เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่40 เกือบจะถูกเจอแล้ว



บทที่40 เกือบจะถูกเจอแล้ว

เสิ่นเฉียวกลับไปนอนที่เตียงของตัวเอง หยิบ โทรศัพท์ออกมาเพื่อดูเวลา

ใกล้ถึงเวลาที่ เย่โม่เซิน จะเข้านอนแล้ว เธอรออีก

นิด

สุดท้ายเหมือนเสิ่นเฉียวจะโมโหจนเวียนศีรษะไป เธอนอนไปนอนมาจนหลับไป กว่าเธอจะตื่นขึ้นมาก็ เป็นเช้าของอีกวันหนึ่งแล้ว

ตอนที่เสิ่นเฉียวตื่นนอนนั้น เตียงของเย่โม่เซินก็ว่าง เปล่าแล้ว เธอสะลึมสะลือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู พบ ว่าใกล้เวลาเข้างานแล้ว

คิดถึงอะไร เสิ่นเฉียวรีบดีดตัวลุกจากเตียง กัมลงดู

ใต้เตียงเย่โม่เซิน

โชคดีที่กระดุมเม็น

ปลดล็อกแล้ว

สังแม่นึงอยู่ตรงนั้น
เสิ่นเฉียวยื่นมือออกไปหวังจะไปหยิบกระดุมเม็ด นั้น ที่อยู่ค่อนข้างไกล ปลายนิ้วแตะไปโดนมัน ไม่ สามารถหยิบมันกลับมาได้ กลับผลักมันไกลออกไป อีก

เมื่อเห็นกระดุมกลิ้งไกลออกไป ในทิศทางที่ทั้ง ห่างเธอ เสิ่นเฉียวแทบจะเป็นลม

ตอนนี้ท่าทางเธอคือถึงขีดสุดแล้ว เธอไม่สามารถ ยัดตัวเข้าไปได้มากกว่านี้แล้ว

เสิ่นเฉียวทำได้เพียงลองไปอีกข้างแล้วดูว่า สามารถเอื้อมถึงหรือไม่ คิดไม่ถึงว่าอีกข้างยิ่งไกล กว่า

“เธอกำลังทำอะไร?”

ทันใดนั้นเสียงอันเย็นชาก็ดังขึ้น

เสิ่นเฉียว ตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง
นี่มันเสียงของเย่โม่เซิน เขา…ควรจะไปทำงานแล้ว ไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงกลับมา? เสิ่นเฉียวนอนอยู่ ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน เพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบ อย่างไร ถ้าลุกขึ้นมาแล้วถูกจับได้จะทำยังไง?

เธอนอนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ยิ่งดูน่าสงสัย เย่ โม่เซินหรี่ตาเล็กน้อย หมุนล้อวีลแชร์ให้วิ่งไปทาง เธอ เมื่อใกล้ถึงตัวเธอ เสิ่นเฉียวจึงได้ลุกขึ้นและเอา มือแต่ต่างหู

“ต่างหูฉันตกลงตรงเตียงคุณ ฉันเลยมาหาดู”

เย่โม่เซินทอดสายตามองไป มองเห็นต่างหูแวววับ หนึ่งอันในมือเธอ

“เหมือนเธอจะรีบนะ?”

เมื่อได้ฟัง เสิ่นเฉียวแล้วถอนหายใจ “เปล่าค่ะ”

“เปล่าเหรอ?” เย่โม่เซินเลิกคิ้ว ยังคงหมุนล้อวีลแชร์เข้าไปใกล้ ลมหายใจของผู้ชายที่แข็งแกร่งค่อย ๆ เข้ามาหาเธอ: “งั้น….ทำไมเธอเหลียวซ้ายแลขวา เหงื่อออกเต็มหน้าผาก?”

เสิ่นเฉียวตะลึงและถอยหลังไปก้าวใหญ่ ออกจาก วงกลมล้อมรอบของออร่าทรงพลังของเย่โม่เซิน “ฉันแค่มาหาต่างหู อากาศมันร้อน ฉันหาอยู่ตั้งนานก็ เลยร้อนค่ะ”

พูดจบ เสิ่นเฉียวหันหลังกลับไปทางห้องน้ำ เธอ ควรไปล้างหน้าล้างตา

ไม่กังวลว่าเย่โม่เซิน จะจับได้เพราะเขานั่งวีลแชร์ ถ้าหากว่าไม่มีใครช่วยเขา เขาไม่มีทางจะกัมลงไปดู ว่าอะไรตกอยู่ใต้เตียง ดังนั้นกระดุมเม็ดนั้นอยู่ตรงนั้น ถือว่าปลอดภัยมาก

ดังนั้นวันนี้เธอจึงไปทำงานได้อย่างสบายใจ

ก่อนที่เสิ่นเฉียว จะไปทำงาน นายท่านเย่เรียกเธอ เข้าไปคุยที่ห้องหนังสืออีกครั้ง ให้เธอหาเวลาวันนี้ ไปที่บริษัทตระกูลลู่เพื่อพบลู่ฉุนฉางเพื่อคุยเรื่องความร่วมมือครั้งนี้ อีกทั้งยังกำชับเธอว่า ไม่ให้บอกเรื่องนี้ให้ เย่โม่เซิน รู้

หลังจากที่เสิ่นเฉียวถึงบริษัทแล้ว เธอรู้สึกปวดหัว อยู่ตลอด

ปู่หลานคู่นี้มีความคิดไม่ตรงกัน เธอเป็นคนที่ติดอยู่ ตรงกลางต้องทำอะไรอย่างยากลำบาก

คำสั่งของนายท่านแห่ง ตระกูลเย่ เธอไม่กล้าขัด

เสิ่นเฉียวคิดกลับไปกลับมา แล้วลุกขึ้น เมื่อขึ้นรถ แล้วบอกกับคนขับรถแท็กซี่”สวัสดีค่ะ ช่วยไปที่ .

เสิ่นเฉียวหยิบที่อยู่บริษัทตระกูลลู่ที่เธอหามาได้ส่ง ให้คนขับรถ

หลังจากถึงบริษัทตระกูลลู่ แล้วเสิ่นเฉียวตรงไปที่ แผนกต้อนรับ จึงพบว่าตัวเองไม่ได้ทำการนัดหมายล่วงหน้า

“ขออภัยค่ะคุณผู้หญิง เนื่องจากไม่ได้ทำการนัด หมายล่วงหน้า คุณไม่สามารถเข้าพบประธานสู่ คุณมี ธุระอะไรคะ?” แผนกต้อนรับมองเธอด้วยความสงสัย มองดูการแต่งกายของเธอ

เสิ่นเฉียวถูกเธอมองจนหน้าแดง นึกขึ้นได้ถึงคำพูด นั้นของเย่โม่เซินและสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ไป บริษัทตระกูลเย่

ดูแล้ว เธอคงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจริง ๆ

“เช่นนั้นฉันทำการนัดหมายและกลับมาในตอนบ่าย

เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวจึงได้ออกจากบริษัทตระกูล ลู่ ตอนเธอออกมานั้นเธอไม่ได้ลาพักจากเย่โม่เซิน สองวันมานี้ เย่โม่เซินทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน และ ไม่ต้องการให้เธอช่วยงาน บวกกับเมื่อนายท่านเย่ บอกว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับเย่โม่เซิน ดังนั้นเธอจึงไม่

ได้บอก
ดังนั้นเสิ่นเฉียวจึงแอบกลับเข้ามาที่ที่นั่งของตัวเอง ได้พักหนึ่ง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจึงได้โล่งอก

เมื่อเสิ่นเฉียวสงบจิตใจได้แล้วจึงโทรไปที่ตระกูลลู่ หลังจากระบุชัดเจนถึงจุดประสงค์และตำแหน่งแล้ว ใครจะคิดว่าทางนั้นจะตัดสายเธอทันที เสิ่นเฉียวตก ตะลึงทำได้เพียงแต่โทรกลับไปใหม่

ครั้งนี้ทางนั้นได้พูดจาเหยียดหยามอย่างไม่ เกรงใจ: “คุณผู้หญิงคะ ถ้าหากคุณยังโทรเข้ามา ก่อกวน อย่าหาว่าทางเราไม่เกรงใจนะคะ”

เมื่อพูดจบก็สายตัดไป

เสิ่นเฉียวจึงวางหูอย่างจำใจไม่น้อย

ท่าทีของฝั่งตรงข้ามนั้นแข็งกร้าวมาก คงเป็นเพราะ มีการกำชับจากลู่สุนฉางหลังจากกลับไป
การนัดล่วงหน้าคงใช้ไม่ได้แล้ว คงต้องรอจนเลิก งานแล้วแจ้งนายท่านเย่

เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงาน หานเส่โยวโทรหาเสิ่น

เฉียวนัดเจอเธอ

เสิ่นเฉียวรับนัด

เสิ่นเฉียวเก็บของและเดินไปที่หน้าลิฟต์ เซียวซูก็ เข็น เย่โม่เซินออกมาจากห้องทำงานพอดี เมื่อเห็น เขา เสิ่นเฉียวหันไปมองทางอื่นด้วยความรู้สึกผิด

ช่วงนี้เขาไม่ได้สนใจตัวเธอเลย คงไม่รู้เรื่องที่ออก ไปเมื่อตอนกลางวันหรอก?

“ผู้ช่วยเสิ่น”

เซียวซูเปลี่ยนคำเรียกจาก คุณหนูเสินเป็นผู้ช่วยเสี่

นอย่างอัตโนมัติ
เผชิญหน้ากับเซียวซู เสิ่นเฉียวก็ตื้นตันใจ อย่างไรเสียเขาเป็นคนหาเตียงมาให้ตัวเธอ ช่วยเธอ แก้ปัญหามากมาย เมื่อเส้นเฉียวมองดูเซียวซู่จึงมี รอยยิ้มที่อบอุ่น และพยักหน้าให้กับเขา

รอยยิ้มนั้นเป็นประกายเป็นที่สุด สาดใส่เย่โม่เซินให้ ได้ระคายสายตา ขมวดคิ้วแน่น

เซียวซูอยู่กับเย่โม่เซินมานานมาก เขาอยากจะทำ อะไรเพียงแค่กระดิกนิ้วเซียวซูก็เข้าใจทันที ครั้งนี้มี รังสีความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากตัวเขา เซียวซู่ จึงรีบเก็บอาการทันที

ช่วงนี้ คุณชายเย่..ดไม่ค่อยปกตินะ?

ตั้ง–

ลิฟต์มาแล้ว เสิ่นเฉียวรอให้เย่โม่เซิน เซียวซู่เข้าไป แล้ว และยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

“ผู้ช่วยเสิ่นคุณไม่เข้ามาล่ะครับ?” เซียวซู่อดไม่ได้ที่จะตาม

เส้นเฉียวดึงสติและยิม: “ฉันถึมไปเหมือน คอมพิวเตอร์จะยังไม่ได้ปิดต่ะ ฉันจะกลับไปดูอีกรอบ พวกคุณไปก่อนเถอะค่ะ”

พูดจบ เสิ่นเฉียวตั้งท่าเพื่อเดินจากไป ไม่คาดคิดว่า เยโม่เซ็นจะเอ่ยปากในเวลานั้น: “เข้ามา”

เสิ่นเฉียวหยุดก้าวหันกลับมามองเขา: “แต่ว่าคุณ

ชายเยคอมพิวเตอร์ฉัน…”

“คอมพิวเตอร์ปิดแล้ว”

“คุณรู้ได้ยังไง?”

“ผมดูแล้ว”

เส้นเฉียว: .”

เขาพูดขนาดนี้แล้ว เธอจะพูดอะไรได้อีก?ทำได้เพียงก้าวเท้าเข้าไป

หลังจากที่เข้าไปแล้ว ประตูลิฟต์ก็ปิดลงช้า ๆ

ลิฟต์ตัวเล็ก ๆ ถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่เย็น ชาของ เย่โม่เซิน เสิ่นเฉียวอยากจะหลบแต่ก็ไม่มีที่ ให้หลบได้

“เมื่อตอนกลางวันคุณออกไปข้างนอก?”

เสิ่นเฉียวสะดุดกึกในใจ

“เปล่า เปล่าค่ะ”

เธอคิดขึ้นได้ที่นายท่านกำชับตัวเธอเองว่าห้าม

บอกเรื่องนี้ให้เย่โม่เซินรู้

“เปล่าเหรอ?” เย่โม่เซินเลิกคิ้วน้ำเสียงดูดันอย่าง

ชัดเจน

เสิ่นเฉียวตากระตุก
“ยังไม่บอกความจริงอีก?”

“ฉัน…เมื่อตอนกลางวันออกไปข้างนอกมาครู่หนึ่ง

ค่ะ”

“ไปทำอะไรมา?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ