บทที่ 125 คว่ำไหน้าสัมสายชู
เธอผอมมาก ร่างบางถูกห่อหุ้มด้วยกระโปรงสีฟ้าอ่อน ผิวที่ขาวนวลของ เธอขับให้กระโปรงดูสวยแบบไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ผมที่ยาวจนถึงเอว ตกลงมาอยู่ด้านข้าง อวัยวะบนใบหน้าที่เป็นมิติถูกแสงไฟในสนามบินสาด ส่องจนทำให้ดูอ่อนโยนมาก
มีท่าทีของคนสวยตามยุคสมัยหมุนเวียนอยู่รอบตัวเธอ และในความทรง จำของหานชิงมีร่างของใครบางคนมาวางทับซ้อนเอาไว้
ฝีเท้าของหานชิงหยุดลงอย่างไม่รู้ตัว สายตาของเขาจ้องไปที่เธอนิ่งๆ
ซูจิ๋ว ทำงานกับหานชิงมาเป็นเวลานาน ก็สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ตอนที่หานชิงมองเห็นเสิ่นเฉียว
” ท่านประธานหานคะ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? เราจะนั่งรถของเธอจริงๆ หรอคะ?”
* ไม่เป็นไร หานชิงดึงสติกลับมา ไม่นาน ทั้งสองคนก็เดินมาถึงด้าน หน้าของเสิ่นเฉียว
ตอนที่หานชิงกับ ซูจิ๋ว เดินมาถึงด้านหน้าเธอ ใบหน้าของเสิ่นเฉียวก็ ปรากฏรอยยิ้มทางการค้าขึ้น ความจริงแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะมา เสิ่น เฉียวก็ได้ฝึกยิ้มอยู่หลายรอบ เพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงประธาน บริษัทตระกูลหาน อีกทั้งยังเคยช่วยเธอมาแล้วตั้งหลายเรื่อง เสิ่น เฉียวจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เป็นตัวของตัวเอง
“สวัสดีค่ะประธานหาน ฉันเส้นเฉียว เป็นผู้ช่วยของเย่โม่เซิน ประธานบริษัทตระกูลเย ” ตอนแนะนำตัว เธอก็ไม่ได้ยื่นมือออกไป หาฝ่ายตรงข้าม แต่กลับโค้งตัวด้วยท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตนแทน
” ฉันได้เตรียมรถไว้แล้ว ถ้าประธานหานกับเลขาซู ไม่ถือสา ก็ สามารถนั่งรถของเราได้ค่ะ “.
สายตาเรียบนิ่งของหานชิงกลับไปหยุดอยู่บนหน้าเธอ น้ำเสียงที่
ฟังนั้นสงบมาก: คุณขับรถเป็น? ” ได้ฟังดังนั้น เสิ่นเฉียวก็พยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ; ” เป็นค่ะ”
ตอนออกจากบ้านตอนเช้า เสิ่นเฉียวได้ไปหาเซียวซู่ เพื่อจะยืมรถ ของเขา ตอนแรกเซียวซู่ไม่ให้เธอยืม ภายหลัง อยู่ๆก็ให้เธอยืม เมื่อ ก่อน เสิ่นเฉียวเคยเรียนขับรถ และได้ใบขับขี่แล้ว
และเทคนิคการขับรถของเธอก็ไม่ได้แย่อีกด้วย
หานชิงรู้สึกแปลกใจมาก แต่ ซูจิ๋ว ได้ถามเธอกลับ: ” ผู้ช่วยเสิ่นคะ เพื่อความปลอดภัย ฉันขอถามคุณว่าคุณมีใบขับขี่หรือเปล่า? ” เงินเฉียวพยักหน้า
ภายหลัง หานชิงกับ ซูจิ๋ว ก็ได้ขึ้นรถของเสิ่นเฉียว
ตั้งแต่เจอเสิ่นเฉียว สายตาของหานชิงก็มองตามเสิ่นเฉียวตลอด แม้จะนั่งอยู่ด้านหลัง สายตาดุดันและเยือกเย็นของเขาก็ไปหยุดอยู่ บนท้ายทอยของเสิ่นเฉียว
สายตานี้จ้องเส้นเฉียวสะจนเธอรู้สึกกลัว–
ที่เธอรู้มา หานชิงเป็นคนที่หัวโบราณและเด็ดขาดมาก ไม่ต้องไป พูดถึงตอนปกติ ต่อให้คุณดึงดูดสายตาเขามากขนาดไหน เขาก็ อาจจะไม่มองคุณเลยด้วยซ้ำไป
แต่วันนี้ทำไมถึงจ้องเธออยู่นักละ?
เสิ่นเฉียวยืดหลัง หรือว่าหานชิงเป็นคนโรคจิตที่แอบปกปิดไว้?
ซูจิ๋ว ก็สังเกตได้เช่นกัน อยู่ๆท่านประธานของพวกเขาก็เปลี่ยน ไปอย่างกะทันหัน เหมือนคนโรคจิตอย่างนั้นแหละ อีกอย่าง เธอก็ รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่กระวนกระวายใจของเสิ่นเฉียวด้วย จึงพูด อธิบายขึ้นเสียงเบา: ” คุณเสิ่นคะ ถนนสายนี้คนค่อนข้างมาก ยังไง คุณก็ระวังหน่อยนะคะ” คำพูดประโยคเดียวก็สามารถทำให้เสิ่นเฉียวดึงสติกลับมาได้
เธอกำลังคิดอะไรอยู่?
ที่เขาจ้องเธอก็อาจเป็นเพราะไม่วางใจที่เธอขับรถ ตังนั้น จ้องเธอ ก็เพื่อเตือนเธอก็เท่านั้น แต่เธอกลับคิดเพ้อเจ้อ
ใช้ความคิดสกปรกไปว่าร้ายคนที่มีศีลธรรมอันดีงามซะจริงๆเลย
เสิ่นเฉียวจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง และตั้งใจขับรถต่อไป
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถก็มาจอดที่ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง
เสิ่นเฉียวก็ส่งรถให้คนรับรถดูแล และนำหานชิงและพวกเขา เข้าไปในร้านอาหาร
ซูจิ๋ว เดินตามหลังหานชิงเข้าไปในร้าน เธอยกยิ้มมุมปากอย่างอด ไม่ได้ ถือว่าใช้ใจจริงๆด้วย แม้แต่ร้านอาหารที่ท่านประธานหาน ชอบมาทานเป็นประจำยังถามจนรู้
เพิ่งนั่งได้ไม่นาน บริกรก็นำอาหารที่เตรียมเสร็จแล้วมาเสิร์ฟ
หานชิง: ” ซูจิ๋ว คิดในใจ เก่งเหมือนกันนะเนี่ย! แม้แต่รสชาติอาหารก็ยังสืบรู้ เห็นทีว่าผู้ช่วยของเปโม่เซิน…ก็ใช้ใจเหมือนกัน
เสิ่นเฉียวกูมือไปมาอย่างตื่นเต้น เธอกัดริมฝีปากล่างและพูดขึ้น: ประธานหานคะ นี่เป็นอาหารที่ฉันให้พนักงานเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า ประธานหานไปทำงานมาตั้งไกล คงจะเหนื่อยมาก เชิญคุณรับ ประทานก่อนเลยค่ะ อีกสักพักเราค่อยเจรจาเรื่องงาน ”
พูดเสร็จ เส้นเฉียวก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม และมองหานชิงยิ้มๆ สีหน้า นั้นเหมือนแมวน้อยที่ปรากฏรอยยิ้มออกมาให้เห็น ดูแล้วช่างผิด ปกติมาก
ผ่านไปหนึ่งนาที…
รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นเฉียวค่อยๆหายไป ถูกแทนด้วยความ รู้สึกเก้อเขินนิดหน่อย คือ….ประธานหานมีความคิดเห็นอะไรหรือ เปล่าคะ? ”
สายตาของหานชิงเย็นชา และไปหยุดอยู่บนหน้าเธอ
เสิ่นเฉียวกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว
ผ่านไปสักพัก หานซิงถึงจะยกมือหยิบตะเกียบขึ้นมา เสิ่นเฉียวถึง ค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้น ผ่านไปชั่วขณะ หานซิงก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นชา:” ขอบคุณ”
ตอนแรกเสิ่นเฉียวคิดว่าตัวเองฟังผิด ภายหลังถึงได้รู้ว่าหานชิงพูด ขอบคุณเธอจริงๆ เธอจึงยิ้มออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
ช่วงเวลากลางวันตอนฤดูใบไม้ร่วง แสงแดดเล็กๆทะลุหน้าต่าง และสาดส่องเข้ามาในกระจกใส ในร้านอาหารเงียบสงบ และเปิด เพลงสากลที่นุ่มนวล เสิ่นเฉียวใส่กระโปรงสีฟ้าอ่อนและนั่งอยู่ตรง นั้น ลมหายใจของเธอเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ
พอเยโม่เซินรู้เรื่องที่หานชิงขึ้นรถของเสิ่นเฉียวก็ขมวดคิ้วทันที ดัง นั้น เขาจึงให้เซียวซู่ไปที่ร้านอาหารที่พวกเขานัดกันไว้กับเขา
และบังเอิญตอนที่เขาอยู่ด้านนอก ก็เห็นฉากเหตุการณ์ฉากนี้เข้า พอดี ดังนั้น เขาจึงหรี่ตาลงอย่างอันตราย
ผู้หญิงคนนี้ ไม่เจอประเดี่ยวเดียวก็สามารถดึงดูดความสนใจของ เขาได้แล้ว
อีกอย่าง ใครใช้ให้เธอปล่อยผม? แค่เจรจาเรื่องงาน เธอจะแต่งตัว สวยขนาดนั้นทำไม?
เซียวซู่ที่ยืนอยู่ด้านหลังรู้สึกได้ถึงความโกรธที่กระจายออกมา จากบนตัวของเขา จึงพูดถามขึ้นอย่างระมัดระวัง: ” คุณชายเย่ครับ เราก็เข้าไปด้วยเลยสิ? ผมคิดว่าคุณเหมาะที่จะเจรจากับประธาน หาน มากกว่าเธอนะครับ มอบหมายเรื่องนี้ให้ผู้ช่วยเสิ่นไปทำ เกรงว่า ผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามที่หวังไว้นะสิครับ”
เยโม่เซ็นไม่ได้พูดอะไร แต่มีพลังเยือกเย็นกำลังหมุนอยู่รอบตัว เขา ซึ่งพลังนั้นน่าตกใจเป็นอย่างมาก เชียวซู่เบะปาก: ” งั้นผม เข้าไปทักทายพวกเขาก่อนนะ?”
เย่โม่เซิน: ..จะทักทายทำไม? นายคิดว่าเจอเพื่อนหรือไง?”
เซียวซู: ..”
ไม่ใช่ว่ากำลังหาข้ออ้างให้คุณเข้าไปหรอกหรอ?
เปโม่เซิน: พาฉันเข้าไป ฉันจะดูสิว่าเธอจะยั่วผู้ชายสักกี่คน ”
ยั่วผู้ชาย? เซียวซูหมดคำจะพูดทันที หลังจากนั้นเขาก็พาเยโม่เซิน เดินเข้าไปข้างใน และได้พูดแทนเสิ่นเฉียว: ” ผมคิดว่าท่าทีของผู้ ช่วยเสิ่นก็ปกติดีนะครับ ทำไมถึงมองว่าเธอยั่วผู้ชายละ? ”
“ตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษไง” เยโม่เซินพูดเตือน และหัวเราะอย่าง
เย็นชา
ดังนั้น เซียวซูจึงหันไปมองคนที่อยู่ข้างในด้วยความรู้สึกแปลกใจ “คุณชายเย่ ครับ เหมือนผู้ช่วยเสิ่นจะไม่ได้แต่งหน้าเลยนะ อีก อย่าง กระโปรงนั้นก็เป็นคุณเองที่ซื้อให้เธอนะครับ ”
เปโม่เซ็น: “.
อยู่ๆก็รู้สึกเจ็บหน้า
เพราะฉะนั้น เสื้อผ้าที่เขาซื้อให้เธอ เธอใส่มาเจอผู้ชายคนอื่น
ทำให้เขาทนไม่ได้?
” อีกอย่าง เป็นคุณชายเย่ที่ให้เธอมานี่ครับ? ”
ตบหน้าอีกครั้ง!
เปโม่เซินหัวเราะอย่างเย็นชา: “ฉันคิดว่านายคงไม่อยากทำงาน
แล้วนะ”
เซียวซู่: ไม่ใช่แน่นอนครับ คุณชายเย่ของพวกเราจะทำเรื่องแบบ นั้นทำไม ผู้ช่วยเส้นนี่จริงๆเลย นึกไม่ถึงว่าจะแต่งตัวจนสวย ก็แค่ เจรจาเรื่องงาน ทำไมถึงต้องอวดขนาดนี้ด้วยละ?”
– ใครอนุญาตให้นายนินทาผู้หญิงของฉัน?”
เซี่ยวซู่: เหอะเหอะ! เสิ่นเฉียวเห็นหานชิงทานอาหารที่ตัวเองเตรียมให้ ก็รู้สึกดีใจมาก จนลืมให้คนมาเสิร์ฟอาหารของตัวเองไปเลย เพราะฉะนั้น ช่วงเวลา ทานอาหารเธอก็จ้องหานชิงอยู่ตลอด เบนสายตาไปหา ซูจิ๋ว ที่อยู่ ด้านข้าง ก็รู้สึกเก้อเป็น
แต่หานชิงเหมือนก้อนน้ำแข็งที่ไร้ความรู้สึก เขาทานอาหารต่อ หน้าเธออย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาทางสีหน้า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ