บทที่32 บนร่างกายของเธอมีตราประทับของฉัน
“อู!”
ริมฝีปากถูกคว้าไว้แน่น
ริมฝีปากที่เย็นและแห้งเล็กน้อยของเย่โม่เซินที่ไม่อ่อน โยนแม้แต่น้อยประกบริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธออย่าง
รุนแรง
เสิ่นเฉียวไม่ตอบสนองอยู่นาน เธอถูกเยโม่เซินจูบแล้ว
เพราะอะไร?
เยโม่เซินกดท้ายทอยของเธอ เขาเป็นฝ่ายรุกรอบแล้ว รอบเล่า จูบของเขาระคนไปด้วยความโกรธดังนั้นจึงมีความ หยาบกร้านอย่างชัดเจน
ตั้งแต่เสิ่นเฉียวออกมาจากพี่จิง ทาลิปสติกสีพีชนี้ ตั้งแต่ เธอกัดริมฝีปากล่างเย่โม่เซินก็อยากจะจูบปากแดงนั้น และ เมื่อขึ้นรถเธอยังหลอกล่อท่าทีที่เหมือนเหยียบเรือสองแคมแก่เขา จนถึงภาพที่เธอถูลู่ถูกังอยู่กับ
สุนฉาง
เยโม่เซินถูกกระตุ้นเข้าแล้ว
อยากจะจูบเธอเพียงเพื่อระบายความแค้นในใจเสิ่นเฉียว ก็ยังนิ่ง อดทนต่อความต้องการของเขา เมื่อมองอีกครั้ง เธอเบิกตาโพลงมองไปที่เขาอย่างไม่น่าเชื่อสายตา
เยโม่เซิน ยิ่งโมโห เมื่อต้องรับมือกับจูบของเขาเธอไม่รู้ สึกอะไรเลย
อีกมือหนึ่งเย่โม่เซินจับไปที่เอวของเธอ ดึงร่างของเธอ แบบกึ่งลากกึ่งกอดมาที่หน้าตักของตัวเอง เสิ่นเฉียว เป็น คนตัวเล็ก ไม่ช้าก็ถูกเยโม่เซินลากเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ของเย่โม่เซินอย่างที่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ เธอ ตอบสนองด้วยการยื่นแขนไปคล้องคอเขาแน่น
เสิ่นเฉียว เอนตัวอยู่บนร่างของเย่โม่เซิน ในท่าทางดูมี คลุมเครือ
คนขับรถกับเซียวซูเห็นฉากเหล่านี้อย่างชัดเจน และรู้สึก ว่าอุณหภูมิในรถนั้นร้อนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมี แต่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
เซียวเชียวคิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นภาพเย่โม่ เซินเป็นเช่นนี้
เสิ่นเฉียวที่ตะลึงตั้งแต่แรกจนสุดท้ายถูกเย์โม่เซินนำพา ไปสู่แดนสุขาภิรมย์ มือเองก็กอดคอเขาไว้อย่างไม่ทันรู้ตัว แต่เธอยังไม่รู้ว่าจะหายใจอย่างไร ดังนั้นจึงเหมือนกับถูก เยโม่เซิ้งดึงอากาศหายใจไปจนเกือบหมด ร่างกายหมด เรี่ยวแรงแผ่อยู่บนตัวของเขา
เยโม่เซินสังเกตเห็นสิ่งนี้แววตาเคร่งขรึมอยู่พักหนึ่ง
จึงดึงเธอออก มือของเย่โม่เซินจับคางเธอแน่น
“ไม่เอาอะไร? เธอก็มีความสุขมากนี่นา?”
จูบของเขาเร่าร้อน แต่คำพูดยังคงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เสิ่นเฉียวได้สติกลับมาช้า ๆ มองเห็นสายตาที่อึมครึมของ เยโม่เซินที่อยู่ตรงหน้า เสิ่นเฉียว รู้สึกประหลาดใจกับ ปฏิกิริยาเมื่อครู่ที่ไม่รู้ว่าคืออะไรของตนเอง “ฉัน…”
“อยากไหม?”
ทันใดนั้นเยโม่เซินโนัมตัวเข้าไปที่ข้างหูของเธอและถาม อย่างเย้ายวน
ต่อหน้าดูว่าเขาจะยั่วเย้าเธอ แต่คำพูดที่ฟังดูไม่จริงจัง ของเขานั้นกำลังแทะโลมเธออย่างชัดเจน
เมื่อคิดถึงคำพูดที่เขาพูดกับเธอก่อนที่จะจูบเธอ เสิ่นเฉียว
ก็หน้าซีดเผือดไปไม่น้อย กัดริมฝีปากล่างแน่นไม่พูดอะไร
“สาวน้อย ปฏิกิริยาของเธอบอกว่าเธอพึงพอใจเป็นอย่าง มาก” มือของเย่โม่เซิน ที่วางไว้ที่เอวเขยิบขึ้นข้างบน เสิ่น เฉียวกลับโมโหอย่างฉับพลัน “ปล่อยฉันนะ!”
เยโม่เซินหยุดชะงักด้วยสายตาอันตราย
“ทำไม? เมื่อกี้ที่ล่าสุดฉาง กอดเธอ ก็เห็นมีความสุขมากไม่ ใช้รีไว?”
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่าง: “ตอนไหนที่คุณเห็นว่าฉัน มีความสุข? ฉันถูกบังคับคุณไม่เห็นรึไง? เย่โม่เซิน คุณ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของคนอื่นแบบนี้ คุณมีความสุขงั้นเห รอ?”
เย่โม่เซินสีหน้าเย็นชา เขามองเธอด้วยสายตาที่มีความ เย็นชาซ่อนอยู่
“เธอจำเอาไว้ ต่อให้คนอย่างฉันเย่โม่เซินไม่แยแสเธอ แต่ตอนนี้ร่างกายเธอมีตราประทับของฉัน ก็ห้ามไม่ให้ใคร มาแตะต้องเธอ”
เสิ่นเฉียว : “..”
“ครั้งหน้า ถ้ายังให้ฉันเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นอีก ที่ถูก เหยียบย่ำคาเท้าคงไม่ใช่ศักดิ์ศรีของเธอแน่”
พูดจบเย่โม่เซิน จึงผละจากเธอ ริมฝีปากบางขยับเล็ก น้อย: “ไป”
เสิ่นเฉียวยังคงนั่งอยู่บนตักเขา เมื่อได้ยินที่เขาสั่งให้เธอ ไป ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว ริมฝีปากสั่น
“อย่าลืมว่าเธอเป็นใคร”
เขาประกาศเตือนอีกครั้ง
สุดท้าย เสิ่นเฉียวลดสายตาและไม่พูดอะไร กลับไปนั่งที่ ของตนเองอย่างเงียบเชียบ
เมื่อกลับไปที่นั่งของตนเองแล้วเสิ่นเฉียวเงียบมากเป็น พิเศษ หันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ไม่หันไปมองเย่โม่เซิน สักนิด แต่ลมหายใจกลับแผ่วเบาอย่างชัดเจนจากก่อนหน้า นี้มาก
หลังจากถึงตระกูลเย่แล้ว เซียวซูเข็นเย่โม่เซิน ลงจากรถ ก่อน เสิ่นเฉียวที่มองต่ำเดินตามติด
เย่โม่เซินไม่ได้กลับไปที่ห้อง แต่ไปที่ห้องหนังสือ เสิ่น เฉียวกลับไปที่ห้อง ล้างเครื่องสำอางและอาบน้ำ รอจนเธอ ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเย่โม่เซินก็ยังไม่กลับห้อง เธอ จึงล้มตัวลงนอนก่อน
เมื่อล้มตัวนอนได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือก็สั่นขึ้น
เส้นเฉียวมองดูและพบว่าเป็นข้อความจากหลินเจียง
หลินเจียง: เฉียวเฉียวหลับรึยัง?
เมื่อเห็นข้อความนี้เธอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่หย่าขาด จากกันจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยพูดกับเธอเลยสักคำ วันนี้ที่ เจอกันที่ห้างสรรพสินค้าก็เป็นครั้งแรกที่เจอหลังจากหย่า นกัน
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนั้นที่เขาทำที่ห้างสรรพสินค้า เสิ่น เฉียวหลับตาวางโทรศัพท์และไม่ตอบข้อความ
ผ่านไปครู่หนึ่ง โทรศัพท์มือถือก็สั่นอีก
หลินเจียง: เฉียวเฉียว เรื่องเมื่อค่ำที่ห้างสรรพสินค้าฉันไม่ ได้ตั้งใจจะไม่ช่วยเธอ อันที่จริงเพราะเป่าเอ๋อจะคลอดแล้ว ผมจึงต้องตามใจเธอ ไม่เช่นนั้นจะไม่ดีต่อลูกในท้อง คุณ เข้าใจผมใช่ไหม?
เข้าใจอะไร? แต่ก่อนเสิ่นเฉียวเคยคิดว่าหลินเจียงเป็นคน ดี แต่ตอนนี้กลับคิดว่าต่อให้เขาดีเลิศพอ ก็ไปอยู่กับผู้หญิง คนอื่นแล้ว กวาดเธอออกจากบ้านไปแล้วยังจะถามว่าเธอ เข้าใจเขาใช่ไหม?
หลินเจียง: พรุ่งนี้เราเจอกัน ดีไหม?
เสิ่นเฉียวยังคงไม่ตอบข้อความ แล้วบล็อกรายชื่อของเขา จากนั้นจึงปิดเครื่องนอน
เมื่อเยโม่เซินกลับถึงห้องเสิ่นเฉียวก็หลับไปแล้ว คาดว่า คงจะหนาวจึงได้ห่มผ้าเป็นก้อนกลม ศีรษะมุดอยู่ในหมอน
ใบหน้าเรียวขาวหลับตาสนิท
“คุณชายเย่ ผมช่วยหยิบเสื้อ”
เซียวซู่ก้าวไปข้างหน้าและเดินเข้าไปข้างใน เซียวซู่ไม่ใช่ คนอ่อนโยน เสียงเดินที่ดังเอะอะ
เยโม่เซิน ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดเบา ๆ: “นายช่วยเบา
เสียงหน่อย”
“อ๊ะ?” เซียวซูไม่เข้าใจจึงหันกลับไปมองเขา ด้วยท่าทีที่ ทำอะไรไม่ถูก เสียงนั้นยังคงดัง
เย่โม่เซิน สีหน้าเปลี่ยนไป มองเขาด้วยสายตาเคร่งขรึม “อยากตายรึไง?”
ด้วยน้ำเสียงทุ่ม
เซียวซูตกใจในความเยือกเย็นของเขา แต่ไม่รู้จะทำเช่น ไร มองไปรอบ ๆ มองดูเสิ่นเฉียวที่นอนขดตัวกลมอยู่ที่พื้น เขาจึงได้ตอบสนองกลับมา
ที่แท้เมื่อครู่เสียงเขาดังเกินไป ดังนั้นคุณชายเยถึงได้ โกรธ?
เมื่อเซียวซู่เดินเบาลง เป็นดังคาด เย่โม่เซินไม่โกรธเขา แล้ว เซียวซูจึงได้ถอนหายใจ
ในเวลาที่ทำความสะอาดให้เขานั้น เซียวซ่อดไม่ได้ที่จะ ถาม: “คุณชายเยคิดกับคุณหนูเสิ่น..
“นายคิดจะพูดอะไร?”
“ไม่ ไม่มีอะไรครับ ผมแค่จะบอกว่าคุณหนูเสิ่นกำลังท้อง ให้นอนที่พื้นดูจะไม่ค่อยเหมาะรึเปล่าครับ?”
เมื่อได้ฟัง เย่โม่เซินขมวดคิ้ว: “งั้นก็ยกเตียงของนายให้ เธอไหม?”
เซียวซูสีหน้าตื่นตกใจ ลู่สุนฉางจับไหล่เธอแค่นั้น พูดจา แทะโลมไม่กี่คำก็ยกเลิกสัญญามูลค่ากว่าหมื่นล้าน ถ้าให้เสิ่นเฉียวไปนอนบนเตียงเซียวซู ไม่รู้เขาจะมี ชีวิตอยู่ในอนาคตหรือเปล่า?
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เซียวซู่สั่นเทา “ไม่ ไม่ต้องแล้ว งั้นให้คุณ หนูเสินนอนพื้นต่อไปดีกว่าครับ”
เยโม่เซินกลับเงียบขึ้นมา คิดถึงริมฝีปากนุ่มของหญิง
สาว.
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ