เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่ 45 เผ่ไปเห็นมาแล้ว



บทที่ 45 เผ่ไปเห็นมาแล้ว

“คุณ เส้่นเดียวหน้าซีดไปเล็กน้อย มองไปที่เขา อย่างไม่สบอารมณ์

สู่สุนฉางยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม : “ฉันพูดอะไรผิด ? ไม่ได้ ก็กกัน ? แม้ว่าเยโม่เซินจะพิการ พวกคุณก็ไม่อาจก็ก กันได้

ได้ยินคนพูดถึงเย่โม่เซินว่าเป็นคนพิการ เสิ่น เฉียวก็หัวลุกเป็นไฟ เธอกำช้อนกาแฟในมือ แน่น : “ประธานลู่ นี่ไม่ได้เป็นการพูดจาดูถูกเหยียด หยามกันอยู่ใช่มั้ยคะ ?”

“ว่าไงนะ? “สู่สุนฉางแบมือออกอย่างไร้ค่า แล้ว เอนตัวลงไปข้างหลัง หัวเราะออกมา : “นี่เป็นเรื่อง ที่ใครๆเขาก็รู้กันไม่ใช่เหรอ ? เยโม่เซินถ้าไม่ใช่ว่า นกเขาไม่ขัน นายท่านของตระกูลเขาจะเร่งรีบหาผู้ หญิงให้เขาทำไมกันละ ? หามาก็ไม่มีประโยชน์ เขา ทำไม่ได้อยู่แล้ว คนพิการคนหนึ่งจะแต่งเมียไปทำไม ? นี่เหมือนเป็นการทำลายชีวิต คนอื่นเลยไม่ใช่เหรอ ? แต่เธอเป็นตัวแทนป่าว ประกาศได้นะ ถ้าเขานักเขาไม่ขันจริงๆ ฉันไม่ถือนะ ถ้าจะให้ทำแทนเขานะ…”

พูดไม่ทันขาดค่า กาแฟที่ร้อนมากๆก็สาดเข้าใส่ หน้าของสู่สุนฉางโดยไม่มีแม้แต่การเตือนส่วงหน้า

เสิ่นเฉียววางแก้วกาแฟในมืออย่างแรง กัดฟันแล้ว จ้องไปที่เขา : “คนอย่างคุณที่เลือกเด็ดดอกไม้ไม่ ซ้ำหน้าในแต่ละวัน สำส่อนจนไม่รู้ว่าอารมณ์นั้นคือ สิ่งใด แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินคนอื่น ? แถมยัง ดูถูกเหยียดหยามเขาอีก คุณมันก็แค่คนต่ำช้า ! ”

คนในร้านกาแฟตกตะลึงเมื่อเห็นภาพดังกล่าว ตกใจจนต้องหันมามองทางนี้

กาแฟแก้วนั้นร้อนมาก หลังจากที่สาดไปบนหน้า ของสู่สุนฉาง เขาอึ้งไปสักพักก่อนจะตอบกลับไป

ว่า: “เธอกล้าสาดใส่ฉัน ?”
จากนั้นก็ลุกขึ้นง้างมือจะตบไปที่เสิ่นเฉียว

เสิ่นเฉียวยืนอยู่กับที่ จ้องหน้าเขาอย่างไม่หวั่นเกรง

น่าเสียดายที่มือของเขายังไม่ทันได้ไปสัมผัส ใบหน้ารูปไข่อันข่าวผองของเสิ่นเฉียว ก็ถูกหยุดเอา ไว้ก่อนแล้ว !

เซียวซู่จับแขนของเขาไว้”จะมาตบตีคนของเราต้อง ขออนุญาตจากคุณชายเยก่อน !”

พูดจบ เธอก็ออกแรงในมือ ผลักสู่สุนฉางกระเด็น ออกไป

สู่สุนฉางถอยหลังแล้วไปชนกับโต๊ะข้างๆ ทำให้เขา สะดุดล้มลงไปกับพื้น

เสิ่นเฉียวตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าจนมองไปที่ คนที่มาถึง เธอที่เผชิญหน้ากับลู่สุนฉางที่กำลังจะตบ หน้าเธอด้วยสีหน้าแววตาที่นิ่งเฉยตอนนี้ใบหน้าเธอกลับแสดงอารมณ์ตกใจอย่างขวัญ ผวาออกมาให้เห็น

เธอกำชายเสื้อแน่น แล้วมองไปที่เยโม่เซินที่นั่งอยู่ บนเก้าอี้อย่างทำตัวไม่ถูก

เขามาได้ยังไง ?

เห็นอยู่ว่าตอนที่เธอออกมาเขายังไม่ได้ออกมาจาก ออฟฟิศเลยนะ แต่นี่เขาหาเธอเจอได้อย่างแม่นยำ ขนาดนี้ได้ยังไง ?

อย่าบอกนะว่าเขารู้มาโดยตลอด ?

นึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เย่โม่เซินถามเธอ อยู่ ๆเสิ่น เฉียวก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่

สู่สุนฉางตะเกียกตะกายขึ้นมาจากกองที่ยุ่งเหยิง นั้น คางของเขาถูกต่อยเข้าไปหนึ่งหมัด เลือดไหล ออกมาจากมุมปาก หลังจากลุกขึ้น เขาปาดเลือดตรง มุมปากของตัวเอง จากนั้นก็หัวเราะเยาะออกมา แล้วเอาเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆยกขึ้นมา แล้วโยนไปทางเย่โม่เซิน

“คุณชายเย่ ! “เซี่ยวซู่ยืนอยู่ไม่ห่างจากลู่สุนฉาง แต่ก็ไม่คิดว่าลู่สุนฉางจะกล้าทำเรื่องเลวทรามต่ำช้า ได้ขนาดนี้

“อ้า”เสิ่นเฉียวตอบสนองทันที เธอไม่ไตร่ตรองใดๆ พุ่งเข้าไปขวางตรงหน้าของเย่โม่เซิน

เย่โม่เซินกำลังจะพูดว่าอีกฝ่ายหาเรื่องตาย นึก ไม่ถึงเวียนหัวตามืด ทันใดนั้นก็เป็นยัยโง่เสิ่นเฉียว วิ่งเข้ามาโอบกอดเขาไว้ ราวกับว่าอยากจะบังแทน เขา ตอนที่เธอโน้มตัวลงมา เส้นผมที่นุ่มสลวยของ เธอก็กระทบไปโดนบนใบหน้าของเขา น้ำหอมที่เป็น เอกลักษณ์ของเธอบวกกับการใกล้ชิดของเธอและ ลมหายใจที่เข้ามาหาเขา

เย่โม่เซินถึงกับตะลึงไปทั้งตัว

“อยากตายหรือไง ทำอะไรน่ะ? หลบไปซะ ! “เห็น ลู่สุนฉางโยนเก้าอี้มาทางนี้ก็ตวาดใส่ทางนี้ สายตาของเยู่โม่เซินนิ่งไป เขาจับแขนของ หญิงสาวเอาไว้ แล้วดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของตัว เอง จากนั้นมืออีกข้างก็หมุนล้อวีลแชร์อย่างว่องไง

ปัง ! ! !

เก้าอี้ที่โยนมาตกกระทบกับพื้นเปล่า เป็นจุดที่เย่โม่ เซินเพิ่งหมุนล้อวีลแชร์หนีไป

น่าจะใช้แรงมหาศาล เพราะพื้นตรงที่เก้าอี้ตกใส่มี รอยออกมาให้เห็นบางส่วน

คนในร้านที่เห็นภาพนี้ ต่างตกใจจนแทบหัวใจวาย

แต่โชคดี ที่ช่วงกำลังหน้าสิวหน้าขวานนั้น เย่โม่เชิ นพาเสิ่นเฉียวหลบพันได้

“ไอ้บัดซบหน้าไม่อาย ! “เซียวซู่เห็นว่าเย่โม่เซินกับ เสิ่นเฉียว ไม่เป็นไร จึงโล่งใจได้ แต่ขณะเดียวกันก็เดินเข้าไปดึงคอเสื้อของลู่สุนฉางเอาไว้ แน่น จากนั้นก็ต่อยเข้าไปที่คางของเขาอย่างจัง

ก่อนหน้านี้สู่สุนฉางไม่ทันระวังเลยถูกเธอต่อย แต่ รอบนี้ตั้งตัวได้ทัน ดังนั้นจึงเกิดการชกต่อยกับเซียวซู่ ทั้งสองยืนแลกกันคนละหมัดอยู่อย่างนั้น

และอีกด้านหนึ่ง

เสิ่นเฉียวยังคงกอดคอของเย่โม่เซินเอาไว้แน่น หลับตาปี เธอกลัวเอามาก ๆ ร่างกายอันเล็ก ๆของ เธอกำลังสั่นเป็นเจ้าเข้า แม้แต่ขนตาเธอยังกระตุก แต่ว่า ถึงเธอจะกลัวมากแค่ไหน เธอก็ยังไม่ยอม ปล่อยเย่โม่เซิน

“…เธอคิดจะกอดไปถึงเมื่อไหร่ ?” เย่โม่เซินถาม

ด้วยเสียงแหบๆ

เย่โม่เซินวูบไปเล็กน้อย
ตอนที่เก้าอี้ตัวนั้นลอยมาตรงจุดที่เขาอยู่นั้น เขา ใจเย็นมาก เพราะเขาสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย แต่ว่ายัยซื่อบื้อนี้ก็กระโดดเข้ามาแบบไม่คิดหน้าคิด หลัง ถึงจะทำให้เกิดอุปสรรคและความยากลำบาก ให้เขา แต่ ….นั่นเป็นการกระทำที่ประมาทเลินเล่อ

ก็เหมือนกับกระแสเลือดที่อบอุ่น ที่บุกเข้ามาทีละ น้อยที่ละน้อย

ได้ยินเสียงดังนั้น เสิ่นเฉียวก็ตกตะลึงเล็กน้อย เธอ ลืมตาขึ้นมาแบบกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ร่างกายไม่รู้สึกถึงอาการบาดเจ็บใดๆ

เกิดอะไรขึ้น ?

นึกขึ้นได้ว่าตัวเองกอดเย่โม่เซินอยู่ เสิ่นเฉียวก็รีบ ถอยออกมา พูดเบาๆว่า : “คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ?”

สายตาของเย่โม่เซินมองไปที่เธออย่างเย็นยะ เยือก เสิ่นเฉียวขยับปากเล็กน้อย : “ขอโทษ…”
“ขอโทษอะไรของเธอ ? “เย่โม่เซินหรี่ตา มองไปที่ เธอ : “เธอไม่รู้จักความอันตรายเหรอ? ดึงตัวเข้ามา ทำไมกัน ?”

เสิ่นเฉียว : “…”

เธอก็ไม่ได้อยากพาตัวเองเข้าไปหรอก

เธอก็กลัวเหมือนกันนะ

แต่ตอนนั้น เธอคิดว่า ตัวเองเป็นภรรยาของเขา และเขายังเป็นคนพิการอีก คงหลบการโจมตีแบบนั้น ไม่ได้แน่ เธอไม่อาจลืมตามองดูเขาต้องได้รับบาด เจ็บต่อหน้าต่อตาได้

“รู้บ้างมั้ยว่าการที่เธอเอาตัวเองเข้ามา กลับกลาย เป็นภาระสำหรับฉัน ?”

เสิ่นเฉียวเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ รู้ตัวดีว่าตอนนี้ที่ไม่เป็นไรได้เพราะได้เย่โม่เซินช่วย เอาไว้ เธอก็ไม่มีอะไรพูดอีกแล้ว
“ขอโทษจริง ๆ ตอนนั้นฉัน…..ไม่คิดให้รอบคอบ ก่อน” เสิ่นเฉียวอธิบายให้ฟัง จับนิ้วของตัวเองไป ทำตัวไม่ถูก

ถ้าเธอรู้ว่าตัวเองจะกลายมาเป็นภาระของเขาตั้งแต่ แรก เธอก็คงไม่เอาตัวเองเข้าไปยุ่งหรอก

เห็นเธอมีท่าทีก้มหน้าก้มตา ทันใดคำพูดที่จะตำหนิ ติเตียนต่าง ๆนาๆของเย่โม่เซินก็พูดไม่ออกแล้ว

เธออยากป้องกันอันตรายแทนเขา นี่คือเรื่องจริง

แต่ไปเป็นอุปสรรคของเขา นี่คือสิ่งที่ไม่คาดคิด

นอกจากนั้น เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าเขาจะหลบได้? พอคิดว่าว่าเขาจะหลบไม่ทันก็เลยเอาตัวเข้าไปบัง ความคิดแบบนี้…

ด้วยเหตุนี้ สายตาของเย่โม่เซินที่มองไปที่เส้นเฉียวเปลี่ยนไปอย่างยุ่งเหยิง

ผู้หญิงคนนี้….ในหัวเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?

และอีกด้านหนึ่ง เซียวซู่จัดการล้มลู่สุนฉางไปได้ เรียบร้อยแล้ว ตอนแรกล่าสุดฉางยังพอมีแรงที่จะ โต้ตอบ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ไหว ถึงอย่างไรเชียว ซูก็พวกที่ออกกำลังกายอยู่แล้ว หลังจากเซียว อธิบายเสร็จก็ดึงปกเสื้อของเขามาแล้วลากไปไว้ที่ หน้าเยโม่เซิน

“คุณชายเยให้จัดการยังไงดีคะ?

เยโม่เซินมองลู่สุนฉางเหมือนกับมองคนตาย

“พูดจาดูถูกเสียดสีคนอื่นสนุกดีมั้ยล่ะ ? ประธานลู่ ชอบเล่นกับผู้หญิงขนาดนี้ แม้แต่ผู้หญิงของฉันเย่ โม่เซินยังกล้าคิด งั้นก็ตัดไฟซะตั้งแต่ต้นลมเลยแล้ว กันสู่สุนฉางได้ยินดังนั้น สายตาคู่นั้นก็เบิกโพลง

: “นายจะทำอะไร ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ