เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที151 ที่แท้คุณก็เหมือนกับพวกเธอ



บทที่151 ที่แท้คุณก็เหมือนกับพวกเธอ

เสิ่นเฉียวยังคงพยักหน้ารัวๆ

หลังจากพยักหน้าไปแล้ว ดูเหมือนเธอจะค้นพบว่าสองคำถาม ในเมื่อสักครู่นั้นมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง

จากนั้นสายตาค่อยๆชัดเจนขึ้นมา เธอจ้องมองท่าทีของเย่โม่เซิ นที่อยู่ตรงหน้าเธออย่างชัดเจน

เมื่อตะกี้เขา….ถามว่าอะไรนะ?

เย่โม่เซินได้รับสองคำตอบที่ทำให้ตัวเองรู้สึกพึงพอใจ แม้ว่า เขาจะไม่อยากยอมรับ แต่อารมณ์ของเขาในคราวนี้กลับรู้สึก มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เขาเบ้ริมฝีปากบางๆขึ้นมา “ผู้หญิง แต่งงานสองครั้ง คุณรู้สึกหวั่นไหวแล้ว”

เสิ่นเฉียวเบิกตาโตแล้วออกแรงผลักตัวเขาออกไป

คุณอย่ามาพูดไปเรื่อย!”

เย่โม่เซินโดนผลักออกมา ร่างกายถอยกลับมาพิงอยู่บนที่นั่ง

ของรถเข็น “หึ พูดไปเรื่อย? ผู้หญิงแต่งงานสองครั้ง ความรู้สึกมันแอบกัน ไม่ได้หรอก คุณน่ะชอบฉัน”

เสิ่นเฉียวเอามือปิดหูตัวเองเอาไว้ เธอพูดตะคอกใส่เย่โม่เซิน ด้วยสีหน้าที่ดูเกรี้ยวกราด “ยังไงฉันก็ไม่ได้ชอบคุณ คุณอย่า ทำให้ตัวเองต้องอับอายอีกเลย ฉันจะไปชอบคนอย่างคุณได้ยัง ไงกัน?”

เย่โม่เซินเม้มปาก “ใช่หรอ? เมื่อตะกี้ใครกันแน่ที่ยอมรับว่าชอบ ฉัน?”

เสิ่นเฉียว “อย่างคุณมันคือการฉกฉวยจังหวะที่คนเขากำลัง สับสน!”

“ เป็นฉันที่ฉกฉวยจังหวะที่คุณสับสนหรือว่าเป็นที่คุณควบคุม หัวใจของตัวเองไม่อยู่กันแน่ หรือว่า…

“คุณอย่าพูดอีกเลย!” เสิ่นเฉียวรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา จาก นั้นหลุดปากพูด “ฉันจะไปชอบคนพิการอย่างคุณได้ยังไง?”

เดิมทีมุมปากของเย่โม่เซินมีรอยยิ้มเล็กๆแฝงอยู่ แต่หลังจาก ได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ภายในดวงตา สีดำมีคลื่นบางอย่างแฝงอยู่ ราวกับคลื่นพายุที่ซัดกระหน่ำอยู่ใน ทะเล คลื่นลูกใหญ่ที่สุดที่สามารถก่อตัวจนสูงหลายสิบเมตรได้ เสิ่นเฉียวก็รับรู้ได้ว่าอุณหภูมิของบริเวณรอบๆเริ่มลดต่ำลง

เธอก็พึ่งจะรู้สึกตัวว่าเมื่อตะกี้เธอได้พูดอะไรออกไปภายใต้ อารมณ์ที่ร้อนรน

คำพูดที่ฉันพูดอะไม่ใช่….…

มันตั้งใจ

แววตาอันมืดมนลุ่มลึกของเย่โม่เซิน ความโศกเศร้าในหัวที่มี มากมายจนไม่อาจจะสลายออกไป

เขาจ้องมองไปที่เธออย่างไม่ละสายตา

“ ที่แท้คุณก็คิดเหมือนกับพวกเธอ”

เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากล่างแน่น จากนั้นส่ายหัวแรงๆ

เธอไม่ได้คิด! เธอไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเขา!

แม้กระทั่งตอนที่คนอื่นพูดว่าเขาคือคนพิการ เธอยังออกตัว เพื่อปกป้องเขาอย่างสุดกำลัง จะเป็นไปได้ยังไงที่เธอจะพูดจา ทําร้ายว่าเขาคือคนพิการกัน? แต่ว่า…ขาของเขาพิการเลยต้อง นั่งอยู่บนรถเข็น นี่คือสิ่งที่ทําให้เขารู้สึกเจ็บปวดอยู่เบื้องลึกในใจ แต่เมื่อตะกี้ เธอกลับพูดค่าเหล่านั้นออกมา

“หึ ผู้หญิงแต่งงานสองครั้ง นี่คือสาเหตุที่คุณไม่ยอมให้ฉันแตะ ต้องตัวคุณมาตลอดใช่มั้ย?”

“ไม่ใช! ” เสิ่นเฉียวเริ่มรนขึ้นมา เธอเผลอไปทําร้ายจิตใจคน อื่นโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้เธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เธอรีบพุ่ง เข้าไปอธิบายให้เยโน่เซินฟังอย่างกระวนกระวายใจ คุณฟังฉัน อธิบายก่อนได้มั้ย? เมื่อตะกี้ฉันแค่ใจร้อนเกินเหตุ ดังนั้นฉันเลย พูดจาไม่ทันคิด

“นี่คือความจริง” เย่โม่เซินพูด รอยยิ้มของเขาแฝงไปด้วยความ เย้ยหยั่น “ ตระกูลเสิ่นส่งให้คุณมาแต่งงานแทนน้องสาว มัน ทำให้คุณรู้สึกน้อยใจสินะ? คุณต้องมาแต่งงานกับฉันที่ท่อนล่าง พิการแบบนี้ ชีวิตหลังจากนี้ของคุณก็ถูกทำลายไปด้วย ดังนั้น คุณเลยอยากอยู่กับพี่ใหญ่เพื่อที่จะแสวงหาความสุขในอนาคต ให้กับตัวเองสินะ?”

เสิ่นเฉียวส่ายหัว เธอกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก “เย่โม่เซิน คุณอย่าพูดแบบนี้ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นจริงๆนะ”

เย่ไม่เซินยังคงยิ้มอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ฟังคําพูด ที่เสิ่นเฉียวพูดเลยสักนิด ตั้งแต่คําพูดนั้นที่เสิ่นเฉียวพูดว่าฉันจะชอบคนพิการอย่างคุณ ได้ยังไง ความคิดที่เขามีต่อเส็นเฉียวก็เริ่มเปลี่ยนไป

ผู้หญิงทั่วไปเหล่านั้นมักจะดูถูกเหยียดหยามเขาอยู่ในใจ เพราะเห็นว่าเขานั่งอยู่บนรถเข็น ถึงแม้ว่าภายนอกพวกเธอดู เหมือนจะอยากเข้าใกล้เขา แต่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเธอ ทำเพื่อสมบัติของตระกูลเย่ แววตาที่ดูถูกเหยียดยามเหล่านั้นไม่ อาจจะซ่อนเอาไว้ได้

ส่วนเสิ่นเฉียวที่อยู่ตรงหน้านี้ ในตอนแรกเธอยอมที่ทะเลาะ หรือแม้กระทั่งลงไม้ลงมือกับคนอื่นเพียงเพราะว่าคนอื่นมาด่าว่า เขาว่าเป็นคนพิการ อยู่ๆเขาจึงรู้สึกว่า….. เธออาจจะไม่เหมือนคน อื่นๆ

นึกไม่ถึง วันนี้เธอกลับเป็นคนพูดมันออกมาเอง

เขารู้สึกอึดอัดอยู่เต็มอก เย่โม่เซินรู้สึกว่าอากาศในห้องพักนี้ไม่ ค่อยดี

เขาเคลื่อนรถเข็นด้วยสีหน้าที่ดูเย็นชาเพื่อออกไปจากห้องพัก

ด้านหลังของเขามีเสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นมา น้ำเสียงของ เธอฟังดูกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก

“เย่ไม่เซิน คุณกลับมาก่อน คุณฟังฉันอธิบายสิ เมื่อตะกี้ที่ฉัน พูดคําพูดเหล่านั้นคือฉันไม่ได้ตั้งใจนะ!”

ไม่ได้ตั้งใจ?

หี ถึงแม้ว่าจะพูดโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

นั่นก็คือสิ่งที่ในใจของเธอคิด

มิฉะนั้น ทําไมถึงหลุดปากพูดออกมาได้ล่ะ?

ร่างของเย่ไม่เงินเคลื่อนออกไปจากห้องพักอย่างรวดเร็ว ใน ห้องพักเหลือแค่เสิ่นเฉียวเพียงคนเดียวที่กำลังหายใจอย่าง กระวนกระวาย เธอเรียกชื่อของเย่โม่เซินอยู่นาน แต่เขาไม่ได้ สนใจเธอสักนิด

เสิ่นเฉียวเหม่อมองไปที่ผ้าปูที่นอนสีขาว

เธอรู้สึกผิดไปแล้ว

เธอไม่ควรพูดคำเหล่านั้นออกมาตอนที่เธอกำลังใจร้อนวู่วาม แต่ในตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองเห็นรอยยิ้มที่ชั่ว ร้ายของเย่ไม่เซินก็เลยรู้สึกว่าเขากำลังทำให้เธอรู้สึกอับอายอีก แล้ว ถ้าให้เขามองความคิดของตัวเองออก เขาก็คงจะหัวเราะเยาะ

เธอถึงที่สุดแน่ๆ เสิ่นเฉียวไม่อยากโดนเขาหัวเราะเยาะอีกแล้ว ดังนั้น…..จึงพูด

ออกมาด้วยความใจร้อนวู่วาม

ไม่ผิด เสิ่นเฉียวไม่สามารถควบคุมให้ตัวเองไม่รู้สึกหวั่นไหวได้ หลายปีมานี้ เย่โม่เซินคือคนแรกที่ทำให้เสิ่นเฉียวรู้สึกหวั่นไหว

ถึงแม้ว่าแต่ก่อนจะเคยชอบหลินเจียง แต่ในสมัยนั้นเธอรู้สึก ว่าหลายๆด้านของหลินเจียงนั้นดีใช้ได้ น่าจะเป็นสามีที่รัก ครอบครัว ดังนั้นเธอจึงตกลงที่จะแต่งงานกับเขา

หลังจากนั้นได้ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย จนกระทั่งถึงตอนที่หย่าร้าง กัน เสิ่นเฉียวจึงจะรู้สึกขัดแย้งกับหลินเจียงเล็กน้อย

แต่หลังจากที่เธอแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลเย่แล้ว เย่ไม่เชิ นทำอะไรแทนตัวเธอมากมาย เขาไม่ยอมให้เธอโดนคนอื่นรังแก เอาคืนอย่างตาต่อตา ฟันต่อฟันแทนเธอ

ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ดี เขาทำสิ่งเหล่านี้…. ก็เพื่อรักษาหน้าตาของ ตัวเขาเองเท่านั้น แต่ว่า….เธอก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองที่มี ความคิดอย่างอื่นได้

เสิ่นเฉียวมุดกลับเข้าไปในผ้าห่มแล้วเอนตัวลงนอน น้ำตาแห่ง ความสิ้นหวังไหลออกมาจากหางตา

แต่เธอน่าจะไม่มีคุณสมบัติที่คู่ควรจะอยู่กับเขา

เธอเป็นผู้หญิงที่เคยหย่ามาก่อน เป็นผู้หญิงที่ในท้องก็มีลูกของ ผู้ชายคนอื่น

เธอที่มีมลทินเช่นนี้ แม้แต่เสิ่นเฉียวยังรู้สึกรังเกียจตัวเองเลย

แต่ทำไมเธอถึงควบคุมหัวใจของตัวเองไม่อยู่?

ตลอดทั้งคืน เย่โม่เซินไม่ได้มาหาเธออีกจนกระทั่งวันต่อมา เขาก็ไม่ได้มาหาเธอเช่นกัน ห้องพักอันว่างเปล่ามีแค่เธอเพียง คนเดียวที่อยู่ในนั้น สีหน้าและริมฝีปากของเสิ่นเฉียวขาวซีด หลังจากที่หมอมาตรวจดูเธอเรียบร้อยแล้วหมอก็ถามถึงคนใน ครอบครัวของเธอ

เสิ่นเฉียวไม่ได้พูดอะไร

หมอจึงทำได้เพียงโทรไปยังเบอร์โทรติดต่อ เมื่อผ่านไปสักพัก เสี่ยวเหยียนก็มา

“มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ? เมื่อคืนตอนที่ฉันกลับไปพวกคุณยังดีดี กันอยู่เลย ทําไมอยู่ๆพวกคุณถึง… ” เสี่ยวเหยียนมองเห็นสีหน้าที่ ขาวซีดราวกับกระดาษของเสิ่นเฉียว เธอรู้สึกตกใจไม่น้อย “คุณ โอเคดีมั้ย?”

“ ฉันไม่เป็นไร” เสิ่นเฉียวส่ายหน้า “วันนี้ฉันออกโรงพยาบาลได้ แล้วสินะ? ฉันไม่ชอบอยู่ในโรงพยาบาล”

ที่นี่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เป็นสีขาวทั้งหมด อีกอย่างไม่มีคน อยู่เป็นเพื่อนเธอ

มันทำให้เธอรู้สึกอ้างว้างเป็นอย่างมาก

สิ่งสำคัญกว่านี้คือ เธออยากจะไปหาเย่โม่เซินเพื่ออธิบายคำ พูดในเมื่อคืน

เสี่ยวเหยียน คุณไปทำเรื่องขอออกจากโรงพยาบาลเป็นเพื่อน ฉันหน่อยได้มั้ย?”

“แต่ว่าร่างกายของคุณ…” เสี่ยวเหยียนถามด้วยความกังวล “ไม่ เป็นไรจริงๆนะ? ”

ถ้าฉันเป็นอะไรละก็ฉันจะพูดออกมา…..คุณวางใจเถอะ” “ “ งั้น—-โอเค” สุดท้ายเสี่ยวเหยียนก็ห้ามเธอไม่อยู่แล้วไปเป็น เพื่อนเธอเพื่อทําเรื่องออกจากโรงพยาบาล หลังจากนั้นทั้งสอง ก็แยกย้ายกัน

เสิ่นเฉียวมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านตระกูลเย่ ในเวลานี้เยโม่เซิน น่าจะยังไม่เดินทางไปที่บริษัท ขอแค่หาตัวเขาให้เจอ เธอก็ สามารถอธิบายเรื่องในเมื่อคืนได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ