เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที155 โต้ตอบได้อย่างสวยงาม



บทที่155 โต้ตอบได้อย่างสวยงาม

ณ ห้องประชุม

คนเริ่มมาครบแล้ว หัวหน้าแผนกพึ่งจะพาเสิ่นเฉียวเดินเข้ามาในห้อง ซึ่งเป็นเวลาที่สายแล้ว

ตอนที่เสิ่นเฉียวเดินตามหัวหน้าแผนกเข้ามาในห้อง สายตาของทุก คนก็ล้วนแต่จับจ้องไปที่พวกเขา หลังจากที่เคยเจอหน้ากันมาหลาย ครั้ง ผู้บริหารระดับสูงแต่ละท่านที่นั่งอยู่ล้วนแต่รู้จักบุคคลที่ชื่อเสิ่น เฉียวทั้งนั้น

พวกเขาได้ยินข่าวลือมาไม่น้อยเลยรู้ว่าหลังจากที่เสิ่นเฉียวเข้ามาใน บริษัทนี้ได้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเย่ไม่เซิน

อีกทั้งพวกเขาเคยเห็นหน้าเสิ่นเฉียวในที่ประชุมหลายครั้ง ถึงแม้ว่า ในตอนเริ่มแรกเธอจะโดนท่านประธานรังแกอยู่ซ้ำๆ แต่ทุกคนไม่ ได้ตาบอด คนที่สามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงเช่นนี้ได้ทำไมจะมอง อารมณ์และความรู้สึกของคนที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ออกกัน?

ในครั้งที่แล้วที่หานชิงมาพูดคุยหารือเกี่ยวกับการร่วมธุรกิจ ขอแค่ ตาไม่ได้บอดทุกคนต่างก็มองท่าทีและอารมณ์ที่เย่โม่เซินมีต่อเสิ่น เฉียวออก แต่ทว่า…บางทีสนใจก็คือสนใจจริงๆ แต่เกลียดขึ้นมาก็คงจะเกลียด จริงๆเช่นกัน

มิฉะนั้นคงไม่ลดตำแหน่งของเธอให้ต่ำที่สุดต่อหน้าพนักงานทั้ง บริษัทหรอก

หัวหน้าแผนกเป็นผู้ชายวัยสี่สิบกว่าๆ ร่างผอมบาง ใบหน้ากับดวงตา ยาว ปากแหลมๆหน่อย ใส่แว่นตาแลดูค่อนข้างเรียบร้อยเป็นผู้ดี แต่ดู สีหน้าแล้วไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

“สวี่เลี่ยวคุณมาสาย! ไม่รู้รึไงว่าท่านประธานไม่ชอบการมาสาย?”

มีคนพูดเตือนออกมาหนึ่งประโยค แววตาของสวี่เลี่ยวเปลี่ยนไป ทันที เขาเอ่ยปากพูดทันที “ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาสาย แต่เอกสารที่ ต้องใช้ในการประชุมครั้งนี้ยังไม่ได้จัดการเลยครับ!

เมื่อฟังจบ ทุกคนเริ่มแตกตื่นขึ้นมา

“มันเกิดอะไรขึ้น? เอกสารไม่ใช่ว่าเมื่อวานได้แจ้งพวกคุณไปจัดการ แล้วไง? ทําไมมาวันนี้ยังจัดการไม่เสร็จอีก? นี่มันเวลาไหนแล้ว?”

“ใช่แล้ว เอกสารของแผนกพวกเราส่งไปตั้งแต่เมื่อวานเช่นกัน เกิด อะไรขึ้นกับพวกคุณ?”

สวี่เลี่ยว พยายามอดกลั้นเอาไว้ จากนั้นจ้องมองสีหน้าอันเย็นชา ของท่านประธานคนนั้น ผู้ชายที่มีรังสีอำมหิตแผ่ออกมาทั่วร่าง——เย่ โม่เซิน ทันใดนั้นเขาก็ดึงตัวเสิ่นเฉียวที่อยู่ด้านหลังออกมา!

“ทุกท่าน เอกสารทั้งหมดเธอเป็นคนทำพังหมดครับ”

ห่า? แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับเธออีก? ทุกคนไม่เข้าใจ จากนั้นจ้อง มองเสิ่นเฉียวที่โดนลากออกมา

สีหน้าของเย่โม่เซินไร้ความรู้สึก สายตาที่เย็นชาของเขามองทะลุ หัวหน้าไปแล้วเพ่งไปที่แขนอันเรียวบางของเสิ่นเฉียว

ผิวของเธอขาวใส เธอสวมชุดกระโปรงแขนกุด เมื่อโดนหัวหน้า ออกแรงดึงแขน ผิวขาวๆที่แขนของเธอจึงเผยรอยแดงออกมา

ผู้หญิงคนนี้ ทั้งทั้งที่รู้ว่าตัวเองผิวบางก็ไม่รู้จักที่จะสวมเสื้อคลุมเลย สักนิด เห้อ

เธอพึ่งมาอยู่ในแผนกของพวกเรา ผมอยากจะดูว่าความสามารถ ของเธอเป็นยังไง นึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนอาสาบอกว่าจะขอจัดการ เอกสารในการประชุมครั้งนี้เอง ผมเห็นว่าเธอมีความมั่นใจอยู่เต็มอก ดังนั้นจึงยอมให้เธอเป็นคนจัดการ นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายเธอจะจัดการ ไม่เสร็จ คุณชายเย่ ขอโทษด้วยครับ คือผมเองที่สั่งสอนเธอไม่ดี!

คำพูดด้านหน้าโยนความผิดสารพัดให้กับเสิ่นเฉียว พอมาตอนหลัง กลับพูดประโยคหนึ่งว่าตัวเองไม่ได้สั่งสอนเธอให้ดี ช่างเส แสร้งเสียจริง

เขาพูดจบไปสักพักกลับไม่มีใครตอบสนองอะไรทั้งสิ้น จริงๆแล้วผู้ บริหารระดับสูงไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองยังไง พวกเขาอ่านความคิด ของท่านประธานคนนั้นไม่ถูก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไร

เสิ่นเฉียวดูนิ่งเฉยเช่นกัน เธอหิ้วกระเป๋าอยู่ในมือ ใบหน้าที่งดงามไร้ ซึ่งความรู้สึกใดใด

ราวกับว่าไม่ได้กังวลเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด

“คุณไม่ได้สั่งสอนให้ดีจริงๆแหละ” อยู่ๆมีน้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่แฝง ไปด้วยความเข้มงวดดังขึ้นมา

ผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวยืนขึ้นมาท่ามกลางผู้บริหารระดับสูง แววตา

ที่นิ่งสงบจ้องมองไปที่ใบหน้าของสวี่เดี่ยว

สวี่เลี่ยวรับรู้ได้ถึงแรงกดดันทันที เอวของเขาค่อยๆกดต่ำลงอย่าง ไม่รู้สึกตัว “เย่ รองประธานเย่

น้ำเสียงของเย่หลิ่นหานแน่นิ่ง “คุณก็บอกเองว่าเธอคือคนที่พึ่งมา ใหม่ อีกอย่างเอกสารในครั้งนี้ค่อนข้างสำคัญมาก คุณรู้ทั้งรู้ว่ามันคือ สิ่งที่ต้องใช้ตอนประชุม ต่อให้คุณจะอยากดูว่าความสามารถของเธอ เป็นยังไง คุณก็ควรที่จะหาตัวสำรองเอาไว้เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่คุณกลับมอบงานงานหนึ่งให้กับคนที่พึ่งมาใหม่ อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ในวันนี้ที่เกิดเรื่องขึ้น คุณไม่เพียงแต่ ไม่ได้สอนงานเธอให้ดี แต่ยังโยนความผิดไปทั่วอีก สวีเอี่ยว ตำแหน่ง ในทุกวันนี้ คุณรู้สึกนั่งแล้วยังไม่ปลอดภัยพออีกหรอ?”

คำพูดนี้ฟังดูมีเหตุและผล เขาพูดจนทำให้สีหน้าของสวี่เกี่ยวขาวซีด ทันที เขารับรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ทันที เขาจ้องมองสายตาที่ แฝงไปด้วยความน่ากลัวของเย่หลิ่นหาน แต่เมื่อจ้องมองไปที่ผู้ชายผู้ ซึ่งเป็นท่านประธานแล้ว เขายังคงไม่เหลือบตามามองเช่นเคย ราวกับ ว่าเรื่องเรื่องนี้เขาไม่ได้สนใจเลยสักนิด

ดังนั้นสวีเลียวเริ่มมีความมั่นใจอีกครั้ง จากนั้นพูด “รองประทานเย่ พูดถูก คือผมเองที่ไม่ได้คิดให้ละเอียดถี่ถ้วน แต่ครั้งนี้

“ทำไม? หรือว่าครั้งนี้คุณต้องการจะปัดความรับผิดชอบอย่างนั้น หรอ?”

สวี่เกี่ยวก้มหน้าลง “ไม่ครับ ไม่กล้า!”

“เอกสารล่ะ?” ทันใดนั้น น้ำเสียงที่เย็นชาถึงขีดสุดก็ดังขึ้นมาทำให้ ผู้บริหารระดับสูงรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก จากนั้นต่างก็ยืดตัวขึ้น มานั่งหลังตรง

สายตาของเย่โม่เซินจ้องมองไปที่ใบหน้าขาวๆของเสิ่นเฉียว น้ำ เสียงฟังดูดุดัน “โดนลดตำแหน่งวันแรก ไม่อยากจะก้าวหน้า ไร้ซึ่ง ความตั้งใจก็ช่าง แต่ก่อเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ คุณวางแผนจะชดเชยยัง ไง?” เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรมาตลอดก็จ้องมองไปที่เย่โม่

เซิน

ถ้าเทียบกับหลายวันก่อนแล้ว แววตาที่เขาจ้องมองเธอดูเย็นชาเป็น อย่างมาก เพียงแค่สบสายตา เธอก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังอยู่ใน

ถ้ำน้ำแข็ง

เสิ่นเฉียวรู้ว่าคำพูดเหล่านั้นของตัวเองทำร้ายความรู้สึกของเขา เธอไม่ขอให้เขาให้อภัยตัวเอง แต่….เธอแค่อยากหาโอกาสในการ อธิบายเท่านั้น

ทั้งสองสบสายตากันอยู่นาน เสิ่นเฉียวพูด “ฉันไม่ได้ไม่ตั้งใจทำงาน”

สีหน้าของเย่โม่เซินเย็นชา เขาไม่พูดอะไรแล้วจ้องไปที่เธออย่าง

เดียว

เสิ่นเฉียวพูดต่อ “ฉันก็ไม่ได้ก่อเรื่องวุ่นวายอะไร

ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่าเธอหมายความว่าอะไร ในจังหวะนี้เองเสิ่น เฉียวเอากระเป๋าของตัวเองวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นพลิกฝ่ามือขึ้นมา มี แฟลชไดรฟ์อันเล็กๆอันหนึ่งวางอยู่บนฝ่ามือขาวๆของเธอ

“เอกสารฉันจัดการเสร็จหมดแล้ว แต่คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเก่าจน เกินไป อยู่ๆก็ปิดเครื่องไปเอง” “โชคดีที่ฉันมีนิสัยชอบบันทึกงานในแฟลชไดรฟ์

เสิ่นเฉียวชูแฟลชไดรฟ์ให้ทุกคนดู จากนั้นก้าวฝีเท้าเดินไปข้างหน้า เธอเสียบแฟลชไดรฟ์เข้าไปในช่องเสียบUSB จากนั้นเปิดเอกสารให้ ทุกคนดูด้วยความตื่นเต้น

“นี่คือสิ่งที่ฉันจัดเรียงเรียบร้อย ทุกท่านโปรดให้เวลาฉันสักหน่อย เดี๋ยวตอนนี้ฉันจะปริ้นเอกสารออกมา จากนั้นแจกถึงมือของทุกท่าน

ผู้บริหารระดับสูงทุกท่าน : “.…………

อะไรนะ? ไม่ใช่บอกว่าเอกสารจัดการไม่เสร็จหรอกหรือไง? นี่มัน เกิดอะไรขึ้นอีก?

หลังจากที่สวี่เลี่ยวผู้ซึ่งดันเสิ่นเฉียวออกไปมองเห็นว่าเอกสารเหล่า นั้นถูกจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขา เดินมาอยู่ด้านข้างของเสิ่นเฉียว “คุณมีสำรองเอาไว้ทำไมไม่บอก ตั้งแต่แรก? ทำให้ฉันต้องมาหน้าแตกแบบนี้”

สีหน้าของเสิ่นเฉียวนิ่งเฉย “หัวหน้า คุณไม่ได้ถามฉันเอง”

สวี่เดี่ยว:

“คุณแค่ให้ฉันตามคุณไปที่ห้องทำงาน อีกทั้งไม่บอกสาเหตุอะไรทั้ง นั้น ตั้งแต่เดินเข้าไปในห้องทำงาน ฉันไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะ อธิบายให้คุณ” เสิ่นเจียวพูดต่อ สีหน้าของเธอนิ่งเฉย จากนั้นกะพริบ ตา เธอแลดูใสซื่อบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

สวี่เดี่ยวรู้สึกโมโหจนแทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือด

ผู้บริหารระดับสูงที่อยู่อีกฝั่งจ้องมอง สวี่เคี่ยวด้วยสายตาที่เอือม ระอา เซียวซู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเย่โม่เซินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น อยู่ภายในใจ เขาปรบมือให้กับเสิ่นเฉียว

มาก!

โต้ตอบได้อย่างสวยงาม!

ฉีกธาตุแท้ของสวี่เคี่ยวผู้ชายคนนี้ออกมาให้เขาเห็น!

แน่นอนว่าเสิ่นเฉียวรู้ดีว่าคนเหล่านั้นรอดูเธอหน้าแตก รวมไปถึงเย่ ไม่เซิน เขาก็คงอยากเห็นเธอหน้าแตกสินะ

เธอไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่!

เสิ่นเฉียวก็ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาโขกสับ ต่อให้หลังจากนี้เมื่อ กลับไปจะโดนรังแกมากยิ่งขึ้น เธอก็จะโต้ตอบเอาคืน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ