เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

ตอนที่ 65 ถูกต้องตามกฎหมาย



ตอนที่ 65 ถูกต้องตามกฎหมาย

บทที่ 65 ถูกต้องตามกฎหมาย

มื้ออาหารมื้อนี้แต่ละคนทานกันอย่างประหลาด ใจ สุดท้ายตอนที่หานเส่วกำลังจะกลับ เสิ่น เฉียวก็ไปส่งเธอ แต่เธอก็สังเกตเห็นว่าอารมณ์ ของเธอเหมือนจะไม่ค่อยโอเค จึงถามไป

ว่า : “เป็นอะไรรึเปล่า ?”

ได้ยินแบบนั้น หานเส่โยวกัมหน้าก้มตาคิดอะไร บางอย่างอยู่ จึงไม่ได้ยินเสียงที่เธอเรียก

เสิ่นเฉียวหยุดเดิน”เส่โยว ?”

หานเสี่ยวถึงได้หันหน้ามา แล้วมองหน้า สายตาที่เป็นห่วงเป็นใยของเสิ่นเฉียวก่อนจะ หัวเราะแก้เขินออกมา : “ขอโทษนะเฉียวเฉียว เมื่อกี้ฉันมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย เลยไม่ได้ยินที่ เธอเรียก เธอคุยอะไรกับฉันรึเปล่า ?”
“เธอเป็นอะไร ? “เสิ่นเฉียวถามด้วยความเป็น

ห่วง

หานเสี่ยวมองไปทางเธอแล้วยิ้มให้ : “ฉัน ไม่ได้เป็นอะไรนะ อ้อจริงสิ เธอสนิทกับเย่โม่เซิ นมั้ย ?”

เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าคำถามนี้มันค่อนข้างแปลก เธอ ขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วมองไปที่เส่โยวก่อนที่จะรีบ อธิบายว่า : “ฉันแค่ถามเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรจริงๆ”

เสิ่นเฉียวไม่พูดไม่จา แล้วมองไปทางเธอ

เงียบๆ

สายตาที่เรียบเฉยนั้นทำให้หานเส่โยวตื่น

ตระหนก : “เอ่อ….เฉียวเฉียว ฉันไม่ได้คิดอะไร จริงๆนะ ก็แค่เป็นห่วงเธอเท่านั้นเอง ถ้าไม่เป็น อะไร ฉันกลับก่อนนะ”
“โอเค ขับรถดีๆล่ะ”

หลังจากเดินไปส่งหานเส่โยวแล้ว เสิ่นเฉียว เดินกลับห้องไปด้วยความรู้สึกที่วุ่นวายใจ ตอน ที่มือจับไปที่ลูกบิดประตูก็คิดถึงท่าทางของหาน เส่โยวเมื่อครู่ เธอถอนหายใจอยู่ข้างใน ดูเหมือน เส่โยวจะ…เป็นห่วงเธอจากใจจริงๆ

การมีเพื่อนแบบนี้ นับว่าเป็นโชคดีของในชีวิต เธอเลยจริงๆ

คิดถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย จาก นั้นก็เปิดประตูเข้าไป

หลังจากเข้าห้องมา เสิ่นเฉียวบังเอิญสบตาเข้า กับดวงตาที่เย็นชาและนิ่งลึกของเย่โม่เซิน ด้วย เหตุนี้เสิ่นเฉียวที่กำลังจะปิดประตูก็หยุดการก ระทำลง ก่อนจะปิดประตูใหม่อีกครั้ง เพราะ ปฏิกิริยาจากบนโต๊ะอาหารยังคงอยู่
เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเย่โม่ เซินมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เห็นว่าในห้อง มีเขาเพียงคนเดียว เธอก็กัดริมฝีปากแล้วเดิน เข้าไปหาเขา หยุดที่ข้างหลังเขาแล้วเข็นวีลแชร์ ให้

“เซียว เซียวซู ? ”

เยโม่เซินนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างไม่สนใจอะไร แล้ว พูดด้วยน้ำเสียงที่แหลมคม

“เสิ่นเฉียว เธอคิดอยากได้อะไรกันแน่ ?”

ได้ยินดังนั้น การกระทำของเสิ่นเฉียวก็หยุดนิ่ง ไป แล้วมองไปที่ท้ายทอยของเย่โม่เซินอย่างไม่

เข้าใจถึงเหตุและผล

หมายความว่าอะไรกัน ?

“พาเพื่อนของตัวเองมาที่บ้านตระกูลเยโดยพลการแบบนั้น”

เสิ่นเฉียวถึงได้เข้าใจความหมายของเขา ริม ฝีปากของเธออ้าออก และอธิบายให้เขาฟัง ว่า : “ฉันแค่พาเธอมาเป็นแขกเท่านั้นค่ะ ถ้าคุณ ไม่ชอบ ครั้งหน้า…

“ครั้งหน้า ? “ทันใดนั้นเย่โม่เซินก็ส่งเสียง หัวเราะเยาะออกมา : “เธอเห็นว่าใครอยากจะมา ที่บ้านตระกูลเย่ก็มาได้งั้นเหรอ ?”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปาก : “ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆค่ะ แต่เป็นเพราะวันนี้…”

คำพูดพูดไปไม่ทันขาดคำ เย่โม่เซินที่นั่งนิ่ง อยู่ตรงนั้นไม่ขยับมาตลอดอยู่ๆกลับยกมือขึ้นมา แล้วจับไปที่ข้อมืออันเล็กบางนั้นของเธอ เสิ่น เฉียวทำตาโต และถูกเยโม่เซินดึงเข้าไปหาโดย ไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะลงไปนั่งบนตักของเขา
รูปร่างของเย่โม่เซินสูงยาว แต่เสิ่นเฉียวนั้น ผอมบาง หลังจากนั่งลงบนตักของเขา ก็รู้สึกว่า มือใหญ่ๆของเขาโอบมารอบเธอเย่โม่เซิน กอด เธอเอาไว้แน่นในอ้อมแขนนั้น

นัยน์ตาของเสิ่นเฉียวสั่นเทา

คางถูกจับไว้ ลมหายใจของเขาเข้ามาใกล้ อย่างทันทีทันใด แล้วล้อมรอบไปทั่วทั้งตัวของ เธอ

เสิ่นเฉียวจ้องมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของ เยโม่เซินที่อยู่ตรงหน้าค่อยๆใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่เขาไม่รอให้เธอได้ตั้งตัว ริมฝีปากของเย่โม่ เซินก็ประกบลงมาบนปากของเธอ

เสิ่นเฉียวรู้สึกว่าหัวของเธอขาวโพลน ร่างกาย

สั่นเทาอย่างเล็กน้อยขึ้นมา

นี่เขา….จูบเธออีกแล้ว
นี่นับว่า เป็นจูบเหรอ?

ริมฝีปากของเขาเย็นเฉียบ และค่อนข้างแห้ง ประกบกับริมฝีปากอันบางของเธอ ดวงตาของ เสิ่นเฉียวโตขึ้นมาในทันที

เสิ่นเฉียวประหม่าจนจับไปที่คอเสื้อของเย่โม่เซิ นอย่างทำตัวไม่ถูก หัวของเธอถูกทำให้เงยขึ้น

เสิ่นเฉียวค่อยๆหลับตาไปอย่างไม่รู้ตัว

ความทรงจำของเสิ่นเฉียวหวนกลับไปเมื่อ ประมาณหนึ่งเดือนกว่าๆก่อนหน้านี้ในคืนฝนพรำ

ชายคนนั้นที่มองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน

ทำไม ? ทำไมลมหายใจถึงเหมือนกัน หรือว่า พวกเขาเป็นคนคนเดียวกัน ?

ไม่จริง พวกเขาไม่ใช่คนคนเดียวกัน…..
แต่ทำไมตอนที่เย่โม่เซินจูบเธอ เธอกลับคิดถึง ชายคนนั้น หรือว่าเป็นเพราะหลินเจียงไม่ เคยจูบเธอมาก่อน ?

ในขณะที่กำลังตกอยู่ในอารมณ์ที่สับสนนั้น–

เสิ่นเฉียวได้ยินเสียงของเย่โม่เซินที่ใช้น้ำเสียง เสียดสีถามเธอขึ้นมา

“รู้สึกว่าแรงของเธอคนเดียวไม่พอจะดึงดูดฉัน ใช่มั้ย เรียกเพื่อนเธอมาด้วยมั้ยล่ะ?”

ได้ยินแบบนั้น เสิ่นเฉียวก็มีนไปตามๆกัน เขา

กำลังพูดเรื่องอะไร ?

น้ำเสียงของเย่โม่เซินต่ำจนแทบไม่ได้ยิน เหมือนกับไวน์ที่ถูกบ่มมานานหลายปีไหลผ่าน ลำคอ เหมือนคนเมาเหล้าเพรียว
หลังจากผ่านไปสักพัก เสิ่นเฉียวถึงรับรู้ได้ว่า คำพูดที่เขาพูดออกมานั้นหมายความว่ายังไง สีหน้าที่ถูกทำให้ต้องอับอายปรากฏขึ้นในดวงตา เสิ่นเฉียวยกมือขึ้นมาจะผลักเขาออก แต่กลับถูก เยโม่เซินรัดไว้แน่นกว่าเดิม

“เป็นอะไร ? ไม่ลองดูด้วยตัวเองดูแล้ว จะให้ เพื่อนเธอมา ได้ถามความเห็นฉันรึยัง ? ”

“อือ..ปล่อยนะ ! “เสิ่นเฉียวโมโหจนเอามือมา ขวางเขาไว้ เพราะด้วยความโมโห ดังนั้นดวงตา ที่สวยงามของเธอ จึงมีความแววใสเหมือนคน เมา ริมฝีปากที่บวมแดงแต่พูดออกมาอย่างดื้อ รั้น : “คุณอย่ามองคนอื่นในแง่ร้ายเกินไป เส่โย วก็แค่มาเป็นแขกก็เท่านั้น ไม่ใช่มาทำอะไรแบบ ที่คุณคิด !”

“ชั้นเหรอ? “เย่โม่เซินหัวเราะออกมาเสียงต่ำ สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เธอ
“เธอมั่นใจว่าเธอมาเป็นแค่เท่านั้นสินะ ไม่ใช่ว่า มาคิดวางแผนชั่วร้ายอะไรกับผมหรอกเหรอ ?

เสิ่นเฉียวเบิกตาโต และหันไปมองเขาที่มีรอย ยิ้มอันโหดร้าย ที่อยู่ใกล้เพียงแค่คืบ

“จะเป็นไปได้ยังไง ? สาวไม่มีทางทำอย่าง

นั้นกับคุณแน่ !”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากบางๆนั้นแล้วแก้ต่าง

“เหอะ เธอแน่ใจว่าหล่อนไม่มีแผนชั่วร้ายกับ ฉัน ? หรือ เธอคิดว่าสามีสามารถยอมหลีกทาง ให้คนอื่นได้ ?”

เสิ่นเฉียว : “.

เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ?
อะไรคือสามีสามารถหลีกทางให้คนอื่น

ก็ถูก เธอกับเขาเป็นสามีภรรยากันจริงๆ แต่… การแต่งงานแบบนี้ที่ไม่ถูกการยอมรับมันใช่เห รอ ? คำพูดของเขาตอนนี้ กำลังคิดอะไรอยู่กัน แน่ ? เสิ่นเฉียวสังเกตว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น กว่าเดิม และก็รู้สึกว่าดวงตาของเย่โม่เซินกลับ ดำลึกยิ่งกว่าเดิม ดำจนทำให้เธอไม่อาจรู้ได้เลย ว่าอารมณ์ตอนนี้ของเขาเป็นอย่างไร เธอกัดริม ฝีปากแน่น

“ฉันไม่มีความคิดอะไรแบบนั้น แต่..ฉันรับ ประกันได้ว่า เส่โยวไม่มีความคิดแบบนั้นกับคุณ วันนี้เธอแค่มาเป็นแขกของที่นี่ด้วยความบริสุทธิ์ ใจก็เท่านั้น ฉันรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบนัก แต่….”

“หึม ทำไมฉันจะไม่ชอบล่ะ? “เย่โม่เซินจับคาง ของเธอ ลมหายใจเบาบาง : “ภรรยาของฉัน ใจกว้างถึงขนาดพาเพื่อนมาส่งถึงที่ ฉันควรจะ ขอบคุณเธอสิ จริงมั้ย ?”
เสิ่นเฉียวทำตาโตด้วยความ งุนงง : “หมายความว่ายังไงคะ ? ”

“ถ้ามาอีก ฉันจะต้อนรับหล่อนเป็นอย่างดี”

เสิ่นเฉียว : “…เย่โม่เซิน ?”

“แบบนี้ ก็สมกับที่เธอคาดไว้แล้วใช่มั้ย ? ”

ใบหน้าเล็กๆของเสิ่นเฉียวค่อยๆซีดขาว แล้ว มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่ติแต่กลับมี รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความน่ากลัวของเขาอย่าง ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

ทันใดนั้นก็รู้สึกได้เลยว่า ความคิดของเย่โม่ เซินนั้นน่ากลัวกว่าของเธอเป็นอย่างมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ