เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่101 กอดฉันหน่อยได้มั้ย



บทที่101 กอดฉันหน่อยได้มั้ย

บทที่101 กอดฉันหน่อยได้มั้ย

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ไอร้อนค่อยๆมีอุณหภูมิสูงขึ้นแล้วปกคลุม อยู่ทั่วร่างกาย เสิ่นเฉียวรู้สึกร้อนที่ศีรษะของเธอ ราวกับ ว่าเลือดในร่างกายกำลังไหลขึ้นไปเลี้ยงอยู่ที่ตรงนั้น เธอ รู้สึกร้อนที่หูและใบหน้าของเธอ

เธอจะอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ เธอต้องออกไปจากที่นี่

แต่สติของเธอค่อนข้างเลือนราง เสิ่นเฉียวทำได้เพียง กัดริมฝีปากของตัวเอง ความเจ็บปวดทำให้สติของเธอ ค่อยๆกลับมา เธอพยายามพยุงร่างกายขึ้นมาเพื่อคลาน ออกไปข้างนอก

แต่ฤทธิ์ของยาแรงมาก เธอโดนกรอกยาเข้าไปครึ่งถ้วย ในถ้วยนั้นไม่รู้ผสมอะไรลงไปเท่าไหร่

หรือว่า…วันนี้เธอจะต้องตายอยู่ที่นี่งั้นหรอ?

ริมฝีปากล่างของเธอไม่รู้ว่าโดนเธอกัดจนมีสภาพเป็น เช่นไร เสิ่นเฉียวรู้แค่ว่าในปากของเธอเต็มไปด้วยคาวเลือด จากนั้นความเจ็บปวดเหล่านั้นก็เปรียบเหมือน มดน้อยคิดเขย่าช้าง ไม่ว่าคุณจะออกแรงมากเท่าไหร่ก็ ไม่สามารถขยับตัวช้างเลยแม้แต่น้อย

ในจังหวะที่เสิ่นเฉียวกำลังจะคลานไปห้องน้ำนั้นก็มีมือ ใหญ่ๆคู่หนึ่งดึงตัวเธอเอาไว้

ใครกัน?

เสิ่นเฉียวสะบัดมือของอีกฝ่ายออก เธอพูด “ออกไป ไกลๆ!!”

เยโม่เซินขมวดคิ้วแน่น เขาจ้องมองเสิ่นเฉียวที่อยู่ตรง

หน้า

อุณหภูมิที่ได้สัมผัสเมื่อสักครู่ช่างร้อนราวกับไฟ เขา สามารถรับรู้ถึงความรุนแรงของฤทธิ์ยา เธอยังสามารถ ควบคุมสติในเวลานี้แล้วสะบัดมือของเขาออก ความมุ่ง มั่นที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ทำให้เย่โม่เซินรู้สึกประหลาดใจ ใน จังหวะที่เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมา แม้เยโม่เซินจะเป็นคน ใจเย็นก็ยังอดที่จะถลึงตาใส่เธอไม่ได้
มุมปากของเธอมีเลือดไหลออกมา เธอกัดริมฝีปากล่าง

จนมีเลือดเลอะอยู่จางๆ

ภาพของเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากมุมปากของ เธอสะท้อนอยู่ในดวงตาของเย่โม่เซิน

“คุณ….” เขามองดูเธอที่กำลังจะกัดตัวเองอีกรอบ แวว ตาของเย่โม่เซินเปลี่ยนไป เขาเข้าไปดึงเธอเอาไว้จาก นั้นยื่นมือเข้าไปที่ปากของเธอ

เธอออกแรงกัด เย่โม่เซินส่งเสียงร้องอยู่ในลำคอ

ไป…ตายซะ!” หน้าผากของเย่โม่เซินมีเหงื่อออก มา เขาพูดตะกุกตะกัก “ผู้หญิงแต่งงานครั้งที่สอง ถ้า คุณ..กล้ากัดนิ้วมือ…ของฉันขาด ฉันไม่ปล่อยคุณเอา ไว้แน่”

เสิ่นเฉียวที่กำลังมึนงงเหมือนว่าจะได้ยินเสียงของเย่โม่ เซิน ตอนแรกเธอคิดว่าเธอหูแว่วไป แต่หลังจากเธอรู้ตัว ว่าเธอกัดนิ้วมือของคนอื่นแล้ว เสิ่นเฉียวจึงเงยหน้าขึ้น
ภาพซ้อนที่เธอมองเห็นอยู่ตรงหน้าค่อยๆชัดเจนมากยิ่ง

ขั้น

คือเย่โม่เซินที่นั่งอยู่บนรถเข็น เขาจ้องมองเธอด้วย สีหน้าที่เคร่งเครียด นิ้วมือของเขาโดนเธอกัดจนมีเลือด

ออก

“คือคุณ ….” สติของเสิ่นเฉียวกลับมาบางส่วน เธอยื่น แขนแล้วผลักเขาทันที “คุณออกไป รีบออกไป!”

“ทำอะไรน่ะ?” นิ้วมือของเย่โม่เซินโดนเธอกัดจนมีเลือด แดงสดไหลออกมา เขากำลังรู้สึกเจ็บ เย่โม่เซินรู้สึกเจ็บ จนสีหน้าเปลี่ยนไป เขาถามเสิ่นเฉียวอย่างไม่สบอารมณ์

ผู้หญิงคนนี้อยากตายรีไง เขาอุตส่าห์มาช่วยเธอ แต่ เธอกลับผลักเขาออกไป! แล้วยังกัดเขาจนมีสภาพเป็น เช่นนี้อีก!

เสิ่นเฉียวพยายามพูดอธิบาย “เขาจุดยาสลบ!”

“ยาสลบ ?” เย่โม่เซินพูดคำพูดของเธออีกรอบสีหน้าของเขานั้นนิ่ง ราวกับว่าเป็นเรื่องที่เขาได้คาด

การณ์เอาไว้แล้ว

เสิ่นเฉียว: “คุณออกไปสิ ถ้าคุณยังอยู่ต่อ คุณจะโดน ฤทธิ์ยาไปด้วย”

คนพิการอย่างเขาที่นั่งอยู่บนรถเข็นเป็นเวลานาน ถ้า เกิดโดนวางยาไปด้วยอีกคน ถึงตอนนั้นจะต้องทำยังไง?

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่โม่เซินหรี่ตามองเสิ่นเฉียวในสภาพ เกือบเปลือยที่อยู่ในอ้อมอกของเขา

สภาพของผู้หญิงคนนี้เป็นเช่นนี้แล้ว แต่เธอยังมีใจเป็น ห่วงคนอื่นอีกว่าจะโดนฤทธิ์ยาไปด้วยรึเปล่า?

“เทียบกับการที่คุณจะมาเป็นห่วงว่าฉันจะโดนวางยาไป ด้วยรึเปล่า คุณเป็นห่วงตัวเองก่อนดีกว่ามั้ย!” เย่โม่เซิน เดือนเธอด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

เสิ่นเฉียวส่ายหัว ไม่ ไม่รู้..”
ความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ทำให้สติของเธอกลับมาชั่วครู แต่มันก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ในตอนนี้สติของ เธอเริ่มกลับมาเลือนรางอีกครั้ง ดวงตาอันงดงามคู่นั้น เริ่มพร่ามัวอีกครั้ง

เปโม่เซ็นสังเกตถึงจุดนี้ เขาใช้มือบีบไปที่คางของเธอ “ดึงสติกลับมาเดี๋ยวนี้”

แววตาที่พร่ามัวของเสิ่นเฉียวค่อยๆกลับมาชัดเจนและมี สติประมาณไม่กี่วินาที จากนั้นเริ่มกลับมาพร่ามัวอีกครั้ง

“รีบไป…” ริมฝีปากที่เลอะเลือดยังคงพยายามเปล่ง คำพูดนี้ออกมา ราวกับเป็นเครื่องบันทึกเสียง

เยโม่เซิน : “..”

เขาออกแรงที่มือมากขึ้น จากนั้นกัดฟันแน่น “ทำไมคุณ ถึงอ่อนแอแบบนี้? อดทนอีกหน่อยสิ หมอใกล้จะมาแล้ว!”

อยู่ๆร่างกายของเย่โม่เซินก็แข็งไปทั้งตัว
เพราะมือของเสิ่นเฉียวโอบรัดคอของเขาราวกับเป็น เถาวัลย์ แขนอันอ่อนช้อยของเธอวางอยู่บริเวณคอของ เขา จากนั้นใบหน้าอันแดงกำของเธอค่อยๆเลื่อนเข้ามา ใกล้หน้าของเขา เขาจ้องมองเธอที่กำลังเข้าใกล้เพื่อจะ จูบเขา

เยโม่เซินลืมตาขึ้นเล็กน้อย ในจังหวะที่เธอกำลังจะจูบ เขาค่อยๆเบือนหน้าหนี

แต่เสิ่นเฉียวไม่ยอมแพ้เพราะเรื่องแค่นี้ เมื่อเธอไม่ได้ จูบริมฝีปากของเขา เธอจึงเปลี่ยนตำแหน่งแล้วจูบไปที่ บริเวณคอของเขา

เย่โม่เซินเกรงบริเวณท้องน้อยของเขา เขาหยิกไปที่ เอวของเสิ่นเฉียว จากนั้นดันตัวเธอให้ออกห่างจากตัว เอง

“ไอ้ผู้หญิงสมควรตายคนนี้ รีบดึงสติกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”

“ร้อน …ฉันร้อนมาก” เสิ่นเฉียวที่โดนเขาผลักตัวออกยื่น มือทั้งสองออกมาแล้วทำท่าเหมือนคนที่ต้องการจะกอด ใบหน้าเล็กๆมีสีหน้าที่ไม่พอใจ เมื่อมองดูแล้ว ช่างทำให้ผู้อื่นรู้สึกปฏิเสธไม่ลงจริงๆ

เปโม่เซินควรจะผลักเธอออกไป แต่…เสิ่นเฉียวที่อยู่ ตรงหน้าเขาค่อยๆมีสีหน้าที่อ่อนโยนมากยิ่งขึ้น

แสงไฟสีเหลืองนวลตาในห้องพักของโรงแรมช่าง เสริมบรรยากาศให้กับคนสองคน

“กอดฉัน….ได้มั้ย?” น้ำเสียงของเสิ่นเฉียวฟังดูไม่เย็น ชาเหมือนตอนพูดปกติ ในตอนนี้น้ำเสียงของเธอเต็มไป ด้วยความออดอ้อนในแบบของผู้หญิง แววตาที่นิ่งสงบ นั้นราวกับน้ำที่ไหลในฤดูใบไม้ร่วง

เยโม่เซินค่อยๆโน้มตัวเข้าไปจูบเธออย่างไม่รู้ตัวราวกับ โดนมนต์สะกด

“โอ๊ะ” ริมฝีร องเธอมีบาด ตอนที่เยโม่เซิน จูบเธอ มันไปสัมผัสโดนบาดแผลของเธอ เธอน่าจะเจ็บ พอสมควร ดังนั้นเสิ่นเฉียวจึงส่งเสียงร้องเบาๆออกมา
เย่โม่เซินรับรู้ถึงอุณหภูมิของร่างกายที่ค่อยๆสูงขึ้นเช่น เดียวกับเสิ่นเฉียว น่าจะเป็นเพราะเขารู้สึกสงสารเมื่อเห็น บาดแผลบนริมฝีปากของเธอ ดังนั้นริมฝีปากอันเรียวบาง ของเขาจึงค่อยๆเลื่อนขยับมากัดแทะเบาๆที่บริเวณดิ่งหู เล็กๆของเธอ

ในขณะที่จูบกัน เยโม่เซ็นรับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ก่อนหน้านี้เขาหลับตาอยู่ตลอด ในตอนนี้เขาลืมตาขึ้นมา

ฤทธิ์ของยาช่างรุนแรงเหลือเกิน เขาโดนฤทธิ์ยาโดย ไม่ทันรู้ตัวอีกคน

หญิงสาวที่อยู่ในอ้อมอกของเขากำลังสัมผัสร่างกาย ของเขาในท่วงท่าต่างๆ มือน้อยๆของเธอกำลังปลด กระดุมของเขาออก แต่เธอยังมีสติไม่เต็มที่ เธอพยายาม ปลดอยู่ตั้งนานก็ยังปลดไม่ออก ดังนั้นเสิ่นเฉียวจึงเริ่ม รู้สึกหงุดหงิด เธอใช้มือทั้งสองคว้าไปที่คอเสื้อ จากนั้น ออกแรงเพื่อฉีกเสื้อของเขาออก

ผลลัพธ์…แรงของเธอน้อยเกินไป เธอฉีกมันไม่ออก
เส้่นเฉียวรู้สึกโมโหมาก เธอคว้าคอเสื้อของเขาแล้ว ออกแรงฉีกเสื้ออีกครั้ง

เปโม่เซินจ้องมองพฤติกรรมของสาวน้อยที่อยู่ใน อ้อมอกของเขา เขารู้สึกเอื้อมระอาอยู่ในใจมากขึ้น

เขาจับมือเล็กๆของเธอเอาไว้ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ ทุ้มต่ำ “อย่าวุ่นวายอีกเลย หมอใกล้จะมาถึงแล้ว”

แต่สติของเสิ่นเฉียวเลือนรางเต็มที่แล้ว เธอทำตาม ความปรารถนาแรกเริ่มที่ต้องการเข้ามาใกล้ชิดกับเย่โม่ เซิน เธอจะไปรับรู้ว่าเย่โม่เซินกำลังพูดอะไรอยู่ได้ยังไง? แม้ว่าเธอจะได้ยินคำพูดของเขา เธอก็ทำเป็นหูทวนลม อยู่ดี

ดังนั้นเสิ่นเฉียวพยายามที่จะสะบัดมือของเย่โม่เซินออก

เย่โม่เซินไม่ขยับเลยสักนิด แม้ว่าแววตาของเขาจะแลดู ลุ่มลึกแต่ก็แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นและความชัดเจน เม็ด เหงื่อบนหน้าผากของเขาไม่น้อยไปกว่าเส้นเฉียวเลย

“ปล่อย ปล่อยฉัน” เป็นเฉียวพยายามออกแรงสะบัด เขาออกอยู่หลายหน เธอรู้สึกหงุดหงิด เธอพยายามปืน ขึ้นไปกัดแทะบริเวณคอของเย่โม่เซิน

สีหน้าของเยโม่เซินดูแย่ลงเรื่อยๆ ความบวมเช่น นั้นทำให้เขารู้สึกแย่จนไม่อาจจะทนไหว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ