เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่ 27 ฉันก็เป็นแค่ผู้ช่วยของเขา



บทที่ 27 ฉันก็เป็นแค่ผู้ช่วยของเขา

ถ้าคำพูดเมื่อกี้เกิดทำให้เสิ่นเฉียวเข้าใจผิด นี่ก็คงเป็นคำ พูดที่เยโม่เซินพูดใส่เธออย่างไม่มีความรู้สึกเดิมหลงเหลือ ใบหน้าของเธอขาวซีด มือบีบแน่นเงียบ ๆ

“ฉัน…ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น”

“เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเธอส่งหน้าแป้นแล้นขนาดนั้นให้ใคร? เสิ่นเฉียว เธอเป็นแค่ผู้ช่วยของฉันเท่านั้น จำไว้”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปาก ไม่พูดอะไร

“ที่ช่วยเธอก็เพราะไม่อยากจะให้ตระกูลเย่เสียหน้า เท่านั้น เข้าใจ?”

เย่โม่เซินที่อบอุ่นก่อนหน้านี้กลายมาเป็นคนที่ไม่มีใคร กล้าเข้าหน้าติดไปแล้ว

ไม่แปลกใจเลย…ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปขนาดนั้น
ที่ซื้อห้างฯให้เธอนั่นก็เพียงเพราะเป็นห่วงหน้าตาของตระ

กูลเย่

เธออุตส่าห์มีความสุขเสียขนาดนั้น…

เยโม่เซินพูดเองกับปาก เสิ่นเฉียวไม่มีอะไรหลงเหลือ

แล้วนอกจากความอับอาย

เซียวซู่ที่เดินตามทั้งคู่มาได้ยินบทสนทนาโดยไม่ตั้งใจ เขาไม่คิดว่าเย่โม่เซินจะเป็นห่วงหน้าตาของตระกูลเย่ ขนาดนั้น กลับคิดว่ารังเกียจเสียด้วยซ้ำไป

ไม่อย่างนั้นเขาจะทำอะไรตามใจตัวเองแบบนั้นเหรอ

แต่คำพูดที่พูดใส่ผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้ก็ออกจะเกินไป หน่อย

เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเส้นเฉียวดรอปลงไปมาก จังหวะ การก้าวเดินก็ช้าลง เซียวซู่เดินเข้าไปหา “คุณหนูเสิ่นให้ผม เข็นไหมครับ?”

สติของเสิ่นเฉียวกลับมาเพื่อได้ยินคำถามนั้น “ไม่เป็นไร ค่ะ ฉันทำเอง”
เธอกำลังคิดอะไรยื่นสัญญาที่อยู่ในมือมาตลอดคืนให้เย่

โม่เซิน

เย่โม่เซินเลิกคิ้วแล้วยิ้มเย็นยะเยือก “คิดว่าเล่นอะไรอยู่?”

เสิ่นเฉียวไม่เข้าใจ “อะไรนะ?”

สบตากับสายตาเย้ยหยันของเขาเสิ่นเฉียวถึงเข้าใจ ว่าที่เขาพูดมันหมายความว่ายังไง เธอเม้มริมฝีปากแน่น พยายามทำใจให้สงบ กลั้นน้ำตาจากดวงตาที่พยายามจะ ไหลออกมาแล้วพูดเสียงเบา “ขอบคุณมากค่ะ ฉันรู้ว่าคุณ เพียงแค่แสร้งทำเท่านั้น ในเมื่อมันจบแล้วสัญญานี้ก็ควรจะ คืนให้คุณ”

เธอไม่คิดว่าเย่โม่เซินจะซื้อห้างฯนี้ให้เธอจริง ๆ

แม้ว่าจะซื้อให้จริง แต่เธอก็ไม่สามารถรับของชิ้นใหญ่ ขนาดนี้ได้

ยังไงเขาก็มองว่าเธอทำตัวไร้ประโยชน์อยู่แล้ว ถ้าหาก ยอมรับเอาตอนนี้เขาก็จะจำเธอไว้แบบนั้นไปตลอด
“คนอย่างฉัน ให้ไปแล้วไม่รับคืน

เสิ่นเฉียวไม่ชักมือกลับซ้ำยังยื่นเข้าไปใกล้มากขึ้น แล้ว ตอบกลับด้วยความดื้อรั้น “ฉันไม่ต้องการสิ่งของที่มันไม่ เหมาะกับฉัน”

เยโม่เซินอยากจะขำให้ตาย แล้วดวงตาก็เปลี่ยนเป็นนิ่ง เย็น “อึม”

“ฉันรู้ว่าในสายตานายฉันก็เป็นผู้หญิงที่ไร้จรรยาบรรณ คนหนึ่ง ในเมื่อฉันดูเป็นคนแบบนั้นนายก็ไม่ควรมอบสิ่งนี้ ให้ฉันถึงจะถูกไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นน่ะสิถูก ไหม?

“ผู้หญิง ความต้องการของเธอเล็กขนาดนั้นเลย?”

เสิ่นเฉียวสำลัก เธอกัดริมฝีปากแน่นแล้วตอบเสียงขุ่น “ไม่ใช่แน่นอน!”

ยิ่งเธอตอบกลับเยโม่เซินแบบนั้นยิ่งเหมือนจริงขึ้นไปอีก ว่าเธอต้องการมันจริง ๆ แล้วแสดงออกว่าไม่ต้องการ ไม่

สนใจ
“คุณหนูเสิน ของที่คุณชายเย่ให้ไปแล้วไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะเรียกคืนจริง ๆ คุณควรจะเก็บไว้นะครับ”

เซียวซู่ก้าวไปข้างหน้าและพูดออกมาแบบนั้นเพราะเห็น ว่าทั้งคู่ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร

เสิ่นเฉียวโกรธมาก เธอต้องการยึดมั่นกับสิ่งที่พูดออกไป แล้วเพราะไม่อยากให้ใครมาดูถูก

“เธอคิดว่าฉันจะให้เฉย ๆ เหรอ? ชุดราคาสิบล้านนี้คิดว่า ไม่ต้องจ่ายคืนเหรอ?”

เสิ่นเฉียวอ้าปากค้างเมื่อได้ยินแบบนั้น หมายความว่ายัง

ไง?

เสิ่นเฉียวอยากจะถามให้ชัดเจน แต่พวกเขามาถึงที่รถ พอดีเลยไม่มีโอกาสได้ถาม ต้องขึ้นรถเสียก่อน

หลังจากขึ้นรถเธอก็เอาแต่พึมพำอยู่ข้าง ๆ เยโม่เซินที่

หลับตาอยู่

“คุณหนูเสิ่น ยังไม่ถึงที่หมาย อย่ารบกวนคุณชายเยจะดี กว่านะครับ” เซียวซู่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับพูดเตือน
“.” แปลกเกินไปแล้ว!

เสิ่นเฉียวทำตัวไม่ถูก รู้สึกว่าสัญญาในมือนี้มันเกินกำลัง ดูแลของเธอเกินไป เธอมองไปที่เย่โม่เซินที่หลับอยู่ เห็น ถุงใต้ตาเรียวเล็กของเขาหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด

เขาไม่ได้พักผ่อนบ้างเลยเหรอ?

เสิ่นเฉียววางสัญญาพิงไว้ข้างตัวแล้วปิดปากเงียบ

นั่งรถไปได้สักพักเธอก็พิงเบาะนั่งเพราะเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมา

แต่ในขณะที่กำลังจะหลับ รถกลับหยุดกะทันหัน

เสิ่นเฉียวลืมตา

“คุณหนูเสิ่นเชิญครับ”

เซียวซูลงจากรถมาเปิดประตูให้เสิ่นเฉียว
เสิ่นเฉียวมองเขาแล้วหันกลับไปมองโม่เซิน

“คุณหนูเสินรีบลงรถเถอะครับ คุณชายเย่มีเวลาอีกไม่มาก เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงงานจะเริ่มแล้ว”

เสิ่นเฉียวพยักหน้าเข้าใจแล้วลงจากรถ

เซียวซู่พาเธอไปที่ร้านร้านหนึ่ง

“ตายแล้ว แขกพิเศษ ” พนักงานผู้หญิงรูปร่างสูง แต่งตัว ทันสมัย และใบหน้ามีสไตล์เป็นเอกลักษณ์คนหนึ่งเดินมา ตรงหน้า เธอมองเลยเซียวซูไป “โม่เซินล่ะ?”

“คุณชายเย่กำลังพักผ่อนอยู่ครับพี่จิง นี่คืองานของคุณวัน

นี้ครับ”

เซียวซูดันเสิ่นเฉียวไปตรงหน้าพี่จิง

เสิ่นเฉียวตกใจเล็กน้อย “นี่คือ?”

พี่จิงเพ่งตามองไปที่เสิ่นเฉียวอยู่พักหนึ่ง “ผู้หญิงของโม่เซิน? ตั้งแต่เมื่อไหร่…”

“เธอเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้น อีกครึ่งชั่วโมงเราต้องไปถึงงาน เลี้ยงแล้วพี่จึงช่วยเร่งมือหน่อยนะครับ”

“โอเค ตามมาค่ะ”

เสิ่นเฉียวไม่อยากถ่วงเวลา เดินตามพี่จึงเข้าไปข้าง ใน เซียวซูยกมือขึ้นมองเวลาได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ ความเร็วของพี่จิง

เสิ่นเฉียวเดินตามพี่จิง ไปจนถึงประตูบานหนึ่งที่ถูกเปิด และปิดลง เธอพบว่าด้านในกับด้านนอกแตกต่างกันมาก เหมือนโลกคนละใบ

ที่นี่เป็นห้องเปลี่ยนชุดที่ใหญ่มาก ๆๆ ดูแพรวพราวไปทั่ว ทุกที่

“มัดผมขึ้น ถอดเสื้อผ้ากับรองเท้าด้วยค่ะ”

เส้นเฉียวตาเบิกโตเมื่อได้ยินแบบนั้น “แต่ชุดนี้เพิ่งจะ เปลี่ยนไปนะคะ”
พี่จิงมองไปที่เธอสักพักแล้วยิ้มขึ้นมา “ชุดนี้เหมาะกับคุณ ก็จริง แต่ไม่เหมาะกับสถานะของคุณในวันนี้ ชุดของผู้ช่วย ต้องเป็นชุดที่ใส่แล้วดูมีความสามารถและชำนาญงาน”

เสิ่นเฉียวเพิ่งนึกขึ้นได้

“เข้าใจแล้วค่ะ”

แล้วเดินไปซ่อนตัวเพื่อถอดชุดออกพี่จิงที่วุ่นวายอยู่กับ การเตรียมของมองไปที่เสิ่นเฉียวซ่อนตัวถอดชุดอยู่มุม หนึ่ง เธอสัมผัสได้ถึงดวงตาคู่หนึ่ง ใบหน้าของขาวผ่อง ของเธอก็กลายเป็นแดงเพิ่มเป็นเท่าตัว

หม?

เยโม่เซินไปเจอผู้หญิงที่น่าสนใจแบบนี้มาจากไหน? แค่เปลี่ยนชุดหน้าก็แดงไปหมด ไร้เดียงสาเกินไปไหม?

พี่จิงจัดของเรียบร้อยก็ส่งชุดสูทสีขาวให้เธอ
“สวมนี่ซะ”

“ค่ะ” เสิ่นเฉียวเอื้อมมือไปหยิบอย่างรวดเร็วแล้วหันกลับ ไปเปลี่ยนชุดอย่างว่าง่าย

พี่จิงที่จ้องมองเธออยู่ จู่ๆ ก็ถามคำถามหนึ่งขึ้นมา “เป็น แฟนกับโม่เซินเหรอ?”

เสิ่นเฉียวได้ยินแบบนั้นก็หยุดการกระทำทุกอย่าง เธอกัด ริมฝีปากแล้วสายหัวปฏิเสธ

“ไม่ใช่? ถ้าอย่างนั้นเขาตามซื้อเธอเหรอ?”

เสิ่นเฉียวขมวดคิ้ว อยากจะอธิบายความสัมพันธ์ของพวก

เธอ

“เอาล่ะ โม่เซินพาผู้หญิงมาหาฉันครั้งแรกแบบนี้เธอไม่ ต้องพูดอะไรฉันก็เข้าใจได้”

“พี่จิง คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยของเขา

เท่านั้น”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ