คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป

ตอนที่ 10 เขาคือฮอร์โมน เขาคือโดปามีน



ตอนที่ 10 เขาคือฮอร์โมน เขาคือโดปามีน

“คุณหมอฉู่ครับ รอคุณมานานแล้ว”

ลั่วหานเดินก้าวเท้าไปยังหน้าประตูห้องทำงาน เห็น หลงจื่อนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ของเธอ ดวงตาทั้งสองข้าง มองมาที่เธออย่างยิ้มๆ

เมื่อกี้ฉ่ลั่วหานกำลังเคร่งเครียด วันนี้ไม่ใช่เวรเธอออก ตรวจ แต่ทำไมถึงมีคนไข้มาหาได้ เมื่อเห็นหลงจื่อ เธอก็

เข้าใจทุกอย่างในทันที

ฉ่ลั่วหานวางมือกดลงไปบนโต๊ะทำงานเพื่อน้ำหนักที่ กดทับลงไปตรงหัวเข่า จากนั้นกวาดตามองหลงจื่อ ตั้งแต่หัวจรดเท้า “ไม่สบายตรงไหน?”

หลงจื่อทำหน้าเศร้า เบ้ปากน่าสงสารแล้วทำเสียงอ้อน “รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวไปหมด ตื่นนอนมาตอน เช้าก็รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว หมอฉู่ครับ ผมไม่มีทางรอด แล้วใช่ไหมครับ?”

ริมฝีปากแดงระเรื่อของฉู่ลั่วหานคลายยิ้มบางๆ “ถ้า หากฉันบอกว่าใช่ละ? นายจะเลิกรักษารึเปล่า?”

“ไม่ๆๆ ไม่มีวันเลิกรักษาหรอก ตายดีๆก็ยังดีกว่าอยู่ไป

อย่างขี้เกียจ หมอจู่มานี่ๆๆ ชีวิตน้อยๆของผมฝากไว้ใน

มือของหมอแล้ว”

หลงจื้อเดินขึ้นหน้าจับแขนของฉู่ลั่วหานเอาไว้ ขณะที่เข้าใกล้นั้นฉู่ลั่วหานกดเสียงลงต่ำแล้วพูดขึ้นด้วยความ เย็นชา “มาที่นี่ทำไม? ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่สถานที่ ให้นายมาเที่ยวเล่น”

หลงจื่อทำหน้าจริงจัง “ผมจะป่วยไม่ได้เลยหรือไง

ครับ?”

ฉู่ลั่วหานปรายตามองดูหมอคนอื่นๆ ในห้องทำงาน ทำ ที่เหมือนกำลังตั้งใจอ่านประวัติการรักษา แต่ความเป็น จริงนั้นกลับกำลังแอบฟัง “อย่าเหลวไหล มีธุระอะไรค่อย %3D คุยกันหลังเลิกงาน”

หลงจื้อเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีเปล่งประกายความอบอุ่น เป็นบ่อเกิดให้ความมีชีวิตชีวา “พี่สะใภ้ครับ ผมไม่สบาย จริงๆนะครับ ไม่เชื่อพี่ลองฟังดูสิครับ หัวใจเต้นเร็วมาก”

ขณะที่พูดนั้นเขาก็คว้าเอามือของฉู่ลั่วหานไปวางไว้ ตรงหน้าอกของตนเอง ฉู่ลั่วหานรีบสะบัดมือออกอย่าง แรง พูดเตือนเสียงเบา “หลงจื้อ อย่าลงไม้ลงมือ ทำตัว ดีๆหน่อย”

ตอนอยู่ที่บ้านใหญ่นั้นเขาก็แสดงความเอาแต่ใจของ ตนเองออกมาแล้ว วันนี้ตามมาถึงโรงพยาบาล พวกลูก คนรวย ว่างมากหรือไง!

หลงจื้อยักไหล่ ดูคุ้นชินกับวัฒนธรรมของคนอเมริกัน

“พี่สะใภ้ครับ พี่ว่า ถ้าหากว่าผมไม่ได้ป่วยจริงๆ ทำไม

หัวใจถึงเต้นเร็วล่ะ?”
ฉู่ลั่วหานถลึงตามองดูเขา อดทนกับความเจ็บปวดตรง หัวเข่าแล้วเดินไปตรงข้างๆที่นั่ง หยิบชุดกาวน์สีขาวที่ แขวนเอาไว้

ตอนที่หลงจื่อเห็นเธอใส่ชุดกาวน์สีขาวนั้น มองนิ่งค้าง

ไปเลย ชุดที่ดูขาวสะอาดอยู่บนเรือนร่างผอมบางของ

เธอ ไม่มีทรวดทรงของเอว มองดูกระฉับกระเฉงและเย็น

ชา เป็นเสน่ห์ที่ไม่สามารถบรรยายได้ ขณะที่เธอจุดกระดุมถึงเม็ดที่สองนั้น หลงจื่อก้มหน้า ลงมา “จบกันพอดีๆ พี่สะใภ้ครับ ตอนนี้หัวใจของผมเต้น

เร็วมากกว่าเดิมเสียอีก”

ฉู่ลั่วหานกัดฟันกรอด “หลงจื่อ ขืนนายยังพูดมากอีก คำ ฉันจะให้คนเอาตัวนายออกไป!

คำพูดประโยคหลังนั้นดังมาก หมอคนอื่นๆ ในห้อง ทำงานล้วนได้ยินอย่างชัดเจน ค่อยๆขยับก้น เพื่อ เปลี่ยนท่านั่งแล้วแอบฟังกันต่อ

หลงจื่อยักไหล่อีกครั้ง จู่ๆก็เหยียดหลังให้ตรง จากนั้น

ก็ไม่พูดเสียงเบาอีก “หมอฉู่ คุณจะเห็นคนเดือดร้อนแล้ว

ไม่ช่วยไม่ได้! หัวใจของผมปวดมากเลยครับ โอ๊ย! เจ็บ! ” 11 ฉ่ลั่วหานหมุนตัวหนึ่งร้อยแปดสิบองศา เจ้าเด็กหลงจื๋อ คนนี้อยากจะก่อเรื่องวุ่นวายอะไร?

จ้าวเหมียนเหมียนเงยหน้าขึ้นยิ้ม “คุณหมอฉู่คะ คุณช่วยตรวจอาการให้คนไข้หน่อยสิคะ ถึงแม้ว่าที่นี่จะ ไม่ใช่ห้องตรวจ แต่ก็สามารถฟังเสียงหัวใจได้หนิคะ”

จี้ซื้อหยู่ก็ช่วยพูด “จริงด้วยค่ะหมอฉู่ หนุ่มหล่อเขารอ หมอมานานครึ่งค่อนวันแล้ว ถ้าไม่ได้ป่วยจริงๆ ก็คงไม่ รออยู่ที่โรงพยาบาลนานแบบนี้หรอกค่ะ”

ห้องทำงานสำหรับสี่คน นอกจากหมอจางได้จุนที่เป็น ผู้ชายแล้ว อีกสองคนกำลังบ้าผู้ชาย

ฉู่ลั่วหานขี่หลังเสือลงยาก ทำได้เพียงพูดขึ้นด้วยเสียง

เย็นชา “นั่งลง”

“ครับ! รบกวนหมอฉู่ด้วยนะครับ”

ฉู่ล้วหานหยิบหูฟังแพทย์ออกมา แนบไปยังหน้าอก ของหลงจื้อ “นั่งลง อย่าขยับ”

“ครับๆ คุณหมอฉู่เชิญเลยครับ อยากทำอะไรก็ทำเต็ม ที่เลย ผมจะไม่ขัดขืนเด็ดขาด”

II

คนอื่นๆในห้องทำงานเกือบจะหัวเราะพุ่ง คนไข้วันนี้ มาทำหน้าที่เล่นตลกหรือไง?

ตาของหลงจื่อมองตามือที่กำลังเคลื่อนไหวของฉู่ลั่ วหาน รู้สึกดื่มกับเครื่องมือทางการแพทย์ที่สัมผัสกับ ร่างกาย กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในตัวของฉู่ลั่วหานหอมอ่อนๆ ไม่ได้เป็นแบรนด์แพงอะไร แต่ความหอมนั้นพิเศษมาก เหมือนกลิ่นหอมของการ์ดิเนีย
เปลี่ยนไปหลายตำแหน่ง ฟังสามถึงสีครั้ง แล้วถอดหู ฟังทางการแพทย์ออกมา ฉู่ลั่วหานวินิจฉัยในทันที “เจ้า เด็กหนุ่ม หัวใจของนายไม่มีปัญหา”

หลงจื่อไม่พอใจ “คุณหมอฉู่ คุณดูที่อื่นดูสิ? ร่างกาย

ของผมต้องมีที่ไหนไม่ปกติอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น

ทำไมช่วงนี้ผมถึงรู้สึกกระวนกระวายใจ? อีกทั้งยังกิน

อะไรไม่ค่อยลง สายตาเองก็ไม่ดีด้วย”

ฉ่ลั่วหานเปิดคอมพิวเตอร์ พูดขึ้นโดยไม่สนใจหลงจื้อ “สายตาไม่ดีก็ไปหาจักษุแพทย์ ฉันไม่สามารถดูอาการ ให้ได้”

“ตาไม่เป็นไรครับ หมอฉู่ตรวจด้านในของผมก่อนครับ”

ลามปามขึ้นมาอีก

ได้เลย

ลั่วหานเปิดดูประวัติอาการป่วย ถามอย่างเป็น ทางการ “ชื่อ เพศอายุ มีโรคประจำตัวไหม มีโรคทาง พันธุกรรมในครอบครัวรึเปล่า?”

หลงจื่อ :
ลั่วหานหยิบไฟฉายที่อยู่ตรงมุมโต๊ะออกมา “แลบลิ้น

ออกมา”

หลงจื่อ:
“เพดานปากขาวซีด กระเพาะไม่ดี….”
หลงจื่อรีบแย่งพูด “ผมว่าแล้ว!

ฉู่ล้วหานถลึงตาขาวมองดูเขา “เดี่ยวฉันจะให้ใบสั่ง แล้วเดี๋ยวขึ้นไปส่องกล้องในกระเพาะอาหารตรงชั้นเจ็ด นะ”

“หา? ต้องส่องกล้อง? อาการหนักขนาดนั้นเลยหรอ

ครับ?”

พี่สะใภ้เล่นจริงแล้วหรอ?

ฉู่ลั่วหานไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขียนตัวหนังสือลงบน กระดาษ ตัวหนังสือของแพทย์นั้นคล้ายมังกรบินหงส์ เต้นรำเหมือนสัญลักษณ์ภูตผี ผ่านไม่ออกแม้แต่น้อย “ถ้าไม่ส่องกล้องแล้วจะรู้สาเหตุที่แท้จริงของการป่วยได้ ยังไง? ถ้าไม่รู้สาเหตุของการป่วยแล้วจะให้ยารักษาได้ ยังไง? กระเพาะอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร หรือว่า หลอดอาหารอักเสบ ทั้งหมดนี้จะรู้ทันทีเมื่อทำการส่อง กล้อง”

หลงจื่อมองปากแดงระเรื่อของเธอที่พูดไม่หยุดตาค้าง เดี๋ยวปิดเดี่ยวเปิด เสน่ห์แพรวพราว หลงจื่อที่มองอยู่นั้น

ไม่สามารถละสายตาได้

เธอพูดร่ายยาว แล้วเขียนใบสั่งออกมา “ชำระเงินที่ ห้องโถงชั้นหนึ่งง มีบัตรประกันไหม? ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ขอแค่มีเงินก็พอแล้ว”

หลงจื่อนิ่งค้างไปพักหนึ่ง ใบสั่งในมือต้องไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่นอน ด้านล่างเซนต์ชื่อของฉู่ลั่วหานเอาไว้ ตัว หนังสือสบายตัว ปากกาลงน้ำหนักกำลังดี ไม่เหมือนตัว หนังสือของผู้หญิงบอบบางแม้แต่น้อย ยิ่งดูก็ยิ่งสวย

“ลำบากหมอฉู่แล้วครับ! “หลงจื้อลุกขึ้นมาจากเก้าอี้

เหมือนเด็กน้อย จากนั้นโค้งตัวเก้าสิบองศา

“ยังไม่ไปอีก?”

ฉู่ล้วหานกดเปิดปิดปากกา น้ำเสียงนั้นเคร่งขรึมไม่มี ความลังเลแม้แต่น้อย

%3D “ครับๆ รีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” ใบหน้าของหลงจื้อเต็ม ไปด้วยรอยยิ้ม กอดใบสั่งที่เขียนประชดเขาเหมือนของ ล้ำค่า

นิสัยของพี่สะใภ้นั้น ถูกใจเขาจริงๆ

ตอนที่เขาเดินออกไปจากห้องทำงานนั้นยังหันหน้า กลับมามองเธอ ทำให้ฉู่ลั่วหานยิ่งรู้สึกเดือดดาลขึ้นมา จ้าวเหมียนเหมียน “ครืดๆๆ” ลากเก้าอี้ออกมา “ไม่ใช่รึ

เปล่า? เธอให้เขาไปส่องกล้องในกระเพาะอาหาร? จะให้

ส่องกล้องแผนกไหน? ไม่ได้เจาะเลือดไม่ได้นัดเอาไว้

ใครจะทำให้เขา?”

ฉู่ลั่วหานหยิบประวัติคนไข้ออกมาหนึ่งแผ่น กดคลิ๊ก ปากกา “เธอไม่เห็นหรือไงว่าเขากำลังมาก่อความ วุ่นวาย? ในเมื่อเขาอยากจะสร้างความวุ่นวาย ฉันก็จะ วุ่นวายไปกับเขา พอสร้างความวุ่นวายเรียบร้อยแล้วนั้นก็ไปเอง”

“เอ๊ะๆๆ ชื่อทางการแพทย์ที่เธอเขียนร่ายยาวเมื่อกี้ ไม่ กลัวว่าจะทำให้พ่อหนุ่มคนนั้นตกใจจนเตลิดหนีหรือไง? ถ้าเขาเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง?”

หลังจากที่ฉู่ลั่วหานดูประวัติคนไข้เรียบร้อยแล้วนั้น ก็ เซ็นชื่อ จากนั้นก็เสียบปากกาเอาไว้ตรงกระเป๋า ควรจะ ไปตรวจตามห้องแล้ว พร้อมทั้งรวดล้างแผลเปลี่ยนแผล ด้วย “สิบคนเก้ากระเพาะ ยิ่งไปกว่านั้น กระเพาะของเขา เองก็ดีมากด้วย อย่างน้อยๆในสามสิบปีนี้ก็คงไม่ป่วย เป็นอะไร ปัญหาของเขาไม่ได้อยู่ที่กระเพาะหรือหัวใจ แต่อยู่ที่นี่

หมอณูชี้ที่หัวของตนเอง “เขาควรที่จะไปเช็คระบบ ประสาท”

จ้าวเหมียนเหมียนกลืนน้ำลาย “คุณหมอฉู่ เธอแน่ใจ นะว่าตรงนี้ปกติดี? เป็นผู้หญิง เห็นคนหล่อแต่กลับไม่ หวั่นไหว เธอมันไม่ปกติ !

ฉู่ลั่วหานหัวเราะ “สิ่งที่ฉันตัดสินใจว่าผู้ชายคนหนึ่งน่า ดึงดูดแค่ไหนไม่ใช่ที่ฮอร์โมน แต่เป็นโดปามีน”

“ให้ตายสิ! ฉันยอมคุกเข่าเลย หมอฉู่ คุณค่อยๆไปนะ

คะ”

ฉู่ลัวหานลุกขึ้น คิ้วของเธอขมวดขึ้นมา หัวเข่ายังคง เจ็บอยู่ แผลภายนอกนี้ต้องใช้เวลาประมาณสิบวันถึงครึ่งเดือนไม่อย่างนั้นคงไม่หาย

“หมอจ้าว หมอสุดเทพของเพวกเขาเหมือนว่าจะไม่ ค่อยต้อนรับคนหล่อเท่าไหร่? เธอไม่เห็นหรือไง? เมื่อกี้ หมอฉู่จงใจแกล้งเขา”

จ้าวเหมียนเหมียนเบ้ปาก “แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า พ่อ หนุ่มสุดหล่อคนนั้น ก็กำลังแกล้งหยอกหมอฉู่เหมือ นกันละ?”

จางได้จุนลากเก้าอี้ออกมา “ผู้หญิงอ่า ดูปัญหาแค่

ภายนอก! ”

“หมอจางคุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

“เห็นได้ชัด ว่าพวกเขาแกล้งหยอกกันและกัน อีกทั้ง พวกคุณลองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วน สี เสื้อผ้าที่ผู้ป่วยคน นั้นใส่”

“ให้ตายสิ! จริงด้วย รองเท้าคู่ที่เขาใส่นั้นคือรุ่นใหม่ ล่าสุดของซีซั่นนี้ ราคามากกว่าหนึ่งแสนหยวน ! พวก

ไฮโซ! ”

จ้าวเหมียนเหมียนเชยคางขึ้น “ดังนั้น คุณหมอฉู่ของ เรา กำลังจะอ้าแขนต้อนรับฤดูใบไม้ผลิของชีวิตแล้วใช่ ไหม?”

จางได้จุนหยิบประวัติคนไข้เอาไว้แล้วเดินออกไปจาก ห้องทำงาน สีหน้าเขาดูกระอักกระอ่วน

ฉลูรั่วหานเดินไปยังเตียงยี่สิบสองด้วยความตั้งใจอาการดีขึ้นไม่น้อย จากนั้นก็ย้ำเตือนเขาว่าอย่าโมโห ใจร้อนมากเกินไป หลังจากนี้ทีวีในห้องผู้ป่วยจะไม่ให้มี การเปิดการแข่งขันกีฬาอีก โดยเฉพาะฟุตบอล

ห้องพักผู้ป่วยรวมแปดคน กว่าครึ่งหนึ่งล้วนเป็นคนไข้ ของฉู่ ลั่วหาน ขณะที่เขาตรวจคนไข้นั้นไม่หละหลวม แม้แต่น้อย เคร่งขรึมจนดูยากที่จะเข้าถึง แต่ผู้ป่วยล้วนรึ สึกวางใจ ใจหนึ่งของผู้ป่วยก็กลัวเธอ แต่อีกใจก็รู้สึก นับถือเธอ

หลังจากที่ออกตรวจเรียบร้อยแล้วนั้น ในที่สุดฉู่ลั่วหา

นกทนไม่ได้แล้ว เดินไปยังห้องฉุกเฉินแล้วแกะผ้าพัน แผลออก กัดฟันขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด แผลสมานได้ไม่ดีเลย ตรงบาดแผลมีเลือดไหลออกมา

เล็กน้อย แผลแลดูไม่สมาน

ฆ่าเชื้อ ทายา ฉู่ลั่วหานไม่ส่งเสียงร้องแม้แต่น้อย

ในห้องฉุกเฉินนั้นมีคนพลุกพล่านมากที่สุด ทุกวันจะมี เรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้นมากมาย ขณะที่ฉู่ลั่วหานทำแผล เสร็จแล้วกำลังจะออกไปนั้น ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นก็ได้ยิน คนพูดนินทากันในห้องพัก

“ถ้าฉันพูดแล้วพวกเธอต้องไม่เชื่อแน่ๆ วันนี้ฉันเห็นโม่ หรูเฟยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง! ผู้ชายคนนั้นใส่แว่น กันแดด แต่ดูจากหุ่นและส่วนสูงก็รู้ว่าต้องเป็นผู้ชายที่ หล่อมากแน่ๆ !
“นี่ไม่ใช่แค่ข่าวแล้ว เมื่อหลายวันก่อนโม่หรูเฟยมา เยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลของเรา เธอรู้ไหมว่าผู้ป่วยคน นั้นคือใคร? ประธานหลงเซียวแห่งบริษัทMBK! ชาย หล่อรวยโสด! ราชาแห่งเพชรพลอย! ”

“วันนี้ผู้ชายที่มากับโม่หรูเฟยน่าจะเป็นคุณหลงเซียว 11

มั้ง?!

ดังนั้น เมื่อกี้หลังจากที่หลงเซียวออกไปแล้วนั้น เขาไป รับโม่หรูเฟยจริงๆหรอ?!

อ้า!

“ว้าว! ครั้งนี้โม่หรูเฟยคบจริงจังแล้วใช่ไหม? ว้าว ในที่ สุดไอดอลของฉันก็เป็นดอกไม้ที่มีเจ้าของแล้ว!

ชิ! ไอดอล? ผู้หญิงตอแหลอย่างโม่หรูเฟยกลับถูกคน อื่นเอามาเป็นไอดอล?

ฉู่ลั่วหานเบ้ปาก เป็นจริงตามนั้น โลกที่มองกันแค่รูป ลักษณ์ภายนอก หน้าตาดี ทุกอย่างก็จะถูกให้อภัยได้ สำหรับหลงเซียว ก็คงจะเป็นแบบนี้เหมือนกันมั้ง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ