เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่110 หาเรื่อง



บทที่110 หาเรื่อง

บทที่110 หาเรื่อง

“แล้วยังไง?” เปโม่เซินหรี่ตามองด้วยสายตาที่ดุดัน “คุณมี ปัญหาอะไรมั้ย?”

เส้นเฉียวรู้สึกตกใจ จากนั้นจึงก้มหน้าหลบตา “ไม่ ไม่มี”

เธอแค่รู้สึกว่ามันแปลกมาก เย่โม่เซินคนนี้ทั้งทั้งที่ก่อน หน้านี้เขารังเกียจเธอขนาดนั้น มันเป็นเพราะว่าเขาเคยนอนกับ เธอเลยทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปอย่างนั้นหรอ? ฟังดู แล้วมันน่าเหลือเชื่อจริงๆ

เธออยากจะถามเขามาก งั้นเขาไม่ถือสาเด็กในท้องของเธอ ที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาใช่มั้ย?

คำพูดนั้นเกือบจะถูกพูดออกมา แต่เสิ่นเฉียวตัดสินใจที่จะ กลืนคำพูดนั้นกลับไป

เธอกำลังคาดหวังอะไร? เขาไม่ชอบเด็กคนนี้อยู่แล้ว ก่อน หน้านี้เขายังต้องการเอาลูกของเธอออก ถึงแม้ว่าต่อมาเสิ่น เฉียวจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่อยู่ๆเขาจึงเปลี่ยนความคิด แต่ พวกเธอได้ทำข้อตกลงกันเอาไว้ ครึ่งปีหลังจากนี้เธอจะต้องเมื่อกลับมาถึงห้องพัก เสิ่นเฉียวจึงเงียบลง

เย่โม่เซินเอาโทรศัพท์มือถือสองเครื่องคืนให้กับเธอ

“ผู้หญิงคนนั้นให้คุณหรอ?”

ในตอนแรกเสิ่นเฉียวอึ้งไปชั่วครู่ สักพักเธอจึงนึกออกว่าผู้ หญิงคนนั้นที่เขาพูดถึงคือใคร เธอขมวดคิ้วแล้วพูด “คุณอย่า เรียกเธอแบบนั้น เส่โยวมีชื่อนะ!”

เมื่อพูดจบ เธอเอานิ้วมาสแกนลายนิ้วมือเพื่อใช้งานโทรศัพท์ มือถือ เธอหันมาถาม คุณไม่ได้เข้ามายุ่งกับโทรศัพท์มือถือ

ของฉันใช่มั้ย?”

เย่โม่เซินขมวดคิ้วแน่นแฝงไปด้วยความโมโห “มีความลับ อะไรที่ให้ใครเห็นไม่ได้รึไง?”

เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวเหลือบตาขึ้นมามองเขา ความลับนะ

ไม่มีหรอก แต่ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมาแอบส่องเรื่องส่วนตัวของ ฉัน คุณเองก็มีเรื่องส่วนตัวเหมือนกันรึเปล่า?”

เย่โม่เซินยิ้มอย่างเย็นชา “ในความสัมพันธ์ระหว่างสามี ภรรยา คุณมาพูดเรื่องความส่วนตัวกับฉันหรอ?”
เส้นเฉียว :

พวกเธอไม่ใช่ว่าแต่งงานกันแบบมีข้อแลกเปลี่ยนรีไง? ไม่ใช่ สามีภรรยากันจริงๆสักหน่อย

แต่ทว่าเธอไม่ได้พูดอะไรกับเยโม่เซิน เธอแค่หันหลังแล้ว วางโทรศัพท์มือถือลงจากนั้นเก็บเสื้อผ้า “ฉันไปอาบน้ำก่อน

นะ”

จากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ

หลังจากอาบน้ำอุ่นจนสบายตัว เสิ่นเฉียวจึงเดินกลับไปที่ เตียงน้อยๆของตัวเอง

เยโม่เซินไม่อยู่ในห้อง เธอรีบมุดเข้าไปหลบอยู่ในผ้าห่ม จาก นั้นเปิดวีแชทในโทรศัพท์มือถือ เธอเปิดดูบันทึกแชทระหว่าง เธอกับหานเส่โยว

เธอเห็นข้อความที่หายเส่โยวส่งมาให้เธอพอดี

(เฉียวเฉียว พรุ่งนี้คุณว่างมั้ย? พวกเราออกมาเจอกันเถอะ

เมื่อมองเห็นข้อความนี้แล้ว เสิ่นเฉียวรู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้นมาหน่อยๆ

(มีอะไรรึเปล่า)

(ในที่สุดคุณก็ตอบฉันสักที ฉันคิดว่าคุณจะไม่สนใจฉันแล้ว}

(เสโยว?}

(ไม่มีอะไร แค่มีเรื่องจะพูดกับคุณ

(โอเค พรุ่งนี้หลังเลิกงานนะ)

หลังจากที่ทั้งสองนัดเวลากันเรียบร้อยแล้ว เส้่นเฉียวรีบลบ บันทึกแชทที่คุยกันก่อนหน้านี้ทันที เมื่อมองเห็นห้องแชทที่ ว่างเปล่า เสิ่นเฉียวจึงรู้สึกวางใจมากขึ้น

เสิ่นเฉียวเก็บโทรศัพท์มือถือ จากนั้นห่มผ้าแล้วเตรียมตัวจะ

เข้านอน

น่าจะเป็นเพราะว่าเมื่อคืนเหนื่อยมากไปหน่อย ดังนั้นเสิ่น เฉียวจึงเข้าสู่ห่วงแห่งความฝันอย่างรวดเร็ว
เมื่อตกกลางศึก เล่นเสียวรู้สึกถึงสัมผัสiมๆอยู่นริมดปาก ของเธอ แต่สัมผัสนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว

เธอพลิกตัวแล้วนอนหลับต่อ

วันต่อมา

ตอนที่เส้นเฉียวตื่นขึ้นมา เปโม่เซ็นได้เดินออกมาจากห้อง อาบน้ำแล้ว

ปกติเธอจะตื่นเช้ากว่าเยโม่เซ็น แต่วันนี้เธอกลับ…

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวจึงรีบลุกขึ้นมาแล้วพุ่งตัวเข้าไปล้าง หน้าแปรงฟัน น้ำเสียงที่เย็นชาของเย่โม่เซินดังมาจากด้าน นอก เร็วๆหน่อย”

เสิ่นเฉียวอึ้งไปสักพัก จากนั้นจึงพยักหน้าตอบ

เมื่อเธอเก็บข้าวของเสร็จ เธอนึกว่าเยโม่เซินจะออกไปซะ แล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะรอเธออยู่ข้างนอก

“คุณทำไม…ยังอยู่ที่นี่ ?” เสิ่นเฉียวถามด้วยความสงสัย
สีหน้าของเย่โม่เซินแสดงออกถึงความอึดอัดเล็กน้อย ตอนที่ เขาพูดมีความเหวี่ยงอยู่ในน้ำเสียงหน่อยๆ

“ที่นี่คือห้องของฉัน ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?”

“ไม่ใช่ ฉันหมายความว่า…ทำไมคุณถึงยังไม่ไปบริษัท?”

ที่ผ่านมาเวลาประมาณนี้เขาจะออกไปแล้ว เสิ่นเฉียวจะรอให้ เขาออกไปก่อนแล้วจึงจะเดินไปขึ้นรถเมล์

เส้นเลือดที่ปูดอยู่บนหน้าผากของเย่โม่เซินกระตุกเล็กน้อย

“มาเข็นฉันสิ”

“อืม” เมื่อเขาออกคำสั่ง เสิ่นเฉียวก็ไม่ได้ขัดขึนแต่อย่างใด เธอเข็นเขาลงไปชั้นล่างอย่างเชื่อฟัง จากนั้นส่งเขาขึ้นรถแล้ว เตรียมตัวจะเดินออกไป

ในจังหวะที่เส้นเฉียวกำลังจะลงจากรถ เยโม่เซินที่อยู่ด้าน หลังถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไปไหน?”

เมื่อได้ยิน เสิ่นเฉียวจึงหันหน้ามา “นั่งรถไปที่ทำงานไง…”
เยโม่เซินเบ้ปากแล้วยิ้มด้วยความเย้ยหยัน “รถของฉันคุณไม่ นั่ง? จะต้องออกไปนั่งรถเมล์ต่อหน้าฉัน?”

เสิ่นเฉียวไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเดินเข้าไปนั่งอยู่ข้างๆเขา

เมื่อมาถึงบริษัท เมื่อมีคนจำนวนไม่น้อยมองเห็นเส่นเฉียว เดินลงมาจากรถของเย่โม่เซิน ทุกคนต่างเริ่มซุบซิบนินทากัน

ทันที

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ? นั่นมันผู้ช่วยเสิ่นไม่ใช่หรอ? เธอเดิน ลงมาจากในรถคุณชายเยของพวกเราได้ยังไงกัน?”

“นั่นนะสิ คุณชายเย่เดินทางออกมาจากบ้านตระกูลเยไม่ใช่ หรอ? ผู้ช่วยเสิ่นมาอยู่กับเขาได้ยังไง? อย่าบอกนะว่ามันมี

ความลับอะไรอยู่ในนี้?”

“แต่ก่อนคุณชายเยไม่เคยมีผู้ช่วยหญิงมาตลอด อยู่ๆผู้ช่วย เสิ่นคนนี้ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ สุดท้ายยังได้มาเป็นผู้ช่วยของ คุณชายเย่จริงๆ ตอนนี้ยังลงมาจากรถคันเดียวกันกับเขา ห์ ผู้ หญิงคนนี้คงมีมายาเรื่องบนเตียงร้ายกาจสินะ ความสามารถ จริงๆไม่มีหรอก”

“ที ฉันว่าเธอจะขึ้นมาเป็นผู้ช่วยได้ยังไงกัน ดูท่าทางของเธอแล้วทำอะไรก็ไม่เป็น หน้าตาก็ไม่สวย หุ่นก็ไม่ดี คุณชาย เยถูกใจเธอได้ยังไงกัน? ”

“ที่รัก ถึงแม้ว่าคุณชายเยของพวกเราจะเป็นถึงท่านประธาน ของบริษัทตระกูลเย่ แต่เขาก็เป็นแค่คนพิการคนหนึ่ง อีกทั้ง ได้ยินมาว่าเป็นคนไร้สมรรถภาพทางเพศด้วย! ก็ไม่รู้ว่าผู้หญิง คนนี้ใช้วิธีการอะไร”

“ชู่ เรื่องที่คุณชายเย่ พิการ ไร้สมรรถภาพทางเพศคือเรื่องที่ ห้ามพูด คุณกล้าพูดออกมาแบบนี้อยากรนหาที่ตายรีไง?”

“กลัวอะไร พวกเราก็แค่พูดเฉยๆ คุณชายเยไม่ได้ยินสัก

หน่อย”

เธอเข็นเย่โม่เซินจนมาถึงลิฟต์ส่วนตัวของท่านประธาน เสิ่น เฉียวรับรู้ได้ถึงสายตาจำนวนมากที่จับจ้องมาในระหว่างทาง ที่เดิน ไม่ต้องหันหน้าไปมองก็สามารถรับรู้ได้ว่าคนเหล่านั้น กำลังจับกลุ่มซุบซิบนินทากัน

แน่นอนพวกเขาต้องกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความสัมพันธ์

ระหว่างเธอกับเย่โม่เซิน

เธอเหลือบไปมองด้านหลังศีรษะของเย่โม่เซิน เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมอยู่ๆวันนี้เขาจึงให้เธอขึ้นรถของเขามาที่บริษัทด้วยกัน หรือจะเป็นเพราะว่า….

เมื่อนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ถ้าจะบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่โม่เซินเปลี่ยนไป เพราะเรื่องนี้ละก็งั้นเธอยอมที่จะไม่เอาเช่นนี้

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่จิตใต้สำนึกของเสิ่นเฉียวรู้สึก ขัดแย้งต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่โม่เซินที่เกิดขึ้น

เพราะเรื่องแบบนั้น

รู้สึกขัดแย้งเป็นอย่างมาก

หลังจากที่เธอเข็นเย่โม่เซินเข้าไปในห้องทำงานแล้ว เสิ่น เฉียวจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำชาเพื่อชงกาแฟให้กับเขา

ตอนที่เสิ่นเฉียวเดินเข้าไปวางกาแฟให้กับเขา เธอสังเกต เห็นสายตาของเย่โม่เซินที่มองมา เธอหลบสายตาในทันที

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวออกไปทำงานก่อนนะ”

เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวไม่รอให้เขาตอบกลับมา จากนั้นเธอจึงรีบเดินออกไปอยู่ประจำตำแหน่งของตัวเอง

เปโม่เซินจ้องมองร่างของเธอ ดูเหมือนว่าเธอกำลังหลบหน้า เขา เขาหรี่ตาแล้วมองไปที่เธอ

เธอกำลังหลบหน้าเขา?

ทำไมกัน?

เสิ่นเฉียวใช้เวลาครึ่งเช้าในการทำความเข้าใจกับบริษัท ตระกูลฟาง เมื่อถึงเวลาเธอจึงเดินลงมาทานข้าว

เธอลืมเรื่องในตอนเช้าที่เธอเดินทางมาบริษัทพร้อมกับเย่โม่ เซินจนหมดสิ้น เมื่อเดินมาถึงโรงอาหารแล้วมองเห็นสายตา แปลกประหลาดเหล่านั้นแล้ว เธอจึงค่อยๆนึกมันออก

“เห้ย นี่มันผู้ช่วยเสิ่นไม่ใช่หรอ?”

มีผู้หญิงสองสามคนนั่งอยู่ตรงหน้าของเธอ

“จับประธานเยได้แล้วแท้ๆ ทำไมยังมากินข้าวในโรงอาหาร

อีก?”
“เห้ย จับน่ะจับได้แล้ว แต่ยังไงก็ยังไม่ใช่ตัวจริง ถ้าไม่กินข้าว ในโรงอาหารแล้วจะไปกินข้าวที่บ้านตระกูลเยรีไง?”

เสิ่นเฉียว “…” หาเรื่องรึไง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ