คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป

ตอนที่ 248 สู้เงิน ราคาพุ่ง เล่นเจ้าเล่ห์เพทุบาย



ตอนที่ 248 สู้เงิน ราคาพุ่ง เล่นเจ้าเล่ห์เพทุบาย

“น้องสาว” หนึ่งเสียง เปล่งเสียงออกมาดั่งฝันร้าย ตั่งฟ้าผ่าเมฆดำที่อยู่บนท้องฟ้าแตก ทันทีนั้น ฉู่ซีหราน เหมือนถูกคลุมหัวปิดหน้าตีจนตั้งตัวไม่ทัน!

การแต่งหน้าอย่างละเอียดด้วยเครื่องสำอางที่ ราคาสูง ก็เปลี่ยนสีในทันที บลัชออนสีแดงที่แก้ม กลายเป็นสีขาวดั่งหิมะ ซีดเซียว สีหน้าของฉู่ชีหราน เช่นตั้งเห็นผีจ้องมองผู้หญิงที่อยู่สูงกว่าตัวเธอเองสอง ขั้นบันได

อ้าปากค้าง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว ได้เพียงแค่ จ้องมองเธออย่างตะลึง

ใบหน้านี้ไม่คุ้นเคยนัก ดูดีกว่าฉู่ลั่วหานอย่างมาก ประณีตมาก

แต่ว่า เสียงของเธอ คุ้นเคยมากจริงๆ!

ลักษณะพลังที่อยู่บนตัวเธอตอนที่อยู่สูงกว่า 1 สามารถหนึ่งเท้าก็เหยียบคนตายได้ นั่นคุ้นเคยเกินไป แล้ว

ตั้งแต่เด็กพวกเธอก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จะพูดถึง ความคุ้นเคย เกรงว่าตอนนี้ไม่มีใครเข้าใจฉู่ลั่วหานมา กกว่าฉ่ซีหรานอีกแล้ว เพราะว่าเข้าใจ ดังนั้นจึงกลัว เพราะว่ารู้ความจริง ดังนั้นหวาดกลัว

อารมณ์กับความทรงจำอย่างมากมาย ตอนที่ฉูซี หรานอึ้งไปแล้วหลายนาที ในที่สุด มือหนึ่งเธอดึง กระโปรงของตนเอง พยายามทำให้ตนเองปรากฏรอย ยิ้มอย่างไม่ธรรมชาติมากอย่างหนึ่งออกมา “พี่…..เป็น คุณจริงๆหรือ?”

น้องสาว? คือพี่ล่ะ?

เสิ่นเหลียวที่อยู่ข้างหลังฉู่ซีหรานอยู่ดีๆหยีตาที่ขึง ลับ มองไปยังสิ่งที่งดงามหนึ่งในโลกที่อยู่ต่อหน้าอีก ครั้ง กวาดดูเธอ พิจารณาดูเธอ คิดไม่ถึงว่าเธอคือพี่ ของฉ่ซีหรานหรือ?

พี่คนเดียวของเธอไม่ใช่ตายไปนานแล้วหรือ?

ลั่วหานอมยิ้ม ยิ้มจนเมฆบางลมเบามีความมั่นใจ งดงาม ก็เหมือนญาติที่จากกันไปนานแล้วเจอกันอีกที เช่นนั้น รอยยิ้มหนึ่งอันสามารถละลายน้ำแข็งสลาย ความแค้นก่อนหน้านั้น “ดูแล้วคุณยังจำฉันได้ พี่รู้สึกว่า ซาบซึ้งมากจริงๆ ไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ ตอนนี้คุณดู เหมือนใช้ชีวิตดีมาก”

สายตาเธอพิจารณาเธอ ตั้งใจพิจารณาดูเธอ ชุด ราตรียี่ห้อดัง เครื่องประดับยี่ห้อดัง กระเป๋ายี่ห้อดัง ฉู่ซี หรานที่อยู่ต่อหน้ากับคุณนายที่มักพบเจอบ่อยแทบจะ เหมือนกันหมด

– มุมปากของฉู่ซีหรานยิ้มเกร็งอย่างไม่ธรรมชาติ เหมือนเดิม เสียงหัวเราะแข็งไปเล็กน้อย “พี่ สองปี กว่าๆนี้ คุณไปไหนแล้วล่ะ? ไม่มีข่าวของคุณมาโดย

ตลอดเลย ทุกคนล้วนคิดว่า…คีคี” พบ

“คิดว่าฉันตายแล้วหรือ?”

ฉู่ลั่วหานจ้องมองเธอ ไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้ เหมือนเดิม จ้องมองจากไกลๆ สภาพที่ทั้งสองคุยกัน อย่างถูกคอความสัมพันธ์ช่างใกล้ชิดมากจริงๆล่ะ

คู่ชีหรานหัวเราะ เฮอะๆ “พี่ที่ดีของฉันบุญใหญ่ อายุยืน คนที่กล้าปล่อยข่าวลือขนาดนี้ ช่างมีตาแต่หา มีแววไม่”

ลั่วหานมุมปากงอ สายตาจากตัวเธอย้ายไปที่ตัว ของเสิ่นเหลียว ผู้ชายที่อายุสี่สิบกว่าปีคนนี้ สายตาที่ โหดเหี้ยมเย็นชาน่ากลัว

“คุณเสิ่น ได้ยินมานานแล้วคุณค่อนข้างมีชื่อเสียง ในวงการธุรกิจ วันนี้พบกับตัวจริงของคุณ ไม่ธรรมดา อย่างที่เขาพูดเลย”

มุมปากของเสิ่นเหลียว มีรอยยิ้มเย็นชา ถ้าเป็นคน ตาสว่างใครจะดูไม่ออก เมื่อกี้การสนทนาของพี่น้องทั้ง สองต่างคนต่างแฝงไว้ด้วยความอาฆาต ความสัมพันธ์ ไม่ดีเลย

“ขอบคุณคำชื่นชมที่ยอดเยี่ยมของคุณฉู่มาก”

ลั่วหานกลับหัวเราะ ๆแล้ว “คุณเสิ่น คุณเรียกฉัน ว่าอะไรหรือ? ฉันคือพี่ของซีหราน ตามหลักการแล้ว คุณควรเรียกฉันเป็นพี่เหมือนกับเธอ บุคลิกลักษณะ ของคุณชายเส้น ไม่ธรรมดา กิริยามารยาทก็น่าจะไม่ ได้แย่มากล่ะ?” สีหน้าของเสิ่นเหลียว เขียวขึ้นมาทันที ปาก กระตุกอย่างโหดร้ายสายตาเย็นชาจนสามารถกินลั่ วหานได้เลย ฟันของเขาขบอยู่ในปากหลายที แต่ไม่ ได้พูด

“ฮ่าๆ เอาล่ะๆ จากฐานะของคุณเสิ่น คำเรียกพี่นี้ ฉันยังไม่กล้ายอมรับจริงๆ คุณเสิ่น ชีหราน เชิญเถอะ”

เธอค่อยๆหมุนตัว เหยียบรองเท้าส้นสูงคริสตัลคู่ หนึ่ง ขึ้นไปที่ที่นั่งของตนเองก่อนพวกเขาก้าวหนึ่ง หลัง จากหลีกทางแล้ว ทั้งสองจึงสามารถขึ้นไปข้างหน้า

ฉู่ซีหรานกัดฟัน ระบายความทุกข์เสียงเบาๆ “สามี จำ พี่สาวที่ดีของฉัน คุณเห็นแล้วใช่ไหม! นึกไม่ถึง จริงๆ เธอถึงขนาดยังมีชีวิตอยู่! ไม่เพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ ยังเปลี่ยนรูปโฉมอีก! คนต่ำต้อยคนนี้!”

สายตาขึงเย็นชาของเสิ่นเหลียว มองไปยังสาว งามที่สายตาใสเย็นชานั่งอยู่ที่บนเก้าอี้อีกครั้ง ยิ้มเย็น ชาว่า “ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีอะไรที่น่ากลัว”

กำปั้นของคู่ชีหรานกลับกำแน่นมาก ฉู่ลั่วหานรู้ เรื่องเธอมากมาย เรื่องที่ไม่เหมาะจะให้เสิ่นเหลียวรู้

อีกทั้ง ระหว่างเธอกับฉู่ลั่วหานยังมีเรื่องขัดแย้ง มากมาย ถ้าหากว่าเธอจะคิดบัญชีหลังจากฤดูใบไม้ ร่วงในตอนนี้ เธอจะไม่ได้รับผลประโยชน์ดีๆอะไรเลย

แต่ว่า ฉ่ซีหรานกลับยิ้มอีก แต่ก่อนเธอไม่มีที่พึ่งพิง ต่อเธอยังมีความหวาดกลัวเล็กน้อย แต่ว่าตอนนี้ เห็นฉ่ ลั่วหานออกมาแค่คนเดียว ค่อยดูเสิ่นเหลียวที่อยู่ข้าง ตัวของตนเองอีกครั้ง เป็นกำลังใจของฉู่ซีหรานได้เต็ม เปี่ยมเลย

กู้เยนเซ็นลั่วหานนั่งลง ตาจ้องมองยิ้มพูดว่า “คุณฉู่ คุณไม่กลัวว่าจะถูกฉ่ซีหรานให้ผู้ชายของเธอ ทำให้วันนี้คุณนอนขวางออกไปหรือ?”

ลั่วหานก็ยิ้มแล้วเช่นกัน อีกทั้งยิ้มอย่างอ่อนโยน ผ่าเผยมาก “ที่นี่ไม่ใช่ยังมีคุณอยู่หรือ?”

“ๆๆ! พูดเช่นนี้คุณช่างดูผมออกจริงๆนะ ได้ ใน เมื่อคุณดูผมออก ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่าง แน่นอน”

ในใจฉู่ลั่วหานพิจารณาถึงเสิ่นเหลียวกับฉู่ซีหราน จากนั้นพูดว่า “คุณชายกู้ คุณไม่รู้หรือว่าพวกเขาทั้ง สองทำไมได้อยู่ด้วยกันได้ยังไงหรือ? น้องสาวที่ดีของ ฉันมีความสามารถเก่งกล้านัก ถึงขนาดติดพันกับ เสิ่น เหลียว”

กู้เยนเซินเบ้ปาก “เรื่องส่วนมากก็ไม่ค่อยรู้แต่ในวงการนี้ หน้าตาดีก็มีตลาด เป็นหลักการที่ง่า ยมากๆ”

ใช่ เป็นหลักการที่ง่ายมากๆ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ กับความงดงาม ต่างได้เปรียบซึ่งกันและกัน ต่างได้ควบคุมซึ่งกันและกัน

หลังจากนั้นล่ะ ยังไง? ใครถูกใครโยนทิ้งเหมือนรองเท้าขาดหรือ? “ฉันอยากรู้ว่าเสิ่นเหลียวเพื่อเธอสามารถทำถึง

ขนาดไหน ถ้าหากว่าฉู่ซีหรานเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดเสิ่น

เหลียวจะออกตัวช่วยไหม”

เธอต้องไตร่ตรองพลังความสามารถของฝ่ายตรง ข้ามให้ชัดเจน ดูว่าเสิ่นเหลียวต่อฉู่ซีหราน คือความ จริงใจ หรือว่าแค่แสดงละครตามเหตุการณ์ต่างๆ

อยู่ดีๆกู้เยนเซินก็หัวเราะเลย ครั้งนี้เขาหัวเราะ อย่างบ้าคลั่งมาก ตั๊กเตือนเธออย่างเป็นมิตรเล็กน้อย “คุณโปรดวางใจเถอะ ไม่ว่าเสิ่นเหลียวจะสามารถช่วย เธอได้ถึงขนาดไหน ล้วนชนะคุณไม่ได้ คุณอย่าลืมนะ เสิ่นเหลียวอยากจะช่วยตบหน้าแทนฉู่ซีหรานขนาด ไหน ยังต้องอยู่ในพลังความสามารถของตัวเขาเอง แต่ ว่าผู้ชายของคุณ พลังความสามารถชนะเสิ่นเหลียว เขาอย่างสบายๆ”

ฉ่ลั่วหานพูดต่อจากคำพูดเขา ให้รอยยิ้มที่มี ประโยชน์มากเป็นพิเศษเล็กน้อยอย่างหนึ่ง

เขาพูดไม่ผิด แม้ว่าเสิ่นเหลียวอยากจะช่วยฉูซี หราน จำต้องเป็นที่ตัวเขาเองมี และที่เขามี หลงเซียว ล้วนมี ที่เขาไม่มี หลงเชียวก็มี

* แต่ว่าล่ะ ถ้าหากว่าเสิ่นเหลียวคือทั้งขาวทั้งดำล้วน กินเรียบไปหมด….

ลั่วหานเงียบไปสักพัก คิดทบทวน หลงเชียวล่ะ? มาเฟียฝั่งนั้นไม่รู้ว่าเขามีส่วนร่วมด้วยไหม

คือหวังว่าเขามี หรือว่าหวังว่าเขาไม่มี?

งานประมูลเริ่มเป็นทางการ ถ้าหากว่าเหมือนดั่งใน การคาดคิดของลั่วหานจริงๆ สินค้าประมูลทุกชิ้นล้วนมี มูลค่าไม่ธรรมดา

หยกโบราณที่มากมายนับไม่ถ้วนย่อมไม่ต้องพูด อะไรมากกว่านี้อยู่แล้ว การประมูลทุกครั้งล้วนขาย ออก

ยังมีภาพวาด แกะสลัก อัญมณี เครื่องประดับของ จิตรกรที่มีชื่อเสียงในโลกเหล่านั้น….

สินค้าประมูลที่ละชิ้นๆถูกประมูลไปด้วยมูลค่า อย่างสูง เสียงเรียกราคาในงานขึ้นๆลงๆ มีคนตื่นเต้น มี คนผิดหวัง มีคนโมโห มีคนหัวเราะเยาะ

กู้เยนเซินกลับมึนงง “คนสวย สิ่งของดีๆมากมาย ขนาดนี้ ก็ไม่มีชิ้นไหนที่ถูกใจคุณหรือ? ไม่ใช่มั้ง? สายตาสูงขนาดนี้หรือ?”

ลั่วหานขาดความตื่นเต้นสายหัว “เครื่องปันดินเผา วางไว้ที่บ้านก็แค่เหมือนของเล่นชิ้นหนึ่ง ร้อยกว่าบาท พันกว่าบาท หมื่นกว่าบาทหรือว่าสิบล้านกว่าบาท ฉัน รู้สึกว่าไม่แตกต่างกันตรงไหนเลย”

กู้เยนเซินรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจริงๆแล้ว “คุณก็ บังคับตนเองประมูลสักชิ้นสิ หลงเชียวก็ไม่ขาดเงิน คุณประหยัดเงินแทนเขาหรือ?” สังหานเป๊ปาก “หรือว่าไม่มีที่คุณชายกู้ถูกใจเช่น กันหรือ?”

กู้เยนเซินหัวเราะฮ่าๆขมๆหนึ่งที “ถ้าหากว่าผมมี คนจ่ายเงิน ย่อมยกให้อย่างปล่อยใจแน่นอน นี่ไม่ใช่ ชีวิตล่ำบากไม่มีคนช่วยหรือ? อิอิ คุณชายหลงคนนี้ ไม่มีน้ำใจ มีภรรยาแล้วก็ลืมพี่น้อง”

ลั่วหานแค่ยิ้มไม่พูด

“สินค้าประมูลชิ้นต่อมา ภาพวาดหมึก (สะพานเห ยียนหยู) ของหวางย่งเชิง จิตรกรที่มีชื่อเสียงใน ประเทศจีน

ลั่วหานที่ไม่ได้ทำอะไรมานานอยู่ดีๆตาสว่างปิ้งขึ้น มาหนึ่งที่หวางยุ่งเซิง คือจิตรกรในประเทศจีนที่ เฉียว หย่วนฟานชอบที่สุด เขาเก็บสะสมผลงานของอาจารย์ หวางไว้ไม่น้อยและภาพวาดนี้ยิ่งถูกเขาบ่นถึงหลาย ครั้ง

เพราะว่าหวางย่งเชิง ปัจจุบันนี้ยังมีชีวิตอยู่ เทียบ กับจิตรกรเหล่านั้นที่เสียชีวิตไปแล้ว ราคาของผลงาน ย่อมจะไม่สูงมากนัก ราคาเริ่มต้นคือสิบล้าน

ป้ายที่อยู่ในมือของลั่วหานยกขึ้นมาในครั้งแรก เพิ่มราคาครั้งละแสน ราคาในใจของลั่วหานคือสามสิบ ล้าน สูงกว่านี้ เธอก็จะไม่ยกป้ายอีก

กู้เยนเซิน ไอ่หย่า หนึ่งเสียง “คิดไม่ถึงว่าคุณชอบ ชิ้นนี้หรือ? ดูไม่ออกเลย” “ไม่ได้หรือ?”

“ได้ก็ได้ แต่ว่าถูกเกินไปแล้วล่ะ? แย่งจนตายก็แค่ เรื่องกี่สิบล้านเท่านั้น ล้วนไม่สามารถทำให้หลงเชียว ปรากฏตัวได้”

ลั่วหานไม่สนใจเขาอีก ยกป้ายครั้งที่สาม

กู้เยนเซินไขว่ห้างข้างหนึ่ง “เรียกราคาสูงสุดสัก อันโดยตรง ประมูลให้ได้ยกป้ายเหนื่อยมากนะ คุณชายหลงเห็นแล้วจะเจ็บใจ”

ลั่วหานขมวดคิ้ว ยิ้ม “การใช้เงินก็ต้องทุ่มแรงบ้าง”

ข้างๆก็ยังมีคู่แข่ง แต่ว่าทุกคนล้วนดูเหมือนเป็น มิตรมาก ครั้งละสิบล้าน ไม่มีคนทำร้ายความสงบนี้

ในเวลานี้กลับมีเสียงเสียงหนึ่งอยู่ดีๆส่งมาจาก ทิศทางบางแห่ง ผู้ชายที่ไม่คุ้นหน้าพูดว่า “ยี่สิบล้าน”

เอ่อ?

ลั่วหานมองตามเสียง หรี่ตาลงนิดหนึ่ง ข้างผู้ชาย ที่ออกเสียงเป็นผู้ชายงดงามที่นั่งอยู่นั้น คิดไม่ถึงว่าคือ ตู้หลิงเซวียน

คิดไม่ถึงว่าตู้หลิงเซวียนก็มาเช่นกันหรือ?

ผ่านที่นั่งหลายแถว สายตาของคนทั้งสองสบตา กันในทันทีนั้นปากของฉู่ลั่วหานยิ้มอย่างไม่อิสระ ไม่ ยอมรับไม่ได้ว่าตอนที่เห็นตู้หลิงเซวียนในใจลั่วหานก ล้วหัวหดเล็กน้อย แต่ว่าตู้หลิงเซวียนดูเหมือนไม่มีความอึดอัดแม้แต่ นิดเลย ก็เหมือนดั่งเพื่อนเก่าได้เจอกัน พยักหน้าอย่าง มีมารยาทและใกล้ชิด

“ยี่สิบล้านครั้งที่หนึ่ง.”

ได้ยินเสียงร้อง ป้ายในมือของฉู่ลั่วหานยกขึ้นมา อีก “ยี่สิบสามล้าน”

มุมปากของกู้เยนเซินงอขึ้น “คนสวย สู้กันแล้ว?” ลั่วหานรู้สึกว่า “มีคนแข่งด้วย จึงจะสนุก ” =

กู้เยนเซินก็มองไปยังผู้ชายที่เสนอราคา ครั้งนี้ ช่างสนุกจริงๆแล้ว!

“ยี่สิบห้าล้าน”

ในงานมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เล็กน้อยออกมา มีคน บอกว่าราคานี้สูงเกินไปแล้ว มีคนว่าคนที่นั่งอยู่คือคน ไหนล่ะที่เห็นมูลค่าสินค้าแล้วค่อยประมูลราคาล่ะ สิบ กว่าล้านซื้อแค่ความโชคดีเท่านั้น

กู้เยนเซิน อิอิ “คนสวย ยังจะเพิ่มอีกไหม?”

ล้วหานพยักหน้า “แน่นอน”

“ยี่สิบแปดล้าน”

ฝั่งตรงข้ามก็เพิ่มราคาตามอย่างแน่นด้วย “สามสิบ

ล้าน”

สามสิบล้านแล้ว ลั่วหานขมวดคิ้ว ฝั่งตรงข้ามถึงขนาดยังตามอีก อีกทั้งดู สถานการณ์เหมือนว่าไม่คิดที่จะยอมแพ้อย่าง

และคนอื่นๆ ในงานประมูลล้วนรู้ตัวปล่อยป้ายลง ภาพวาดชิ้นนี้กลายเป็นการแข่งขันระหว่างคนทั้งสอง จี้ตงหมิงก้มตัวถามหลงเซียวเบาๆว่า “เถ้าแก่ เป็น

สิ่งของที่คุณนายถูกใจ จะประมูลเอามาให้ได้ไหม?”

ท่านเซียวตอบกลับไปราบเรียบประโยคหนึ่ง สายตาที่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้มมองไปยังลั่วหาน “ไม่ต้อง เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้เธอสามารถจัดการได้

เท่ากับว่าเธอไม่อยากได้ ถ้าไม่ราคาไม่ใช่ปัญหา หรืออีก

ท่านเซียวขาทั้งคู่ทับกัน พิงไปข้างหลัง ยิ้มแล้ว “ท่านประธาน ยังจะตามไหม? สามสิบล้านแล้ว

อันนี้ เท่านอยากจะประมูลเอามาจริงๆหรือ?”

ตู้หลิงเซวียนประสานมือ มั่นใจที่จะได้พูดว่า นี้ ไม่ว่าแอนน่าร่วมแข่งประมูลกับของชิ้นไหน ล้วน ประมูลเอามาให้ผม

ได้ครับ!”

ลั่วหานยกอีกครั้ง “สามสิบห้าล้าน”

อยากแข่ง แข่งให้สนุกตู้หลิงเซวียนคิดอะไรอยู่กัน แน่ เธอแทบจะดูออกแล้ว

“ห้าสิบล้าน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ