บทที่ 25 ซื้อทั้งห้างสรรพสินค้า
เย่โม่เซินเลิกคิ้ว เซี่ยวซูขยับเข้าไปใกล้เขา เสิ่นเฉียวมอง เห็นริมฝีปากของเย่โม่เซินขยับ สายตาของเซียวซู่เกิด ประกายแห่งความประหลาดใจและมองไปยังเสิ่นเฉียว
สายตาของเซียวซู่ทำให้เสิ่นเฉียวรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็ก
น้อย
เธอไม่คิดเลยว่าหลังจากทำงานในฐานะเลขาให้เขาไม่กี่ วัน จะสร้างปัญหาให้ขนาดนี้
ไม่นานหลังจากนั้นเซียวซู่ก็เดินออกไป เหลือเพียงเย่โม่ เซินกับเสิ่นเฉียวไว้ที่นี่
เสิ่นเฉียวรู้ว่าเธอเป็นคนก่อปัญหานี้ขึ้นมาเอง เธอไม่ได้ คาดหวังจะให้เยโม่เซินมาช่วยแก้ปัญหาอยู่แล้ว
จึงเดินไปตรงหน้าพนักงานแล้วพูดว่า “ขอโทษนะคะ ฉัน ไม่ได้ตั้งใจฟังชุดนี้จริง ๆ ราคาชุดราคาเท่าไหร่ รบกวนทำ สลิปให้ฉันด้วยค่ะ ฉันจะผ่อนจ่ายเป็นงวด”
“ผ่อน?” พนักงานกะพริบตา เธออยากจะตอกกลับแต่ ก็ไม่กล้าเพราะถูกสายตากดดันจากเย่โม่เซิน ทำเพียง แสดงออกทางสายตาว่าไม่เต็มใจ
“ใช่ค่ะ ผ่อน แม้ว่าฉันจะจ่ายเต็มตอนนี้ไม่ได้แต่สักวันจะ ครบงวดแน่นอนค่ะ ช่วยพูดกับเจ้าของร้านให้ทีได้ไหม คะ?”
ไม่ต้องพูดแล้วมั้ง?” ซือฉุนเป่าเดินเข้ามา “ชุดนี้ราคาตั้ง เป็นสิบล้าน ถ้าเธอจะผ่อนจ่ายเป็นงวด ฉันน่ะค่อนข้างรู้จัก เธอดี เงินเดือนของเธอทั้งเดือนต่อให้ไม่กินไม่ดื่มก็มีแค่ หมื่นกว่าบาท คิดเป็นรายปีก็ได้แค่แสนห้า บวกกับดอกเบี้ย รวม ๆ ก็เป็นสิบ ๆ ปี เสิ่นเฉียวสำหรับเธออาจจะคิดว่า มันไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่พนักงานคนนั้นเป็นแค่พนักงาน พาร์ทไทม์ เธอกำลังทำให้เธอลำบากใจรู้หรือเปล่า?
พนักงานร้านกังวลมาก “ฉันโทรเรียกตำรวจมาแล้ว ถ้า เธอมีอะไรอยากจะพูดก็พูดกับตำรวจเอาแล้วกัน!”
เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่าง ใบหน้าเริ่มซีดจาง
“เสิ่นเฉียว คนพิการที่อยู่ข้างเธอไม่ใช่ประธานหรอกเหรอ? เธอขอร้องให้เขาช่วยเธอสิเมื่อกี้ยังแสร้งทำอยู่เลย ทำไมไม่จ่ายคืนเสียล่ะ? น่าข่าจริง ๆ เลย”
“เกิดอะไรขึ้น? ผู้ชายคนนั้นพูดว่าตัวเองคือเย่โม่เซินไม่ใช่ เหรอ? คุณชายสองแห่งตระกูลเย่แม้แต่ชุดแค่ชุดเดียวก็ จ่ายไม่ได้เหรอ?”
“เสแสร้งสินะ”
“แต่ออร่าของเขาได้มากนะ ดูยังไงก็ไม่เหมือนเสแสร้ง”
“ง่ายนิดเดียว คันข้อมูลในเน็ตเร็ว!”
“จริงสิ ข้อมูลของตระกูลเย่ไม่มีทางหาไม่เจอแน่ ๆ รีบหา กันเร็ว
คนพวกนั้นพากันหาข่าวเย่โม่เซินกันหมด เซียวซู่กลับมา แล้ว แต่เบื้องหลังเขามีคนมาด้วยอีกสองสามคน
พนักงานมองเห็นหนึ่งในนั้นก็รีบเดินไปต้อนรับทันที “บอสคะ ในที่สุดคุณก็มา เมื่อกี้มีลูกค้าผู้หญิงท่านหนึ่งทำ ชุดพัง ฉัน…”
เจ้าของร้านไม่สนใจเธอ เขาเดินตรงไปหาเย่โม่เซิน แล้ว โค้งหัวเหมือนต้องการคำนับเขา “คุณชายเย่จะมาที่ร้าน ทำไมไม่บอกก่อนล่ะครับ? ผมจะได้เตรียมคนคอยบริการ ให้ดี ๆ”
คนรอบตัวตกใจ
ชื่อจีนเป่ากะพริบตาด้วยความประหลาดใจ ยังไม่เข้าใจ กับสถานการณ์ตรงหน้า
“ร้านของคุณ?” เย่โม่เซินเงยหน้าขั้นมองเขาอย่างเย็นชา
เจ้าของร้านตกใจจนขาสั่น เซียวซู่ก้าวไปข้างหน้ามอบ สัญญาให้กับเย่โม่เซิน “คุณชายเย่ สิ่งที่คุณสั่งซื้อได้แล้ว ครับ”
เยโม่เซินพยักพเยิดไปอีกทางหนึ่ง เซียวซู่พยักหน้า เอา สัญญาฉบับนั้นยื่นให้เสิ่นเฉียว
“คุณชายเยซื้อห้างสรรพสินค้านี้แล้วครับ ภายใต้ชื่อของ คุณหนูเสิ่น นี่คือทรัพย์สินของคุณหนูเสิ่นและคุณหนูเสิ่น เป็นเจ้าของทั้งหมด”
ริมฝีปากเผยอออก ดวงตาก็ไม่รู้จะไปจ้องมองที่ไหน
คนรอบข้างตกใจ!
“ซื้อทั้งห้าง? ที่นี่คือทำเลทองของเมืองเป่ยเลยนะ!”
“เมื่อกี้ใครบอกว่าเขาเสแสร้ง? แล้วยังบอกว่าเขาจ่ายไม่ ไหวอีก!”
“ผู้หญิงท้องแก่นั่นดูเหมือนจะเป็นเศรษฐีใหม่ คิดว่ามีเงิน สักเท่าไหร่กันเชียวถึงทำตัวแย่แบบนี้”
“ฟังจากเสียงที่เคยพูดมาเหมือนจะเคยเป็นเมียน้อยหรือ เปล่า? แล้วทำไมถึงกลายมาเป็นคนแบบนี้? ทั้งสามคนเป็น แบบนี้กันหมดเหรอ? เป็นโลกนี้ที่เปลี่ยนไปหรือฉันที่จิตใจ ไม่โอเค?
สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยที่ชื่อจีนเป่าไม่ทันได้ตั้งตัว
โอกาสดี ๆ ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ซื้อจีนเป่าตั้งใจจะยกระดับ ตัวเองให้ดีขึ้น แล้วคนที่ซวยในวันนี้จะได้เป็นเสิ่นเฉียวที่ หาเงินมาจ่ายค่าชุดไม่ได้
แต่ผู้ชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์นั่นดันเป็นคุณชายสองของ ตระกูลเย่ตัวจริง!
“คุณหนูเสิ่น รีบรับไปเถอะครับ” เซียวซู่เห็นว่าเสิ่นเฉียวยัง คงเอาแต่ยืนงง จัดการยัดสัญญาฉบับนั้นใส่มือเธอ
เสิ่นเฉียวมึนงง ถ้าหากเย่โม่เซินเป็นคนเลือดเย็น แล้ว ทำไมเขาต้องซื้อทั้งห้างสรรพสินค้านี้ให้กับเธอ?
หลังจากที่เซียวซูวางสัญญาใส่มือของเสิ่นเฉียว จิตใต้สำนึกของเธอก็บอกให้หันไปมองที่เยโม่เซิน
เยโม่เซินเงยหน้า เขายื่นมือออกไปตรงหน้าเสิ่นเฉียว
“มานี่”
เสียงของเขาเหมือนสามารถสะกดจิตคนได้จนทำให้เสิ่น เฉียวเดินไปอยู่ตรงหน้าเขาจริง ๆ เย่โม่เซินคว้ามือเธอไว้ พร้อมกับสายตาส่องประกายที่ส่งมาให้
“เฉียวเฉียว ตั้งแต่นี้ต่อไปทั้งห้างสรรพสินค้านี้เป็นของ เธอ ถ้าเธอไม่อยากจะเห็นหน้าคนพวกนี้เธอจะไล่พวกเขาออกไปก็ย่อมได้
เสียงของเย่โม่เซินนั้นลึกล้ำ เขาจงใจลดน้ำเสียงลงเพื่อ เรียกชื่อของเธอ ราวกับต้องมนต์
เสิ่นเฉียวพยักหน้ารับรู้ เธอรู้สึกว่าจิตวิญญาณของตัวเอง เหมือนไร้ความรู้สึกแล้วถูกดึงดูดเข้าไป
“อื้อ”
เมื่อสติของซื้อจีนเป่ากลับมาเธอก็วิ่งไปข้างหน้า “เป็นไป ได้ยังไง? ซื้อทั้งห้างสรรพสินค้า?” “นี่เธอล้อฉันเล่นเหรอ เสิ่นเฉียว?”
เธอคิดว่าแค่หลินเจียงถูกลอตเตอรี่ก็รวยพอแล้ว ไม่ง่าย เลยที่เธอจะสามารถอยู่เหนือกว่าเสิ่นเฉียว แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าผู้ชายคนใหม่ของเสิ่นเฉียวเพียงแค่พริบตาเดียวก็ซื้อทั้ง ห้างสรรพสินค้ามาให้ได้
ท่าทางเอาแต่ใจของเธอทำให้เสิ่นเฉียวตกใจ เยโม่เซิน จับข้อมือเธอแล้วดึงให้มาอยู่ด้านหลัง “เซียวซู่”
เซียวซู่ก้าวไปข้างหน้าใช้แขนกั้นเอาไว้
“พี่คนนี้ ถ้าคุณยังก้าวเข้ามาอีกผมจะโทรเรียกตำรวจ ทันที คุณจะถูกตั้งข้อหาคุกคาม โจมตี และหมิ่นประมาทผู้ อื่น!”
“นาย นายเรียกฉันว่าอะไรนะ?” ซื้อฉีนเป่าเจ็บใจกับคำที่ เขาใช้เรียกเธอ หลินเจียงรีบก้าวไปข้างหน้าเมื่อเห็นว่าเธอ ก้าวถอยกลับมา “เป่าเอ๋อ เรากลับกันเถอะ”
“ฉันไม่ไป คุณได้ยินที่มันเรียกฉันไหม? ปีนี้ฉันเพิ่งจะอายุ
ไม่เท่าไหร่ มันยังกล้า…”
ไปเถอะน่า!” หลินเจียงรู้ว่าต่อกรกับพวกเขาน่ะไม่ใช่ เรื่องง่ายจึงทั้งดึงทั้งกอดซื้อจีนเป่าออกจากตรงนั้นอย่าง รวดเร็ว
กลุ่มผู้คนรอบข้างก็ค่อย ๆ สลายไป ส่วนพนักงานยังคง เอาแต่ยืนสั่นไม่ขยับไปไหน
“ซวยแล้ว ถ้าเธอรู้ตั้งแต่แรกว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คน ธรรมดาทั่วไป เธอก็คงไม่ทำตัวแบบนั้นกับเสิ่นเฉียว และ หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมา
พนักงานเกิดขาอ่อน ล้มกระแทกลงกับพื้นเย็น
เซียวซู่เย้ยหยันแล้วเดินเข้าไปหาเธอ
“คุณหนูคนนี้ เราดูกล้องหมดแล้ว เป็นคุณที่ล้มแล้วคว้า ชุดไว้จนขาด ชุดนี้ตามที่คุณบอกไว้ราคามากกว่าสิบล้าน ดังนั้น คนที่ต้องจ่ายค่าเสียหายคือคุณ”
พนักงานเหงื่อออก
เธอจะไปหาเงินเป็นสิบล้านจากที่ไหน?
พนักงานตกตะลึงอยู่เป็นนานสองนานจู่ ๆ ก็คลานไปอยู่ แทบเท้าเย่โม่เซิน
“คุณชายเย่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะคะ เป็นเธอ!” พนักงาน ชี้ไปที่เสิ่นเฉียวด้วยตาเบิกกว้างแล้วกล่าวหาเสิ่นเฉียว “เธอทำให้ฉันล้ม ฉันเลยต้องคว้าชุดเธอไว้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ จริง ๆ นะคะ คุณชายเย่.ได้โปรดยกโทษให้ฉันนะคะ!”
“เฉียวเฉียว เธอจะเอายังไง?”
เสียงนุ่มทุ้มของเย่โม่เซินดังขึ้น ทำเอาเสิ่นเฉียวงงงวย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ