกันได้กี็รู้สึกซาบซึ้งใจมากแล้ว และ ถือเป็นการหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ท่านอ่องต้องทรงเสทอม เสียชื่อเสียงเพราะหม่อมฉัน”
มือของกงชิงวี่ยิ่งจับแน่นขึ้น ไม่ได้มีความรู้สึกโกรธอีก ต่อไป: “ข้าก็เพียงแค่ถาม ว่าแสร้งทำหรือไม่ ทำไมต้อง อธิบายให้ยึดยาวด้วย?”
อันหลิงหยุนรู้สึกผิดหวังอย่างมาก การจะอยู่ร่วมกันมัน ยากขนาดนั้นเชียวหรือ?
“ท่านอ๋อง หากทอดทั้งหม่อมฉันแล้วจะทำให้ท่านอ๋อง สบายพระทัย หม่อมฉันก็ยินดี” สรุปว่าแยกกันก็พอแล้ว
“ข้าว่าเมื่อคืนพระชายาคงตกใจจนสับสนข้าถามอะไร จึงได้ฟังไม่รู้เรื่อง จะว่าไปแล้วข้าคงจะต้องสอนสัก หน่อยถึงจะดี”
กงชิงออกแรงหยิกคางของอันหลิงหยุนแล้วเขย่า อัน หลิงหยุนเจ็บจนอยากจะร้องไห้ แม่เอ้ย ท่านจะออกแรงขนาดนั้นทำไม จะหยิกข้าให้ตายเลยหรือ อย่างไร!
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันได้ยินแล้วเพคะ แล้วก็ได้ยินชัดเจน แล้วด้วย ท่านอ๋องทรงถามหม่อมฉันว่าแสร้งทำหรือไม่ หม่อมฉันไม่ได้แสร้งทำ เมื่อก่อนหม่อมฉันอายุยังน้อย ไม่รู้ความ ตอนนี้หม่อมฉันโตแล้ว รู้ความแล้วเพคะ” อัน หลิงหยุนอธิบาย
กงชิงวี่มองปากที่พูดไม่หยุดของนาง คิดถึงสัมผัสใน วันนั้น แขนจึงยิ่งโอบกระชับขึ้น คิดที่จะทดลองดู แต่ยัง ไม่ทันที่เขาจะได้โน้มตัวไป เสียงของอาหยู่ก็ดังขึ้นที่ ประตู: “ท่านอ๋อง คุณหนูเสินมาขอพบพ่ะย่ะค่ะ”
กงชิงจึงวางมือลงแล้วปล่อยอันหลิงหยุน ลุกขึ้นแล้ว
เดินไปที่ประตู
“เชิญคุณหนูเงินไปที่ห้องรับแขก”
“พ่ะย่ะค่ะ”
อันหลิงหยุนถอนหายใจ ตกใจเกือบตาย!
“พระชายา ไปเถอะ ข้าไม่ไป”
เห็นอยู่ว่าขาข้างหนึ่งกำลังจะก้าวออกไป แต่กงชิงวีก็ กลับมาอีก แล้วหันตัวเดินกลับมา
อันหลิงหยุนไม่คิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ ครึ่ง วันกว่าจะได้ถวายพระพรลา จึงเก็บความรู้สึกตกใจเอาไว้ แล้วเดินออกไปทางประตู
ไปรับมือกับคุณหนูเสิน ก็คงจะดีกว่าอยู่รับมือกับกงชิงวี
เมื่อออกจากประตูไป อันหลิงหยุนก็ลืมเรื่องที่มีคน
ติดตามคุ้มกันไปเสียสนิท นางมุ่งหน้าไปยังห้องรับแขก
เมื่อไปถึงห้องรับแขก อันหลิงหยุนเดินเข้าไปก็พบว่า เสินหยุนเอ๋รอรออยู่ด้านในเรียบร้อยแล้ว ใส่เสื้อขนสัตว์ สีชมพู แต่งกายดูสง่างาม ในแววตายังแฝงไปด้วยความ
เสียใจเล็กน้อย ไม่เจอกันพักหนึ่ง เสินหยุนเอ๋อดูซูบผอม ไปมาก หากไม่ใช่เพราะอันหลิงหยุนรู้ดีว่าเป็นเพราะ
อะไร คงจะต้องคิดว่าเงินหยุนเอ๋อป่วย
หนักอย่างแน่นอน
“คุณหนูเสิน”
เมื่อเข้ามาถึงอันหลิงหยุนก็เริ่มเอ่ยปากพูดก่อน เสิน หยุนเอ๋อหันกลับไปที่ประตู เมื่อได้ยินว่าอันหลิงหยุ นมา ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ ตอนที่หันกลับไป แววตาก็ แสดงออกถึงความโกรธอย่างชัดเจน แต่เมื่อเห็นอาหยู่ เสินหยุนเอ่อจึงเก็บความโกรธเอาไว้
“พระชายาเสียน!” ถึงแม้เสินหยุนเอ๋อจะเก็บอารมณ์ โกรธไว้ แต่น้ำเสียงของนางก็ยังเต็มไปด้วยความเย่อ
หยิ่งและดูถูก
ถึงแม้นางจะไม่ได้มีฐานะสูงส่งอะไรนัก แต่เมื่อไหร่กัน ที่นางเคยเห็นอันหลิงหยุนอยู่ในสายตา
ฮ่องเต่ทรงพระราชทานของขวัญ โดยการแต่งตั้งให้ เป็นพระชายารองของอ๋องเสียน ถึงแม้จะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็เป็นของขวัญของฝาบาทที่พระราชทานให้ อีกทั้ง นางเองก็ชอบอ๋องเสียนไม่น้อย แล้วถือดีอย่างไรมาให้ นางเลิก
เสินหยุนเสื้อเกลียดอันหลิงหยุนจนแทบอยากจะฆ่าให้
ตาย จึงกำมือแน่น
ความแค้นนี้นางกลืนไม่เข้า
อันหลิงหยุนเห็นเสียนหยุนเอ้อกำมือแน่น จึงรู้สึกจนใจ ผู้หญิงในสมัยโบราณเป็นอะไรกันไปหมด เพื่อผู้ชายคน เดียว จะต้องถึงขนาดเจ้าตายข้าอยู่เลยหรือ?
“คุณหนูเสิน เชิญนั่ง เด็กๆ น้ำชา”
อันหลิงหยุนค่อยๆเดินเข้ามาในห้องรับแขก แล้วจึงไป
นั่งลงบนเก้าอี้ของเจ้านายต่อหน้าการมองดูของทุกคน แล้วจึงมองเสินหยุนเอ๋ออย่างไม่แยแส
ตอนนี้นางเป็นเจ้านาย จึงจะต้องวางมาดให้เหมือนเจ้า
นาย
ที่เสินหยุนเอ๋อมาในวันนี้ เดิมทีก็คงไม่ได้มีเจตนาดี เช่น นั้นนางเองก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงใจแล้ว
เสินหยุนเอ๋อไม่สามารถอดทนกับเหตุการณ์นี้ได้ จึงหันกลับไปมองอันหลิงหยุน: “อ๋องเสียนล่ะ?”
อันหลิงหยุนขมวดคิ้ว: “ช่วงนี้ท่านอ๋องเสียนงานยุ่ง เจ้า เองก็รู้ พิธีแต่งตั้งพระชายากำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เขา จึงไม่มีเวลาที่จะออกมาพบคุณหนูเสินจริงๆ คุณหนูเสินอ ย่าเพิ่งใจร้อน เชิญไปนั่งดื่มน้ำชาก่อน รอชั่วครู่อาจจะมา ก็ได้
อันหลิงหยุนทำอย่างอื่นไม่เป็น แต่ก็ดูโทรทัศน์มาไม่ น้อย เรื่องที่จะทำให้ทะเลาะวิวาท หากไม่พูดออกไปจะ เป็นการดีที่สุด แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ใครมาก่อน หากว่าเจ้า ไม่มาหาเรื่องข้า ข้าก็จะทำเหมือนกับเจ้าไม่มีตัวตน แต่ ถ้าหากเจ้ามาหาเรื่องข้า ข้าก็ไม่มีทางไว้หน้าเหมือนกัน
เสินหยุนเอ๋อได้ยินก็โกรธ กล้าใช้พิธีแต่งตั้งพระชายา มากดดันนางอย่างนั้นหรือ?
ตอนนี้คนข้างนอกมีใครไม่รู้บ้างว่า นางของพวกนาง สูญเสียอำนาจ เดิมที่มีคนไปมาหาสู่ไม่ขาดสาย ตอนนี้
ไม่มีแม้แต่คนเข้ามาพูดคุยด้วย
เดิมที่ฮ่องเต้ทรงต่อต้านแรงกดดันจากหวางฮองไท เฮาเพื่อที่จะมอบของขวัญชิ้นนี้ให้แก่นาง ถึงแม้จะไม่ดี ที่สุด แต่ก็ทำให้คนทั่วไปได้เห็นของขวัญที่ฮ่องเต้ทรง พระราชทานให้
แต่กลับถูกนางปฏิเสธ ตอนนี้นางกลายเป็นตัวตลก ตระ กูลเสินก็กลายเป็นที่ที่ทุกคนพยายามหลีกหนี เกรงว่า ต่อไปตระกูลเสินคงต้องจบสิ้น ได้รับผลกระทบอย่างต่อ เนื่อง
แล้วจะให้เงินหยุนเอ๋อไม่เกลียดได้อย่างไร?
อันหลิงหยุนเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้เรื่องพิธีแต่งตั้ง พระชายาของฝ่าบาทมากดดันนาง พอเริ่มอ้าปากพูดอัน หลิงหยุนก็มานั่งนึกเสียใจทีหลัง หากเรื่องนี้รู้ถึงวังหลวง นางก็คงจะมีโทษไม่น้อย แต่ในเมื่อคำพูดเมื่อพูดออก ไปแล้วก็เหมือนสายน้ำที่ไม่อาจไหลย้อนกลับได้นาง จึงทำได้เพียงควบคุมสถานการณ์ตรงหน้า ไม่พยายาม อธิบายให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
“ในเมื่อพระชายาเสียนทรงกล่าวเช่นนี้ คิดที่จะบอก
อะไรกับหม่อมฉันกันแน่?” เสินหยุนเอ๋อ โกรธ
อันหลิงหยุนรู้ดีว่า เสินหยุนเอ่อโกรธจนสมองไม่อาจรับ รู้อะไรอีกแล้ว
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็คิดได้ว่า หาเรื่องเพิ่มอีกหนึ่งเรื่องไม่ เท่ากับทำเรื่องที่ให้ลดน้อยลงไปหนึ่งเรื่อง อันหลิงหยุน จึงพูดอีกว่า: “คุณหนูเสิน ท่านอ๋องทรงงานยุ่งจริงๆ ข้าว่า เอาอย่างนี้ดีกว่า คุณหนูเสินรออยู่ก่อน ข้าจะไปทูลถาม ท่านอ๋อง หากทรงมีเวลา ก็จะทูลเชิญท่านอ๋องมาต้องรับ คุณหนูเสินด้วยตนเอง”
อันหลิงหยุนลุกขึ้น แล้วเดินผ่านเสินหยุนเอ๋อไป เดิมที เตรียมที่จะเดินจากไป แต่ถูกเสินหยุนเอ๋อยื่นขาออกมา ดักไว้เสียก่อน
อันหลิงหยุนเองก็คิดไม่ถึง มีคนในจวนอ๋องเสียนอยู่ใน เหตุการณ์มากมาย ทุกสายตาก็ต่างจับจ้องอยู่ เสินหยุน เอ๋อซึ่งเป็นถึงผู้หญิงเก่งหมายเลขหนึ่งของเมืองหลวง ทำไมจึงกล้าทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้
นางไม่ทันได้ตั้งตัว จึงทำท่าจะล้มลงไปที่พื้น อันหลิง หยุนร้องออกมาตามสัญชาตญาณ: “ว้าย!”
เสินหยุนเอ๋อแสยะยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
อาหยู่เองก็รู้สึกแตกตื่น คิดที่จะเข้าไปช่วยก็ไม่ทันการ เสียแล้ว แต่ขณะที่อันหลิงหยุนกำลังล้มลง ก็มีเงาสีดำ เข้ามาถึงพอดี ร่างของอันหลิงหยุนอยู่ดีๆก็ลอยจากพื้น ขึ้นไปอยู่ในอ้อมกอดของคนคนหนึ่ง อันหลิงหยุนรู้สึก โล่งใจ คิดว่าเป็นอาหยู่เข้ามาช่วยเอาไว้
เมื่อยืนอย่างมั่นคงแล้วจึงหันไปมอง แล้วก็ต้องรู้สึก
ประหลาดใจ กงชิง?
“ท่านอ๋อง!”
อันหลิงหยุนที่ถูกกอดไว้แน่น ถอยหนีไปข้างหลังสอง
ก้าว
กงชิงวี่ปล่อยมือแล้วหันมองไปทางเสินหยุนเอ๋อ ตอนนี้ เสินหยุนเอ๋อตกใจจนหน้าซีด แล้วจึงรีบร้องไห้ออกมา!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ