คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป

ตอนที่ 176 ภาพลักษณ์ของคุณส่งผลกระทบต่อความ



ตอนที่ 176 ภาพลักษณ์ของคุณส่งผลกระทบต่อความ

รู้สึกของผม

ปัดโธ่เว้ย

มีใครบอกเธอได้บ้าง ว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นห้องออก กำลังกาย!

เครื่องวิ่งออกกำลังกาย เครื่องยืดกล้ามเนื้อ เครื่องยกน้ำ หนัก ดัมเบล เครื่องสร้างกล้ามเนื้อ อุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง ขนาดเล็กขนาดใหญ่ครบครันไปหมด เปลี่ยนห้องที่มีขนาด เพียงสองร้อยตารางเมตรมาเป็นห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบ ครันไปในทันที ไม่สามารถที่จะเพอร์เฟกต์ไปได้มากกว่านี้ แล้ว!

แอนน่าขยี้ตาของตัวเองไปมา แทบจะเป็นลมลมพับไป ทันที!

ผู้ชายสารเลวนอกจากจะสารเลวแล้ว ยังใจดำอีก! ไม่ เพียงแค่ใจดำ แต่ยังโหดเหี้ยมด้วย!

เป็นคนที่ย่ำแย่ที่สุดในโลกใบนี้ชัดๆ!

ชั้นสามมีทั้งหมดสามห้อง ห้องที่ใหญ่ที่สุดคือห้องฟิตเนส ห้องถัดไปคือห้องเก็บของ ส่วนห้องที่อยู่มุมด้านในสุดถูก ล็อกไว้อยู่ บ่งบอกว่าห้ามเข้าออกโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
แอนน่าที่หวังว่าจะได้อยู่ชั้นสามนั้น คงจะหมดหวังแล้ว

หลงเชียวนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่ระเบียงข้างหน้าต่าง ก่อนจะ ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างรีบร้อน เสียงเคาะประตูบ่งบอก

ได้ว่าผู้เคาะอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก

ก็จริงสิ สมควรจะอารมณ์ไม่ดี

“เข้ามา”

แอนน่าบิดประตูลูกบิดเข้ามาอย่างแรง ก่อนจะยืนพอง กระเป๋าเดินทางอยู่หน้าประตู หน้าตาที่กรุ่นโกรธของเธอนั้น ปะปนไปด้วยหยาดเหงื่อเล็กน้อย ขนย้ายกระเป๋าเดินทางไป มา ทำให้เธอเหนื่อยจนเหงื่อออก เรื่องนี้ท่านเชียวเข้าใจได้

“ท่ำไมเหรอ? เวลานี้คุณแอนน่าไม่ควรจะอยู่ที่ห้องของ ตนเองหรอกหรือ?”ท่านเซียวแกล้งทำเป็นตกใจ ก่อนจะ เอนตัวลงบนโซฟา ในมือก็ถือปากกาอยู่ นัยน์ตานั้นยากที่จะ บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆได้

รอยยิ้มเย็นของแอนน่าทำให้อุณหภูมิในห้องลดลงไปอีก สิบองศา “คุณท่าน ทำไมคุณไม่บอกฉันว่าห้องข้างบนนั้นคือ ห้องออกกำลังกาย?”

“ทีม? คุณถามผมแล้วเหรอ?”

เขาโยนคำถามและปัญหาทั้งหมดกลับไปให้เธอ

“ไม่ใช่ว่าคุณควรจะพูดเตือนฉันก่อนเหรอ?”
ท่านเขียวขมวดคิ้วขึ้น “ผมถามคุณแล้วว่าจะไปสำรวจดู

ห้องก่อนไหม แต่คุณปฏิเสธ”

แอนน่าอยากจะบีบคอเขาให้ตาย!

“คืนนี้ให้ฉันนอนที่ห้องไหน? บอกมาเถอะ ห้องไหนที่

เข้าไปพักได้บ้าง?”

ท่านเซียวทำเหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ เพราะบ้านหลังใหญ่ เกินไป แต่ผลลัพธ์ของค่าตอบก็คือ “นอกจากชั้นหนึ่งกับชั้น สามแล้ว ห้องอื่นสามารถเข้าพักได้หมด”

อย่างนี้แปลว่า เธอต้องอยู่ชั้นสองเหรอ?!

แอนน่าแทบอยากจะทุบกำแพง!

“ขอบคุณมาก!”

กัดฟันตอบออกไป ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางไปยังห้อง ริมสุดทางเดิน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป ปัดโถ่ ห้องหนังสือ! อารมณ์ของเธอตอนนี้แทบอยากจะเอาระเบิดมาระเบิดที่

แห่งนี้ทิ้ง

ส่วนห้องข้างๆห้องหนังสือนั้นพักไม่ได้แน่นอน โอกาสพบ หน้ากันค่อนข้างสูง

เธอเลือกห้องอีกฝั่งหนึ่ง เปิดประตูเข้าไป ก่อนจะตกตะลึง

ค้างไป
นี่คือห้องที่ถูกเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว สะอาดเอี่ยมอ่อง เป็นระเบียบ และมีขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา และยังมีโต๊ะ เครื่องแป้งสำหรับผู้หญิงอีก ในห้องมีห้องน้ำส่วนตัว พอกด ปุ่มเปิดผ้าม่านอัตโนมัติ วิวทิวทัศน์ด้านหน้าคือกลุ่มดาว ต่างๆมากมาย

สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจที่สุดคือ บนหัวเตียงมีแจกันที่ ส่งกลิ่นหอมจางๆของดอกลิลลี่ปักอยู่

เป็นเรื่องบังเอิญ? หรือเตรียมการไว้ล่วงหน้า? ผู้ชายคนนี้คิดยังไงกันแน่? เธอเริ่มมองไม่ออกแล้ว

วันถัดมา ตอนเช้าตรู่

เธอตื่นเช้ามาโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเปลี่ยนมาสวมชุดออก กำลังกายสีขาวดำ เจ็ดโมงเช้าเริ่มวิ่งออกกำลังกาย

ห้องนอนรับรองขั้นสอง ระเบียงที่มีขนาดกว้างขวาง ผ้า ม่านสีฟ้าครึ้มกับผ้าตาข่ายสีขาวถูกลมพัดพลิ้วไหวไปมา แสงที่เจิดจ้าสาดส่องเข้าไปในหน้าต่าง ท่านเชียวหยุดยืนอยู่ บนพรมผ้าที่ถูกถักทอมาจากขนแกะชั้นดี ก่อนจะเดินไปยังริม ระเบียง ใช้มือเปิดผ้าม่านขึ้นมา ก่อนจะเห็นเงาของหญิงสาว ที่กำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่

แสงแดดอ่อนๆยามเช้า ลมของเดือนสี่ไม่หนาวและไม่ร้อน จนเกินไป ดอกไม้ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็บานสะพรั่งไปทั่วบริเวณเธอที่สวมชุดออกกำลังกายสีขาวดำวิ่งช้าๆตัดไปตามถนนที่ เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบาน แผ่นหลังที่ยึดตรง วิ่งลงน้ำหนัก อย่างเป็นจังหวะ ผมที่ถูกมัดขึ้นอย่างลวกๆเคลื่อนไหวไป ตามจังหวะการวิ่งของเธออย่างพลิ้วไหว

ไม่…..ไม่เหมือน

หญิงสาวในใจของเขา ไม่ใช่แบบนี้

เปลี่ยนชุดเสร็จเดินลงมาจากบันได แอนน่าก็กลับมาจาก การวิ่งออกกำลังกายพอดี เดินเข้าตัวบ้านก็เห็นฝ่ายชายที่ กำลังนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสี ดำยาว ใบหน้านั้นประดับไว้ด้วยความรู้สึกเย็นชาเช่นเคย

ใบหน้าของหญิงสาวที่ผ่านการออกกำลังกายมาเต็มไป ด้วยหยาดเหงื่อ แก้มที่ขาวผ่องถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงอ่อนๆ ใบหน้าแดงอ่อนๆของเธอน่ารักประดุจเด็กน้อย

ท่านเขียวขมวดคิ้ว “คุณแอนน่า ไม่ทราบว่ากี่โมงถึงจะได้ ทานอาหารเช้า?”

อาหารเช้า?!

ให้ตายสิ! ปกติอาหารเช้าของเธอจะมีคนรับใช้คอย เตรียมไว้ให้เสร็จเรียบร้อย หลังจากที่เธอวิ่งกลับมาจากการ ออกกำลังกายตอนเช้า

แอนน่าใช้หลังมือของตนเช็ดเหงื่อบนหน้าอย่างลวกๆ แต่ก็มีบางส่วนที่เซ็ตไม่หมด เหงื่อปลายจมูกของเธอสะท้อน ประดุจเม็ดเพชร “ขอโทษที เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำล้างตัวก่อน แล้วจะรีบกลับมาเตรียมให้”

ท่านเซียวมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเบนสายตาจากไป เธอวิ่งขึ้นชั้นสองไปอย่างรีบร้อน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะรีบวิ่งลงมา

ใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น

แต่ว่า พอท่านเซียวเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์เห็น การแต่งตัวของเธอแล้ว ก็เอ่ยขึ้น “คุณแอนน่า คุณมีแต่ชุดสี ขาวดำเหรอ?”

ครั้งแรกที่ได้เจอกันก็ใส่ขาวดำ ครั้งที่สองก็ใส่ขาวต่า ชุด ออกกำลังกายก็สีขาวดำ ครั้งนี้เสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวก็ อีก

“คุณคงไม่มีสิทธิ์ที่จะมายุ่งเกี่ยวกับความชอบในการแต่ง ตัวของฉันหรอกนะ?” แอนน่าสบสายตาเขากลับไป

“ผมไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับความชอบส่วนบุคคลของคุณ แต่ ผมหวังว่าช่วงระยะเวลาที่คุณคอยดูแลผมอยู่นี้ ก็ควรจะ ใส่ใจในภาพลักษณ์ของตนบ้าง และอีกอย่าง คุณหมอแอน น่าก็คงจะรู้ดีว่าการแต่งกายแบบไหนถึงจะทำให้คนไข้รู้สึกดี ใต้”
แอนนาแอบก่นด่าเขาขึ้นมาในใจ “คุณยังจะอยากกินข้าว เข้าอยู่ไหม?!”

อยากทานข้าวเข้าไวๆก็อย่าบ่นให้มาก!

เพื่อที่ผู้ช่วยจะสามารถวางใจรับประทานได้ แอนน่าขยัน ขันแข็งในการเรียนทำอาหารจีนมาก แต่เหมือนผลลัพธ์จะไม่ ค่อยดี ถึงแม้เธอจะทำจนคล่องแคล่วแล้ว รสชาติพอทานได้ แต่หน้าตาอาหารนั้นดูไม่ได้เลย

ดูเหมือนว่า นี่จะเป็นการบ้านที่ยากชิ้นหนึ่งเลย “ขอโทษที นี่เป็นระดับที่ดีที่สุดของฉันแล้ว”

เรื่องที่ยุ่งยากของอาหารจีนคือเรื่องการใส่น้ำมัน ดังนั้น เธอจึงมัดผมขึ้น ก่อนจะสวมใส่ผ้าคลุมทำอาหารอย่างดี รูป ลักษณ์ตอนเช้าที่สวมใส่ชุดอยู่บ้านสบายๆของแอนน่าดู สวยงามอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ

โดยสรุป ความรู้สึกของเขาตอนนี้ซับซ้อนอย่างมาก

โต๊ะรับประทานอาหารเป็นโต๊ะเหลี่ยม ทั้งสองนั่งอยู่ตรง ข้ามกัน ระยะห่างไม่ไกลกัน บนโต๊ะมีกับข้าวสามอย่าง และ ซุปหนึ่งอย่าง

กับข้าว..รสชาติไม่ดีเลยจริงๆ

ท่านเชียวถามออกมา “ในครัวยังมีเหลืออยู่ไหม?”
แอนนามองเขาอย่างระวัง “ทำไมเหรอ?”

“จะส่งให้ผู้ช่วยคุณได้ลองชิมนะ”

เอ่อ..

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ท่านเขียวก็เตรียมตัวไป ทำงาน แอนน่ารีบตามประกบขึ้นไป “แล้วฉันล่ะ? คุณคงไม่ ขังฉันไว้ที่นี่หรอกใช่ไหม?”

ท่านเซียวเลิกคิ้วขึ้น “คุณเป็นหมอประจำตัวผมไม่ใช่สัตว์ เลี้ยงของผม”

เธอเข้าใจความหมายของประโยคนี้ว่า จะไม่ขังเธอไว้ใน

บ้าน? เธอสามารถเข้าออกบ้านได้ตามใจชอบ?

แต่ทานเชียวกลับพูดต่อ “ดังนั้น ผมจะไม่พาคุณติดตัวไป ตอนทำงาน”

ความรู้สึกสดใสของแอนน่าเปลี่ยนไปเป็นหดหู

“คุณท่าน ฉันมีความเป็นอิสระภายใต้การรับรองของ กฎหมาย”

ดังนั้นคุณไม่สามารถจะกักขังฉันได้

“เท่าที่ผมรู้ คุณถือสัญชาติอเมริกา กฎหมายของประเทศ จีนใช้กับคุณไม่ได้”

“ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน รัฐบาลของอเมริกาก็จะคุ้มครองประชาชนของอเมริกาเสมอ ฉันยื่นคำร้องได้!”

เธอยืดออกออกมาอย่างกล้าหาญ

“ทีม? คุณคิดว่าคุณมีโอกาสนั้นเหรอ?”

ปัดโต่เว้ย!

ไม่ว่าอย่างไร แอนน่าก็จะต้องออกไปให้ได้

ท่านเซียวออกค่าสั่ง “คุณแอนน่า หวังว่าผมจะไม่เห็นคุณ สวมเสื้อผ้าสีนี้อีก ตั้งแต่วันนี้หลังผมเลิกงานกลับมาเป็นต้น

ไป”

แอนน่าถาม “คุณให้ฉันไปซื้อเสื้อผ้าใหม่?”

“ถูกต้อง”

เธอรีบยื่นมือออกมา “เงินล่ะ? คุณให้ฉันไปซื้อเสื้อผ้า คุณ ก็ต้องออกเงินให้”

ท่านเซียวจัดเน็กไทของตัวเองให้เข้าที่ ก่อนจะก้าวขาขึ้น รถไป “ถ้าผมจำไม่ผิด คุณแอนน่าเคยบอกผมไว้ว่า คุณไม่ ขาดแคลนเงิน”

shit!!!

หยังเซินเป็นผู้ขับรถพาเธอมายังอาคารหัวชิวห้างสรรพ

สินค้าสุดหรูใจกลางเมือง

“คุณแอนน่า เจ้านายสั่งการมาว่า ให้คุณกลับไปถึงคฤหาสน์ก่อนที่เขาจะเลิกงาน และต้องเตรียมอาหารเย็นให้ เสร็จเรียบร้อยก่อนเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ขอให้คุณเลือกซื้อของ อย่างมีความสุขครับ”

พูดจบ หยังเป็นก็ยิ้มปิดท้าย ก่อนจะกลับเข้าไปในรถ Bentley สีดำ ก่อนที่จะขับออกไป

ทิ้งให้แอนน่าสับสนวุ่นวายอยู่คนเดียวสามสิบวินาที

แอนน่าโทรสายไปหา Lisa และ Curret แต่เสียงรอสาย ของทั้งสองบอกว่าไม่มีผู้รับสาย ให้ตายสิ พวกเขาถูกขังเห

รอ

ผู้ชายโหดร้ายคนนี้! เธอต้องหาวิธีหลบหนีให้ได้!

ไม่ชอบให้เธอสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ ดีมาก

ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองที่หรูหราและสวยงามแบบนี้ ชั้นหนึ่งชั้นสองเป็นสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับโลก แอนน่า เลือกเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าที่ไม่มีสีฉูตฉาด

คนน้อย ก็ดี เธอเกลียดที่ที่คนอัดแน่น

เธอไม่อยากเสียเวลาไปกับการเลือกเสื้อผ้า ดังนั้นเมื่อเธอ เดินเข้าร้านไปก็เห็นเสื้อผ้าชุดแรก เป็นชุดกางเกงสีดำยาว ด้านในยังมีเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้าชุดด้วย ปกคอออกแบบอย่างมี

ทรงลายดอก

เธอเอื้อมมือออกมาจับขากางเกง ก็มีอีกมือหนึ่งยื่นออกมาจับเช่นกัน

คือ?

เธอเงยหน้าขึ้นมา ก่อนเห็นว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีขนาด ส่วนสูงน้อยกว่าเธอมาก มีผมยาวระดับกลางหลัง ดวงตา กลมโต แต่งหน้าอย่างละเอียดลออ แต่…ส่วนสูงนี้ทำให้ เธอดูเหมือนเด็กน้อยที่ยังไม่โตมากกว่า

“ชุดนี้ ฉันเห็นก่อน”

เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมา เชิดคางขึ้นสูง ดวงตาทอประกาย บางอย่างออกมา

แอนน่ามองกลับไปด้วยสายตาเฉียบคม “อ้อ? ดูเหมือนว่า ฉันเห็นมันก่อนเธอต่างหาก”

เด็กน้อยสะบัดผมไปมา ก่อนจะจัดกระเป๋าสะพายที่อยู่บน ไหล่ขึ้น “ฉันเดินเข้ามาก่อนเธอ ก่อนที่เธอจะมาฉันก็เห็นมัน แล้ว และฉันก็ลองชุดแล้วด้วย ดังนั้นชุดนี้ก็ควรจะเป็นของ ฉัน”

ลองใส่แล้ว? วุ่นวายจริงๆ

แอนน่ากวักมือเรียกพนักงานมา “หยิบชุดตัวนี้ออกมาให้ ฉันหน่อย ฉันต้องการชุดใหม่ที่ไม่ได้ผ่านการลองจากใครมา

ก่อน”

เธอไม่ชอบชุดที่เคยผ่านการถูกสวมใส่จากผู้อื่น
พนักงานยิ้มอย่างขออภัย ก่อนเอ่ย “ขอโทษด้วยจริงๆค่ะ ชุดในร้านของเราออกแบบมาแค่อย่างละหนึ่งตัว เพื่อที่จะได้ ไม่ใส่ซ้ำกับผู้อื่น ต้องขออภัยด้วยจริงๆค่ะ”

จริงเหรอ? มีร้านแบบนี้อยู่ด้วย?

แอนน่าเงยหน้าขึ้นไปมองชื่อร้าน วายแอล.แบรนด์

ของจีน

สาวน้อยรีบเชิดหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “ดังนั้น ชุดนี้ควรจะเป็น

ของฉัน”

แอนน่าปล่อยมือออก ก่อนจะกอดอกขึ้นและยักไหล่ “OK ชุดที่เธอลองแล้ว ฉันไม่ต้องการหรอก”

แอนน่าพูดจบ ก็ก้าวขายาวๆ ที่ยืนอยู่บนส้นสูงสีขาวของ

เธอออกจากร้านไป

เด็กสาวที่ถูกทิ้งไว้รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต ก่อนจะสะดุ้งขึ้น

มา!

เสียงเมื่อครู่!

น้ำเสียงแบบนั้น!

ออร่าที่ออกมาจากคนๆนั้น! ทำไม…ทำไมถึงคุ้นเคย ขนาดนี้

ไม่มีทาง! เป็นไปไม่ได้!
เธอหยิบกระเป๋าขึ้นก่อนจะรีบเดินก้าวตามไป เธอหายใจ เหนื่อยหอบก่อนจะคว้าข้อมือบางของอีกฝ่ายขึ้นมา!

แอนน่าหั่นกลับมามองอย่างตกใจ ก่อนจะเห็นว่าเป็นเด็ก

สาวคนเมื่อครู่ เธอหรี่ตามอง

“เทพธิดา! คุณคือเทพธิดาของฉันหรือเปล่า!”

อะไรนะ?

แอนน่าโดนถามอย่างงงไปหมด ขมวดคิ้วขึ้นอย่างงุนงง

เด็กน้อยกลืนน้ำลายลงอย่างตื่นเต้น “ฉันคิดว่าคุณต้อง รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไม่คาดคิดแน่นอน เพราะคุณไม่เหมือนเธอ คุณ.สวยกว่าเธอ แต่ว่า..น้ำเสียงและออร่าของคุณ เหมือนเทพธิดาของฉันมาก! ฉันขอรู้จักกับคุณได้ไหม? ฉัน

ชื่อสู่ซวงชวง!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ