คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป

ตอนที่ 319 แฟนที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน



ตอนที่ 319 แฟนที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน

ในตอนนี้ถังจิ้นเหยียนกำลังถือเอกสารข้อมูลของคนไข้ อยู่กองหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมาเห็นเจิ้งซิ่วหยา คิ้วก็เผลอขมวด โดยไม่รู้ตัวทันที

“คุณมาได้ยังไง?”

เจิ้งซิ่วหยากวาดสายตามองไปที่โต๊ะของเขา มองของ ในมือของเขา“เชฟถังดูเหมือนจะยุ่งมากนะคะ”

ถังจิ้นเหยียนเปิดเอกสารดูๆ จากนั้นก็สลับไปมองข้อมูล บนคอมพิวเตอร์ พูดขึ้นขณะ ที่สายตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอ คอมพิวเตอร์”งานของหมอก็เป็นแบบนี้แหละ เอาแต่ยุ่งตลอด เวลา แล้วคุณเจิ้งมีเรื่องอะไร พูดออกมาตรงๆเลยดีกว่า”

เจิ้งซิ่วหยาเดินเข้าไปในห้องทำงาน ลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมา แล้วนั่งลง มองสำรวจห้องทำงานของเขา เขาเก็บห้องได้ อย่างสะอาดสะอ้านมาก ในตู้ที่อยู่ข้างๆเต็มไปด้วยเอกสาร ข้อมูลทางการแพทย์ ในช่องว่างมีเหรียญรางวัลวางตั้งอยู่ บางส่วน ยัดรวมๆกันแบบลวกๆ ดูออกว่าเจ้าของไม่ได้จะ สนใจอะไรพวกมันมากนัก

บนตู้สามมุมที่อยู่ข้างๆมีโมเดลของหัวใจคนวางอยู่หนึ่ง อัน ตรงหน้าต่างมีกระถางต้นไม้วางไว้อยู่สองสามกระถาง เฉดสีของทั้งห้องทำงานนี้หลักๆแล้วเป็นสีขาวกับเขียว ดู สะอาดสะอ้านเหมือนกับไม่ใช่ห้องของผู้ชาย

ถังจิ้นเหยียน คุณดูเหมือนลืมอะไรบางอย่างหรือเปล่า? “ ฉันจำได้ว่าพวกเราคุยกันแล้ว ฉันหาตัวคนร้ายเจอ คุณต้อง มาเป็นเชฟให้ฉัน มาทำอาหารให้ฉันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ จำ ไม่ได้เหรอ?”

ถังจิ้นเหยียนที่ในมือถือเอกสารหนึ่งกองไว้จู่ๆก็หยุดชะงักลงสองสามวินาที จากนั้นเขาก็ละสายตาจากหน้าจอ คอมพิวเตอร์หันมามองเจิ้งซิ่วหยา เริ่มวันนี้?”

“อื้อ! ดูจากสถานะของถังจิ้นเหยียน เจ้าหน้าที่ตำรวจ คนนี้มารับคุณเองกับตัวของตัวเองเลย เอารถตำรวจของ ประชาชนมารับคุณเองเลยด้วย ให้เกียรติคุณมากๆเลยนะ เจิ้งซิ่วหยาหมุนๆกุญแจในมืออยู่สองสามรอบ มองถังจิ้น

เหยียนกึ่งๆยิ้ม

เขาเริ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็จัดการกับเอกสาร ต่อ“อีกเดี๋ยวผมต้องไปดูคนไข้อีกสองสามคน คุณเจิ้งไม่ต้อง รอผมที่นี่หรอก คุณกลับไปก่อนเถอะ แถมผมรู้สึกว่านั่งรถ ตำรวจก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีอะไรสักเท่าไร

“ฮ่าๆ! คนที่นั่งรถตำรวจไม่จำเป็นต้องเป็นคนร้ายเสมอ ไป คุณกดดันอะไร?”เจิ้งซิ่วหยาชักมุมปากบางๆ ไขว้ขามอง สํารวจผู้ชายที่อ่อนโยนและสง่างาม ถังจิ้นเหยียนพอเตรียมเอกสารเสร็จ ก็หยิบหูฟังแพทย์

มาแขวนที่คอ“คุณเจิ้งผมต้องไปห้องผู้ป่วยแล้ว คุณกลับไป

ก่อนได้นะ”

เจิ้งซิ่วหยากระตุกคิ้ว“OK ที่นี่คุณเป็นใหญ่! แต่คืนนี้คุณ อยากทำอาหารอะไร ฉันจะได้ไปซื้อวัตถุดิบ”

เห็นถังจิ้นเหยียนลุกขึ้นมา เจิ้งซิ่วหยารู้สึกว่าแสงแดด บนฟ้าที่อยู่ตรงหน้าพอมาต้องกับเสื้อของเขาแล้วทำให้สว่าง เจิดจ้าขึ้น เสื้อกาวน์สีขาวบริสุทธิ์ที่สวมบนร่างกายที่สูงโปร่ง ของเขา จู่ๆก็เปลี่ยนเป็นดูสดใสขึ้นมา ใบหน้าของเขาอ่อน โยน ทำให้คนที่เห็นรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคย พอเสื้อกาวน์สวม ลงไปแล้ว ใบหน้าที่หล่อเหลาใบหน้านี้จู่ๆก็น่านับถือและมี เสน่ห์ไม่น้อย

แปลก ก่อนหน้านี้ทำไมถึงไม่รู้สึกนะ? เจิ้งซิ่วหยายกปากบางๆขึ้นเล็กน้อย ยิ้มอย่างสดใสและ ภาคภูมิใจ“ถังจิ้นเหยียน คิดไม่ถึงว่าคุณใส่ชุดกาวน์แล้วยังดู ดีมากอยู่นะเนี่ย! ฉันจะซื้อผ้ากันเปื้อนที่ดูดีกว่าให้คุณ! เจอ กันตอนค่ำนะ!”

ถังจิ้นเหยียนจากสีหน้าที่ดูอารมณ์ดีกลายเป็นสีหน้าที่ ช่วยไม่ได้ทันที เดินเฉียดไหล่ของเจิ้งซิ่วหยาตรงไปยังห้องผู้ ป่วย

ทางด้านของเจิ้งซิ่วหยาก็ออกมาจากห้องทำงานจองถัง จิ้นเหยียน ขณะที่ลงลิฟต์ก็เห็นลั่วหานที่สวมชุดลำลองใน ลิฟต์เข้าพอดี

ลั่วหานกำลังอธิบายรายงานการตรวจของคนไข้ให้กับ หลินซีเหวิน ปากพูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษเฉพาะทางออกมา อย่างต่อเนื่อง ท่าทางที่อธิบายอย่างจริงจัง สีหน้าด้านข้างดู สวยงามสุดๆ

เจิ้งซิ่วหยาโบกๆมือ“ฮาย หมอฉู่!”

ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมามองผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามา ก่อน จะพยักหน้า“สวัสดี คุณตำรวจเจิ้ง”

เนื่องจากรู้เรื่องราวในสมัยก่อนของถังจิ้นเหยียนและฉู่ลั่ วหานเจิ้งซิ่วหยาจึงมองเธออยู่นานอย่างช่วยไม่ได้ ตั้งแต่หัว จรดเท้า

จากภาพรวมจนถึงรายละเอียดยิบย่อยแล้ว ก็ต้อง ยอมรับว่า ผู้หญิงคนนี้มีทุนเดิมที่ทำให้ผู้ชายหลงใหลอยู่ เธอ ก็ยกไหล่อย่างสดใสร่าเริง “สมแล้วนะคะเนี่ยที่หมอฉู่เป็นหน้า เป็นตาของโรงพยาบาลหวาเซี่ย แต่คุณไม่สบายอยู่ไม่ใช่เห รอคะ? ไม่สบายยังทำงานอีกเหรอ?”

หลินซีเหวินมองเธอ สำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่น เดียวกัน“คุณตำรวจเจิ้งคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเหรอคะ?” “ฉัน? มาหาคนน่ะ พวกคุณรู้จัก ถังจิ้นเหยียน

พอได้ยินชื่อของถังจิ้นเหยียน หลินซีเหวินก็เริ่มทําท่าที ระแวดระวังขึ้นทันที หรี่ตาลงราวกับแม่ไก่หวงลูก”คุณมาหา หมอถังมีเรื่องอะไร?”

เจิ้งซิ่วหยายกๆไหล่ ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆหลินซีเหวินมี ปฏิกิริยาตอบกลับมาแบบนี้“เอ่อ…..ฉันกับถังจิ้นเหยียนตอนนี้ เป็น…..แฟนกัน ดังนั้นการที่ฉันจะมาหาเขามันก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เหรอคะ?”

ลั่วหานและหลินซีเหวินพากันจ้องมองมาที่เจิ้งซิ่วหยา พร้อมกัน ต่างคนต่างทําตาโต หลินซีเหวินท่าทางราวกับจะ กลืนเจิ้งซิ่วหยาลงไป

“คุณเป็นแฟนของหมอถัง! ! หมอถังไม่มีแฟน ผู้หญิงที่ แอบชอบหมอถังมีไม่ใช่น้อยๆ แต่ที่กล้าเปิดเผยต่อสาธารณะ ว่าตัวเองเป็นแฟนของเขา คุณเป็นคนแรกเลยนะคุณตำรวจ เจิ้งช่วยพูดจริงจังหน่อยเถอะค่ะ”

เจิ้งซิ่วหยาทำปากเหมือนกับพูดคำว่า”อ้อ”ออกมาคน แรก แล้วก็จะเป็นคนสุดท้ายด้วย”

ลั่วหานเห็นเจิ้งซิ่วหยาไม่ได้เหมือนกับกำลังล้อเล่น “คุณ คือคู่ที่เขานัดดูตัวด้วยใช่ไหมล่ะ?”

หลินซีเหวินก็ราวกับตื่นขึ้นมาจากฝัน ให้ตายสิ เธอลืม เรื่องที่ถังจิ้นเหยียนเพิ่งจะไปนัดดูตัวมาในช่วงนี้จนสนิทเลย

“ใช่ค่ะ ดูแล้วความสัมพันธ์ของคุณกับถังจิ้นเหยียนไม่ เลวเลยนะคะ ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็บอกกับคุณหมดเลย ถ้า อย่างนั้นหมอฉู่ก็รอเขาบอกเรื่องของเราให้คุณฟังก็แล้วกัน นะคะ”

ประตูลิฟต์เปิดออก เจิ้งซิ่วหยายิ้มอย่างอารมณ์ดีร่าเริง ให้กับพวกเธอทั้งสอง พร้อมกับโบกมือ พูดขึ้น”ไม่อวยพรให้ กับฉันหน่อยเหรอคะ?”

หลินซีเหวินกัดฟัน“คุณตำรวจเจิ้งลาก่อนค่ะ!! ”

ลั่วหานพยักหน้ายิ้มๆ”ฉันจะไปแสดงความยินดีกับเขา ด้วยตัวเองคุณตำรวจเจิ้งวางใจได้ค่ะ” หลังจากเธอจากไป หลินซีเหวินก็ทำเอกสารตกลงบน พื้นในลิฟต์อย่างจัง“หมอถังเพิ่งจะรู้จักกับเธอได้ไม่กี่วัน

เอง! ! แล้วจะเปลี่ยนไปเป็นแฟนกันแล้วได้ยังไง! ฉันไม่เชื่อ

ไม่เชื่อ !”

ลั่วหานตบๆลงบนไหล่ของหลินซีเหวินที่โกรธจนสั่นไป ทั้งตัว พูดปลอบขึ้น“ฉันกลับไปถามหมอถังให้มั่นใจสักหน่อย ตอนนี้แค่ฟังความจากเธอข้างเดียว อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ก่อนสิ”

หลินซีเหวินดันๆแว่นที่อยู่ตรงจมูก”ไอดอล ฉันจะไม่ตื่น ตระหนกได้ยังไงกันล่ะ? ฉันชอบหมอถังนะคะ! ฉันอยากเป็น แฟนของเขา! ” ลั่วหานยิ้มๆ ถูกท่าทางโกรธฟีดฟัดนี้ของ หลินซีเหวินทำให้รู้สึกขำๆ“เอาเถอะ ยังไม่ได้ยืนยันก็อย่าเพิ่ง โมโหก่อน อีกเดี๋ยวพอวิเคราะห์โรคจากสภาพอาการป่วยของ คนไข้คนนี้อย่างละเอียดแล้วส่งมาให้ฉันด้วยล่ะ”

หลินซีเหวินทำปากมุ่ยพร้อมกับพยักหน้าด้วยความไม่ ค่อยเต็มใจมากนัก”ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันไปดูคนไข้ก่อน คุณ ไปพักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวถ้าคุณสามีท่านประธานหาคุณไม่ เจอจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินตามหาเอาได้นะ”

ลิฟต์เลื่อนขึ้นบน มาหยุดตรงชั้นของห้องผู้ป่วยVIP ลั่ วหานเดินออกมาจากลิฟต์ เดินได้สองก้าวก็เห็นคนใส่ชุดสีดำ สูงใหญ่ยืนอยู่นอกประตู ในมือของเขาถือดอกไม้สดช่อหนึ่ง ดอกไม้สดโผล่ออกมาจากข้างลำตัวเขาสองสามดอก ลั่วหานดูจากด้านข้าง”คุณเกา?”

พอได้ยินเสียงขอล้วหาน เกาจิ่งอานรีบหันกลับมา ยื่น ดอกไม้ในมือส่งให้พร้อมกับสีหน้ายิ้มแย้ม”คุณนายหลง คุณ อาการเป็นยังไงบ้าง? ช่วงนี้ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาได้มาเยี่ยม คุณด้วยตัวเอง หวังว่าคุณจะไม่โกรธนะครับ”

ลั่วหานพึมพำอยู่ในใจ เกาจึ่งอานเกรงใจและมีมารยาท

ขนาดนี้กับเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ลั่วหานไม่ได้รับดอกไม้มาในทันที เธอถามขึ้นก่อน คุณ เกามาครั้งนี้ กลัวว่าจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามอีกแล้ว? ถ้าเกิด คุณจะมาขอร้องอ้อนวอนแทนซุนเจียลี่หรือว่าพี่สาวของคุณ มันไม่จำเป็นจริงๆ สองเรื่องนี้ฉันยื่นมือไปช่วยไม่ไหว

เกาจิ่งอานยิ้มอย่างฝืนไม่เป็นธรรมชาติ”คุณฉลาด เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิด แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ผมเนี่ยน่ะสิ”

ได้ยินถึงตรงนี้ ลั่วหานก็เดินมาหยุดอยู่ข้างนอกประตู เรียบร้อยแล้ว เปิดประตูออก ภาพที่เห็นคือโม่หรูเฟยและ หลงเซียวกำลังนั่งประจันหน้ากันบนโซฟา จากมุมที่เธออยู่เห็นเพียงแค่หน้าข้างๆของหลงเซียว โม่ หรูเฟยกำลังพูดอธิบายอะไรบางอย่างอยู่ มือไม้ท่าทางเล่น ใหญ่เนื่องจากความโกรธ ส่วนหลงเซียวที่นั่งอยู่เยื้องๆกลับมี สีหน้าอารมณ์เย็นชา ไม่พูดไม่จาตลอดเวลา

หลงเซียวฟังจนเริ่มรู้สึกรำคาญ เงยหน้ามองมาไปทาง เข้าที่ถูกแสงไฟส่องสว่าง เห็นคนที่มาคือลั่วหาน สีหน้าที่ มืดมนในที่สุดก็เผยให้เห็นรอยยิ้ม รอยยิ้มที่อบอุ่นนั้นส่อง สว่างไล่กลุ่มหมอกควันที่อบอวลอยู่จนจางหายไป ในขณะ เดียวกันก็ทำให้กลุ่มเมฆมืดมัวตรงหน้าของโม่หรูเฟยสว่างขึ้น มาเช่นกัน แต่พอตอนที่เธอหันหน้าไปมองตาม แสงสว่างนั่นก็ หายกลับเข้าไปในความมืดจนหมดอีกครั้ง คนที่เขายิ้มให้ จริงๆแล้วคือฉู่ลั่วหาน!

หลงเซียวลุกขึ้นยืน ชุดสูทสีเงินยาวเดินไปหยุดตรงลั่ วหาน ใช้มือเดียวโอบไหล่เธอเอาไว้”ทำไมถึงไม่ไปพักผ่อน ข้างใน?”

“จู่ๆคนไข้คนหนึ่งก็เป็นลม ฉันเลยไปดูน่ะค่ะ… สายตา ของเธอมองไปที่โม่หรูเฟย ยิ้มแบบไร้อารมณ์”โม่หรูเฟย ดู เหมือนกับว่าเธอจะไม่ได้มาเยี่ยมฉันนะ”

โม่หรูเฟยถูมือพร้อมกับลุกขึ้นยืน รอยยิ้มที่มุมปากดูเย็น ชาไม่น้อย“ฉันไม่ได้มาเยี่ยมเธออยู่แล้ว แต่เห็นเธอไม่เป็น อะไรฉันก็ค่อยวางใจลงหน่อย แต่แค่ฉันคิดไม่ถึงว่า ฉู่ลั่วหาน คนจิตใจดีที่ฉันเคยรู้จักคนนั้น ตอนนี้กลับมีจิตใจโหดร้าย ขนาดนี้”

เธอยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน หยิกนิ้วมือ แทบอยากจะ เอาเข็มพิษแทงฉู่ลั่วหานให้ตายๆไปซะ!

ลั่วหานอยู่ในอ้อมแขนของหลงเซียว รอยยิ้มที่ละเอียด

และอ่อนหวานอีกทั้งอ่อนโยน“โม่หรูเฟย เธอผิดหวังใช่ไหม

ล่ะ? ใช้วิธีมากมายขนาดนี้ ทุ่มแรงกายไปเยอะขนาดนี้ ฉันยัง

มีชีวิตอยู่อย่างปกติดี ส่วนคนข้างกายของเธอ เธอดูเอาเองสิ ล้วนแต่จบลงแบบไหน?” โม่หรูเฟยกัดฟันกรอด ตาที่โกรธเกลียดเต็มไปด้วย ความอาฆาตแค้น แต่ไม่กล้าระเบิดออกมาต่อหน้าของหลง

เซียว ทําได้แค่ต้องกลืนกลับลงไป

“ฉู่ลั่วหาน เธออยากรู้ไหม ว่าทำไมพวกเรามาถึงจุดๆนี้ ได้?”โม่หรูเฟยเบ้าตาขมุกขมัวมืดมน คำพูดนี้เธอพูดอย่าง เศร้าใจและโกรธแค้น

ลั่วหานไม่พูดอะไร มองเธอที่โกรธจนหน้าถอดสีอย่าง

เงียบๆ โม่หรูเฟยคว้ากระเป๋าที่อยู่บนโซฟาขึ้นมา พูดคําหยุด คำ“เพราะว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรมกับพวกเราไงล่ะ ! เหอะๆ ของ ที่เธออยากได้ก็ได้มันมาง่ายๆ ไม่สิ อะไรเลย กลับได้ทั้งหมดไปอยู่ดี” ต่อให้เธอไม่อยากได้

แล้วพวกเราล่ะ? ต่อให้ทุ่มเทไปหมดทุกสิ่งทุกอย่างสิ่ง “ ที่ได้กลับมาก็คือความว่างเปล่า ฉู่ลั่วหาน ถ้าเป็นเธอ เธอจะ ไม่โกรธไม่เกลียดเลยอย่างนั้นเหรอ !! ”

“ฉู่ลั่วหาน เธอใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายเกินไป เธอไม่มี ทางเข้าใจจิตใจของพวกเราหรอก ดังนั้นเธอไม่มีสิทธิ์จะมา มองฉันด้วยสายตาเมตตาแบบนั้น! ”

เสียงที่โม่หรูเฟยพูดยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ พอพูดมาถึงช่วง ท้ายเธอก็ตะโกนแหกปากสุดเสียง พูดพลางด่าไปพลางจู่ๆ น้ำตาของเธอไหลออกมา ร่างกายที่ยืนอยู่ก่อนหน้านี้จู่ๆก็ร่วง ลงไปนั่งบนโซฟา จากนั้นก็มองฉู่ลั่วหานเงยหน้าพร้อมกับพูด ขึ้น“แกได้ทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว! คนที่แกรัก งานที่แก ต้องการ มรดกของบริษัทอู่ซื่อ ทุกคนต่างชื่นชมยินดี……. เหอะๆ ฉู่ลั่วหาน! ฉันล่ะ? ฉันยังเหลืออะไร! ”

ทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน เป็นเพราะว่าเธอ….มันพังทลาย ไปทั้งหมด! ทั้งหมดทุกอย่าง! ! ” ฟังโม่หรูเฟยพูดด่าด้วยความอดทน ลั่วหานค่อยๆยิ้ม

อย่างขมขื่นและหมดหนทาง เธอเดินเข้าไปใกล้ๆโม่หรูเฟย

มองตาของเธออย่างสงบเงียบ“โม่หรูเฟย เธอรู้จักฉันไหม? ดู

ให้ฉันให้ชัดๆ เธอรู้จักฉันไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ