คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป

ตอนที่ 182 ได้พบคุณ ก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด สาหรับฉัน



ตอนที่ 182 ได้พบคุณ ก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด สาหรับฉัน

ลู่ซวงซวงรู้สึกว่าตนเองเป็นหมาตัวนึง เกาจิงอานคุณแม่งไม่ จบไม่สิ้น ต้องการขู่ให้คนตกใจตายหรือไง?

เห้อเหม่ยฉีปกป้องส่วนที่สำคัญ ยิ้มเบาๆอย่างอ่อนโยน “ลู่ชวงชวง ยังไม่รีบขอโทษอีก!”

ลู่ซวงซวงเชิดคางขึ้น แต่ทว่าก็ก้าวเล็กๆถอยด้วยจิตสำนึก ไปยังด้านหลังแอนน่าครึ่งเมตร ให้ตายยังไงเธอก็จะไม่กล่าว ขอโทษ แต่ว่า ถ้าไม่ตายก็ต้องพูดอย่างอื่น

ใครจะไปรู้ว่าเห้อเหม่ยฉีคือหนึ่งในบรรดากิ๊กของเกาจิ่ง อาน เวลานี้กำลังเป็นที่โปรดปราน เธอใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้า ของหญิงชั่วเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าเธอไม่กลัวอะไรเลย แต่เกาจิง อานออกมาสู้ด้วยตนเอง สถานการณ์ก็ไม่เหมือนกันอย่าง มาก

ในใจของลู่ซวงชวงกระวนกระวายอย่างมาก มองๆ แอน น่า สีหน้าดูไม่ใส่ใจ ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์
“ฉันให้คุณกล่าวขอโทษ!”

เกาจิงอานก้มหน้ามองไปยังเห้อเหม่ยฉี

อะ…อะไรนะ?

ให้เห้อเหม่ยฉีกล่าวขอโทษงั้นหรอ?

แม่งเอ่ย ทำไมจู่ๆคุณก็เปลี่ยนไปแบบนี้ล่ะ?

เห้อเหม่ยฉีน้ำตาหยดเป็นสายมองไปยังเกาจึงอาน จ้อง มองด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คือเธอ..ที่ ตัดเสื้อผ้าของฉัน แล้วทำไ…

“คุณยังไม่รู้อีกหรอว่าเพราะอะไร? ต้องให้ฉันอธิบายให้ คุณฟังอีกไหม?” น้ำเสียงที่หงุดหงิดของเกาจิงอาน เสียงที่ เยือกเย็น ถ้าหากพบว่าเห้อเหม่ยฉีพูดไร้สาระอีกเพียงครึ่งคำ เขาก็จะต้องลงไม้ลงมือ

ในใจแอนน่ายิ้มเยาะเล็กน้อย สีหน้าไม่แสดงออก ผู้ชาย คนนี้ เอาตัวรอดเก่งมาก รู้วิธีควบคุมคนข้างๆตัวเองอย่าง มาก เป็นมือโปรคนนึง

เห้อเหม่ยฉีกัดฟัน ก้มหน้า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่สมัคร ใจ กล่าวสามคำออกมาจากทางช่องฟันที่กัดไว้แน่น “ขอโทษค่ะ”

พูดอย่างรวดเร็ว ทั้งโกรธทั้งเคียดแค้น

สู่ชวงชวงตอบอิมด้วยความงุนงงมาคำนึง “นั่น….”

แอนน่ากล่าวว่า “ไม่จำเป็นต้องกล่าวขอโทษหรอก เก็บคำ สามคำนี้ไว้เตือนสติตัวเองให้ดีเถอะ ว่าทีหลังอย่าทำเรื่อง อะไรให้คนอื่นมาตบหน้าคุณได้อีก”

เห้อเหม่ยฉีกัดฟันแน่น แต่ดูเหมือนว่าเกาจิงอานจะไม่ ปกป้องเธอเลย เพื่อไม่ให้ตนเองต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เธอทำได้เพียงกลืนน้ำเสียงนี้

ดูเหมือนเกาจิ้งอานจะมีทักษะที่ดีพอสมควร เริ่มเลิกคิ้ว แล้วยิ้มๆ “หวังว่าจะไม่ส่งผลต่ออารมณ์การซอปปิ้งของพวก คุณนะ”

แอนน่ามองด้วยความไม่เต็มใจอย่างมาก “ซวงซวง พวก เราไปกันเถอะ”

“โอเค!”

ลู่ซวงซวงคนทั้งสองหันเดินออกจากร้านเสื้อผ้า เกาจึงอาน เก็บเช็คจากบนพื้นขึ้นมาใช้นิ้วมือลูบทำความสะอาดใบเช็คแล้วจึงส่งคืนยังด้านหน้า ของแอนน่า ส่งสายตามองช้าๆไปยังใบหน้าที่สวยสมบูรณ์ แบบของแอนน่าอย่างใกล้ชิด มอบให้แล้วยิ้ม “คุณผู้หญิง นี่ ครับ คุณกรุณารับไปด้วย”

ถึงแม้ว่าสู่ขวงขวงจะมีกำลังทรัพย์ในบ้านอยู่บ้าง แต่เงิน หนึ่งแสนก็ไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลย

แต่ทว่าแอนน่าไม่ชำเลืองตามอง “ไม่ต้องหรอก เสื้อผ้าบน ตัวของเธอถือว่าฉันได้ซื้อไปแล้ว ทั้งเสื้อผ้าและเงินฉันยกให้ เธอทั้งหมด”

เงินที่โยนทิ้งไปแล้ว เธอไม่รับคืนกลับมาอีก โดยเด็ดขาด ยิ่งผ่านมือคนทั้งสองมาแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ทิ้งท้ายลงด้วยประโยคนี้ แอนน่ากับลู่ซวงซวงก็ก้าวเท้า เดินจากไป ภาพเงาของคนนึงสูงคนนึงต่ำเดินอยู่ใต้โคมไฟ ระย้าที่หรูหราและรายละเอียดสูงของห้างสรรพสินค้า มีเพียง สองสีดำขาวที่จัดให้เป็นคู่กัน แต่ทว่าทำให้ทั่วทั้งตัวของแอน น่าเปล่งรัศมีอย่างหลากสีสัน

หันกลับไปมองเห้อเหม่ยฉี เครื่องสำอางที่หนาบ้างบางบ้าง กระโปรงที่สั้นเซ็กซี่ สวมใส่เครื่องประดับ ทั้งตัว แต่บนเรือนร่างของเธอไม่ได้ดูมีเสน่ห์เลย ไม่ต้องพูดก็ สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

เกาจิงอานเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว เริ่มที่จะใล่ตามแอ นนา สวมชุดสูทแบรนด์ดัง เวลายกมือก็ไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ ปรากฏให้เห็นถึงนาฬิกานับล้านที่ข้อมือ

คนจนเล่นรถ คนรวยเล่นนาฬิกา

เขากำลังแสดงให้เธอเห็นถึงความร่ำรวยของตนเอง ใน เวลาเดียวกันก็ต้องทดสอบเล็กน้อย ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จัก ฐานะทางสังคมของเขาจริงๆใช่ไหม

“คุณผู้หญิง เรื่องวันนี้ฉันต้องขอโทษเป็นอย่างสูง อย่างนี้ คุณควรทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ให้ฉัน วันหลังฉันจะได้เลี้ยง ข้าวคุณเพื่อเป็นการขอโทษด้วยตนเอง”

สู่ชวงชวงจ้องมอง มองๆเกาจิ้งอานแล้วก็มองแอนน่า เชี่ย เกาจึงอาน แต่นั่นคือวงศ์ตระกูลที่ร่ำรวยหลายร้อยล้าน นี่ ต้องการหาจังหวะชวนคุยกับแอนน่า
แต่ดวงตาของแอนน่าหยุดมองใบหน้าของเขาเพียงเสี้ยว วินาที จากนั้นก็ยกนิ้วนางขึ้นมา “คุณผู้ชาย ชวนคุยผิดคน แล้วล่ะ”

ไม่นึกเลยว่าจะหมั้นแล้วหรอ?

เกาจึงอานขมวดคิ้ว การแสดงออกของสีหน้าก็เปลี่ยนเป็น ไม่ชอบใจอย่างมากในชั่วพริบตาเดียว แต่ก็แบกหน้ากล่าว ว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

แอนน่าไม่สนใจว่าเขาหมายถึงอะไร “คุณจะมาคุยกับฉัน ด้วยเหตุผลอะไรไม่สำคัญ ฉันเพียงแค่มีหน้าที่แสดงจุตยืน ของฉัน”

เธอนำเกาจิงอานเข้าสู่สงครามโดยสิ้นเชิง เขากัดริม ฝีปากล่างด้วยความไม่สบายใจแล้วก็เดินจากไป

เห้อเหม่ยฉีเดินออกมาหน้าประตูร้าน แล้วโอบแขนเกาจิง อานด้วยความรู้สึกน้อยใจ น้ำตาหยดลงพื้นติ่งๆ “ทำไมคุณ ต้องให้ฉันกล่าวขอโทษเธอด้วย? ฮือๆ ก็เธอ…

“เห้อเหม่ยฉี แล้วใครใช้ให้คุณใจกล้าขนาดนี้ล่ะ อยู่ข้าง นอกตะโกนโหวกเหวกโวยวาย? คุณกล้าด่าลู่ลั่วหานเลย หรอ? ไม่กลัวถูกหลงเชียวหักกระดูกออกเป็นชิ้นๆหรือไง จะตายยังไงก็ไม่รู้ว” เห้อเหม่ยฉีตกตะลึงจนแขนขาไร้เรี่ยวแรง “จึง

อาน..ฉัน…”

“พอแล้ว เงินนี้คุณเอาไปซะ และหลังจากนี้อย่ามาให้ฉัน เห็นหน้าอีก”

“จิ่งอาน คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ คุณเคยบอกไว้ว่าจะอยู่ ด้วยกันกับฉัน! จึงอาน….” เห้อเหม่ยฉีวิ่งไล่ตามเกาจิงอาน แต่ฝีเท้าข้างหน้าก็ยิ่งเร็วกว่า ไม่ให้เธอมีทางหนีที่ไล่เลย แม้แต่นิดเดียว

เสื้อผ้าของเห้อเหม่ยฉีที่น่าอับอายก่อนหน้านี้ก็จนปัญญาที่ จะปิดบังความขายขี้หน้า แต่เพื่อไล่ตามเอาเกาจึ่งอานกลับ คืนมา “จิ้งอาน ตกลงคุณรักฉันหรือเปล่า?”

อย่างไรก็ตามมันช่างเป็นคำถามอ่อนต่อโลกที่บันดาล โทสะให้กับผู้ชาย

เกาจึงอานหันกลับมามองเธอด้วยความรังเกลียดเหยียด หยาม สายตาอันเยือกเย็นของเขาปานประหนึ่งว่าจะจู่โจม มาบนร่างกายของเธอ “รัก? เหอะๆ เห้อเหม่ยฉี คุณไม่น่าจะ คิดว่าฉันจะมารักผู้หญิงอย่างคุณหรอกใช่ไหม? ลองดูสารรูปคุณสิ!”

ผู้ชายก็จากไปอย่างสง่าผ่าเผย ทิ้งไว้เพียงเงาร่างที่จน ตรอกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่มามุง

เกาจิงอานเป็นใครกัน?

ประธานกรรมการบริหารคนใหม่ของบริษัทอื่นเคอซึ่ง เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง หลังจากที่ท่านปู่เกา เสียชีวิตเขาก็เป็นลูกชายคนโตคนเดียวที่มีคุณสมบัติที่จะสืบ ต่อมรดกของครอบครัว

แล้วก็เป็นคุณชายของตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลที่ชื่อ เสียงแพร่กระจายไปทั่ว จะสลัดผู้หญิงคนนึงทิ้ง ก็ไม่ได้แปลก อะไร

หนึ่งชั่วโมงให้หลัง ณ ร้านกาแฟคุณภาพของห้างสรรพ สินค้า

สู่ซวงซวงใช้สองมือยกแก้วกาแฟขึ้น ยกขึ้นอย่างไม่ยี่หระ “นางฟ้า! แก้วนี้ด้วยความเคารพคุณ! เมื่อคุณเท่ห์มาก จริงๆ! มีสไตล์มาก! เจ๋งมาก! มีสำเนียงดีมาก!”

ลู่ซวงซวงใช้คำว่า “มาก” เรียงเข้าทุกค่า แต่แอนน่าที่นั่งตรงข้ามกลับขมวดคิ้ว

“คุณล้วนพูดถึงแต่นางฟ้าหรอ? ใครกัน?”

สู่ชวงชวงวางแก้วกาแฟลง จับๆผมทั้งสองข้าง “เธอ…คือ พี่น้องที่ดีที่สุดของฉัน ชื่อค่ลั่วหาน เพียงแต่ ก่อนหน้านี้สองปี เธอเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุ”

“ต้องขอโทษด้วยนะ ที่พูดเรื่องเรื่องที่ทำให้คุณเสียใจ”

สู่ชวงชวงโบกไม้โบกมือ “ไม่เป็นไร คุณและเธอ อันที่จริง มีบางอย่างเหมือนกันมากจริงๆ เพียงแต่คุณตุดันมากกว่า เธอ อ้อ ไม่ใช่สิ ตอนแรกๆเธอก็ดูดันมาก ภายหลังเป็นเพราะ คนๆนึงเลยเปลี่ยนไป โอ้..เอาล่ะ ไม่พูดถึงล่ะ พวกเราดื่ม กาแฟเถอะ!”

คู่ลั่วหาน? ลั่วหาน? ลั่วลั่ว?

ชื่อทั้งสามชื่อนี้ ตรงกับคนๆเดียวกันหรอ?

บังเอิญขนาดนี้เซียวหรอ?

ไม่น่าจะใช่มั้ง

ด้วยฐานะทางสังคมของลู่ซวงซวง และผู้ชายสารเลว ชนชั้นบนแตกต่างกันอยู่หลายระดับ เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จักคนเดียวกัน ทั้งยังเกี่ยวข้องกันอย่าง แน่นแฟ้นอีก

แอนน่าจิบบลูเมาเท่นคอฟฟี่อีกนึง ลู่ซวงซวงกล่าวคล้าย กับมีเลศนัยว่า “คาดไม่ถึงเลยว่าคุณดื่มกาแฟนี้ต่อเนื่องเลย หรอ? คุณเข้มแข็งจัง”

แอนน่ายักไหล่ “หรอ? ฉันไม่รู้สึกเลย”

ยิ้ม เอาเถอะ โดยทั่วไปแล้วนางฟ้าก็ไม่ได้อยู่มิติเดียวกับ ชาวบ้านธรรมดาๆ

สู่ซวงซวงนำเสนอของหวานสองชนิดที่เปรียบเสมือน ขุมทรัพย์อันล้ำค่า “เครปเค้กชาเขียว ชีสเค้กสอดไส้มะม่วง อร่อยสุดยอดจริงๆ คุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน!”

แอนน่ามองไปยังเค้กที่หวานมันแล้วจึงถอนตัวออก “ไม่ นึกเลยว่าคุณจะทาน…ทานของที่หวานขนาดนี้เลยหรอ?”

“อร่อยมากจริงๆนะ! อีกอย่างทานของหวานก็จะอารมณ์ดี เวลาฉันไม่สบายใจก็จะกินของหวาน ไม่กี่นาทีก็ฮึกเหิมขึ้น มา! คุณลองชิมสักหน่อยเถอะ!”
ลู่ขวงชวงตักส่งให้เธอซ้อนนึง ภายหลังเธอก็คล้ายกับ หลบเลี่ยง “อันนี้ ไม่ต้องแล้ว ขอบคุณ”

เอาล่ะๆ นางฟ้าแอนน่าและนางฟ้าลั่วลั่วของเธอไม่เหมือน กัน เธอไม่ได้สนใจ เสียงของเธอ

“อ้อ ใช่แล้วคุณรู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเมื่อวันนี้เป็นใคร? ตู เหมือนว่าคุณจะไม่รู้จักเขานะ” ในที่สุดลู่ซวงซวงก็นึกถึงเรื่อง นี้ขึ้นมาได้

แอนน่ายกแก้วกาแฟ วางที่ริมฝีปาก “คนที่ไม่สำคัญทำไม จะต้องสิ้นเปลืองเวลาและกำลังของตัวเองเพื่อไปรู้จักด้วย ล่ะ? จะไม่ดีกว่าหรอที่จะใส่ใจโลกของตัวเองให้ดี”

ลู่ซวงชวงสางผมลงมาถึงใบหู “นางฟ้าแอนน่า ขอร้องให้ คุณใช้ชีวิตติดดินสักหน่อยได้ไหม? ตอนนี้คุณเหมือนกับ มังกรสาวที่เพิ่งออกมาจากสุสานคนตาย โฮกๆๆ!”

เอิ่ม…การแสดงออกของแอนน่า เธอไม่รู้จักมังกรสาว สู่ชวงชวงตบโต๊ะที่นึ่ง “ฟู ผู้ชายที่คุณปฏิเสธการชวนคุย

ไปเมื่อกี้ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัทอื่นเคอ เกาจึงอาน นายทุนใหญ่ที่ไม่เป็นสองรองใครของเมืองหลวง โอเค ฉัน จะให้ความรู้ทั่วไปกับคุณอีกสักเล็กน้อย เมืองหลวงมีตระกูล ใหญ่อยู่สี่ตระกูล แบ่งเขตอำนาจปกครองเป็นสี่ทิศ ใน จำนวนนั้นที่มีอำนาจที่สุดก็คือตระกูลหลง บริษัทMBK.”

โอ้? บริษัทอินเตอ? เกาจึงอาน? ดังนั้น งานเลี้ยงที่เธอใกล้ จะต้องไปเข้าร่วม ก็คือเพื่อเฉลิมฉลองการเลื่อนตำแหน่งให้ กับผู้ชายคนนี้งั้นหรอ?

แอนน่าไขว้สองมือประกบกันเพื่อระงับจินตนาการที่เพ้อ ฝันงมงายของลู่ซวงซวง “ซวงซวง ฉันยังมีธุระอีก ขอตัวไป ก่อนนะ

“.อ่า? นางฟ้า คุณไม่เพียงเย็นชานะเวลาที่คุณปฏิเสธ คน..จริงๆ…จริงๆแล้วมันตรงเกินไปหรือเปล่า?”

“ขอโทษ เวลานี้ฉันรีบจริงๆ อีกอย่าง ตระกูลใหญ่สี่ตระกูล ที่คุณพูดถึง ฉันไม่ได้สนใจอะไร”

สู่ซวงซวงโมโห หดหู่ หงุดหงิด กำหมัดแน่น”ตระกูลใหญ่ทั้งสี่คุณก็ไม่สนใจ คุณ..คุณคุณ..โอเค! สรุปว่า คุณ. คุณระมัดระวังเกาจึงอานไว้หน่อยเถอะ เขา ได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอย”

“โอเค”

สู่ชวงชวงติดใจ “ฉันนัดคุณออกมาดื่มกาแฟไต้ไหม? หรือ ดูหนัง? ช่วงนี้หนังที่เข้าฉายน่าดูมาก! หนังตลก!”

“คุณไม่พูดฉันก็จะถือว่าคุณยอมรับแต่โดยดี! งั้นสุด สัปดาห์เป็นไง? หรือว่าพรุ่งนี้?”

เธอไปเอาความกระตือรือร้นมากขนาดนี้มาจากไหนกัน? กับคนแปลกหน้าคนนึง ทำไมถึงทำขนาดนี้?

“เมื่อถึงเวลา ต้องเจอให้ได้!” สู่ชวงชวงพูดเสริมอีก ประโยคนึง

มองภาพจากด้านหลังแอนน่าเอวบางร่างน้อยราวกับ เทพธิดา ลู่ซวงซวงก็รู้สึกทุกข์ใจ นางฟ้าอะไรกัน ถึงอี คิว(ความฉลาดทางอารมณ์)ต่ำขนาดนี้?

ไม่เข้าใจว่าชีวิตคือเรื่องมหัศจรรย์เลยทั้งสิ้น! ดูท่าชีวิตต่อ จากนี้ของคุณแอนน่าคนนี้ จำเป็นต้องให้เธอช่วยเหลือแล้ว!

สู้ๆนะสู่ซวงซวง! คุณคือผู้ที่รับหน้าที่ป้องกันไวรัสเพื่อ กำจัดอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารของนางฟ้า!

แอนน่ากลับไปถึงบ้านพัก ถอนหายใจยาว ยังดีที่เขาไม่

อยู่

แต่ใครจะรู้เพียงเธอเหยียบเข้าไปยังห้องรับแขก ก็มีเสียง

นึงลอยออกมาจากในห้องโถง

“คุณแอนน่า”

เชี่ย!

ทำไมเขาต้องทำตัวคล้ายกับวิญญาณทุกครั้งเลยนะ!

แอนน่าม้วนผมขึ้น ขานรับไปแบบนิ่งๆว่า “พรุ่งนี้ก็ถึงงาน เลี้ยงค็อกเทลแล้ว ฉันหวังว่าคุณจะเตรียมพร้อมทุกอย่างนะ

“ไม่ต้องห่วง
เขายังไม่ค่อยสบายใจเลยจริงๆ

“ฉันจำเป็นต้องเตือนสติคุณไว้ว่า งานเลี้ยงครั้งนี้ที่คุณจะ ไปเข้าร่วมกับฉัน เป็นไปได้สูงที่คุณจะได้เจอปัญหาที่คุณไม่ เคยเจอมาก่อน”

ถึงแม้ว่าท่านเซียวจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับ เธอ แต่เกี่ยวกับเรื่องที่สำคัญมาก จำเป็นต้องชี้แนะบ้าง

แอนน่าผูกผ้ากันเปื้อนเข้ากับเอว ถือแครอทลูกนึงไว้ในมือ “คุณผู้ชาย ได้พบคุณ ก็ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับฉัน แล้ว ฉันคิดว่า ไม่มีอะไรที่จะเกินไปกว่านี้ได้อีกแล้วล่ะ ฉะนั้น ความกังวลของคุณไม่ว่าอะไรก็ตามล้วนเกินไป”

ท่านเซียว: “.

สายตาของแอนน่ามองไปยังนาฬิกาลูกตุ้ม มือแตะที่คาง “แล้วก็ ฉันจะเริ่มเตรียมอาหารเย็นแล้ว ถ้าคุณต้องการที่จะ ทานอาหารตรงเวลา ต่อจากนี้ไป กรุณาเว้นระยะห่างจาก ห้องครัวสิบเมตร ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ