เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่ 53 ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม



บทที่ 53 ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม

บทที่ 53 ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม

เชียวซูฟังคำสั่งแล้วก็ออกไปก่อนออกไปก็ยังปิด ประตูไว้ให้เย่โม่เซิน ห้องกลับมาเงียบอีกครั้งเย่โม่ 2.จาข้าขนหนูที่ใช้แล้ววางไว้บนโต๊ะพร้อมเม้ม

ปาก

“ร้องไห้แล้วจะแก้ปัญหาอะไรได้”

เสิ่นเฉียวน้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย เขาเช็ดน้ำตา ให้เธอแล้วชักแล้วกลับ พร้อมยิ้มเย้ยหยันแล้วพูด ว่า “ไม่ยินยอมก็ขัดขึ้นสิ บนโลกนี้น้ำตาเป็นสิ่งที่ไร้ ประโยชน์ที่สุด”

ถึงแม้เสิ่นเฉียวจะดื่มจนเมาแต่เธอก็ยังคงได้ยิน เสียงคนกระซิบอยู่ข้างๆ หู แต่ฟังไม่ชัดว่าเขาพูด อะไรแค่รู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด หนังตาก็หนักไป หมด แต่กลับเห็นร่างสูงยาวอยู่ในห้อง

สถานที่คุ้นๆ จัง
แต่ว่าใครล่ะ

หนังตาหนักไปหมด เสิ่นเฉียวหลับตาลง ไม่น่านนัก ก็หลับไปอีก

หลังจากสร่างเมาก็รู้สึกปวดหัวมาก วันที่สองเสิ่น เจียรลื่นขึ้นมาก็ยังคงปวดหัวอยู่เหมือนเดิม ปวดจน ต้องกุมขมับแล้วนั่งลงไป เมื่อเธอมองเห็นแสงสว่าง จากในห้องเธอจึงค่อยๆ ใจเย็นลง

นั่งเหม่ออยู่ประมาณสิบนาทีเสิ่นเฉียวก็เดินกลับที่ เดียงของ

เขานอนอยู่ที่นั่นตามเคย เห็นได้ชัดว่ายังไม่ตื่น

เสิ่นเฉียวอยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่กลับพบว่า โทรศัพท์ไม่ได้อยู่ที่ใต้หมอนแล้ว ทำได้แค่เพียงปืน ลงจากเตียงแล้วเดินไปห้องน้ำ เมื่อเธอเดินผ่านโต๊ะ ไปพบว่าของบนโต๊ะเป็นของของเธอทั้งนั้น
เส้นเฉียวมองดูเวลา และพบว่าตอนนี้ยังเป็นเวลา

เช้ามาก

เธอไปห้องน้ำล้างหน้า แล้วรู้สึกว่าไม่ได้ปวดหัว

มากแล้ว

ภาพเธอในกระจกที่เห็นตอนนี้คือตอบตาดำโหล หน้าขาวซีด ผมยุ่งกระเซิง ตาบวม ทำไมขี้เหร่ขนาด นี้เนี่ยเสิ่นเฉียวยื่นมือมาจับหน้าตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้

อีกนิดหนึ่งคิดว่าเห็นผีซะแล้วเสิ่นเฉียวหยิกหน้าตัว เองแรงๆ หยิกจนพอดูมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้าง จากนั้น จึงใช้ผ้าขนอุ่นและน้ำอุ่นประคบตา จากนั้นตาของ เธอก็ไม่ได้บวมมากแล้ว

ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อยเสิ่นเฉียวถอนหายใจ แล้วออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง

เดินผ่านเตียงของเย่โม่เซิน เสิ่นเฉียวอดไม่ได้ที่จะ หันไปมองเขา ภาพในหัวปรากฏขึ้นเป็นเงาสูงเดินไป

เดินมา
คิดไปคิดมาเสิ่นเฉียวจึงเดินกลับมายืนตรงที่เดิม

เมื่อวานเธอก็เมามากหรือจะเป็นหลอนคิดไปเอง แต่ทำไมมันถึงชัดเจนจังล่ะ เงานั้นเหมือนเขามาก เลย แต่ว่า…

“สิ่งเฉียวมองไปยังรถเข็นที่อยู่ข้างๆ

ที่ผ่านมาเขาก็นั่งบนรถเข็นนี้ตลอด แถมเธอยังเคย ช่วยเขาอีก ชัดเจนเลยว่าเขาไม่มีเรี่ยวแรงเลย

หรือฉันอาจจะเบลอไปเองดูคนผิดเหรอ หรือว่าฉัน

ฝันไป

เสิ่นเฉียวจับกุมขมับแล้วไปยังเตียง เพื่อที่จะนอน ต่ออีกสักหน่อย

เมื่อเธอทิ้งตัวนอนลงไป ภาพในสมองของเธอก็ผุด ขึ้นมา เป็นภาพที่เย่โม่เซิน กอดเธอไว้ในอ้อมอก ภาพที่เธอคล้องคอเขาและภาพที่เขาโอบ เอวของอีกทั้งยังจูบในลิฟต์อีก

ภาพทั้งหมดหยุดเพียงเท่านี้ ถึงแม้จะเลือนรางแต่ พอมารวมกันก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอราวกับโดนไฟฟ้าช็อต ได้แต่นอนอยู่อย่างนั้น

ไม่กลาขยม

เมื่อคืนเธอดื่มมากไปจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำ เรื่องแบบนั้นหรือว่าเมื่อก่อนฉันก็เป็นแบบนี้ ไม่ ฉัน ไม่ได้เป็นคนแบบนี้นี่ปกติหลังจากกลับบ้านฉันจะทำ กับข้าว อาบน้ำแล้วก็เข้านอน

แต่ว่าเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้น

หรือว่าเสียใจจนเกินไปหรือว่าคิดว่าไว้ใจได้ก็เลย ทำแบบนั้น

เสิ่นเฉียวคิดฟุ้งซ่านไปหมด เธอปิดตาลงภายในสมองดีกันไปหมด

คิดฟุ้งซ่านจนเธอหลับไป เมื่อเธอตื่นขึ้นอีกครั้งด้วย เสียงกริ่งของห้อง เธอเปิดตาขึ้นเสิ่นเฉียวลุกขึ้นนั่ง พบว่าเปโม่เซิน ตื่นแล้วกำลังอาบน้ำอยู่

เสิ่นเฉียวพลิกตัว จากนั้นจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงหน้า

ผาก

คิดว่าไม่มีหน้าจะไปเจอใคร เมื่อคืนทำเรื่องน่าขาย หน้าขนาดนั้น

น่าอึดอัดซะมัด

เธอจะต้องรอจนเขาออกไปแล้วเธอค่อยตื่น ทางที่ คือย่าเผชิญหน้ากันเลยดีกว่า เมื่อตัดสินใจดังนี้เธอ จึงตอนหายใจออกมา

เมื่อเสียงประตูห้องน้ำดังขึ้น เสียงล้อรถเข็นก็ตาม

มาเส้่นเฉียวแอบมองจากในผ้าห่ม กลับพบว่าเขานั่ง อยู่บนรถเข็น

ก็บอกแล้วไง ว่าเขายืนได้ยังไง ต้องเป็นเพราะเขา เมาแฟๆ ไม่งั้นก็ดูคนผิด

เดี่ยวนะ ทำไมรถเข็นมาทางนี้ล่ะเสิ่นเฉียวปล่อย

ผ้าหNWN

“ตื่นแล้วก็ลุกสี”

เปโม่เซ็นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกเสิ่นเฉียว ที่นอนอยู่ตรงนั้นแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เสแสรัง หลับตาลงแล้วบอกตัวเองว่าเธอหลับแล้ว

“รู้จักอายด้วยเหรอ”

เสิ่นเฉียวสั่นเทาไปทั่วร่าง เขารู้ว่าเธอตื่นแล้ว

“เมื่อคืนยังเก่งอยู่เลย” เย่โม่เซินถามต่อเสิ่นเฉียวแอบมองจากในผ้าห่ม กลับพบว่าเขานั่ง อยู่บนรถเข็น

ก็บอกแล้วไง ว่าเขายืนได้ยังไง ต้องเป็นเพราะเขา เมาแน่ๆ ไม่งั้นก็ดูคนผิด

เดี๋ยวนะ ทำไมรถเข็นมาทางนี้ล่ะเสิ่นเฉียวปล่อย

ผ้าห่มลง

“ตื่นแล้วก็ลุกสิ”

เยโม่เซินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกเสิ่นเฉียว ที่นอนอยู่ตรงนั้นแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เสแสรัง หลับตาลงแล้วบอกตัวเองว่าเธอหลับแล้ว

“รู้จักอายด้วยเหรอ”

เส้นเฉียวสั่นเทาไปทั่วร่าง เขารู้ว่าเธอตื่นแล้ว

“เมื่อคืนยังเก่งอยู่เลย” เย่โม่เซินถามต่อ
เสิ่นเฉียวกัดปากตัวเอง ทั้งที่รู้ดีแก่ใจ แต่แกล้งทำ เป็นไม่รู้ก็พอแล้ว

ผ่านไปสักพัก ข้างนอกไม่มีเสียงอะไรแล้วเสิ่นเฉียว รู้สึกแปลกใจ จึงค่อยๆ โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม รถ เข็นก็ไม่อยู่แล้วเย่โม่เซินคงจะไปแล้ว

เส้นเฉย aแอนหายใจ

ในที่สุดเธอก็โผล่ออกมาจากผ้าห่ม

เกือบจะโล่งใจแล้ว

เมื่อออกมาจากผ้าห่มเสิ่นเฉียวก็ต้องรู้สึกช็อก เพราะคนที่เธอคิดว่าเขาออกไปแล้วนั้น เขายังอยู่ที่นี่ แค่เปลี่ยนที่เฉยๆ

ทั้งสองคนมองตากันด้วยบรรยากาศที่น่าขายหน้า

สิ้นดี

เงียบสนิท
ผ่านไปไม่นานเสิ่นเฉียวกัดปากตัวเอง แล้วลุกขึ้น เดินเข้าห้องน้ำไป

“เป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนเลยไม่มีหน้าจะไปเจอใครเห

รอ”

ด้วยคำพูดของเย่โม่เซินทำให้เธอหยุดชะงักเสิ่น เฉียวหนกลบไป จากที่คิดว่าจะหนี แต่ตอนนี้เธอ เปลี่ยนใจแล้ว เธอยืนต้องนั้นแล้วกำหมัดแน่น

ไม่ใช่”

เสิ่นเฉียวกัดปาก แล้วจ้องเขม็งไปยังใบหน้าอันเย่อ หยิ่งของเย่โม่เซิน ริมฝีปากแดงสั่นเล็กน้อย

“เมื่อคืนขอบคุณที่พาฉันกลับ”

พูดเสร็จเย่โม่เซินเลิกคิ้วแล้วหรี่ตามองเธอ

“ดูเหมือนจะจำได้นะ”
“ก็จำได้นิดหน่อย ไม่หมดหรอก” เสิ่นเฉียวพูดเสียง เบาพร้อมเอานิ้วเกี่ยวผมตัวเองแล้วกัดปากเบาๆ เธอ ดูลังเล แล้วจึงเปิดปากถามอะไรบางอย่าง “เมื่อคืน ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปใช่ไหม”

เธอจำไม่ค่อยได้และไม่ชัดเจนนัก ที่จำได้ก็มีแค่นั้น แต่ว่า อย่างอื่นก็ไม่รู้แล้วสิ เช่น จูบกันเสร็จแล้วหลัง จากนั้นละ เกิดอะไรขึ้นอีก

ไม่ได้พูดเพ้อเจ้ออะไรกับเย่โม่เซินหรอกมั้ง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเย่โม่เซินมองไปยังใบหน้า ของเธอ ใบหน้าของเธอร้อนจนเกือบจะเผาไหม้เป็น รู เมื่อเธอหันมาก็พบว่าเขากำลังมองอยู่พอดี

“เรื่องเกินเลย” เย่โม่เซินยิ้มเยือกเย็น “เธอคิดว่าไง ล่ะ”

พูดจบเสิ่นเฉียวจับชายเสื้อตัวเองไว้แน่นกดดันจน ขนตาของเธอสั่น “ฉันคงไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม”
วัน วันไม่แน่ใจจริงๆ

ปาไม หรือเธอหวังว่าเธอจะทำอะไรฉันเหรอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ