บทที่118 อย่าดูถูกตัวเอง
เยโม่เซินถูกเธอผลักออกมา ร่างยาวของเขานอนอยู่ด้านข้างเธอ แล้ว พลางพูดเบา ๆ “เธอเกิดปีหมาเหรอ? กัดคนตลอดเลย
เสิ่นเฉียวได้สติและพบว่าเป็นเสียงของเปโม่เซ็น
ตอนนี้เธอตื่นขึ้นแล้ว หลังจากที่ได้สติและรู้ว่าเยโม่เซ็นทำอะไรกับเธอบ้าง ใจของเธอก็เต้นรัว เธอกัดริมฝีปากล่างของเธอเบา ๆ และถามเขาขึ้นใน ความมืดนั้น
“คุณมาทำอะไรตรงที่ของฉัน? คุณก็มีเตียงของคุณไม่ใช่เหรอ?” เสิ่น เฉียวแตะไปด้านข้าง แค่แตะเธอก็แตะไปโดนกับพื้นแข็ง ๆ ที่เป็นยะเยือก เพื่อยืนยันว่าเธอนอนอยู่บนผ้าที่เธอปูเอาไว้บนพื้น เสิ่นเฉียวก็ยิ่งแปลกใจ ยิ่งกว่าเดิม
เย่โม่เซินยิ้มเยาะ: “เธอแย่งผ้าห่มฉันไป แล้วฉันจะห่มอะไรล่ะ?”
เสิ่นเฉียว: “…อย่างนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องมานอนเบียดฉันบนพื้นทนี่นา?
เย่โม่เซิน: “ผ้าห่มอยู่ไหน ฉันก็อยู่นั่นแหละ”
เสิ่นเฉียว: “งั้นเมื่อกีคุณทำอะไร?”
ต่อให้เขาทำสิ่งนี้เพื่อผ้าห่มจริง ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้ที่เขาทำแบบนั้นล่ะเพื่อ
อะไร?
“ใช้ข้อผูกพันของสามีภรรยา” เสิ่นเฉียว: “..”
ข้อผูกพันของสามีภรรยา?
ขณะกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น มือของเย่โม่เซินก็เขยิบเข้ามาจับที่เอวเธอ ร่างสูงใหญ่เขยิบเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่น ๆ แทรกอยู่ระหว่างลมหายใจ ของเธอ
เสิ่นเฉียวตื่นเต้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว กดมือใหญ่ที่ไม่ทำตามกฎของเขาแล้ว ะไรอีกแล้วคะ? กลับไปที่เตียงตัวเองค่ะ” ถาม: “คุณทำอ
“เธอเคยเห็นสามีภรรยาแยกเตียงนอนรีเปล่า?” เยโม่เซ็นไม่สนใจคำพูด ของเธอ มือของเขาหลุดจากพันธนาการของเธออย่างง่ายตาย จากนั้นเขา จับมุมเสื้อผ้าของเธอสอดมือเข้าไป
“..ก่อนหน้านั้นเราก็แยกเตียงกันนอนดีอยู่นะคะ ทำไมจู่ ๆ ถึงจะเปลี่ยน ล่ะ?”
ทันทีที่เธอพูดจบ มือใหญ่ทั้งสองข้างของเขาที่อยู่ที่เอวก็เคลื่อนขึ้นอย่าง ไม่ทันรู้ตัว จากนั้นเสิ่นเฉียวก็รู้สึกถึงลมหายใจของเยโม่เซินที่เย็นลง “จู่ ๆ ก็ เปลี่ยน?”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า
เสียงของเยโม่เซินเย็นขึ้นเล็กน้อย ตามที่เธอคิดในใจ เธอไม่อยาก
เปลี่ยนมันเลยสักนิด?”
ทันใดนั้นในใจของเสิ่นเฉียวก็ไม่รู้จะตอบเยโม่เซินอย่างไร ใจเธอมีเรื่อง อยากจะพูดกับเขา แต่เธอกลับพูดมันไม่ออก ทำได้เพียงรักษาความเงียบ เอาไว้ ในความมืดนั้นเธอได้ยินเพียงเสียงหายใจหอบของเขา เหมือนเขากำลัง
โกรธ
“เธอไม่อยากจะร่วมเรียงเคียงหมอนกับฉันขนาดนั้น? นอนกับฉันทำให้เธอ เสียหายมากเหรอ?”
เสิ่นเฉียว “ฉันไม…”
“เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานสองครั้ง เธอเสียหายยังไง?”
ไม่รอให้เธอได้พูดต่อ เย่โม่เซินก็สาดคำพูดเป็นชาใส่เธออีกครั้ง เสิ่นเฉียว อดไม่ได้ที่จะหลับตาลง
เอาเถอะ เขาโมโหง่ายกว่าที่เธอคิดเอาไว้เสียอีก
มือใหญ่ที่เอวถูกเก็บไป ไม่มาวุ่นวายกับเธออีก ในใจของเสิ่นเฉียวว่าง เปล่า เธอมองไม่เห็นตัวของอีกฝ่าย ทำได้เพียงแค่หันตัวไปเงียบ ๆ เธอ ต้องการครอบครองผ้านวมเพียงลำพัง
แต่หลังจากที่รู้ว่าเยโม่เซินนอนอยู่กับเธอตรงนี้ด้วย เธอก็ห่มผ้าเพียงแค่ มุมเดียว เธอแบ่งอีกด้านให้กับเย่โม่เซิน
จากนั้น เธอก็นอนไม่หลับอีกเลย
ลมหายใจของคนข้างหลังก็เหมือนกับของเธอมันกระเพื่อมเหมือนกันอยู่ ครึ่งค่อนคืนไม่มีทางสงบลง
ถึงจะเป็นเตียงเดียวกัน แต่ฝันต่างกัน เมื่อถึงเวลาเช้า หลังจากที่เสิ่นเฉียวลุกขึ้นแล้ว เธอเห็นเยโม่เซินยังนอนอยู่ ข้างเธอ จึงได้ถามขึ้นเบา ๆ: “คุณตื่นรึยังคะ? อยากจะให้ฉันช่วยไหม?
พูดจบเธอก็ต้องตกตะลึง
เมื่อคืนเยโม่เซ็นมาที่เตียงเธอได้ยังไง? ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าขาของเขาไม่ สะดวก หรือว่าเป็นเซียวซู่ช่วยเขาหลังจากที่เธอหลับไปแล้ว?
แต่ว่าตอนนี้เสิ่นเฉียวไม่สามารถจะสืบเสาะหาเรื่องนี้อีกแล้ว ตอนนี้เธอพบ ว่าจะทำยังไงเพื่อที่จะช่วยให้เยโม่เซินที่อยู่ตรงหน้าไปที่วีลแชร์ได้
ได้ฟังอย่างนั้น เยโม่เซินลืมตาขึ้นทันทีจ้องมองเธออย่างรุนแรง
“ไม่ต้องการ
เสิ่นเฉียว: งั้นคุณจะลุกยังไงคะ?”
“ไม่เกี่ยวกับเธอ”
เสิ่นเฉียว: “ก็ได้ค่ะ งั้นฉันไปอาบน้ำก่อน”
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็ไม่ได้สนใจเขาจริง ๆ เธอลุกขึ้นแล้วไปที่ห้องน้ำ
ได้ยินเสียงแปรงฟันดังมาจากในห้องน้ำ เยโม่เซ็นก็หัวเราะออกมาอย่าง
เป็นเหยียบ
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีจิตสำนึกจริงๆ! เสิ่นเฉียวล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วออกมา เห็นเปโมเซินกำลังยันตัวเอง ให้ลุกขึ้นด้วยมือของเขา เขาวางมือไว้ที่หน้าอกและจ้องมองเธออย่างเย็น ชา: “เข้ามาช่วยฉัน”
หลังจากนิ่งไปชั่วครู่ เสิ่นเฉียวก็เดินเข้าไปหาเขา
เธอเป็นวีลแชร์มาที่ตรงหน้าเยโม่เซ็น ให้ฉันพยุงคุณขึ้นมานะคะ?
พูดจบ เธอก็ค่อย ๆ คุกเข่าลง จับมือของเยโม่เซินวางไว้ที่ไหล่ของตัวเอง แล้วพยุงเขาให้ลุกขึ้น
เยโม่เซินก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เขาค่อย ๆ ลุกตามแรงของเธอ จากนั้นก็ถาม ขึ้นอย่างฉับพลัน: “เธอรังเกียจฉันเหรอ?”
“หา?” เสิ้นเฉียวตอบโต้ด้วยคำอุทานเพียงหนึ่งคำ เดิมที่เธอไม่เคยตอบโต้ คำพูดของเขาเลย
“เพราะฉันเป็นคนพิการเหรอ?”
ได้ยินอย่างนั้น เส้นเฉียวนิ่งไป มันไม่ง่ายที่จะพยุงเขาลุกขึ้นมาได้ แต่ตอน นี้เธอมองเขาด้วยความตกตะลึง มือของเธอพลันหมดแรง ทั้งสองล้มลงบน
ผ้านวม
“ขอโทษ… เส็่นเฉียวสีหน้าซีดขาว แล้วรีบพยุงเขาขึ้นอีกครั้ง “คุณไม่เจ็บ ใช่ไหมคะ?”
สายตาเป็นชาของเปโปเขินจับจ้องเธอไม่วางตา “เธอตอบคำถามฉันสิ” “อา?” เสิ่นเฉียวตอบกลับ คิดถึงคำถามที่เขาถามเมื่อครู่ เหมือนว่าเขาจะ กามเธอว่า เธอรังเกียจที่เขาเป็นคนพิการรึเปล่า?
“จะเป็นไปได้ยังไงคะ?” เสิ่นเฉียวเม้มปากแล้วยิ้มเล็กน้อยอย่างขวยเขิน
เปโมเซ็นจับมือเธอแน่นร่างใหญ่ของเขาเขยิบไปด้านหน้าเล็กน้อย ลม หายใจของเขาโอบล้อมเธอไว้ “เพราะฉันเป็นคนพิการที่แม้แต่ยืนก็ยืนไม่ได้ ดังนั้นเธอก็เลยรังเกียจฉัน? ไม่อยากจะร่วมเรียงเคียงหมอนกับฉัน และไม่ อยากจะแต่งงานกับฉัน?”
เสิ่นเฉียว: “…”
เธอจ้องมองด้วยความตกใจ จ้องมองโม่เซินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมและทำ
อะไรไม่ถูก
เขาเป็นอะไร…ของเขากันแน่นะ สองวันมานี้เขาเปลี่ยนไปอย่างน่าแปลก
ประหลาดใจ
อีกทั้งยังถามว่ารังเกียจเขารึเปล่า?
เสิ่นเฉียวที่เป็นอย่างเธอในวันนี้นั้น เธอมีคุณสมบัติอะไรจะไปรังเกียจคน อื่นได้?
“ไม่ค่ะ!” เสิ่นเฉียวส่ายหน้า ปฏิเสธคำถามของเขาไปตรง ๆ:”ฉันไม่ได้ รังเกียจคุณค่ะ”
“ใช่เหรอ?” เปโม่เซินมองเธออย่างสงสัย เหมือนกับกำลังหาคำตอบว่าเธอ พูดจริงหรือเท็จ เสิ่นเฉียวถอนหายใจลึก และเขยิบหน้าไปด้านหลัง “คุณ อย่าทำ แบบนี้สิคะ ให้ฉันพยุงคุณขึ้นมาก่อน”
เส้นเฉียวใช้แรงเยอะมากเพื่อพยุงให้เย่โม่เซินกลับมานั่งที่วีลแชร์อักครั้ง เธอเหนื่อยจนใบหน้าเล็กแดง ก่ำ หายใจหอบ
หลังจากที่เสิ่นเฉียวยึดตัวตรงแล้ว ในที่สุดสายตาของเธอก็มองเยโม่เซิน
“เยโม่เซ็น”
“?”
“อันที่จริงคุณไม่ควรจะดูถูกตัวเอง ต่อให้คุณต้องนั่งวีลแซร์แล้วยังไง! คุณ ก็ยังเป็นคุณนะคะ ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนคุณได้ คุณก็ยังเป็นคุณที่มีเพียง แค่หนึ่งเดียวบนโลกใบนี้ ไม่มีทางที่จะมีใครเหมือนคุณได้อีกแล้วค่ะ รู้ไหม
คะ?”
เธอมองเขาด้วยดวงตาเธอสุกใส และจริงใจอย่างที่สุดเมื่อพูดสิ่งนี้กับเขา
แต่เมื่อเห็นเธอพูดในสิ่งที่ผ่านการไตร่ตรองและจริงจังออกมาแล้ว มันไม่ ทำให้คนรู้สึกว่านี่เป็นเพียงคำพูดปะเหลาะเอาใจหรือมุ่งร้ายใด ๆ เลย
ใจของเปโม่เซินสั่นไหว
มันเหมือนกับการได้เห็นดวงอาทิตย์อบอุ่นในฤดูหนาวท่ามกลางป่าลัก
ริมฝีปากของเยโม่เซินขยับ ก็ได้ยินเสียงของเธอพูดขึ้น “ไม่ว่าจะเป็นยังไง ก็ต้องมีคนที่ไม่รังเกียจคุณค่ะ คุณเป็นคนที่เก่งมากแล้วค่ะเยโมเซิน ดัง นั้น..อย่าดูถูกตัวเองนะคะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ