บทที่132 ผมจะสนองให้
หลังจากที่ทั้งคู่เงียบใส่กันพักใหญ่ เยโม่เซินก็ยิ้มเย็นแล้วปล่อยตัว
เธอ
“ได้ ถ้าเกิดคุณต้องการ ผมก็จะสนองให้
พูดจบ เยโม่เซินก็ผลักเธอออก เสิ่นเฉียวเซไปด้านหลังเล็กน้อย มองเขาด้วยความตกใจ
“ผู้หญิงที่มีแผนการในใจ ผมเองก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยเหมือนกัน” คำพูดของเขาเต็มไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันในที ริมฝีปากของเยโม เซ็นยกยิ้มหยันขึ้น เขามองเธอด้วยสายตาเหยียดหยามอย่างไม่ ปิดบัง “แต่เพราะลีลาของคุณก็ไม่ได้แย่ ถ้าคุณไม่เต็มใจ ต่อไปก็ อยู่ให้ห่างจากผมก็แล้วกัน”
ฉันเข้าใจแล้ว”
เธอรูดซิปกระโปรงให้เรียบร้อย ก่อนจะออกไปจากห้องเธอมอง สูทที่ตกอยู่บนพื้น “ฉันขอยืมสูทของคุณหน่อยได้ไหมคะ? ตอน เย็นกลับบ้านแล้วฉันจะคืนให้” “ในฐานะ?” เปโม่เซินกระตุกยิ้ม “ขอร้องผมสิ บางทีผมอาจจะ
ลองคิดดู”
ช่างมันเถอะ
เสิ่นเฉียวหมุนตัว แล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน ตอนที่กลับมาถึง โต๊ะของตัวเอง ใจของเธอยังคงเต้นแรงไม่หยุด
ประโยคนั้นของเย่โม่เซิน แต่เพราะคุณลีลาก็ไม่ได้แย่ มันยังคง
ห้องอยู่ในหูเธอ
ที่แท้เขาก็แค่ชอบร่างกายของเธอเท่านั้น
แต่ก่อนหน้านี้เธอกลับคิดว่า…. เขามีใจให้เธอ
ตอนนี้มาคิดอีกที ทำไมเธอถึงได้โง่ขนาดนั้นกันนะ? มีความคิด แบบนี้ได้ยังไงกัน?
ต่อให้พระอาทิตย์ขึ้นจากทางทิศตะวันตก เธอก็ไม่ควรที่จะมีความ คิดแบบนี้ถึงจะถูก
ซิปด้านหลังกระโปรงมันเสีย ก็เลยรูดขึ้นไม่ได้ เธอเองก็ออกไปไม่ ได้เยโม่เซินก็ไม่ยอมให้เธอยืมสูทของเขา เสิ่นเฉียวเลย ทำได้แต่นั่งเหม่ออยู่ตรงโต๊ะของตัวเอง
ครูใหญ่ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก
เงาของร่างๆหนึ่งเดินออกมาด้วยท่าทางลับๆล่อๆ แล้วมองไปรอบๆ
เสิ่นเฉียวพอได้ยินเสียงก็เลยหันไปมอง ที่แท้ก็เป็นผู้หญิงที่ชื่อ เสี่ยวเหยียนแผนกการเงินนี่เอง
เธอมาทำอะไรกัน?
ตอนกำลังคิด เสี่ยวเหยียนก็เธอมาด้วยแววตาแข็งกร้าว แล้วรีบ
เดินมาหา
มาหาเราเหรอ?
“นี่” เสี่ยวเหยียนรีบเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ มองไปรอบๆอีก ครั้ง พอเห็นว่าตรงนี้มีแค่พวกเธอสองคน เลยพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจ “เงินก้อนนั้นเธอใช้หรือยัง?”
เงินก้อนนั้น? เสิ่นเฉียวคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเที่ยงของวันนี้ พลันส่าย หน้า “ยังไม่ได้ใช้ค่ะ” “ไม่ได้ใช้? ไม่ใช่ว่าเธอต้องไปคุยงานหรือไง? ทำไมถึงยังไม่ได้ ใช้? นี่เธอหลอกฉันหรือเปล่าเนี่ย?”
ตั้งแต่ที่เธอให้เงินหมื่นก้อนนั้นกับเสิ่นเฉียวไป เสี่ยวเหยียนก็ไม่ สบายใจเลยทั้งคืน เธอมัวแต่กังวลว่าเสิ่นเฉียวจะไม่ยอมคืนเงิน กลัวว่าพอถึงเวลาแล้วเธอกับฟอจะต้องตกที่นั่งลำบากในบริษัท
บริษัทตระกูลเปก็ไม่ต่างอะไรกับบริษัทเล็กอื่นๆ ที่บริษัทตระกูลเย่ ถ้าเกิดว่าทำผิดขึ้นมาก็ต้องโดนไล่ออก
พอถึงตอนนั้น ยังจะมีบริษัทไหนกล้ารับพวกเธออีก
เพราะฉะนั้นเสี่ยวเหยียน ก็เลยต้องรีบมาถามดูว่าเสิ่นเฉียวได้ใช้ เงินไปหรือยัง จะได้ให้เธอรีบเอาใบเสร็จมา
“ฉันไม่ได้หลอกใคร ก็แค่เมื่อตอนกลางวันมีเหตุสุดวิสัยนิดหน่อย แต่ว่า…” เสิ่นเฉียวลองคิดดู คิดว่าเงินก่อนนี้ ตอนนี้คงไม่จำเป็น ต้องใช้แล้ว แถมอีกฝ่ายก็ดูรีบร้อนขนาดนี้ เสิ่นเฉียวเลยคิดว่าน่าจะ คืนเงินเธอไปก่อน อีกฝ่ายจะได้สบายใจ
ดังนั้นเธอก็เลยเปิดกระเป๋า แล้วก็หยิบบัตรใบนั้นออกมา
“ของคุณค่ะ” บริษัทตระกูลเปรีบยื่นมือออกใบรับ เธอลองตรวจอีกทีเพื่อความ มั่นใจ “ไม่ได้ใช้เลยจริงเหรอ?”
เส้นเฉียวพยักหน้า “อือ ตอนกลับไป คุณลองเช็คดูก็ได้”
“โอเค เดี๋ยวฉันลองกลับไปดู ถ้าเกิดเธอกล้าโกหกฉันล่ะก็ ฉัน จาง เสี่ยวเหยียน ไม่ได้กินหญ้าหรอกนะ”
พอพูดจบ เธอก็ทำท่าจะเดินไป แต่ว่ากลับเห็นว่าเสื้อผ้าของเสิ่น เฉียวดูหลวมแปลกๆ เธอเลยถามขึ้นอีกครั้ง “ชุดของเธอมันเป็น อะไร?”
หลังจากที่ได้ยินเธอถาม เสิ่นเฉียวก็รีบเอื้อมมือไปจัดเสื้อให้ เรียบร้อย แต่เสี่ยวเหยียน กลับมองมาด้วยสายตาเหยียดๆ “อย่า บอกนะว่า ที่เธอแต่งตัวแบบนี้เพื่อที่จะยั่วประธานเย่?”
“…ไม่ใช่แบบที่คุณคิดนะคะ!”
“อ้อ งั้นเหรอ?”
เสิ่นเฉียวกัดปากอย่างอายๆ เธอพูดขึ้นด้วยความอาย “คือซิปของ ฉันมันเสียค่ะ มันรูดขึ้นไม่ได้” เสี่ยวเหยียนเชื่อว่าเธอพูดจริง ก็เลยรีบเข้ามาดู “ฉันช่วยดูให้ เอ๊ะ เสียจริงๆด้วย? เดี๋ยวสิ คงไม่ใช่เพราะเธอตั้งใจทำให้ชิปพังหรอกใช่ ไหม?
.” เธอพยายามดึงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วไม่ได้ตอบอะไร
เสี่ยวเหยียนอีก
เสี่ยวเหยียนเห็นว่าสีหน้าเธอไม่ค่อยดี เธอเลยถอดสูทสีขาวบนตัว ของตัวเอง “อย่างนั้นฉันก็ใจดีให้เธอยืมสูทก่อนก็ได้”
เสิ่นเฉียวซะงัก
“คะ? ไม่เป็นไรหรอกค่ะ?” เสี่ยวเหยียนทำท่าเหมือนกำลังจะเอา สูทกลับไป เสิ่นเฉียวก็เลยรีบยื่นมือไปรับไว้ “ขอบคุณค่ะ”
ได้ยินว่าเธอขอบคุณ เสี่ยวเหยียนก็ทำหน้าเป้ “ใครอยากได้คำ ขอบคุณจากเธอกัน? ฉันก็แค่ไม่อยากเห็นเธอสวมเสื้อผ้าแบบนี้ แล้วนั่งสร้างความรำคาญให้คนอื่นแค่นั้นแหละ! หี”
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนไปแล้ว เสิ่นเฉียวก็หยิบสูทขึ้นมามอง
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังมีคนใส่ใจเธออยู่ ภายนอกเสี่ยวเหยีย นอาจจะดูร้ายๆ แต่ว่าความจริงแล้วเธอก็นิสัยดีไม่น้อย อยู่ๆเสิ่นเฉียวก็ยกยิ้มขึ้น
วันนั้นตอนเย็น หานเส่โยวพออาบน้ำเสร็จแล้ว เธอก็รีบไปดูที่ห้อง ข้างๆว่าหานชิงอยู่ไหม แต่กลายเป็นว่ากลับถูกคนใช้กันไว้ตรง
ประตู
“คุณเส่โยว นายหานกำลังอาบน้ำอยู่ ไม่ทราบว่ามาหาท่านมี
อะไรหรือเปล่าครับ?”
ฟังจบ หานเสโยวมองค้อนกลับไป “ฉันก็แค่มีเรื่องอยากจะพูด กับพี่ชาย คนใช้แบบนายมีสิทธิ์มาถามฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? หรือ ฉันจะมาหาพี่ชายฉันไม่ได้หรือไง?”
ความร้ายกาจของหานเสโยวดังมากในหมู่คนรับใช้ คนๆนั้นพอ โดนเธอดุเข้าแบบนี้ ก็ก้มหลุบตาลงแล้วพูดขึ้นเสียงเบา “คุณเส่โยว ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นครับ ผมก็แค่ต้องการจะบอกคุณเส่ โยวเฉยๆว่านายหานกำลังอาบน้ำอยู่ ถ้าตอนนี้คุณเส่โยวเข้าไป อาจ จะทำให้นายหานไม่พอใจได้”
“ยุ่งอะไรด้วย? และต่อให้พี่ชายของฉันโมโห ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับ นายเสียหน่อย” หานเส่วพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “ยังไม่รีบหลบ ไปอีก!” คนรับใช้ไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบหมุนตัวเดินจากไป
รอให้คนๆนั้นเดินลับไปแล้ว หานเส่โยวก็สูดหายใจเข้า แล้วก็ผลัก ประตูห้องเข้าไป
อาบน้ำก็อาบน้ำสิ เธอก็แค่รอพี่ชายออกมาก็จบแล้ว เสร็จแล้วค่อย ถามพี่ซายว่าตรวจสอบเรื่องของเสิ่นเฉียวไปถึงไหนแล้ว
หานเสโยวคิดไปพลางแล้วก็เดินเข้าไปในห้อง แถมเธอยังสวมชุด
นอนลายการ์ตูนน่ารักด้วย
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่หานเส่โยวเข้ามาในห้องของหานชิง ห้องของ หานซิงก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเขาเลย สีของห้องเป็นสีโทนเย็น สีขาว แซมสีโทนเย็น ในความเรียบง่ายก็มีความเคร่งขรึมอยู่ในนั้นด้วย แค่เดินเข้ามาในห้องก็ยังไม่สามารถรับรู้ถึงความผ่อนคลายได้เลย
มีใครเขาทำให้ห้องนอนเป็นแบบนี้กันบ้าง? หานเส่โยวคิดอยู่ในใจ อย่างเซ็งๆ หานซิงนี่เป็นคนที่ประหลาดจริงๆ
ในห้องน้ำมีเสียงน้ำที่ตกลงกระทบกับพื้นดังอยู่
หานเสี่ยวมองไปรอบๆ อยู่ๆสายตาของเธอก็เจอเข้ากับกระเป๋า เอกสารที่ตั้งอยู่ข้างๆ โต้ะหัว เตียง ข้างๆยังมีซองเอกสารที่ทำมาจาก หนังวัวสีน้ำตาลวางอยู่
อาจจะเป็นเอกสารที่เธอขอให้พี่ชายตรวจสอบให้?
คิดถึงตรงนี้ หานเสโยวก็เดินไปหยิบซองเอกสารอันนั้นขึ้นมา อยากจะเปิดมันออก
ถ้าเกิดเปิดออกเลย พี่ชายพี่จะโมโหหรือเปล่านะ?
แต่ว่า…เพราะความสงสัยมันกำลังเร่งเธอ หานเส่โยวบอกกับตัว เอง ขอแค่แอบดูนิดเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วเธอจะรีบวางคืนให้แล้ว ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
พอคิดได้ หานเสี่ยวก็แกะซองเอกสารหนังนั่นออก แล้วหยิบ เอกสารด้านในออกมา
ตอนแรกที่ใจเธอเต้นแรงเป็นเพราะว่าเธอก็แค่กังวล แต่ตอนนี้หลัง จากที่เห็นข้อความบนเอกสาร ดวงตากลมก็ถึงกับเบิกโตขึ้นมา
ทำไม….ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ