บทที่95 นี่เขารู้อะไรบางอย่างหรือเปล่า
บทที่95 นี่เขารู้อะไรบางอย่างหรือเปล่า
เสิ่นเฉียวคิดว่าตัวเองหูฝาด
เยโม่เซินคงไม่ทำข้อเสนอแบบนี้ ยึดโทรศัพท์เธอไป แล้วขอให้เธอเดินไปจูบเขา เสร็จแล้วเขาจะคืนให้เนี่ย นะ??
นี่เป็นเรื่องที่เขาจะทำหรอ?
นี่มันเรื่องปัญญาอ่อนชัดๆ
เยโม่เซิน เมื่อเห็นเธอยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าน่ารัก ที่แสดงถึงความงงงวย เหมือนกับสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเอง ได้ยินคือความจริงหรือความฝัน เยโม่เซินเมื่อได้สติอีก ครั้งก็เพิ่งคิดได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดอะไรออกไป ใบหูก็ เริ่มแดงขึ้น เขากระแอมเล็กน้อย “เธอ…”
แต่ว่าวินาทีถัดไป แม่ตัวน้อยน่ารักที่ยืนอึ้งอยู่กับที่เมื่อ ศั กสับผิดตัวแล้วขกรับเท้ามาใกล่เขา ในหน้าไว้เครื่องสำ อางค์ของเธอค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ
ปากอ่อนนุ่มของเธอประกบเข้ากับของเขา ดวงตาของ เยไม่เซ็นเปิดโคขึ้น
คอนแรกเสิ่นเฉียวตั้งใจจะปฏิเสธ แต่พอคิดถึงเรื่อง สัญญาที่ฝ่ายตัวเองดูจะเอาเปรียบเขาขึ้นมา ถ้าเธอไม่ ฟังคำสั่งของเขา เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะไม่คืนโทรศัพท์ ให้เธอจริงๆ
หลายๆเรื่องที่เข้ามาเธอสามารถทนได้ แต่ว่าเรื่อง ลูกเธอยอมไม่ได้จริงๆ
เธอกลัวมากจริงๆ และถ้าเย่โม่เซินรู้เข้า เขาอาจจะสั่ง ให้เธอไปทำแท้งก็ได้
เพราะอย่างนี้เสิ่นเฉียวเลยโน้มตัวลงไปจูบเขา
อย่างน้อยมันก็แค่แป็บเดียว เมื่อก่อนจูบกันมาตั้งหลายครั้ง แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก…
พูดได้ว่าจูบนี้มันช่างเบาเหมือนขนนก เสิ่นเฉียวแค่แตะ ปากเธอเข้าปากเขาแล้วก็ขยับออกทันที เธอแบมือไป ตรงหน้าเขา
“คราวนี้คืนโทรศัพท์ฉันมาได้หรือยังคะ?”
ที่แท้ก็เพื่อโทรศัพท์….
เยโม่เซินดวงตามืดลง สายตาเขาเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนปีศาจ “อย่างนี้เธอก็เรียกว่าจูบหรอ? เธอไม่ เคยจูบหรือยังไง? ครั้งก่อนๆเราจูบกันยังไงเธอจำไม่ได้ หรอ?”
ฟังเขาพูดถึงเรื่องที่จูบกัน เสิ่นเฉียวก็หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ
จูบของเย่โม่เซินเหมือนกับลมพายุที่สาดชัด ทุกครั้ง เขาไม่เคยปล่อยให้เธอหลบหนีได้ ถึงแม้ว่าเขาจะชอบพูดว่าเขากำลังเหยียดหยามเธอ แต่ว่าจบของเขา
มัน…
“ไม่ได้
เยโม่เซินโบกโทรศัพท์ไปมา ยิ้มกวน “ไม่อยากได้ โทรศัพท์แล้วหรอ?”
เสิ่นเฉียวกัดปาก กระพริบตาใส่เยโม่เซิน แต่สุดท้าย เธอก็ยอมขยับเข้าไปหาเขาอีกรอบ
เธอไม่สามารถเลียนแบบจูบเร่าร้อนแบบนั้นของเย่โม่ เซินได้ แต่เธอเลียนแบบลำดับแรกกับสองได้ อย่าง เช่นตอนนี้ที่เธอกำลังสอดลิ้นเข้าไปในปากเขาอย่าง งุ่มง่าม แต่เธอยังเป็นมือใหม่ พอเอาลิ้นเข้าไปได้ก็ไม่รู้ ว่าต้องทำยังไงต่อ เธอแค่จ้องมองตาเขา
ดวงตาของเขาเป็นประกาย เหมือนมันพูดได้อย่างนั้น
นัยน์ตาของเย่โม่เซินมืดลึกจนน่ากลัว เหมือนกับ ดวงตาของหมาป่าในตอนกลางคืน ลุ่มลึก เยือกเย็นราวกับว่าอีกแป๊บหนึ่งมันจะจับคุณกินจนไม่เหลือแม้แต่
ซาก
เสิ่นเฉียวตกใจจนแทบจะกระโดดหนี
แต่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ที่มีอของเย่โม่เซินรัดเอวเธอเอาไว้ ใช้โอกาสที่เธอกำลังจะหนีรัดเอวเธอให้แนบชิดกับตัว เองมากขึ้น มืออีกข้างก็จับท้ายทอยเธอไว้ เปลี่ยนจาก ผู้รับเป็นผู้รุก
“อื้อ”
เสิ่นเฉียวอยู่ใต้อาณัติของเขาทั้งตัว คนทั้งสองเบียด เสียดกัน
จูบของเย่โม่เซินไม่อ่อนโยนเลยสักนิด ตรงกันข้ามมัน เล่าร้อน ตะกละตะกลาม เขาจูบไปทั่วทุกซอกทุกมุม
ไม่เว้นจังหวะให้เธอหายใจเลยแม้แต่น้อย สมองของ เสิ่นเฉียวขาวโพลน เมื่อกี้ตอนเป็นฝ่ายจูบเขาเธอรู้สึก เขินและยังสงวนท่าที แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นพวกมันหายไปหมด ตอนนี้มีเพียงแค่เสียงลมหายใจของเขา
เส้นเฉียงคั้นไปมา อยู่ก็มีความคิดประหลาดผุดขึ้น มา เธอลองเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง
“กล้าแย่งอาหารจากปากเสือหรอ? คิดว่าฉันเป็นใคร กัน เยไม่เซ็นหยุดจูบเธอ ดวงตาของหมาป่ากำลังจ้อง เธอยู่
ตอนนี้เสิ่นเฉียวกำลังนั่งอยู่บนขาของเขา ปากสวยบวม เจอเพราะจูบเมื่อครู่ ดวงตาสุกใสกำลังมองเขา
“ก็คุณพูดเอง แค่ฉันจูบคุณ คุณจะคืนโทรศัพท์ให้
“แล้วฉันพูดยัง?
สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไปโดยทันที “คุณไม่รักษา
คำพูด
“มีใครได้ยินไหมล่ะ? เธอวางโทรศัพท์ขนาดนี้ แสดงว่า ต้องอยากติดต่อใครมากล่ะสิ?” เยโม่เซินกัมหน้า ปากเรียวบางกัดเข้าที่ลำคอขาวของเธอ “ให้ฉันเดา เคงจะเป็นสามีเก่าของเธอ ไม่ก็ เย่หลิ่นหาน?”
“ไม่มี!” เสิ่นเฉียวเม้มปากแน่น รีบตั้งสติในทันที “เบอร์ ของที่บ้านฉันอยู่ในนั้นทั้งหมด แล้วก็มีเงินที่ฉันเก็บเอา ไว้ คืนฉันมาเถอะนะ”
” ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเหตุผลพวกนี้
“เธอคิดว่าฉันจะเชื่อหรอ?”
“ฉันไม่เข้าใจ ตอนแรกก็ปกติดี ทำไมอยู่ๆคุณถึงมายึด
โทรศัพท์ฉัน?”
เมื่อก่อนเขาไม่เคยแตะโทรศัพท์เธอเลยแม้แต่ครั้ง เดียว วันนี้เกิดอะไรขึ้น? อยู่ๆก็มาบอกว่าจะยึดโทรศัพท์ เอาไว้ แถมยังไม่ยอมให้คืนอีก หรือเขาจะรู้เรื่องอะไรเข้า แล้ว?
สายตาของเย่โม่เซินกลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง เขาจับ มือของเสิ่นเฉียวแน่น แล้วผลักเธอลงไปยังเตียงด้าน
หลัง
“โทรศัพท์เธอมันเก่ามากแล้ว ใช้ต่อก็ขายหน้าฉัน เปล่าๆ”
พูดจบก็หมุนตัวไถรถเข็นออกไป
“งั้นก็คืนฉันมาสิคะ ฉันจะเอาไปเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่” เสิ่นเฉียวไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอรีบหย่อนขาลงจาก เตียง วิ่งตามเขาไป
เปโม่เซินที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็นหยุดในทันที เขาหรี่ตา
“อยากได้คืนขนาดนั้น?”
เสิ่นเฉียวยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้พูดอะไร
“รอฉันอารมณ์ดีฉันจะคืนให้”
ไอ้บ้าเอ้ย!
ไอ้บ้าเอ้ย!
ถ้าเป็นไปได้ เธออยากไปฆ่าเขาให้ตายตอนนี้เลย แต่ ว่าทำไม่ได้ ยิ่งเธอทำเหมือนหวงเธอโทรศัพท์มากเท่าไหร่ เยไม่เซ็นึ่งไม่ยอมคือโทรศัพท์ให้เธอแน่
เขาคงได้เจออะไรมา พอนึกถึงความเป็นไปได้นี้ ในใจ ของเส้นเฉียวก็เริ่มหวันเกรงมากขึ้น
เมื่อคืนทั้งคืน เสิ่นเฉียวหลับไม่เต็มอิ่ม เช้าวันถัดไป ได้ตาของเธอถึงมีรอยคลำโผล่ขึ้นมา เมื่อเจอกับเยโม่ เซ็นประโยคแรกที่พูดคือ “เมื่อไหร่คุณจะคืนโทรศัพท์ให้
จันคะ?
เปโม่เซ็นมองใต้ตาคล้ำๆของเธอ
โทรศัพท์มันสำคัญกับเธอขนาดนั้นเลยหรือไง?
เงินเฉียวพยักหน้า
ในโทรศัพท์มี อะไร บอกความจริงมา”
เสิ่นเฉียวส่ายหน้า ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ แต่ว่านั่นมันเป็น โทรศัพท์ของฉันนะ ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ฉันสามารถลบ เบอร์ติดต่อของคนอื่นได้ทั้งหมด ยกเว้นเบอร์ของเพื่อนกับที่บ้านฉัน ส่วนเบอร์อื่นฉันจะลบไม่ให้ เหลือ”
ภายใต้ความเหนื่อยใจ เสิ่นเฉียวทำได้แค่ยกมือขึ้นมา สาบานต่อหน้าเขา ดวงตาและสีหน้าของเธอเต็มไปด้วย ความจริงใจ
เยโม่เซินยกยิ้มมุมปาก “งั้นก็ได้ รอถึงบริษัทก่อน ฉันจะ คืนให้เธอ”
ปล่อยให้เซียวซู่พาเขาออกไปจากตรงนี้ ขณะที่เสิ่น เฉียวคิดจะตามไป ก็ได้ยินเขาพูดขึ้นมาว่า “อย่าลืมใส่ชุด เมื่อคืนมานะ”
ทำยังไงได้ โทรศัพท์ของเธออยู่ในมือของคนอื่น ทำได้ แค่ขอร้องอ้อนวอนเขาเท่านั้น
หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จเสิ่นเฉียวไม่ได้ตรงไปบริษัท โดยทันที เธอแวะที่ร้านมินิมาร์ทใกล้ๆแล้วยืมโทรศัพท์ ของร้านโทรหาหานเสโยว “เส่โยว นี่ฉันเองนะเสิ่นเฉียว”
“โอ้โห นี่มันเช้าตรู่นะ เธอกะจะให้ฉันตาลายตายใช่ ไหม? เช้าขนาดนี้โทรมาหาฉัน มีอะไรรึเปล่า?”
“เส่โยว เรื่องใหญ่แล้ว!” เสิ่นเฉียวรีบพูด “โทรศัพท์ของ
ฉันโดนเย่โม่เซินยึดไปแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เส้นเฉียวมองออกไปด้านนอกอย่างร้อนรน เธอกัดปาก “ฉันก็ไม่แน่ใจ ก่อนหน้านี้เขาก็ดีๆอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมเขาก็ มายึดโทรศัพท์ฉันไปหน้าตาเฉย ฉันกังวล ว่าเขาจะไปรู้ เรื่องอะไรมา”
หานเส่โยวกระเด้งตัวลุกจากหมอน “เธออย่าเพิ่งกังวล ตอนนี้เธออยู่ไหน? ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ