บทที่112 เธอโง่รึเปล่า
บทที่112 เธอโนรีเปล่า
เมื่อเสิ่นเฉียวเข้ามาในห้องน้ำ เธอเองก็ไม่สบอารมณ์กับกลิ่น เหม็นที่ส่งออกมาจากตัวเธอ
แต่ว่าก่อนหน้านี้เธอโกรธจริง ๆ
คนพวกนั้นทำงานในบริษัทตระกูลเย่ พูดจาดูถูกเธอ ดูถูกเย่ โม่เซิน
เพียงแค่คิดว่าเย่โม่เซินต้องโดนพนักงานของตัวเองนินทา ดูถูกลับหลังว่าเป็นคนพิการบ้างล่ะ ไร้สมรรถภาพบ้างล่ะ เสิ่น เฉียวก็รู้สึกโกรธเป็นฟื้นเป็นไฟ
ทำไมคนเหล่านั้นถึงหัวเราะเยาะผู้อื่นได้ตามอำเภอใจแบบ นั้น? พวกเธอเองมีดีอะไรกันอย่างนั้นเหรอ?
น้ำไหลลงจากฝักบัวทำให้เส้นเฉียวเปียกไปทั้งตัว
เธอถอดเสื้อผ้าที่ส่งกลิ่นเหม็นพวกนั้นทิ้งไป แล้วยื่นมือไป เปิดท่อระบายอากาศภายในห้องน้ำ
แผลน้ำร้อนลวกบริเวณไหล่เวลาที่มันโดนน้ำแล้วรู้สึกเจ็บขึ้น มา เสิ่นเฉียวเดินไปด้านข้างสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
“ก๊อก ๆ–” เสียงของเย่หลิ่นหานดังมาจากด้านนอก เสิ่น เฉียวกอดตัวเองไว้แน่น
“น้องสะใภ้ ในนั้นมีเจลอาบน้ำ คุณใช้ได้เลยนะ ผมจะออกไป ก่อน อีกเดี๋ยวผู้ช่วยผมจะเข้ามาหาคุณ”
“อ่อ ค่ะ”
เสิ่นเฉียวพยักหน้า ตอนนี้เธอเลอะเทอะมาก จำเป็นจะต้อง อาบน้ำให้สะอาดก่อน
ดังนั้นไม่มีเวลาจะลังเลใจอีกแล้ว
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาที เหมือนว่าจะมีคนผลักประตูห้องพัก เข้ามา จากนั้นก็เคาะประตู
“ใครคะ?” เสียงเงียบไปนาน เสิ่นเฉียวจึงถามด้วยความ
ระมัดระวัง
ด้านนอกไม่มีใครตอบ เส้นเฉียวนิ่งไป เธอเดินไปที่ข้างประตูแล้วเอ่ยปากถามอีกครั้ง: “นั่นใครคะ?”
ด้านนอกยังคงเงียบอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะมีเสียงผู้ชายที่เย็น
ชาดังขึ้น
“ฉันเอง”
เสิ่นเฉียวตกตะลึงในตอนแรกจากนั้นก็ตอบสนองทันที เสียง นี้ไม่ใช่…เย่โม่เซินอย่างนั้นเหรอ?
เมื่อคิดว่าเวลานี้เย่โม่เซินอยู่ที่นอกประตูนั่น อารมณ์ที่กังวล อยู่แล้วของเสิ่นเฉียวตอนนี้ก็ยิ่งไม่สบายใจมากขึ้น และทำให้ เธอคิดขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องพักของคน อื่น เย่โมเซินจะต้องโกรธเธอแน่นอน
ชั่วขณะหนึ่งเสิ่นเฉียวตื่นตระหนกและไม่รู้จะทำอย่างไร
“เปิดประตู”
ทันใดนั้นเย่โม่เซินก็พูดขึ้น
เสิ่นเฉียวสีหน้าเปลี่ยนไปและเธอพูดขึ้นเบา ๆ: “ไม่ ไม่ได้”
เยโม่เซินที่อยู่ด้านนอกขมวดคิ้ว เขาก้มลงมองถุงที่อยู่ในมือ ของตัวเขาเอง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันจะพูดเป็นครั้ง สุดท้าย เปิดประตู”
เสิ่นเฉียว: “…”
เอาอีกแล้ว! ทุกครั้งก่อนที่เขาจะโมโหเขาจะต้องใช้น้ำเสียง แบบนี้
ในใจของเสิ่นเฉียวยังคงกลัวเขา แต่ในที่สุดก็ค่อย ๆ เปิด ประตูออกมา เธอแอบอยู่หลังประตู แล้วยื่นหน้าออกมาเพื่อดู
เย่โม่เซิน
แววตาของเย่โม่เซินเย็นชา ร่างกายของเขาเปล่งประกาย ออกมาเหมือนสัตว์ร้ายซึ่งทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน
ในตอนที่เสิ่นเฉียวมองไปที่เขานั้น เขาก็มองมาพอดี ทำให้ เสิ่นเฉียวตกใจกลัว เธออยากจะปิดประตู
แต่กลับมีถุงใบหนึ่งส่งมา
เสิ่นเฉียวตกตะลึง “อะ มันคืออะไรคะ?”
“อยากจะแก้ผ้าออกมาเหรอ?” เย่โม่เซินน้ำเสียงเย็นชาดังน้ำ แข็ง ถูกบีบเค้นออกมาจากไรฟัน ไม่อยากตายก็ลองดู
ไหนเลยเสิ่นเฉียวจะออกไปโดยไม่ใส่เสื้อผ้าได้ เธอรีบรับถุง จากมือของเย่โม่เซิน พบว่าอันที่จริงแล้วในนั้นเป็นเสื้อผ้าชุด
ใหม่
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณ
เย่โม่เซินเบนสายตาไปทางอื่น สูดหายใจแล้วพูด ให้เวลา เธอสิบนาที แต่ตัวให้เสร็จแล้วออกมา
“ออ” เสิ่นเฉียวปิดประตู เธอใช้หูหิ้วแขวนถุงไว้ด้านข้างจาก นั้นจึงได้กลับไปเปิดฝักบัวและทำความสะอาดฟองสบู่
เมื่อมีเวลาสิบนาที เสิ่นเฉียวก็รักษาเวลาเป็นอย่างดี ใช้เวลา ประมาณเก้านาทีในการแต่งตัวและเก็บของก็เดินออกมาจาก ห้องน้ำ
ในห้องพักเงียบสนิท มีเพียงเย่โม่เซินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์
เมื่อเปรียบเทียบกับบรรยากาศปกติตอนที่เพิ่งเข้ามาในห้อง พัก ตอนนี้ในห้องมันเย็นยะเยือกเหมือนห้องแช่แข็งเนื้อสัตว์ เสิ่นเฉียวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและยังมีหยดน้ำติดตัว เธอ รู้สึกหนาวเมื่อเดินออกมา ทำให้เธอหนาวสั่น
เย่โม่เซินหันหลังให้เธอ เขาทอดถอนลมหายใจที่แสนเยือก
เย็น
เสิ่นเฉียวยืนอยู่ที่เดิมและอ้อยอิ่งเล็กน้อย ก่อนจะเรียกเขา เบา ๆ: “คือว่า…เย่โม่เซิน ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว”
เยโม่เซินเงียบไปแล้วชั่วครู่และหันกลับมามองเธอ
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด ทำให้เธอตกใจ
กลัวจนก้าวเท้าหนี
“ออกไปกับฉัน”
เสิ่นเฉียวทำได้เพียงหยักหน้า เดินขึ้นไปข้างหน้าแล้วเข็น
เขาออกไป
เหมือนฝัน ก่อนหน้านั้นเป็นเย่หลิ่นหานที่พาเขาเข้ามา แต่ ตอนนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเย่หลิ่นหาน อีกทั้งผู้ช่วย ของเขาก็หายไปไร้ร่องรอย ไหนบอกว่าผู้ช่วยของเขาจะเอา เสื้อผ้ามาให้ไง?
แต่คนที่ปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ทำไมกลับเป็นเย่โม่เซิน?
เสิ่นเฉียวคิดไม่ตก
“ผิดหวังมากงั้นเหรอ?” ทันใดนั้นเย่โม่เซินก็ถามขั้นอย่างเย็น
ชา
เมื่อได้ยินเสียง เสิ่นเฉียวก็ได้สติ: “อะไรนะ?”
“ออกมาแล้วกลับเธอฉัน ทำให้เธอผิดหวัง ใช้รึเปล่า?”
เสิ่นเฉียว: …เปล่า ฉันแค่คิดว่าพวกเขาหายไปไหนกัน
หมด…
เยโม่เซินพูดจาเยาะเย้ย: “เธอคิดว่าฉันจะยอมปล่อยให้ ผู้ชายคนอื่นเห็นผู้หญิงของฉันเย่โม่เซินในสภาพที่เพิ่งอาบน้ำ
เสร็จเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ใจของเสิ่นเฉียวก็เต้นผิดจังหวะ
“เมื่อวานเธอทำเป็นหูทวนลมกับสิ่งที่ฉันพูดกับเธองั้นเหรอ?”
คำพูดนี้ช่างเย็นชา เสิ่นเฉียวอดไม่ได้ที่จะหดคอ “เปล่าค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงอยู่กับเย่หลิ่นหาน? ฉันบอกให้เธออยู่
ห่าง ๆ เขาไว้ไม่ใช่เหรอ?”
เสิ่นเฉียวเข็นเขาเดินออกไปข้างนอก พลางอธิบายไปด้วย :
“มันเป็นอุบัติเหตุ”
“ก็ได้ งั้นก็อธิบายให้ฉันฟังสิ”
เสิ่นเฉียว: “…”
ไม่นะ เย่โม่เซินเป็นพวกหัวอ่อนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ยิ่งไปกว่า
นั้นเขาสนใจจะฟังเธออธิบายงั้นเหรอ?
เสิ่นเฉียวอึ้งไปชั่วขณะ เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงอาหาร
โดยพยายามเลี่ยงประเด็นสำคัญไป
ก็เพียงแค่เธอทะเลาะกับพวกผู้หญิงสองสามคนแล้วอีกฝ่าย ก็ลงมือก่อนเธอก็แค่อดไม่ได้ที่จะสู้กลับ…
พูดจนถึงสุดท้าย เสียงของเสิ่นเฉียวค่อย ๆ อ่อนลง ราวกับว่า
คนที่ทำผิดในเรื่องนี้คือตัวเธอเอง
เยโม่เซินไม่พูดอะไร มีเพียงลมหายใจที่หนักอึ้งขึ้น เสิ่นเฉียว เองก็ไม่พูดอะไรอีก เธอเข็นเขากลับไปที่ห้องทำงานของเขา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน” เสิ่นเฉียวเข้าใจว่าส่งขาก ลับห้องทำงานแล้วก็ไม่มีอะไรอีก เธอคงจะเตรียมตัวจะออก
ไป
ในขณะที่เธอกำลังหันกลับไป เสียงที่น่าดึงดูดของเย่โม่เซิ
นก็ดังขึ้น
“เธอกำลังกลัวอะไร?”
อะไรนะ? เสิ่นเฉียวหยุดอยู่ตรงนั้น พร้อมกับหันมาด้วยความ
ไม่เข้าใจ
เย่โม่เซินหมุนล้อแล้วหันกลับมาช้า ๆ แววตาเคร่งขรึมมอง ไปที่หน้าเธอ “ถ้าหากว่าเป็นความผิดของคนอื่น ทำไมถึงไม่มี
ความมั่นใจล่ะ?”
เสิ่นเฉียวคิดว่าเขาจะไม่เชื่อเธอ จึงได้กล่าวขอโทษเรียบๆ:
“ขอโทษค่ะ ฉันรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันแย่มาก ต่อไป…ฉันจะไม่เป็น
แบบนี้อีก”
“ไม่เป็นแบบนี้อีก? ไม่สู้กลับเหรอ? หรือจะบอกว่า ถ้าเจอ เรื่องแบบนี้อีก จะสู้กับพวกนี้ต่อไป?”
ในใจของเสิ่นเฉียวรู้สึกผิดมากพอแล้ว สุดท้ายเยโม่เซินยัง จะพูดแบบนั้นอีก เธอรู้สึกเพียงว่าความเจ็บปวดและความเศร้า ทั้งหมดรวมอยู่ในอกของเธอซึ่งทำให้เธออึดอัดมากและมือ ทั้งสองของเธอก็อดไม่ได้ที่จะกอดกันแน่น
“ฉันเชื่อฟังคุณชายเย่ คุณชายเย่ว่ายังไงฉันก็ว่าตามนั้น”
เย่โม่เซินมองไปที่เธอซึ่งอดกลั้นและในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะ
ขมวดคิ้วแน่น
“นี่เธอโนรีไงกัน?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ