บทที่147 ปล่อยฉันกับลูกไป
บทที่147 ปล่อยฉันกับลูกไป
เมื่อพูดจบ มือของเย่ไม่เซินก็ฉีกชุดนอนที่เธอเพิ่งใส่อย่าง รุนแรง
“อ๊าย!” เสิ่นเฉียวอุทานออกมา ร่างเล็กของเธอสั่นเทาไม่ หยุดอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยความกลัว สายตามองตามมือ ของเย่โม่เซินที่เริ่มเคลื่อนไปตามร่างกายของเธอ เธอนึกถึง วันที่มืดมิดเมื่อเช้าและมันยังคงปวดร้าวอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ถ้าหากว่าเขาทำแบบเมื่อเช้า…
ไม่…ไม่เอา!” เสิ่นเฉียวคว้ามือใหญ่ของเขาที่สะเปะสะปะ ด้วยน้ำเสียงที่กำลังจะร้องไห้: “คุณอย่าทำกับฉันแบบนี้!”
ถ้าหากว่าทำการอย่างเร่าร้อนและรุนแรงอย่างเมื่อเช้า เสิ่น เฉียวไม่กล้าจะรับประกันว่าจะยังรักษาลูกของเธอเอาไว้ได้ หรือไม่!
เย่โม่เซินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยาที่รุนแรงของ
เธอ เขาเพิ่มแรงที่บีบจับบนตัวเธอและแววตาที่เย็นยะเยือก ทำไมล่ะ ไปทำอะไรผิดมา ไม่กล้าให้ฉันตรวจสอบเหรอ?”
เสิ่นเฉียวสำลัก: “เย่โม่เซิน เมื่อเช้าฉันไปโรงพยาบาลมา
ได้ยินอย่างนั้น เย่ไม่เซินเลิกคิ้ว
“ฉันทำเรื่องอย่างว่ากับคุณไม่ได้ ถ้าไม่อย่างนั้น…เด็กอาจจะ หลุดได้”
สีหน้าที่เย็นชาเป็นทุนเดิมของเย่ไม่เซิน เมื่อได้ยินเธอพูดถึง เด็ก ทันใดนั้นแววตาของเขาก็แตกละเอียด มือเขายิ่งเพิ่มแรง และกัดฟันกรอด: “เธอยังกล้าพูดถึงเด็กกับฉันอีกเหรอ? ก็เป็น เพียงก้อนเนื้อเท่านั้น ตอนแรกก็ต้องการจะให้เอาออกอยู่แล้ว เธอคิดว่าฉันจะปกป้องเด็กคนนั้นรึไง?”
แควก——
ชุดนอนของเงินเฉียวถูกดึงจนขาด
แววตาแห่งความสิ้นหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของเสิ่นเฉียว เธอดึงแขนเสื้อของเย่โม่เซิน “ไม่เอา ก่อนหน้านี้คุณรับปาก ชัดเจนว่าจะเก็บเด็กไว้
เธอมีน้ำตาคลอและตอนนี้เธอมองขึ้นไปที่เย่โม่เซิน ที่ขอบ ตาของเธอเหมือนทะเลสาบที่แสนเย็นสบาย แต่ดวงตาของ เธอมัวหม่นและแดง
เย่โม่เซินนิ่งไปพักหนึ่ง เกิดความรู้สึกใจอ่อนในใจไม่น้อย
อย่างประหลาด
ทันใดนั้น เขายกมุมปาก: “ได้สิ ขอฉัน”
เสิ่นเฉียวไม่พูดอะไร
เย่โม่เซินยั่วเธอ: “ขอฉัน ฉันจะปล่อยเธอกับเด็กนั่น”
เสิ่นเฉียวจ้องมองเขานิ่ง ๆ แต่น้ำตาก็ยังกลั่นตัวออกมาจาก
ปลายหางตา
“แค่เพียงขอร้องคุณ คุณก็จะปล่อยฉันไปงั้นเหรอ?”
เธอไม่ค่อยจะเชื่อใจ เพราะเย่ไม่เซินเอาแน่เอานอนไม่ได้ เธอกลัวว่าถ้าหากว่าเธอขอร้องไปแล้วเขาจะกลับคำทีหลัง
แต่ถ้าเธอไม่ทำ แม้แต่โอกาสสักนิดก็ไม่มี แพทย์ให้พูดกับ เธออย่างชัดเจนแล้ว ถ้าหากว่าคืนนี้เย่ไม่เซินยังจะทำกับเธอแบบนั้น….
คงจะไม่สามารถเก็บเด็กไว้ได้
ถ้างั้นจะขอแล้วค่อยคุย
สุดท้าย
คำพูดของเย่ไม่เป็นไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้
ใบหน้าของเส้นเฉียวภายใต้แสงไฟนั้นซีดขาวลงไปมาก มือ ของเธอจับมือของเย่โม่เป็นแน่นมาก จากนั้นจึงพูดขึ้นเบา ๆ “ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันขอคุณปล่อยฉันไปสักครั้ง ปล่อยฉันกับ ลูก ฉันขอร้องคุณ!”
ทันใดนั้นม่านตาของเย่ไม่เป็นก็หดลง
ในที่สุดเธอก็เอ่ยปากขอร้องเขาจริงๆ
เพราะต้องการจะเก็บก้อนเนื้อปั่นไว้ ตอนเช้าเขาให้เธอ จัดการกับเอกสารกองใหญ่เธอไม่บ่นสักคำ ในห้องประชุมถูก คนอื่นว่าร้ายเธอก็ไม่ว่าอะไร แต่ตอนนี้กลับขอร้องเขาเพื่อเด็ก ไม่มีพ่อนี่?
เย่โม่เซินหัวเราะเยาะออกมา
“หญิงสองผัว ฉันควรจะบอกว่าเธอโง่หรือคลั่งรักดี? หย่าก็ หย่าแล้ว เธอยังจะเก็บเด็กไว้เพื่อผู้ชายคนนั้น? คิดว่าจะมีสัก วันที่จะได้กลับไปอยู่ข้าง ๆ มันรีไง?”
เมื่อเขาพูดประโยคหลังน้ำเสียงของเย่ไม่เซินก็รุนแรงขึ้น ทันใดและสัมผัสแห่งความโกรธก็ผุดขึ้นรอบตัวเขา
พูดถึงหลินเจียงอีกแล้ว
เธออยากจะตะโกนใส่เย่โม่เซิน เด็กในท้องของเธอไม่มี ความสัมพันธ์อะไรกับหลินเจียงเลยสักนิดเดียว
แต่ว่า…เธอก็คิดถึงคำพูดของหานเส่โยว
สูทนั่นเป็นของเย่หลิ่นหาน!
พี่ชายคนโตของเย่ไม่เซ็น เย่หลิ่นหาน
หรือว่า…เด็กในท้องจะเป็นลูกของเย่หลิ่นหาน
เงินเฉียวหลบสายตาและคิดถึงเรื่องราว เย่โม่เซินกลับคิดว่าเขาพูดทิ่มแทงได้ตรงจุดจึงเงียบไป ด้วยท่าทึกล้ำกลืนฝืน ทนอย่างนั้นทำให้เขายิ่งเห็นแล้วยิ่งโมโห
“เพื่อผู้ชายประเภทนั้น เธอทำได้ถึงขนาดนี้ ….
เย่ไม่เซินปล่อยมือจากเธออย่างรวดเร็ว ใบหน้าแสดงความ ขยะแขยงและน้ำเสียงที่เย็นชา “เห็นหน้าเธอแล้วหมดอารมณ์ ไสหัวไป”
ถึงแม้ว่าได้ฟังคำพูดนี้แล้วมันจะทำร้ายจิตใจ แต่เสิ่นเฉียว กลับรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ปล่อยเธอ เจ้าตัวน้อยในท้องจะยัง
ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว
ดังนั้นเสิ่นเฉียวจึงเซถอยหลังไปหนึ่งก้าวและจับมุมโต๊ะไว้
จากนั้นเธอเดินไปยังที่ของเธอ
สายตาที่จ้องมองของเย่โม่เซินที่ด้านหลัง เขาจ้องมองไปที่ ด้านหลังของเธอเหมือนนกเหยี่ยวเหมือนหนามแหลมคมก่อน ที่จะเดินเคลื่อนตัวไป
เสิ่นเฉียวหลบเข้าไปในผ้าห่มของเธอ ตัวและปากยังคงสั่น
เทา
ใช้เวลาอยู่นานกว่าเธอจะสงบลง จากนั้นก็พบว่ามือเท้าของ เธอเย็นเฉียบ
โชคดี คืนนี้เธอหนีรอดมาได้
เสิ่นเฉียวหลับตาหวังว่าตัวเองจะสามารถนอนหลับได้ แต่ทั้ง คืนนั้นก็ผ่านไปอย่างสะเปะสะปะ ในหัวของเธอ ในความฝันมี แต่คำพูดของหานเส่โยววนเวียน และไปหน้าของเย่หลิ่นหาน
อีกทั้งลมหายใจหนักของผู้ชายคนนั้นในคืนที่ฝนตก
ทันใดนั้นเสิ่นเฉียวก็ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอลืมตาขึ้น
และเห็นว่าบริเวณโดยรอบสว่างแล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พบว่ามันเช้าแล้ว
ที่แท้ค่ำคืนได้ผ่านไปแล้ว
เสิ่นเฉียวเก็บผ้าห่มและลุกขึ้น เย่โม่เซินยังพักผ่อนอยู่ เธอ ทำความสะอาดอย่างรวดเร็วและลงไปข้างล่าง ในเมื่อนอนต่อ
ไม่หลับแล้วสู้ไปทำงานดีกว่า
เพียงแต่เธอไม่คิดว่าก่อนออกจากบ้านจู่ ๆ จะเจอเย่หลิ่นหาน
“น้องสะใภ้ ทำไมตื่นเช้าจัง?”
เมื่อเย่หลิ่นหานเห็นเธอเขายังคงทักทายเธออย่างอบอุ่น
ครั้งนี้ที่เสิ่นเฉียวได้พบเย่หลิ่นหาน อารมณ์และความรู้สึก ของเธอต่างไปจากเดิม
ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่พบเย่หลิ่นหาน เธอคิดและพยายามไม่ อยู่ใกล้เขาจนเกินไป เพื่อไม่ให้เขาต้องมีปัญหาไปด้วย
แต่ว่าตอนนี้เจอกับเย่หลิ่นหาน เสิ่นเฉียวคิดถึงคำพูดที่หาน
เส่โยวพูดกับเธออยู่ตลอด จากนั้นเธอมองไปที่ชายหนุ่มที่ยิ้ม ให้เธออย่างอบอุ่นที่ตรงหน้า ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่สามารถ
คิดว่าผู้ชายในคืนนั้นคือคนเดียวกันกับเขาได้เลย
มันจะเป็นคนคนเดียวกันได้ยังไง? ?
พี่ชายของเส่โยวจะผิดหรือเปล่านะ?
หรือบางทีเธอจะเป็นคนฟังผิดเอง?
“น้องสะใภ้?” เย่หลิ่นหานเห็นสีหน้าเธอไม่ดี อีกทั้งยังยืนมอง หน้าเขาเฉย ๆ อย่างนั้น “เป็นอะไร? ใจลอยคิดเรื่องอะไรอยู่ เหรอ?”
ได้ยินอย่างนั้น เสิ่นเฉียวจึงได้สติ เธอรีบก้มหน้าเพื่อระงับ
อารมณ์ของเธอ
“ขอโทษค่ะพี่ใหญ่ เมื่อคืนฉันนอนหลับไม่ค่อยสบาย ก็เลย
สับสนเล็กน้อย
เย่หลิ่นหานได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้าเล็กน้อย: “ที่แท้ก็หลับไม่ ค่อยสบาย ถึงว่าหน้าตาดูไม่ค่อยดี รอยคล้ำใต้ตาก็เข้มมาก”
เสิ่นเฉียวยิ้มอย่างลำบากใจ
“ถ้างั้น เธอกินข้าวเช้ารึยัง?” เย่หลิ่นหานมองเข้าไปข้างใน และยิ้มเล็กน้อย: “ตื่นเช้าขนาดนี้ คนงานคงจะเตรียมอาหาร
เช้าให้ไม่ทันหรอกมั้ง?”
เสิ่นเฉียวส่ายหน้า: “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็ไม่หิว”
“ฉันพาเธอไปนะ”
เสิ่นเฉียว:
“ไปเถอะ อยู่ใกล้ ๆ ออฟฟิศเรา ที่นั่นอาหารเช้าอร่อยนะ”
ตอนแรกเสิ่นเฉียวอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องของตัว เองแล้ว เธอจึงตัดสินใจไปกับเย่หลิ่นหานสักรอบ
ในเมื่อหานเส่โยวพูดแบบนั้นแล้ว เธอรู้สึกว่า…ต้องทดสอบ
ความจริงสักครั้ง
“ค่ะ”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า เธอลืมสิ่งที่เย่ไม่เซินกำชับเธอไว้หมด
แล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ