คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป

ตอนที่ 94 ยอดฝีมือก็คือแสร้งทำเป็นไม่รู้



ตอนที่ 94 ยอดฝีมือก็คือแสร้งทำเป็นไม่รู้

“หมอฉู่ถูกรองผู้อำนวยการเกาเรียกตัวไปอีกแล้ว ฉันไม่ สบายใจเลย พวกเธอว่า ตั้งแต่รองผู้อำนวยการเกามาที่โรง พยาบาลของพวกเรา หมอฉู่เคยมีวันที่ดีบ้างหรือเปล่า?”

“เธอคือคุณหมอไพ่ใบเอก ภารกิจหนักกว่าพวกเรา รอเธอ กลับมาสอบถามสถานการณ์”

ห้องทำงานเกาหยิ่งจือ

มือข้างหนึ่งของฉู่ลั่วหานประคองพนักเก้าอี้เอาไว้บรรเทา อาการปวดท้อง “รองผู้อำนวยการเกาหาฉันเรื่องอะไรคะ?”

เกาหยิ่งจือนั่งอยู่บนเก้าอี้ กอดอกมองเธอ ใบหน้าที่อาย ไลเนอร์ยกสูง ประณีตแต่กลับสีหน้าไม่ดีนั้น มองสังเกตรู่ วหานอย่างละเอียด “คณบดีมีคำสั่งลงมา ให้คุณช่วยเหลือ ตลอดทั้งการตรวจสอบ นอกจากนี้ ” เธอกัดฟันอย่างไม่ เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง “ให้คุณคอยช่วยรองคณบดีถังดูแลรับ ผิดชอบการจัดการแผนกอายุรกรรมหัวใจให้เป็นระเบียบใน ช่วงระยะเวลานี้”

พูดจบ เธอโยนเอกสารชุดหนึ่งมาให้กับเธอ ริมฝีปากสี แดงอุทานออกมาอย่างประชดประชัน “จู่ลั่วหาน เธอเอา ความสามารถมาจากที่ไหนกันแน่! เรื่องอะไรก็ขาดเธอไป ไม่ได้”

งั้นหรอ? ฉู่ลั่วหานในใจหัวเราะออกมาอย่างประชด ประชัน ใครชอบที่เรื่องอะไรต่างก็ต้องมีเธอกันล่ะ? เธอแทบ อยากจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องบ้าๆ พวกนี้อีกใจจะขาด

นำเอกสารหยิบมาไว้ในมือ “รองผู้อำนวยการเกายังมี เรื่องอะไรอีกไหมคะ?”

เกาหยิ่งจือจ้องเธออย่างรุนแรงที่หนึ่ง “คนไข้ในคราวก่อน สุดท้ายตัดสินใจไม่ทำการผ่าตัด คุณพอใจแล้วล่ะสิ!

สู้? ก็คือคนนั้นที่ปรึกษาหารือกันในที่ประชุม “ผู้ป่วยต่าง ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีและหลบหลีกข้อเสียโดย สัญชาตญาณ ฉันมีอะไรพอไม่พอใจกันคะ ไม่มีเรื่องอื่น ฉัน ขอตัวไปทำงานก่อน”

เธอไม่อยากจะพูดจาไร้สาระกับเกาหยิ่งจืออีกแล้วจริงๆ
“คุณหยุดอยู่ตรงนั้น”

เกาหยิ่งจือยืนขึ้นมา รองเท้าส้นสูงก๊กๆ เดินมาถึงที่ต้าน หลังของเธอ เอ่ยขึ้นอย่างถากถางว่า “คู่ลั่วหาน เธออย่านึก ว่าช่วยรองคณบดีถังก็จะสามารถใช้โอกาสที่ทำเรื่องที่น่า อับอายอะไร!

มุมปากของคู่ลั่วหานฉีกออกเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่ไม่ แยแส หมุนตัวกลับมา เธออดทนอาการปวดท้องยิ้มอย่าง สบายๆ และสง่างาม “ไม่งั้น รองผู้อำนวยการเกาคุณไป.” ทำ!

“ซี! ที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว ออกไป”

เธอไม่ใช่ไม่พยายามช่วงชิง แต่คณบดีบอกว่าเธอเพิ่งจะ มาที่โรงพยาบาลเข้าใจสถานการณ์ยังไม่ชัดเจน คู่ลั่วหานอ ยู่ที่นี่นานแล้ว ทุกด้านต่างก็คุ้นเคยเป็นอย่างมาก สามารถ เกื้อกูลกับถังจิ้นเหยียนได้พอดี

คณบดีก็ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น เพียงแต่หวังว่าโรง พยาบาลจะสามารถถูกคัดเลือกอย่างราบรื่น

ในใจของเธอมีความคับแค้น แต่ก็ไม่มีวิธีที่จะ เปลี่ยนแปลงได้
ฉู่ลั่วหานเปิดเอกสารออก เพิ่งจะดูได้ไม่กี่บรรทัดเสียง โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

เธอที่กำลังถือปากกาทำสัญลักษณ์ใจความสำคัญ เลื่อน เปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อรับสาย

“หมออู่ ช่วงนี้ต้องล่าบากคุณหน่อยแล้ว ผมก็ประหลาดใจ มากกับการวางแผนงานของคณบดีเช่นเดียวกัน แต่ว่า…การ ประกาศแจ้งให้ทราบนี้ผมเพิ่งจะได้รับ ดังนั้น..”

คู่ลั่วหานยิ้มขึ้นอย่างใจกว้าง “รองคณบดีถังไม่จำเป็น ต้องอธิบายค่ะ ฉันทราบ อีกทั้งด้วยความประพฤติที่มี คุณธรรมของรองคณบดีแล้วคงจะไม่ได้ใช้อำนาจในทางที่ ผิดปรับทิศทางของหมอเล็กๆ อย่างฉัน”

ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ความอัดอั้นที่อยู่ในใจของถังจิ้นเหยี ยนในที่สุดก็ถูกยกออกมา “ผมก็แค่กังวลว่าคุณจะเข้าใจผิด ยังไงซะ…” เขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ “ยังไงซะตอนนี้ผมกำลัง ตามจีบคุณอยู่ บางครั้งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการใช้วิธีเล็กๆ น้อยๆ”

ฝั่งนี้ ปากกาที่อยู่ในมือของฉู่ลั่วหานลื่นออกไปในทันที ขีดเป็นเส้นทแยงยาวๆ สีดำบนเอกสาร “รองคณบดี ฉันเคยบอกกับคุณแล้วว่า พวก

เรา..”

“เอกสารได้รับแล้วใช่หรือเปล่า? วันนี้เริ่มตรวจสอบจาก อุปกรณ์ทางการแพทย์ก่อนก็แล้วกัน” เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาได้ไวมาก เธอแทบจะไม่มีโอกาส

ได้พูดเลยแม้แต่น้อย “ค่ะ”

ตรวจสอบอุปกรณ์ไม่สามารถใช้เวลาในการทำงานได้ ดัง นั้นทั้งสองคนรีบทานข้าวก็ใช้เวลาช่วงพักกลางวันไปเริ่ม ทำงานกันที่แผนกอายุรกรรมหัวใจ

ห้องผู้ป่วยแผนกอายุรกรรมหัวใจ เห็นทั้งสองคนเข้ามา หมอชุนหนุ่มวัยกลางคนยิ้มจนตาหยืมองหนุ่มสาวสองคน เดินเข้ามา มองสังเกตขึ้นๆ ลง รู้สึกเจริญหูเจริญตาเป็นอย่าง ิ่ง

“ได้ยินว่า รองคณบดีกับหมอฉู่กำลังคบหากันอยู่หรอ?” หมอซุนมองอย่างสอดรู้สอดเห็น จากนั้นหัวเราะคิกคักเอ่ย ถามออกมา

ถังจิ้นเหยียนกลับเอ่ยว่า “ความถี่เสถียร ด้านนี้ไม่มีปัญหา ลองไปดูด้านนั้นอีกที”
คู่ลั่วหานอยากจะอธิบาย พอเขาขัดจังหวะขึ้นมา เธอก็ แทรกปากเข้าไปไม่ได้แล้ว “ค่ะ เครื่องควบคุมก็ไม่มีปัญหา นี่ เป็นอุปกรณ์เมื่อสามปีก่อน แต่ว่าประสิทธิภาพยังดีอยู่”

ช่วงพักกลางวันหมอชุนก็ไม่มีอะไรทำ มองดูทั้งสองคน ทำงานเสียเลย “รองคณบดีถังยังหนุ่มและมีความสามารถ หมอจู่ก็เป็นมือดีที่ชื่อเสียงเขย่าวงการ พวกคุณคบกัน เป็นการรวมตัวของผู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ ไม่เลวๆ”

หมอจู่กำลังจะเอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้ง ถังจิ้นเหยียนดูเหมือน กับทุ่มเทกายใจไปกับการตรวจสอบอุปกรณ์ “มอนิเตอร์ แสดงผลกับหลอดรังสีแคโทดเก่าไปหน่อย ต้องเปลี่ยนใหม่ แล้ว”

ฉู่ลั่วหานพยักหน้า จดบันทึกลงในกระดาษ

ตอนที่เธอทำการจดบันทึกนั้น หมอซุนก็ไม่หยุดที่จะพูดคุย หัวข้อเรื่องที่ไม่ใช่สาระสำคัญทั้งยังดูเหมือนเป็นมืออาชีพกับ ถังจิ้นเหยียน เธออยากจะขัดจังหวะหลายต่อหลายครั้ง แต่ ไม่เป็นผลสำเร็จ

อธิบายการเข้าใจผิดเรื่องแบบนี้ จะต้องระมัดระวังเวลา และโอกาส ผ่านโอกาสที่ดีที่สุดในการอธิบายไปแล้ว ย้อนกลับมาพูดใหม่อีกครั้ง ยิ่งจะ แสดงให้เห็นว่ายิ่งอยากปกปิดยิ่งแสดงออกถึงความมี เลศนัย

อีกทั้ง “กิ่งทองใบหยก” ที่พูดออกมาอย่างแน่นอนนั่นจาก ปากของหมอชุน บวกกับต้องปรับอารมณ์ให้เข้ากับคนไข้ ภายในห้องผู้ป่วยอีก หากเธอยืนกรานที่จะชี้แจง จะต้อง ทำให้ถังจิ้นเหยียนเสียหน้าอย่างแน่นอน

ในที่สุด การตรวจสอบก็จบลง อุปกรณ์ต้องเปลี่ยนเพียง แค่อุปกรณ์เสริมเล็กๆ ชิ้นหนึ่งเท่านั้น

“เมื่อครู่นี้ ทำไมคุณถึงไม่พูดไปตรงๆ คะ?”

เดินออกมาจากห้อง ฉ่ลั่วหานเอ่ยถามถังจิ้นเหยียน เธอ ไม่มีโอกาสพูด แต่เขามีโอกาส ในตอนแรกเขาก็สามารถที่ จะพูดได้ แต่เขาเปล่า

สองมือของถังจิ้นเหยียนสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง ขา ยาวๆ หยุดการเดินลง หมุนตัวมองมาที่เธอ ระเบียงทางเดิน ของโรงพยาบาลมีแสงอาทิตย์สะท้อนทแยงเข้ามา ส่องลง บนใบหน้าด้านข้างของเขา รอยยิ้มสะอาดสะอ้านไร้ที่ติ

“พูดอะไรตรงๆ ครับ?”
“หมอซุนเมื่อครู่นี้ดูเหมือนจะเข้าใจผิดอะไรอยู่ ความ สัมพันธ์ของพวกเรา ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ คุณยินยอมพร้อมใจอย่าง เงียบๆ แบบนี้ ยิ่งจะทำให้คนเข้าใจผิดมากขึ้นไปอีก”

ลู่ลั่วหานตัดสินใจพูดอย่างเข้าใจชัดเจนขึ้นมาอีกหน่อย จะได้ไม่เจอกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเช่นนี้อีก

ถังจิ้นเหยียนกลับยิ้มขึ้นเล็กน้อย ตอนที่ใบหน้าที่งดงาม ของเขาย้อนแสงนั้น อ่อนโยนเป็นอย่างมาก “ผมกำลังตรวจ สอบอุปกรณ์ ไม่ได้ยินว่าหมอซุนพูดอะไร สู้คุณบอกผมจะดี กว่า เมื่อครู่นี้หมอซุนบ่นพึมพำอยู่ทางนั้นพูดอะไรบ้าง?”

จะเป็นลม

ฉู่ลั่วหานทางนี้ในใจบิดจนกลายเป็นก้อน เรื่องความรู้สึก รองคณบดีเขาไม่นำมาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย? เธอ กระอักกระอ่วนถึงขั้นร้อนรนที่จะแก้ตัว เขากลับเล่นๆ ไม่ได้

คิดอะไรมาก

กลับดูเหมือนว่าเธอใจแคบแทน

“ไม่ได้พูดอะไรค่ะ พวกเราต่อกันเถอะยังมีอุปกรณ์ มากมายที่จะต้องตรวจสอบ”
ในขณะที่พูด เธอก็เดินเร็วนำถังจิ้นเหยียนไปหนึ่งก้าว ชายหนุ่มเสื้อขาวที่อยู่ด้านหลังมองเงาหลังของเธอ หัวเราะ ขึ้นอย่างเงียบๆ

ที่มจริงๆ เขาอยากให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนสนิทกัน มากยิ่งขึ้นหน่อยยังทำให้เป็นจริงไม่ได้ง่ายๆ จะนำเธอผลัก ให้ออกห่างต่อหน้าของคนอื่นๆ ได้ยังไงกันล่ะ?

ระหว่างที่คิด ถังจิ้นเหยียนก้าวขาตามขึ้นไป

เวลาพักกลางวันตรวจสอบอุปกรณ์ไปสิบกว่าเครื่อง ดีที่ ไม่มีใครซุบซิบนินทาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนอีก คู่ลั่ วหานรู้สึกสบายไปไม่น้อย

ตรวจชั้นห้าเสร็จ ถังจิ้นเหยียนมองดูเวลา “อีกยี่สิบนาที เข้างาน ตอนกลางวันไม่ได้นอนตอนบ่ายจะสัปหงกเอาได้ ผมเลี้ยงกาแฟคุณ”

คู่ลั่วหาน “..”

ไม่ทันได้เอ่ยปาก ถังจิ้นเหยียนก็เอ่ยขึ้นต่อว่า “ตอนบ่าย คนไข้ของคุณไม่น้อย ดื่มกาแฟสักแก้วให้สดชื่น นี่ไม่ถือว่า อยู่ในรูปแบบที่กำลังจีบคุณ เป็นความเอาใจใส่ที่เจ้านายมี ต่อการทำงานของลูกน้องล้วนๆ ผมหวังว่าคุณแดงความรู้สึกปวดที่บริเวณท้องหายไปไม่น้อย พอเงยหน้า ขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าใกล้จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว

ใกล้จะถึงเวลาเลิกงาน โทรศัพท์มือถือของฉู่ลั่วหานก็มี

ข้อความถูกส่งเข้ามา

ขึ้นชื่อว่าคือหลงเชียว!

นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาส่งข้อความให้กับเธอ

“ผมรอคุณอยู่ที่โรงจอดรถชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล”

เขาคงจะไม่ได้มาถึงแล้วล่ะมั้ง? จากMBKมาถึงโรง พยาบาลดูเหมือนจะมีระยะทางที่มากพอสมควร

เธออยากจะโทรกลับไปอธิบาย แต่คนในห้องทำงานอยู่ กันหมด ทำได้แต่ส่งข้อความตอบกลับ

“ฉันยังไม่เลิกงาน อีกทั้งยังต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ต้องใช้เวลา หน่อย คุณต้องรอฉันสักครู่หนึ่งแล้วค่ะ”

และก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เธอคนที่ชอบพูดเรื่องยาวให้ เป็นสั้นคิดไม่ถึงว่าจะอธิบายซะยาวเหยียดไปเป็นชุด

หลงเชียวที่อยู่ในรถยกมุมริมฝีปากเป็นรอยยิ้มอ่อนๆ นิ้ว มือที่เรียวยาวกดไปที่หน้าจอโทรศัพท์ “ครับ”

หลังจากที่เลิกงาน ฉู่ลั่วหานเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกจากประตู เพียงครู่เดียวก็ชนเข้ากับร่างกายที่สูงใหญ่ของคนคนหนึ่ง สายตามองเคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบน คือใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่ สุภาพอ่อนโยนราวกับหยกของถังจิ้นเหยียน

“ดูเหมือนผมมาได้เวลาพอดี ไปกันเถอะ ทานอาหารเย็น ด้วยกัน”

คู่ลั่วหานบีบสายกระเป๋าเอาไว้ ดวงตาที่ซุ่มชื้นโค้งขึ้น อย่างแสดงความขอโทษ “วันนี้เกรงว่าจะไม่ได้ ฉันต้องกลับ ไปก่อนค่ะ”

คิ้วที่สวยงามของถังจิ้นเหยียนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ฉะนั้น ผมก็ยังมาช้าไปหนึ่งก้าว หมอฉู่มีนัดแล้ว”

“ขอโทษนะคะ วันหลังก็แล้วกันค่ะ” ชะลอแผนการโจมตี ของฝ่ายตรงข้ามไม้นี้ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้ไปกี่ครั้งแล้ว
และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเขาใจกว้างหรือว่าเชื่อ จริงๆ กันแน่ ไม่เคยพูดที่มแทงใจเลยสักครั้ง แถมยังนำ ความรับผิดชอบมาไว้กับตนเองทั้งหมดอีก “ไม่เป็นไร เป็น ผมที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลงไปด้วยกันสิครับ ผมก็เลิกงานกลับบ้านเหมือนกัน”

ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าประตูลิฟต์พร้อมกัน พยาบาล

เล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างต่างเอามือปิดปากหัวเราะเป็นอย่างที่คิด

เอาไว้จริงๆ รองคณบดีกับหมอฉู่คบกันจริงๆ รองคณบดียัง ตั้งใจลงมารับเธอเลิกงานจากชั้นบนอีก เข้ามาในลิฟต์ ถังจิ้นเหยียนกดปุ่มโรงจอดรถชั้นB2 จู่ลั วหานยังนึกว่าเขาจะไปขับรถที่ด้านนอก ยื่นมือออกไปเห็น

ปุ่มที่สว่างขึ้นก็หดมือกลับมาอีกครั้ง

“คุณก็ไปชั้นB2เหมือนกัน?”

ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเบิกบานเล็กๆ

ฉู่ลั่วหานกัดฟันพยักหน้า “ค่ะ ฉันก็…ขับรถ”

ตกตะลึง เมื่อครู่นี้คิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดโกหก ที่จริงแล้ว พูดตรงๆ ไปว่าหลงเชียวกำลังรอเธออยู่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ภายในจิตใต้สำนึกก็คือทำใจ

ไม่ได้ที่จะทำร้ายเขา

สายตาของถังจิ้นเหยียนตกลงมาบนมือ

ด้านขวาของเธอ คู่ลั่วหานชักมือกลับไปอย่างกะทันหัน หลบราวกับไฟฟ้า

“มือขวาของคุณ ให้ผมดูหน่อย”

ช็อตก็ไม่ปาน “ทำไมคะ?”

“ฮ่าๆ” ถังจิ้นเหยียนถูกการตอบสนองที่ใหญ่ขนาดนี้ของ เธอทำให้หัวเราะออกมา “ผมเพียงแค่อยากจะดูแผลเก่าบน มือของคุณหน่อย คุณไม่บอกเหตุผลก็ได้ แต่บาดแผลมีอยู่ จริงๆ นี่เป็นสิ่งที่คุณไม่อาจจะปฏิเสธได้ ผมดูหน่อย”

ริมฝีปากของฉู่ลั่วหานเฉียงขึ้น ยิ้มจนแทบจะปวดเมื่อยไป หมดแล้ว “ค่ะ”

หลายปีขนาดนี้แล้ว แผลด้านนอกหายสนิทไปตั้งนานแล้ว เขาสามารถมองออกก็แปลก

ถังจิ้นเหยียนจับมือขวาของเธอเอาไว้แยกแยะพื้นผิวที่อยู่ ด้านบนอย่างละเอียด ภายนอกมองดูไม่มีร่องรอยเหลือไว้ จริงๆ แต่ตอนที่นิ้วมือของเขาลูบนั้น ยังคงรู้สึกได้ถึงความผิด ปกติที่อยู่ด้านใน ความแตกต่างที่อณูเล็กมาก “ตอนนั้น จะ ต้องเจ็บมากเลยใช่หรือเปล่า?”
คู่ลั่วหานพยักหน้า “อืม”

เจ็บมากจริงๆ ทั้งมือแทบจะใช้การไม่ได้แล้ว ไม่เจ็บได้

หรอ?

เสียง “ติ้ง” ดังขึ้น ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นB2

หลงเขียวเงยหน้าขึ้นมาจากภายในรถโรลส์รอยซ์ สายตา ที่เฉียบคมเหยี่ยวเพียงครู่เดียวก็มองเห็นคนสองคนที่อยู่ใน ลิฟต์!

ถังจิ้นเหยียนจับมือของฉู่ลั่วหานเอาไว้ ฉู่ลั่วหานก้มศีรษะ ลงพูดคุยอะไรกับเขาด้วยท่าทีที่มีเสน่ห์เขินอาย ว่านอนสอน

ง่าย

ถูกกั้นด้วยระยะห่างหลายสิบเมตร สายตาของท่านเชียว ยิงเข้าไปในลิฟต์ราวกับเจาะทะลุก็ไม่ปาน !

ฉู่ลั่วหาน เธอยังคิดจะยังไงกันแน่!

เดินออกมาจากลิฟต์ ฉู่ลั่วหานดึงมือกลับ “รองคณบดียัง ไงก็อย่าถามถึงเลยจะดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากพูดถึงอีก”

“ผม..”

ถังจิ้นเหยียนพูดออกมาเพียงแค่คำแรก เงาร่างของคู่ลั่วหานก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ถังจิ้นเหยียนเงย ศีรษะขึ้น

หลงเชียวที่อยู่ภายใต้ชุดสูทสีดำหล่อเหลามือข้างหนึ่ง เสียงเข้าไปข้างในกระเป๋ากางเกง ร่างกายที่สูงใหญ่ยืนอยู่ ด้านหน้าของรถ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ