คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป

ตอนที่ 228 ฉันคิดถึงคุณ หลงเชียว



ตอนที่ 228 ฉันคิดถึงคุณ หลงเชียว

ภรรยางั้นหรือ?

มีใครไม่รู้บ้างว่าภรรยาของหลงเชียวนั้น ตายไปตั้งนาน ตั้งแต่ที่แอฟริกาแล้ว ทำไมตอนนี้เขากลับมาพูดว่า เป็น ภรรยาตัวเองกันล่ะ?

นี่ล้อกันเล่นอะไรเนี่ย!

โม่ล่างคุนคิดจะคว้าคอเสื้อของหลงเชียวอีกรอบ แต่ก่อน หน้าที่เขาจะได้ยื่นมือออกไปนั้น ก็ถูกหลงเชียวคว้าข้อมือเอา ไว้ สายตาของเขาเฉียบคมราวกับคมมีด มองมายังโม่ล่างคุ นที่กัดฟันแน่น

“หลงเชียว นี่คิดจะทิ้งงานแต่งไปกลางคันแบบนี้หรือ แถม เหตุผลก็ยากที่จะเชื่อได้! เอาภรรยาของตัวเองที่ตายไปแล้ว ตั้งสองปีมาพูดแบบนี้ มันจะไปได้อะไรกัน!”

โม่ล่างคุนพูดไปอย่างโกรธเกรี้ยว ขณะที่เขาเพิ่งพูดไปนั้น เอง ทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนบรรยากาศหนาวเหน็บลง การที่ โม่ล่างคุนกล้าพูดจากับหลงเชียวแบบนี้ แสดงว่าเขาไม่ อยากจะ มีชีวิตต่อแล้วใช่ไหม!

หลงเชียวเองก็มองไปยังรอบๆ ห้องโถงที่กว้างใหญ่ พร้อมทั้งแววตาร้อยกว่าคู่ ที่จับจ้องมาทางเขาเป็นตาเดียว

ไม่ต้องพูดถึงแขกคนอื่นๆ เลย แม้แต่หยวนชูเฟินกับหลง ถึง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหายใจแบบติดๆ ขัดๆ เลย

หลงเชียว นี่เขากำลังเล่นละครอะไรอยู่ล่ะเนี่ย?

หลงเชียวจัดเนคไทของตัวเองไปมา ครั้งนี้ เขาได้พูดอย่าง ไว้หน้าโม่ล่างคุนด้วย “ตอนแรกที่ผมหมั้นกับหรูเฟย สถานการณ์มันเป็นยังไงล่ะครับ หวังว่าทุกคนคงจะจำได้นะ ครับ”

เพียงแค่คำพูดเดียว ความทรงจำของทุกคน ต่างก็ย้อน

กลับไปภาพวันนั้น

ชั่วขณะนั้นเอง ทั้งห้องต่างก็เงียบเชียบ ไม่มีเสียงใดเลย

โม่หรูเฟยเองก็ร้องไห้จนน้ำตานองหน้าไปแล้ว แต่เธอ ยกมือขึ้นปิดปาก ไม่กล้าที่จะออกเสียงร้องออกมา เรื่อง ทั้งหมดในวันนี้ ราวกับระเบิด ติดตั้งเวลาที่ไม่แน่นอนในปีนั้น เพียงแต่ภาพที่เธอวาดฝันไว้ ลูกระเบิดมันจะยังคงไม่ระเบิดต่อไป

หลงเชียวส่งสายตาที่เย็นชา ไร้ซึ่งความกังวลใดๆ “เรื่อง

งานแต่งระหว่างผมกับหรูเฟย ไม่ได้จัดไปด้วยความรู้สึกของ

ทั้งสองฝ่าย หากต้องยกเลิก ต่างคนต่างก็ต้องรับผิดชอบ ยิ่ง ไปกว่านั้น” สุดท้ายเขาก็ส่งสายตาไปให้โม่หรูเฟยที่ร้องไห้ ก่อนที่แวว ตาของเขาจะนิ่งขรึมลงไปมากกว่าเดิม โม่หรูเฟยเองที่ตัดสิน ใจแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้หลงเชียวรู้สึกปวดหัวอย่าง

มาก ถ้าหากไม่จัดการให้เร็วล่ะก็ เกรงว่าเธอคงจะทำผิดไป

มากกว่านี้แน่ๆ

“อย่างที่ทุกคนรู้ เมื่อสองปีก่อนภรรยาของผมตายไปด้วย อุบัติเหตุ แต่นั่นไม่ใช่ความจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน ผมได้ ตามหาตัวเธอจนพบแล้ว ผมแต่งงานแล้ว ผมมีคนที่รักแล้ว ผมไม่มีทางไปแต่งงานกับใครคนอื่นแน่”

หลงจื้อเองก็ดื่มเหล้าไปอีกใหญ่ด้วยความอึดอัดใจ ดูก็รู้เลยว่า วิธีการจัดการของพี่ใหญ่ในวันนี้ เป็นไปอย่าง เกรงอกเกรงใจที่สุดแล้ว พี่ใหญ่เองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะยอม เก็บไว้ในใจ คำพูดของเขาดูเย่อหยิ่งยโสสง่างาม แต่กลับไม่ ได้ดูบ้าอ่านาจแต่อย่างใด เขาพยายามอดทนอธิบายทุก อย่างได้เยอะขนาดนี้เลย

สำหรับตระกูลโม่แล้ว การที่ถูกยกเลิกงานแต่งแบบนี้ ถือว่าเป็นการปลอบโยนที่มากที่สุดแล้วด้วยซ้ำ

เกาจิงอานเองก็ส่งเสียงจุจี้”คิดไม่ถึงเลยนะ ว่าพี่ใหญ่ของ นายจะมีเวลาที่วางตัวดีขนาดนี้”

“เป็นเพราะว่าเขาไม่อยากให้ลุงเขยของพวกนายเสียหน้า ยังไงล่ะ แต่ลุยเขยของนายก็ไม่รู้จักวางตัวเอาบ้างเลยนะ เพื่อที่จะให้น้องสาวของนายมาแต่งงานกับพี่ใหญ่ของฉัน เขาต้องเสียหน้าไปกี่ครั้งแล้วล่ะ? เจ็บแล้วยังไม่จำอีก”

“อย่าไปพูดถึงลุงเขยแบบนั้นเลย”

หลงจื่อ ยิ้ม “ทำไมล่ะ? นายเองก็รู้สึกขายหน้า ที่มีญาติเป็น แบบนี้ใช่ไหม?”

พอพูดจบ เขาก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอต่อ “น่าเสียดายนะ วันนี้งานอุตส่าห์ครึกครื้น เพราะไม่มีนักข่าว แล้วแท้ๆ แต่พี่ใหญ่ของฉันก็ยังคงทำตัวมีเมตตากับตระกูล ของลุงเขยนายมากเลยนะ”

ถ้าหากมีนักข่าวมาล่ะก็ เรื่องที่ถูกยกเลิกงานแต่งของ ตระกูลโม่ต้องรั่วไหลออกไปแน่ เกรงว่าพอถึงวันพรุ่งนี้ หุ้น ของตระกูลโม่ก็คงจะดูแย่อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ

ซิ!

“เซียวเอ๋อเพิ่งจะพูดอะไรไปนะ? ภรรยา? หรือว่า…หรือว่า ฉู่ลั่วหานจะยังไม่ตายงั้นหรือ? ถ้างั้…งั้นเธอตอนนี้ก็..หยวนซูเฟินพลันตัวสั่นเป็นลูกนกทันที

หลงถึงเองก็ส่งเสียงหี “จะจริงหรือเปล่า ก็ยังไม่แน่นอน

หรอกนะ”

“ปีง!”

พลันมีเสียงของหนักบางอย่าง หล่นลงกับพื้นท่ามกลาง ความเงียบสงัดในห้องโถง

“เฟยเฟย! เฟยเฟย!”

โม่หรูเฟยเป็นลม สลบจนล้มพับลงไปกับ พื้นที่เย็นเฉียบอย่างรุนแรง ด้วยความที่เป็นหมอ เกาหยิ่งจือ เองก็รีบรุดไปประคองโม่หรูเฟยเอาไว้ “หรูเฟย!”

“เฟยเฟย! ลูกแม่!”

ฟูเหวินฟางร้องตะโกนวิ่งไปหาโม่หรูเฟย ก่อนที่จะรู้สึกเจ็บ ปวดใจด้วยความโกรธ เธอใช้ทั้งสองมือประคองใบหน้า ของโม่หรูเฟยเอาไว้ ก่อนจะพูดทั้งน้ำตา “เจ้าลูกโง่ มีผู้ชาย อื่นให้เลือกตั้งเยอะไม่เอา ทำไมต้องไปชอบผู้ชายแบบนี้ ด้วย?!”

ฟูเหวินฟางทั้งโกรธ ทั้งอยากจะบ่นออกมา แต่เมื่ออยู่ต่อ หน้าหลงเชียวแล้ว เธอกลับไม่มีวิธีใดๆ เธอไม่กล้าที่จะต่อ ต้านหลงเชียวไปอย่างเปิดเผยด้วยซ้ำ จึงทำได้เพียงตีวัว กระทบคราดไปอย่างนั้น

โม่หรูเฟยค่อยๆ ตื่นขึ้นมาจากการสลบไสล เธอกระพริบ ตาไปมา ก่อนจะเห็นใบหน้าที่อยู่ต่อหน้าของตัวเอง “แม่..” โม่หรูเฟยพูดออกมาด้วยเสียงสะอึกสะอื้น เธอร้องไห้จนใจ ของฟูเหวินฟางแทบจะแตกสลาย

เกาหยิ่งจือกัดฟันกรอด เธออยากจะว่าโม่หรู เฟยเหลือเกิน ที่หาเรื่องใส่ตัวแบบนี้ แต่พอเห็นท่าทางของ เธอแบบนั้น เธอก็อดไม่ได้จริงๆ “หรูเฟย เธอรู้สึกเป็นยังไง บ้าง?”

โม่หรูเฟยพยายามฝืนตัวเอง ก่อนจะคว้ามือของเกาหยิ่งจี อมาคว้าไว้แน่น “พี่คะ ช่วยประคองฉันลุกที”

หลงเชียวขมวดคิ้ว สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ แม้แต่ ความเมตตาเขาก็ยังขี้เกียจที่จะแสดงออกมา แต่หลังจากคืน นี้ไป เรื่องพวกนี้จะถูกเขากำจัดออกไปจากโลกของเขา ทั้งหมด

หยวนชูเฟินที่ยังไม่เข้าใจ พยายามจะพุ่งเข้ามาหาด้วย ความโกรธ แต่พอลองคิดดูอีกที ถ้าหากจะว่าลูกของตัวเอง ต่อหน้าคนของตระกูลโม่ คนที่เสียหน้าคงจะเป็นคนตระกูล หลงแน่ๆ

เธอในตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธที่พร้อมจะระเบิดออก มา จนมือของเธออยู่ในท่าที่กำแน่นไปเรียบร้อยแล้ว “คุณคะ จู่ๆ เอ๋อก็มายกเลิกงานแต่งกับหรูเฟย ในงานเลี้ยงคืนนี้ แบบนี้ หรือว่าเขาจะไม่ได้บอกคุณมาก่อนหรือคะ?”

หลงถึงกวาดตามองไปยังแขกเหรื่อ ที่กำลังวิพากวิจารณ์ กันอยู่ในห้องโถงอย่างเบื่อหน่าย “เขาเคยปรึกษาเรื่องที่เขาทำกับผมเมื่อไหร่กันล่ะ?”

เพียงแค่คำพูดเดียว ก็ทำให้หยวนชูเฟินพูดอะไรไม่ออก ไปทีเดียว

จริงๆ แล้ว ตั้งแต่หลังจากคู่ลั่วหานเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าหลง เชียวจะทำอะไร เขาก็มักจะตัดสินใจเองคนเดียวตลอด เรื่อง ธุรกิจเองก็เช่นกัน เป็นเพราะไม่มีใครสงสัยในความสามารถ ของเขา แต่เรื่องความรักนั้น…..

พอคิดถึงเรื่องความรัก หยวนชูเฟินก็รู้สึกเย็นยะเยือกขึ้น มาในใจ สิ่งที่เขาทำในวันนี้ คงจะเป็นแค่การที่ถูกระงับ พิธี แต่งงานในตอนแรกเท่านั้นใช่ไหม?

พลันเธอก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที

หลงจื้อรีบวางมือถือลง พร้อมทั้งบันทึกวิดีโอเมื่อสักครู่นี้ แล้วแกว่งแก้วเหล้าในมือไปมา อีกทั้งยกขาทั้งสองข้างไป พาดโซฟาข้างหน้าอย่างกับพวกอันธพาล “ดูเหมือนว่านาย เองก็คงไม่รู้ด้วยสินะ ประธานเกา?”

เกาจิงอานดื่มเหล้าไปอีกหนึ่ง พร้อมทั้งเอนหลังพิงโซฟา เขาพูดออกมาด้วยท่าทางที่ดูสง่า งามสูงส่งและอวดดี “เรื่องที่นายรู้ ฉันก็รู้แน่นอนอยู่แล้ว แต่มี อยู่เรื่องหนึ่ง ที่ฉันไม่เข้าใจ”

หลงจื้อเงยหน้าขึ้นมอง “เรื่องอะไรล่ะ?”

“ตามที่ฉันรู้มา นายเองก็ชอบแอนน่ามาก ถึงขั้นเปิดเผย ว่าจะตามจีบ มาตอนนี้รู้ว่าเธอเป็นพี่สะใภ้ของนาย ไม่ใช่ว่า นายจะเศร้าโศกเสียใจไปสำมะเลเทเมาเพื่อกำจัดความ กังวล แล้วก็ไปหาที่หลบซ่อนอย่างเขินอายหรอกนะ?”

หลงจื้อดื่มเหล้าจนหมดแก้ว ก่อนจะวางแก้วเปล่าลง พร้อมทั้งเอามือยืดเสื้อสูทเอาไว้ “ทำไมฉันต้องไปกินเหล้า คลายโศกอะไรแบบนั้นล่ะ? แอนน่าเป็นผู้หญิงที่สวยงาม สมบูรณ์แบบ หากได้เข้ามาอยู่ในตระกูลหลง ขอแค่เป็นน้ำที่ ไม่รั่วไหลไปที่อื่นก็พอแล้ว คนที่ควรจะร้องไห้ที่สุด ควรเป็น นายมากกว่านะ ถึงขั้นประกาศจะตามจีบเธอ แต่กลับโดน ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ตอนนี้ก็คงจะทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะมั้ง”

เกาจิ่งอานกัดฟันกรอด “คุณชายหลง พูดจาอะไรไม่ เกรงใจกันบ้างเลยนะ!”

หลงจื้อยักไหล่ ก่อนจะลุกขึ้นยืน พร้อมทั้ง เรอออกมาอย่างเต็มอิ่ม “เกรงใจคืออะไรงั้นหรือ? พอดีฉัน เรียนไม่สูงน่ะ ไม่ได้มีครูสอนด้วย”

พูดจบ หลงจื้อก็เอามือล้วงกระเป๋า แล้วเดินมาหาหลงถึงอ ย่างสง่างาม ซึ่งในขณะนั้น พ่อของเขาก็โกรธเสียเป็นฟื้นเป็น ไฟแน่แล้ว

โม่หรูเฟยเดินมาหยุดอยู่ต่อหน้าของหลงเชียว พร้อมทั้ง เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ขาวผุดผ่องราวกับแกะสลักของเขา ภายใต้โคมไฟคริสตัลที่สุกสว่างตอนนี้ แววตาของเขา ราวกับกษัตริย์ที่มองทุกอย่างอย่างดูถูก

“พี่เซียว สิ่งที่พี่พูด มันเรื่องจริงหรือคะ?”

“ถูกแล้วล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น พี่เคยคิดมาก่อนหรือเปล่าคะว่าเธอ….อาจจะ ไม่ใช่ภรรยาของพี่อีกแล้ว?”

หลงเชียวหรี่ตาลง นี่โม่หรูเฟยรู้แล้วงั้นหรือ?

หากรู้แล้ว ก็ยิ่งสมควรจะโกรธ!

โม่หรูเฟยกัดฟันแน่น รอคำตอบออกมาจากเขา

“ดูเหมือนว่า เธอเองจะรู้ตัวตนของเธอแล้วล่ะ นะ ในเมื่อรู้แล้ว อย่างดีที่สุด ก็ควรจะอยู่ให้ห่างๆ เธอหน่อย แล้วกัน อย่าไปรบกวนอะไรชีวิตเธอด้วยล่ะ”

“พี่เซียว พี่ทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไงกัน? เพื่อพี่แล้ว ฉัน ลงทุนลงแรงไปตั้งมากมาย พวกเราเองก็เคยมีลูกด้วยกัน แต่พี่กลับไม่….”

เธอเจ็บปวดใจเสียจนพูดออกมาไม่ไหว หลงเซียวเองก็พูด ออกมาอย่างเย็นชา “พอได้แล้ว! อย่ามาทำให้พี่โมโหดีกว่า พี่ไม่อยากให้เธอหาเรื่องใส่ตัวเองหรอกนะ”

ลูกงั้นหรือ?

หลังจากที่ลั่วหานตายไป มีอยู่หลายเรื่องที่เขาแทบจะไม่ ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เขาอยากให้ชีวิตอันเงียบสงบของลั่วหาน อยู่ในความทรงจำของเขา โดยไม่ยอมให้ใครมาเปิดเผย สร้างบาดแผลให้ตัวเองแน่ๆ

เขายอมรับว่าเวลาที่ตัวเองต้องเผชิญหน้ากับลั่วหานนั้น ร่างกายของเขาก็แทบอ่อนยวบยาบ ราวกับถูกตี

แต่ตอนนี้ เขาสืบเสาะทุกอย่างชัดเจนแล้ว ทุกสิ่งที่เขา สงสัย ทุกเรื่อง ทุกอย่าง “แม่คะ แม่ตื่นแล้ว รู้สึกยังไงบ้างคะ?”

ได้มิ้นที่กำลังลืมตาตื่นขึ้นจากการสลบไสล พอชั่วขณะที่ เธอเห็นแอนน่านั้น เธอก็วางใจลงได้ทันที ก่อนจะเอามือที่ กำลังต่อสายน้ำเกลืออยู่นั้น คว้ามือของแอนน่าเอาไว้ “พอดี แม่ฝันน่ะ ฝันว่าลูกจากไป.ลูกบอกว่าลูกต้องไป..

ยิ่งพูดน้ำตาของได้ปั่นก็ยิ่งไหล จนทำให้สายตาของเธอ พร่ามัวไปทันที

แอนน่าเองก็สูดลมหายใจเข้าจมูกด้วยความสะอื้น แววตา ของเธอก็ร้อนผ่าวจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมา เธอกำมือของ ได้มิ้นไว้แน่น “แม่ดูสิ หนูก็ยังอยู่ดีข้างๆ แม่นี่นา? หนูจะอยู่ กับแม่ตลอดไป ไม่ไปไหนทั้งนั้นล่ะค่ะ”

ได้มิ้นคว้ามือของเธอไว้แน่น ก่อนจะพยักหน้ารับทั้งน้ำตา น้าตา แต่เธอก็ยังฝืนยิ้มขึ้นอย่างไม่สงบใจ “แม่กลัวจริงๆ ว่าตอนที่ ลืมตาจะไม่เห็นลูก สัญญากับแม่สิ ว่าอย่าจากแม่ไปไหน ตกลงไหม?”

ตอนนี้ความรู้สึกภายในครอบครัว มันเข้ามา พัวพันในจิตใจ จนยากที่จะแยกออกจากกันได้ แอนน่าก็ พยักหน้ารับสุดแรง “ค่ะ แม่หิวหรือยัง? อยากกินอะไรใหม?”

ได้มิ้นส่ายหัว “ตอนที่ลูกไปประเทศจีน ลูกมีของที่ชอบกิน บ้างหรือเปล่าล่ะ? นานมาแล้วนะที่แม่ไม่ได้กินอาหารของ ประเทศจีนเลยนะ อยากจะลองชิมดูจัง”

“ได้สิคะ! หนูไปเรียนทำอาหารมาสองสามอย่างด้วยนะ อีกเดี๋ยวถ้าพ่อมา เดี๋ยวหนูจะให้พ่ออยู่กับแม่ก่อน แล้วหนูจะ กลับบ้านไปทำมาให้ ตกลงไหมคะ?”

พูดจบ เฉียวหย่วนฟานก็เดินเข้ามา พร้อมกับตู้เฉิงเย่และ

จางม่านหนิง แอนน่าก้มหน้า ในเมื่อเธอยกเลิกงานแต่งกับตู้หลิงเซวียน

ไปแล้ว คนตระกูลกู้จะรู้สึกหงุดหงิดใจไหมนะ?

จางม่านหนิงเดินมาหยุดอยู่ริมหน้าต่างอย่างร้อนรน ก่อน จะโน้มตัวลงมาพูดอย่างเป็นห่วง “ดีขึ้นบ้างแล้วหรือยัง?” แอนน่ารู้สึกประหลาดใจมาก หรือว่าเธอไม่ควรจะมาทำ

อะไรในห้องผู้ป่วยกันนะ? ตู้เฉิงเย่เองก็ออกไปเจรจากับเฉียวหย่วนฟานที่ด้านนอก โดยไม่รู้สึกเลยว่าจะมีอะไรที่ดูไม่เหมาะสม

แอนน่าสงสัยขึ้นมาทันที นี่หรือว่าเควินยังไม่ได้บอกเรื่อง จริงกับพวกเขากัน

“ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ คุณลุงคุณป้า เตี๋ยว หนูจะไปเตรียมอาหารให้กับแม่นะค่ะ” แอนน่าพูดด้วย ดวงตาแดงก่ำ ดูก็รู้ว่าน่าจะร้องไห้มาก่อน

พลันจางม่านหนิงก็โน้มตัวมาหาเธอ “รอป้าเดี๋ยวสิ” พลันในใจเธอก็นิ่งอึ้งไป นี่หรือว่า…..

หลังจากจางม่านหนึ่งเดินออกมาส่งเธอด้านนอกห้อง เธอ ก็รั้งมือของแอนน่าเอาไว้ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม ที่แฝงไป ด้วยความเสียอกเสียดาย “เสี่ยวเซวียนบอกเรื่องนั้นกับป้า แล้วล่ะนะ เรื่องนี้ป้าไม่โทษหนูหรอกนะ เสี่ยวเชวียนนะรักหนู สุดหัวใจ เพียงแต่เขาไม่เข้าใจความในใจของหนูก็ เท่านั้น….หากหนูไม่อยากจะแต่งงานกับเขา เขาก็คงจะไม่ได้ มีโชคที่ดีขนาดนั้นล่ะนะ”

แอนน่าพูดอย่างรู้สึกผิด ที่จางม่านหนิงใจ กว้างแบบนั้น “ไม่หรอกค่ะ มันเป็นปัญหาของหนูเอง เควิน เองก็เป็นผู้ชายที่ดีนะคะ”

จางม่านหนิงพลันบ่นพึมพำกับตัวเอง “งั้นหรือ? ก็อาจจะ ใช่นะ แต่ยังไงหนูไม่ได้ชอบเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก แต่ป้าชอบหนูนะ สัญญากับป้าสิ ไม่ว่าหลังจากนี้จะเป็นลูก สะใภ้ของป้าหรือไม่ แต่ก็ห้ามตัดขาดความสัมพันธ์กับป้า เด็ดขาดนะ”

“ค่ะ หนูสัญญาเลยค่ะ”

แอนน่าเดินออกมาจากโรงพยาบาล ด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น ก่อนจะยกมือขึ้นโบกรถคันหนึ่ง แต่ทันใดนั้นเสียงมือถือของ เธอก็ดังขึ้นพอดี

ตั้งแต่ที่เธอส่งข้อความไปจนถึงตอนนี้ เวลามันก็ผ่านมา สามชั่วโมงแล้ว นี่เขาใช้เวลาตอบกลับนานขนาดนั้นเลย หรือ?

ขณะเดียวกันหลงเชียวที่นั่งอยู่ในรถ ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัว ออกห่างจากตึก Club.HT ไป

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะ ขอให้มีความสุขมากๆ ล่ะ”

เขาส่งเสียงทุ่มต่ำที่แหบแห้ง ฟังดูราวกับ น้ำแข็งที่พัดมาพบเจอกับความอบอุ่น หลายหมื่นกิโลเมตร

ไม่ปาน

แอนน่าเองก็นั่งพิงเบาะหลัง หัวติดพนักอย่างเหนื่อยอ่อน เธออดหลับอดนอนมาทั้งคืน ทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยและ ง่วงมาก พลันเธอก็ส่งเสียงออกมาเบาๆ คล้ายกับกำลังจะ ออดอ้อน แต่กลับดูดื้อรั้นอยู่หน่อยๆ “หลงเชียว จู่ๆ ฉันเองก็ คิดถึงคุณขึ้นหน่อยๆ บ้างแล้วนะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ