เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที159 ฉันเอาชีวิตให้คุณเลยดีมั้ย



บทที่159 ฉันเอาชีวิตให้คุณเลยดีมั้ย

“รับเคราะห์รับกรรม?” สีหน้าของคุณแม่เสิ่นบูดบึ้งขึ้นมาทันที “เฉียวเฉียว ลูกคิดแบบนี้กับแม่ได้ยังไงกัน? แม่ไม่ได้คิดแบบนี้ ลูกก็ รู้ว่าลูกคือลูกสาวของแม่ แม่จะให้ลูกไปรับเคราะห์รับกรรมแทนโย่ว โย่วได้ยังไงกัน?”

“ใช่หรอ?” เสิ่นเฉียวยิ้มออกมาอย่างขมขื่น มือที่วางอยู่ใต้โต๊ะอยู่ๆก็ บีบแน่นเข้าด้วยกัน ปลายนิ้วกดเข้าไปในผิวของตัวเอง ความรู้สึกเจ็บ ในมือยังไม่ถึงครึ่งของหัวใจ

“คำพูดของแม่ในตอนนั้นฉันยังจำได้อย่างชัดเจน…..แม่บอกว่า ลูกสาวสองคนของตระกูลเสิ่นจะหมดอนาคตทั้งคู่ไม่ได้ ลูกสาวสุด ที่รักของแม่ เสิ่นโย่วตั้งแต่เด็กต้องใส่เสื้อผ้าดีที่สุด เรียนดีที่สุด เป็น ลูกสาวของแม่เหมือนกัน แต่ฉันกลับไม่เหมือนกัน สิ่งที่ฉันต้องทำคือ ดูแลเธอ ยอมให้เธอ ฉันรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ฉันสามารถทำให้ได้ในฐานะ พี่สาว นี่คือสิ่งที่ฉันควรจะทำ แต่…..ตอนที่ฉันหย่าแล้วกลับมาที่บ้าน แม่ไม่ปวดใจหรือห่วงใยฉันเลยสักนิด อีกทั้งยังบังคับให้ฉันแต่งงาน เข้าตระกูลเย่แทนเธอ ในตอนนั้นแม่รู้ดีว่าคนที่ฉันต้องแต่งงานด้วย คือคนพิการ แม่ไม่อยากให้เสิ่นโย่วแต่งงานเลยให้ฉันไปแต่งงาน แทน”

แววตาของคุณแม่เสิ่นเริ่มสับสนขึ้นมาทันที เธอพูดอธิบาย “ วันนี้ไม่ เหมือนที่ผ่านมา ตอนนี้ลูกมีชีวิตที่ดีไม่ใช่หรอ? แม่เห็นลูกทำงานใน บริษัทที่ใหญ่ขนาดนั้น มีบ้านหลังใหญ่อยู่อาศัยขนาดนั้น ตอนนี้ยัง สามารถนั่งในสถานที่ที่มีเงินแห่งนี้ดื่มกาแฟ ลูกยังไม่พอใจอะไร อีกหรอ? ”

เสิ่นเฉียวเช็ดน้ำตา “ถ้าแม่รู้ว่าจะมีวันนี้ แม่ก็คงไม่ให้ฉันแต่งงาน หรอกใช่มั้ย?”

นั่นมันแน่นอน….เรื่องเรื่องนี้ลูกอย่าพูดอีกเลย สรุปแล้วตอนนี้ลูกมี ชีวิตที่ดี! นั่นก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วทำไมจะต้องถือสาเรื่องที่ผ่านมา ด้วย?”

คุณแม่เสิ่นเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นเบ้าตาที่ แดงก่ำของเสิ่นเฉียวก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา ทำได้เพียงพูดอย่างเย็น ชา “ยังไงซะวันนี้ที่แม่มาก็มาพูดเรื่องนี้กับลูกนั่นแหละ ให้แม่หนึ่งแสน หยวนเถอะ”

เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร

แม่จะบอกอะไรกับลูก น้องสาวของลูกเรียนมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้า ตอนนี้ไม่เรียนต่อละก็อนาคตของเธอจะต้องหมดสิ้นแน่ๆ ลูกเป็นพี่ สาว ควรจะนึกถึงน้องสาวมากๆ!”

เสิ่นเฉียวจ้องมองเธอ อยู่ๆก็ถามขึ้นมา

“ แม่ ฉันเป็นลูกสาวแท้ๆของแม่มั้ย?”

เมื่อฟังจบ คุณแม่เสิ่นรู้สึกตกใจจนเบิกดวงตาโต จากนั้นจ้องมอง เสิ่นเฉียวด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะน่าเชื่อ ” ลูกพูดคําพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง? แม่เลี้ยงดูลูกจนโตกับมือตัว เอง ลูกกลับกล้า…..สงสัยแม่!”

ถ้าฉันกับเงินโย่วเป็นลูกสาวแท้ๆของแม่ทั้งคู่ละก็งั้นทําไม….ตั้งแต่ เด็กฉันไม่ได้ใช้ของดีเหมือนกับเธอ แม่ ฉันก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป ฉันก็มีหัวใจนะ”

คุณแม่เสิ่นรู้สึกโกรธจนเอามือกุมไปที่หน้าอก สีหน้าขาวซีดแล้ว หายใจหอบๆ “โอเค ฉันเลี้ยงลูกสาวมาดีจริงๆ กล้าที่จะเริ่มสงสัยแม่ อย่างฉันขึ้นมา…..โอเค โอเค……พวกลูกตอนนี้เริ่มปีกกล้าขาแข็งกัน แล้ว แม่ แม่กลับก็ได้

พูดๆอยู่ คุณแม่เสิ่นก็ลุกขึ้นแล้วจะเดินออกไปข้างนอก เธอหายใจ หอบอย่างรุนแรง จากนั้นล้มลงมา

“ แม่!” เสิ่นเฉียวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จากนั้นรีบไปประคองตัว เธอเอาไว้

คุณแม่เสิ่นกลับแกล้งทำเป็นไม่มีแรงแล้วผลักตัวเธอออกไป “ลูก ไอ้ ลูกอกตัญญู ปล่อยแม่ แม่จะออกไปจากที่นี่….ตอนนี้พวกลูกโตกัน หมดแล้ว มีครอบครัวกันหมดไม่เอาแม่คนนี้แล้ว แม่ไม่ควรที่จะอยู่บน โลกใบนี้ต่อ สื่อชื่อ….

คุณแม่เสิ่นพูดตำหนิไปด้วยร้องไห้ไปด้วย เธออาละวาดจนผู้คน มากมายหันมามอง จากนั้นเริ่มซุบซิบนินทา พนักงานเดินเข้ามา “คุณผู้หญิง พวกเราที่นี่งดใช้เสียงดังนะคะ ไม่ ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่าคะ? มีอะไรให้พวกเราช่วยมั้ยคะ?”

เสิ่นเฉียวรู้ว่าที่นี่คือร้านกาแฟหรูหรามีระดับ คุณแม่เสิ่นอาละวาด เสียงดังอยู่ในนี้ทำให้มีผลกระทบเป็นอย่างมาก โดนถามเช่นนี้ต่อ หน้าผู้คนมากมาย ใบหน้าขาวๆของเธอแดง าขึ้นมาทันที เธอพูด ขอโทษด้วยความรู้สึกอึดอัด “ขอโทษค่ะ ฉันจะพาเธอออกไปเดี๋ยวนี้ ค่ะ”

จากนั้น เธอพยุงคุณแม่เสิ่นออกไปจากร้าน “แม่ ฉันพาแม่ออกไป จากที่นี่ก่อนนะ?”

“ฉันไม่ไป!”

คุณแม่เสิ่นราวกับเป็นผู้หญิงบ้า เธอนั่งลงกับพื้น จากนั้นตะโกนด่า “ตอนนี้พวกลูกปีกกล้าขาแข็งกันหมดแล้วนี่ ฉันอุตส่าห์เลี้ยงลูกให้ เติบโตอย่างยากลำบากขนาดนี้ นี่คือสิ่งที่ลูกตอบแทนแม่หรอ! ตกลง ลูกเห็นว่าแม่ยังเป็นแม่ของลูกอยู่มั้ย?”

คุณแม่เสื่นสามารถแกล้งทําพฤติกรรมแปลกๆที่ไหนก็ได้ ไม่ต้อง พูดถึงร้านกาแฟที่หรูหรามีระดับเช่นนี้

เสิ่นเฉียวรู้สึกลําบากใจมาก ไม่อยากให้เธอขายหน้าอยู่ที่นี่ต่อไปจึง ทําได้เพียงพยุงเธอออกไปข้างนอก “แม่ต้องการเท่าไหร่ฉันให้แม่ก็จบ แต่แม่ต้องออกไปจากที่นี่กับฉัน

ก่อน”

เมื่อฟังจบ ดวงตาของคุณแม่เงินเป็นประกายทันที “ลูกพูดจริงรึ

เปล่า?” “

“อืม แม่ลุกขึ้นมาก่อน

คราวนี้คุณแม่เสิ่นไม่ได้ขัดขืนต่อ แต่ยอมให้เสิ่นเฉียวพยุงตัวเดิน ออกไปจากร้านกาแฟด้วยกัน

เสิ่นเฉียวสามารถรับรู้ได้ถึงสายตาที่ดูถูกเหยียดยามของพนักงาน ในตอนที่พวกเธอเดินออกไป

ทั้งสองยืนอยู่บนถนนที่มีคนเดินชุกชุม สีหน้าของเสิ่นเฉียวนิ่งสงบ ส่วนคุณแม่เสิ่นมีสีหน้าที่พึงพอใจเป็นอย่างมาก “เฉียวเฉียว ลูกยอม ให้เงินจริงๆใช่มั้ย? งั้นลูกให้ได้เท่าไหร่? ดีที่สุดให้เยอะหน่อยก็ดี ช่วงนี้ความเป็นอยู่ภายในบ้านไม่ค่อยดี ลูก….

“แม่” เสิ่นเฉียวขัดคำพูดของเธอ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ถ้าฉันจะบอกว่าฉันไม่มีเงินให้ล่ะ?”

ตอนนี้ตัวเธอเองคนเดียวยังติดค้างเงินกับทางบริษัท เธอมีเงิน สํารองที่ไหนให้คุณแม่เสิ่นยืมกัน?

เมื่อคุณแม่เสิ่นได้ยิน เธอรีบถลึงตาจ้องมองอย่างไม่กลัวเกรง ทันที “ ลูกหมายความว่ายังไง? เมื่อตะกี้ในร้านกาแฟลูกยังบอกว่าจะ ให้เงินกับแม่ ตอนนี้ลูกจะคืนคำหรอ?” เมื่อพูดจบเธอสังเกตว่าท่าที ของตัวเองเริ่มก้าวร้าวอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงรีบเปลี่ยนคำพูด “เฉียว เฉียว แม่ไม่ได้จะมาหาประโยชน์กับลูก แต่ก่อนตอนที่ลูกอยู่กับหลิน เจียง หลินเจียงไม่มีเงิน แม่ก็ไม่เคยมาหาลูกเพื่อยืมเงินถูกมั้ย? แต่ ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้ลูกมีชีวิตที่ดี ลูกคงไม่ให้ ตัวเองมีชีวิตที่ดีคนเดียวแล้วปล่อยให้พวกเราลําบากหรอกใช่มั้ย? เฉียวเฉียว แม่ขอแค่หนึ่งแสนหยวน ถ้าลูกมีมากกว่านี้ให้แม่หนึ่งแสน ห้าหมื่นก็ได้”

เสิ่นเฉียว “…..ขอแค่หนึ่งแสนหยวน? หนึ่งแสนห้าหมื่นก็ได้?”

คุณแม่เสิ่นฟังความหมายของคำพูดเธอไม่ออก ยังนึกว่าเธอรู้สึกว่า เงินจำนวนนี้ไม่มาก สีหน้าจึงดูเหลิงขึ้นมาทันที

“ใช่แล้ว ไม่เยอะเลยสักนิดใช่มั้ย? สำหรับลูกแล้วมันเป็นแค่เงิน เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเฉียวเฉียว ถ้าลูกยังรู้สึกว่าน้อยละก็จะให้ แม่มากกว่านี้ก็ได้ แม่กับพ่อจะรู้สึกซาบซึ้งลูกมาก

“เห้อ… รอยยิ้มและแววตาของเสิ่นเฉียวดูขมขื่นมาก “ใช่แล้ว ขอ แค่ให้เงินแม่หนึ่งแสนหรือหนึ่งแสนห้าหมื่น พวกคุณทั้งครอบครัวก็จะ ซาบซึ้งในตัวฉัน”

คุณแม่เสิ่นพยักหน้าแรงๆ “ใช่ใช่ใช่”

“ แต่ฉันไม่มีไง แม่ ถ้าทำได้ล่ะก็ ฉันก็อยากจะช่วยแม่นะ แต่ฉันไม่มี เงินก้อนนั้นทํายังไงดี? แม่ให้ฉันทำยังไงดี?” พูดจนจบ น้ำเสียงของเสิ่นเฉียวฟังดูกรีดร้องเล็กน้อย อยู่ๆเธอก็ ระเบิดออกมาทําให้คุณแม่เสิ่นตกใจจนเบิกดวงตาโต

“แม่รู้สึกจริงๆหรอว่าฉันแต่งงานเข้าตระกูลเย่แล้วมีชีวิตที่ดีน่ะ? ตลอดเดือนนี้แม่ไม่เป็นห่วงฉันเลยหรอ? ตอนที่ฉันกลับมาบ้านแม่ก็ ไม่เคยถามฉันเลยสักคำ แม้กระทั่งตกลงฉันมีชีวิตที่ดีรึเปล่า? ตอนนี้ เมื่อเจอหน้ากันก็ขอเงินฉัน แม่….ฉันเอาชีวิตของฉันให้แม่เลยดีมั้ย?”

คุณแม่เสิ่นเบิกดวงตาโต จากนั้นเอามือกุมหน้าอกด้วยความรู้สึก เหลือเชื่อ

แม่อย่าแสดงละครอีกเลย ฉันพูดจริงจังนะ ตอนนี้ฉันมีแค่ชีวิตนี้ ถ้า แม่รู้สึกว่าชีวิตของฉันยังมีราคา บางที……..เอามันไปเลยก็ได้นะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ