เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที152 คุณโดนคุณชายเย่สั่งลดตำแหน่งแล้ว



บทที่152 คุณโดนคุณชายเย่สั่งลดตำแหน่งแล้ว

แต่ทว่าภายในห้อง นว่างเปล่า ไร้ซึ่งเงาของเย่ไม่เซิน

เสิ่นเฉียวยังไม่ยอมแพ้ เธอวิ่งไปหาเขาที่ห้องสมุด

ปรากฏว่าเธอก็ไม่พบกับเย่โม่เซินในห้องสมุดเช่นกัน เสิ่นเฉียว ไม่รู้ว่าเขาไปไหน อาจเป็นเพราะเธอพูดคำพูดเหล่านั้นทําให้เธอ รู้สึกผิดอยู่ในใจ มักจะรู้สึกว่าเย่โม่เซ็นค่อยๆหายออกไปจาก โลกของเธอ

หรือบางที เธอไม่เคยที่จะเข้าไปอยู่ในโลกของเขาเลยด้วยซ้ำ

สุดท้าย เสิ่นเฉียวไปล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อจะเดินทางไปที่บริษัท

ตอนที่เธอกำลังเดินผ่านบริเวณชั้นล่าง เธอพบเจอกับนายท่าน ที่กำลังจะออกจากบ้านพอดี

เธอไม่ได้เจอเขานานแล้ว ดูเหมือนว่าช่วงนี้นายท่านจะค่อน

ข้างยุ่ง

เขามองเห็นเสิ่นเฉียว แววตาที่สุขุมลุ่มลึกเหลือบไปมองเธอ เขาถามเธอ เงินโย่ว เรื่องคราวก่อนที่ปู่ฝากให้ลูกไปจัดการ จัดการเป็นยังไงบ้าง?”

เสิ่นเฉียวรู้สึกสับสนอยู่ในใจเป็นอย่างมาก ในตอนแรกเธอยัง นึกไม่ออกว่าเขาถามถึงเรื่องไหน เมื่อผ่านไปสักพักเธอจึงนึกขึ้น

มาได้ว่าเรื่องที่นายท่านเยถามคือเรื่องเกี่ยวกับเย่หลิ่นหานกับ

หานเส่โยว

เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวรีบอธิบายทันที “นายท่าน ฉัน พูดกับเส่โยวแล้ว แต่ทว่า…….ดูเหมือนว่าเธอจะมีแฟนแล้ว ดัง

เมื่อนายท่านเย่ได้ยินเช่นนี้แล้วเขาจึงหรี่ตาลง ราวกับว่ากำลัง ครุ่นคิดว่าคําพูดของเธอเป็นความจริงหรือไม่ เสิ่นเฉียวโดน สายตาที่ดุดันของเขาจ้องมองจนรู้สึกขนหัวลุก เธอก้มหน้าลง แล้วกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง

น้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนดังมาจากด้านหลังของเธอ คือเสียงของ เย่หลิ่นหาน

คุณไม่ใช่ว่านัดรําไทเก๊กกับคุณปู่จงหรอกหรือ? ถ้ายังไม่ออก จากบ้านเดี่ยวคุณปู่จงก็หัวเราะเยาะที่คุณไปสายอีกหรอก” แววตาที่ดูสับสนของนายท่านเย่เหลือบไปมองที่เย่หลิ่นหาน จากนั้นจึงเบือนสายตากลับมาที่เดิม “โอเค เสินโย่ว วันหลังปู่ ค่อยมาหาลูกนะ”

“เดินทางปลอดภัย นายท่าน”

หลังจากที่นายท่านเดินออกไปแล้ว เสิ่นเฉียวพึ่งจะรู้ว่าหลังจาก ที่ตัวเธอเองโดนสายตาอันดุดันของเขาจ้องมอง แผ่นหลังของ เธอมีเหงื่อแตกออกมาเป็นชั้นบางๆ

ช่วยไม่ได้ สายตาของเขาดุดันจนเกินไป อีกอย่างเมื่อต้อง เผชิญหน้ากับเขา เสิ่นเฉียวมักจะรู้สึกกลัวว่าตัวตนของเธอจะ ถูกเปิดเผย

เย่หลิ่นหานเดินเข้ามาใกล้ “ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

เย่หลิ่นหาน……

เสิ่นเฉียวยังไม่ได้ปรับความรู้สึกให้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขา เมื่อได้ยินเสียงของเขาจึงก้มหน้าหลบสายตาทันที เธอจ้องมอง เท้าของตัวเอง จากนั้นจะหันหลังเดินออกไป

“น้องสะใภ้!” เย่หลิ่นหานเห็นว่าเธอกำลังหันหลังจะเดินออกไป แม้แต่การทักทายกับตัวเขาก็ยังไม่มี น้ำเสียงที่เรียกเธอแฝงไป ด้วยความกระวนกระวายใจ ฝีเท้าของเสิ่นเฉียวหยุดชะงัก

น้ำเสียงของเย่หลิ่นหานแฝงไปด้วยความเอือมระอา “คุณกำลัง หลบหน้าฉันหรอ?”

เสิ่นเฉียว: “….

เธอแค่ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเขายังไงดีต่างหาก เรื่อง นี้….ช่างซับซ้อนวุ่นวายเหลือเกิน

ตอนนี้เธอแค่รู้สึกราวกับว่านายท่านได้วางตำแหน่งของเธอใน กระดานหมากแห่งชีวิตไว้แล้ว บางที….เธอถูกลิขิตให้เป็นหมาก เม็ดนั้นที่มีไว้เพื่อเสียสละ

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเฉียวหลับตาลง เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ทุ้ม ต่ำว่า ไม่ใช่ จากนั้นจึงก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ

นึกไม่ถึงว่าเย่หลิ่นหานจะพุ่งตัวมาขวางทางข้างหน้าของเธอ

“ถ้าไม่ได้หลบหน้าฉัน ทำไมแม้แต่ความกล้าที่จะเงยหน้ามา มองฉันก็ยังไม่มีล่ะ?”

เสิ่นเฉียวคิดในใจ ขอร้องล่ะคุณรีบออกไปเถอะ ตอนนี้ฉันไม่รู้ จริงๆว่าควรจะต้องใช้อารมณ์แบบไหนในการเผชิญหน้ากับคุณ! เย่หลิ่มหานที่ดูอ่อนโยนในเวลาปกติ ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่า เขากําลังดูสับสน “ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่า? เลยทําให้คุณเริ่ม รำคาญ? หรือว่า……

“ไม่เลย!” เสินเจียวเงยหน้าขึ้นแล้วพูดขัดค่าพูดของเขา “พี่ ใหญ่คุณอย่าคิดมากเลย มันคือปัญหาของฉันเอง! ฉันยังต้องรีบ ไปที่บริษัท ฉันขอตัวก่อนนะ”

เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวรีบเดินผ่านเขาไป

เย่หลิ่มหานหันหน้ามามองร่างเล็กๆนั้นก้าวฝีเท้าแล้วเดินออก ไปอย่างรวดเร็ว

เธอมองว่าเขาคือปีศาจที่น่ากลัวไปแล้ว

เขาจ้องมองแผ่นหลังของเธอที่ไกลออกไปจนกระทั่งเธอเดิน จากไป เย่หลิ่มหานดึงสติของตัวเองกลับมา ช่วงนี้ดูเหมือนว่าตัว เองจะสนใจเธอมากเป็นพิเศษ….

แต่ทว่า ทำไมเธอถึงต้องหลบหน้าเขาด้วย? อะไรที่เรียกว่าคือ ปัญหาของตัวเธอเอง?

ตอนที่เสิ่นเฉียวเดินทางมาถึงบริษัทเป็นเวลาที่สายมากแล้ว แต่ทว่าเธอมาไม่ทันที่จะไปซักถามปัญหานี้ เธอจึงมุ่งตรงไปที่ ห้องทํางานเพื่อตามหาเย่โม่เซ็น

ตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าไป เธอโดนเซียวซู่ขวางทางเอาไว้

“ผู้ช่วยเจิ่น คุณเข้าไปไม่ได้

สีหน้าของเสิ่นเฉียวขาวซีด “ฉันมีเรื่องต้องพูดกับเย่โม่เซิน”

เซียวซู่ “คุณชายเย่กำชับไว้ จากนี้เป็นต้นไปไม่อนุญาตให้คุณ เข้าออกห้องทำงานของเขาได้อย่างอิสระอีกแล้ว อย่าทำให้ผม ลําบากใจเลย”

เสิ่นเฉียว : “

นึกไม่ถึงว่าคำพูดนั้นที่พูดออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขา โกรธได้ขนาดนี้

“อีกทั้ง จากวันนี้เป็นต้นไปคุณจะไม่ได้เป็นผู้ช่วยของคุณชาย เย่อีกแล้ว”

“อะไรนะ?” เสิ่นเฉียวเบิกตาโต เธอถามด้วยความรู้สึกไม่อยาก จะเชื่อ “คำพูดนี้หมายความว่ายังไง?” ถึงแม้จะดูน่าอเนจอนาถไปหน่อย แต่เซียวซูก็ตอบตามความ เป็นจริงว่า “คุณโดนคุณชายเย่สั่งลดตาแหน่งแล้ว”

ลด ลดตำแหน่งแล้ว…

เสิ่นเฉียวกลืนน้ำลาย ริมฝีปากสีชมพูเปิดออก สักพักเธอถาม ด้วยความระอา “งั้นจากนี้ฉันทำอะไร? ”

“งาน งานทำความสะอาด”

งานทำความสะอาด? สีหน้าของเสิ่นเฉียวขาวซีดในทันที

นี่คือการลดตำแหน่งอะไรกัน? มันไม่ต่างจากไล่เธอออกไปจาก บริษัทตระกูลเย่เลยไม่ใช่หรอ? ให้ผู้หญิงที่ทำงานเป็นผู้ช่วย อยู่ๆไปทํางานทําความสะอาด จะให้คนทั้งบริษัทมองเธออย่างไร กัน?

“หรือไม่ คุณก็เลือกที่จะไปทํางานในตําแหน่งพนักงานทั่วไป ระดับล่างสุด แต่ที่นั่นมีพนักงานอยู่มากมาย วุ่นวายมากๆ”

หรือจะบอกว่า งานทำความสะอาดคนไม่เยอะขนาดนั้น แต่เป็น งานหนักและลำบากมาก

พนักงานทั่วไปไม่ได้งานหนักขนาดนั้น แต่คนเยอะและวุ่นวาย อีกอย่างเธอถูกลดตำแหน่งลงไป ต้องโดนคนอื่นรังแกแน่นอน เสิ่นเฉียวก้มหน้าแล้วหัวเราะเยาะออกมา “ทำไมเขาไม่ไล่ฉัน ออกไปเลยล่ะ?”

เซียวซูตอบด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง “คุณชายเย่ก็อยากจะไล่คุณ ออก แต่คุณหนูเส็นอย่าลืมว่าคุณยังติดค้างเงินเดือนกับทาง

บริษัทอยู่ ดังนั้นคุณต้องอยู่ต่อเพื่อทำงานให้ครบเวลา

เสิ่นเฉียว “.……….เขาช่างวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบจริงๆ ฉัน เข้าใจแล้วล่ะ”

อยากจะมาอธิบายกับเขาตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รับฟังอะไร แล้วล่ะ

และในตอนนี้เองที่เสิ่นเฉียวรับรู้ได้ว่าครั้งนี้เย่โม่เซินโกรธตัว เธอจริงๆ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นยังไงเขาก็ไม่ทำถึงขนาดนี้ ตอนนี้เขากลับลดตำแหน่งของเธอไปแล้ว

นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเขาได้ประกาศกับคนทั้งบริษัทแล้ว แม้ว่า แต่ก่อนเขากับเสิ่นเฉียวจะมีความสัมพันธ์อะไรที่ทำให้คนอื่น พยายามจ้องจับผิดมาตลอด ตอนนี้ทั้งหมดเป็นโมฆะแล้ว

เสิ่นเฉียวไร้ซึ่งคนมาปกป้องแล้ว ใครก็สามารถมารังแกเธอได้

“เสิ่น…คุณหนูเสิ่น” เซียวซู่เห็นเธอหันหลังอย่างหงอยเหงา เขา จึงรู้สึกอดไม่ได้ที่จะเรียกเธอ “ครั้งนี้คุณพูดแรงเกินไป คุณ ชายเย่ …สิ่งต้องห้ามที่สุดคือคนอื่นพูดคำพูดนั้นกับเขา

“ฉันรู้แล้ว ” เสิ่นเฉียวพยักหน้า “ตอนนั้นฉันใจร้อนไปหน่อย ฉันอธิบายให้เขา เขาก็ไม่ฟัง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันก็ไม่มี ประโยชน์อะไรอีกแล้ว ฉันจะทำงานแน่นอน ฉันไปเก็บข้าวของ ก่อนนะ”

เมื่อพูดจบ เสิ่นเฉียวตรงไปเก็บข้าวของที่ตำแหน่งของตัวเอง

เซียวซู่ยืนถอนหายใจอยู่อีกฝั่ง ทั้งทั้งที่เป็นสามีภรรยากันแท้ๆ ทำไมผลลัพธ์ถึงออกมาเป็นแบบนี้? ความรู้สึกระหว่างชายหญิง คู่นี้ช่างน่าแปลกเสียจริง….

เซียวซู่รู้สึกไม่เข้าใจ

ตอนกินอาหารกลางวันเสิ่นเฉียวได้บอกเรื่องที่ตัวเองโดน ลดตำแหน่งกับเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนรู้สึกโมโหจนแทบจะ ระเบิด

“เป็นไปได้ยังไง? คุณชายเย่รักคุณมากๆเลยไม่ใช่หรอ? ทำไม อยู่ๆถึงโดนลดตำแหน่งล่ะ? ฉันไม่เชื่อ! คุณพูดเล่นกับฉันสินะ?”

เสิ่นเฉียวยิ้มที่มุมปากด้วยความเจ็บปวด จากนั้นกินข้าวในชาม อย่างไร้อารมณ์ “คุณดูฉันเหมือนกำลังพูดเล่นมั้ยล่ะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ