เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที158 ทำไมถึงให้ฉันแต่งงานแทน



บทที่158 ทําไมถึงให้ฉันแต่งงานแทน

เมื่อได้ยินว่าเธอพูดว่าหน้าตาดูร้าย สีหน้าของเสิ่นเฉียวเปลี่ยนไป แลดูบึ้งตึงทันที

“เสี่ยวเหยียน คุณพูดบ้าอะไรน่ะ?”

เสี่ยวเหยียนดึงสติกลับมา “ใช่แล้วใช่แล้ว ไม่สามารถพูดต่อหน้า คุณได้”

เธอหัวเราะขึ้นมา ไม่ได้สนใจอะไรทันนั้น “คุณวิ่งออกมาทำไม? เพื่อนของคุณมาหาคุณหรอ?”

“อืม” เมื่อได้ยินเธอพูดคำว่าเพื่อน สีหน้าของเสิ่นเฉียวก็ค่อยๆดีขึ้น เธอก้มหน้าแล้วจ้องมองถุงในมือ “เห็นบอกว่าจะส่งของมาให้ฉันน่ะ”

“ของอะไรหรอ?” เสี่ยวเหยียนจ้องมองถุง จากนั้นอุทาน ว้าว ออก มา “LVออกใหม่ล่าสุดของปีนี้ สุดยอดเพื่อนคุณคนนี้รวยจังเลย เฉียว เฉียว”

เสิ่นเฉียวไม่ได้มีค่านิยมเกี่ยวกับแบรนด์เนม เธอไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ เลยด้วยซ้ำ เพียงแค่มองเห็นดวงตาของเสี่ยวเหยียนเป็นประกายก็ พอจะรู้ว่าเป็นกระเป๋าที่ราคาแพงหูฉี่แน่ๆ เธอจ้องมองมัน จากนั้นพูด ถ้ามันแพงขนาดนี้ฉันหาเวลาเอาไปคืนให้เธอดีกว่า” “ ทำไมต้องคืนด้วยล่ะ?” เสี่ยวเหยียนจ้องมองเธอ อยู่ๆก็พูด “อยู่ๆก็ ให้ของที่แพงขนาดนี้กับคุณ เธอทำเรื่องที่อะไรที่ผิดต่อคุณรึเปล่า?”

เมื่อฟังจบ เสิ่นเฉียวรู้สึกเอะใจทันที นึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนจะมี ความคิดที่เหมือนกับเธอก่อนหน้านี้

ถึงแม้ค่าพูดนั้นเธอแค่พูดออกมาไปเรื่อย

สมัยก่อนหานเส่โยวดีกับเธอเป็นอย่างมาก แต่ระหว่างพวกเธอสอง คนไม่เคยซื้อของให้กันมาก่อน หานเส่โยวก็ไม่ใช่คนที่จะซื้อของ ขวัญราคาแพงให้กับเธอ อยู่ๆวันนี้เธอมอบของขวัญราคาแพงขนาดนี้ จัดได้ว่านี่คือครั้งแรก

คุณพูดไปเรื่อยอีกล่ะ!” เสิ่นเฉียวสีหน้าบูดบึ้ง เธอรู้สึกโกรธขึ้นมา

จริงๆ

เสี่ยวเหยียนรีบยิ้มแฉ่งเพื่อไถ่โทษ “ขอโทษนะ ฉันแค่พูดเล่นไป เรื่อยเท่านั้นเอง คุณอย่าโกรธขนาดนี้เลย”

เสิ่นเฉียวรู้สึกโกรธขึ้นมาจริงๆ เธอหันหลังแล้วเดิน เสี่ยวเหยียนรีบ วิ่งตาม “เฉียวเฉียว คุณอย่าโกรธฉันสิ ฉันแค่พูดเล่นเฉยๆ ฉันไม่ได้มี เจตนาร้ายนะ”

เดินๆอยู่ ฝีเท้าของเสินเจียวก็หยุดทันที เพราะเธออยู่ๆมองเห็นร่างของคนที่คุ้นเคยอยู่ด้านหน้า เธอยืนอยู่ หน้าทางเข้าของบริษัทกำลังยื่นหัวมองเข้าไปข้างในบริษัท แต่โดน ยามขวางทางเอาไว้ไม่ให้เข้าไปด้านใน

แต่ร่างของคนคนนั้นเสิ่นเฉียวรู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษ คือคนที่เสิ่น เฉียวไม่ได้เจอนานมากแล้ว คุณแม่เสิ่น!

สีหน้าของเสิ่นเฉียวเริ่มดูสับสนขึ้นมาทันที เธอยืนอยู่กับที่แล้วจ้อง

มองไปที่เธอ

ไม่ใช่ว่าไล่เธอออกไปจากตระกูลเสิ่นแล้วรึไง? ทำไมตอนนี้ถึงมาหา เธอที่บริษัท?

เป็นเพราะว่า…..รู้สึกผิดต่อเธอ ดังนั้นจึงมาหาเธอเพื่อขอโทษ? หรือ เป็นเพราะว่าเธอไม่ได้กลับบ้านนานมากแล้วคุณแม่เสิ่นจึงเริ่มคิดถึง ตัวเอง

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยๆ

ในจังหวะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ คนคนนั้นก็หันหน้ามาแล้วสบตาเข้า กับเสิ่นเฉียวพอดี

จากนั้น บนใบหน้าของคุณแม่เสิ่นเผยรอยยิ้มออกมา เธอรีบเดินเข้า มาหาเสิ่นเฉียว

“เสี่ยวเหยียน ฉันเจอกับคนรู้จักน่ะ คุณเข้าไปข้างในก่อนเถอะ” ก่อนคุณแม่เสิ่นจะเดินเข้ามา เสิ่นเฉียวยื่นถุงในมือให้กับเสี่ยวเหยียน ให้เธอถือมันเข้าไปข้างในแทนตัวเองก่อน เสี่ยวเหยียนมองเห็นสีหน้า ของเธอดูไม่ปกติ เธอจึงถือของแล้วเดินเข้าไปก่อน

คุณแม่เสิ่นเดินมาอยู่ด้านหน้าของเสิ่นเฉียวอย่างรวดเร็ว ใบหน้า เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เฉียวเฉียว ลูกทำงานอยู่ที่นี่จริงๆด้วย คนของบริษัทพวกลูกไม่ให้ เข้าไปน่ะ”

เสียงของเสิ่นเฉียวแหบ เปล่งเสียงไม่ออก เสิ่นเฉียวทําได้เพียงจ้อง มองเธออย่างเหม่อลอย

เมื่อมองเห็นสายตาของเธอ คุณแม่เสิ่นก็รู้สึกผิดเล็กน้อย จากนั้น

หลบสายตาโดยไม่รู้สึกตัว เธอไอออกมาเบาๆหนึ่งที “อันนั้น….พวก

เราหาที่นั่งกันเถอะ”

ณ ร้านกาแฟที่อยู่แถวนั้น

เพราะที่นี่คือย่านธุรกิจทำเลทอง แล้วยังอยู่ใกล้กับบริษัทตระกูล เย่ ดังนั้นต่อให้บริเวณรอบๆจะเป็นร้านกาแฟก็ดูหรูหราเป็นอย่างมาก คุณแม่เสิ่นเข้าร้านกาแฟเช่นนี้เป็นครั้งแรก เมื่อได้นั่งสูดอากาศที่เย็น สบายจากเครื่องปรับอากาศและได้สัมผัสกับโซฟาหนังแท้แล้ว เธอ อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

“นี่ก็คือวิถีชีวิตของคนมีเงินใช่มั้ย?” เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร เธอแค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจิบกาแฟ

หนึ่งที

หวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเสียงแหบนั้นได้

ผ่านไปสักพัก คุณแม่เสิ่นพูดต่อ “เฉียวเฉียว ตอนนี้ลูกได้ดีแล้ว ทุก วันมาร้านกาแฟแบบนี้ดื่มกาแฟมั้ย?”

เสิ่นเฉียวจะมาที่นี่แบบนี้ได้ยังไง? ไม่รอให้เธอตอบ คุณแม่เสิ่นก็พูด ต่อ “ลูกมีชีวิตที่ดี แม่ก็มีความสุข!

เสิ่นเฉียวสำลักในลำคอ เธอยิ่งพูดอะไรไม่ออก

เดิมทีตั้งแต่ยังเด็กเธอไม่ค่อยได้รับความรัก ดังนั้นหลายครั้งที่เธอ พยายามทำเรื่องแต่ละอย่างออกมาให้ดีเพื่อหวังว่าแม่ของตัวเองจะ พูดชมเธอบ้าง ในครั้งนี้เธอได้รับความหวังดีจากคุณแม่เสิ่น ความ รู้สึกของเสิ่นเฉียวอยู่ๆก็รับไม่ไหว

ไม่รอให้เธอแสดงอารมณ์เหล่านี้ออกมาอย่างเต็มที่ คุณแม่เสิ่นม องเธอด้วยสายตาที่ดูประหม่า จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “เดิมทีฉันนึกว่าการให้ลูกแต่งงานเข้าตระกูลเย่คือการทำร้ายลูก นึก ไม่ถึงว่าตอนนี้จะเป็นผลดีต่อลูก เฉียวเฉียว ลูกให้เงินแม่หน่อยได้ มั้ย?”

ความรู้สึกที่ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้น อยู่ๆมันก็หยุดชะงัก เธอจ้องมองคนที่ อยู่ด้านหน้าอย่างเหม่อลอย คุณแม่เสิ่นไอออกมาเบาๆหนึ่งที “ฉันวางแผนว่าจะเปลี่ยนโรงเรียน ให้กับน้องสาวของลูก ให้เธอเรียนอะไรมากกว่านี้ แต่ในบ้านไม่ สามารถที่จะสนับสนุนได้มากมาย ดังนั้นฉันจึงหวังว่าลูก……

“ดังนั้น วัตถุประสงค์ที่แม่มาในวันนี้จริงๆแล้วก็คือสิ่งนี้สินะ?” ในที่ สุดเสิ่นเฉียวก็ยอมที่จะเปิดปากพูด เพียงแต่ว่าเสียงของเธอฟังดูแบบ จนน่ากลัว นํ้าเสียงสั่นเล็กน้อย

“ เฉียวเฉียว ลูกก็อย่าโทษที่แม่พูดสิ่งเหล่านี้ ดูลูกตอนนี้ได้ดีทุก อย่างแล้ว ให้ทุกคนเสวยสุขไปด้วยมีอะไรไม่ดีงั้นหรอ? เดิมทีการ แต่งงานในครั้งนี้เป็นของน้องสาวของลูก วาสนานี้ก็ควรจะเป็นของ น้องสาวของลูก แต่ในวันนี้สิ่งเหล่านี้ก็ให้ลูกไปหมดแล้ว ลูกแต่งงาน แล้วมีชีวิตที่ดีขนาดนี้ ลูกจะช่วยน้องสาวของลูกมันมีอะไรที่ไม่ถูกงั้น หรอ?”

กลัวว่าเธอจะปฏิเสธ คุณแม่เสิ่นเริ่มพูดถึงเธอไม่หยุด

ฉันยังนึกว่า….ครั้งที่แล้วฉันออกมาจากบ้านเป็นเวลานานขนาดนั้น ครั้งนี้แม่จะมาเยี่ยมดูฉันจริงๆ” เสิ่นเฉียวพูดออกมา เบ้าตาของเธอ เริ่มแดงเล็กน้อย “แม่คิดว่าฉันแต่งงานเข้าตระกูลเย่แล้วมีความสุขจริ งๆใช่มั้ย? วันนี้สิ่งที่แม่มองเห็น แม่คิดว่านี่คือสิ่งที่ฉันกำลังเสวยสุขใช่ มั้ย? งั้นแม่เคยคิดบ้างมั้ยว่าฉันจะกินอิ่มรึเปล่า ใช้ชีวิตดีหรือไม่? สิ่ง เหล่านี้แม่เคยถามฉันบ้างมั้ย?”

สามารถแต่งเข้าตระกูลเย่ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของเมืองเป่ย ลูกจะมี ชีวิตที่ไม่ดีได้ยังไง? เสิ่นเฉียว ตอนนี้ลูกมีเงินแล้วเลยอยากไม่สนใจ พวกเราแล้วใช่มั้ย? “ตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองเป่ย?” เสิ่นเฉียวหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่ ทุ้มต่ำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ยหยั่น “ตระกูลเย่คือที่หนึ่งจริงๆ ถ้ามันดีขนาดนี้ ทําไมตอนแรกถึงให้ฉันแต่งงานแทนล่ะ?”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปที่คุณแม่เส็น “แม่ บอกฉันสิ ถ้าตระกูลเย่มันดีขนาดนี้ ทำไมแม่ถึงไม่ให้เสิ่นโย่วแต่งงาน เองล่ะ?”

ทันใดนั้น คุณแม่เสิ่นพูดอะไรไม่ออก เธอจ้องมองเสิ่นเฉียวด้วย ความรู้สึกอึดอัดใจ

“ เฉียวเฉียว แม่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ก่อนหน้านี้แม่ไม่ได้ คิดอะไรเยอะขนาดนั้น ถ้าลูกเป็นเพราะสิ่งนี้แล้วโทษแม่ละก็งั้นแม่ ขอโทษลูกดีมั้ย? เพียงแค่.………

เธอยังพูดไม่จบ เสิ่นเฉียวก็พูดขัด

“เป็นลูกสาวของแม่เหมือนกัน แต่เป็นเพราะว่าฉันเคยหย่า แม่เลยให้ ฉันแต่งงานแทนเธอเข้าไปในตระกูลเย่ ในตอนนั้น…ในใจของแม่คิด ทำเพื่อให้ฉันได้ดีจริงๆ หรือไม่ใช่ว่าให้ฉันไปรับเคราะห์รับกรรมแทน เงินโย่วรึไง?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ