บทที่ 166 แต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยดีจริงหรอ
“อย่ารีบร้อนไป เธออยู่ที่นี่ ฉันห่าพี่เฉียงเวยเล่าเรื่องนี้สักหน่อย”
กาวหยุนลุกขึ้น จากนั้นเดินออกไปข้างนอก ชุยหมิ่นลี่ทิ้งตัว เครียด มาก ถนิ้วไปมา
อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากเสิ่นเฉียวถึงห้องทำงานของสวี่เลี่ยว สวี่เคี่ยวก็ นั่งยิ้มอยู่ที่นั่น มองที่เธอพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวล : “เสิ่นเฉียว คุณมา แล้วหรอ”
สวี่เคี่ยวก็มองเธออย่างอ่อนโยน แต่การพูดจาอ่อนโยนมากๆ สำหรับเสิ่นเฉียว กลับเป็นสิ่งที่น่ากลัว เธอถูกเขาจ้องจาเป็นมัน ทน ไม่ไหวเลยเตือนว่า
ผู้จัดการ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร ฉันขอตัวก่อนล่ะ!”
พึ่งจะหันตัวกลับ สวี่เคี่ยวก็รีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า : “รอเดี๋ยว ฉันอยาก จะถามเธอ อาหารเช้าถูกปากไหม?”
นี่มันอะไรกัน
เสิ่นเฉียวคิดๆ คิดอะไรออก สีหน้าดูไร้เดียงสา : “อาหารเช้า ฉันไม่ เห็นอาหารเช้าอะไรเลยนะ หัวหน้า ถ้าไม่มีเรื่องอะไรฉันยังมีเรื่องต้อง ไปทำอีกเยอะนะ” สวีเลียววนรอบโต๊ะเด็นมากดที่ประตู ไม่ให้เธอไป
เนเฉียวสีหน้าเย็นชา สายตาที่เย็นชาก็มองไปที่เขา
สายตานั้น สวีเลียวหัวใจกําลังผลิบานอีกครั้ง ยิ้มหวานๆ มองมาที่ เธอ : “เงินเฉียว เรื่องที่คุยกับเธอสองสามวันก่อน เธอคิดยังไงแล้ว บ้าง?”
คำพูดพวกนี้พูดได้ทำให้เสิ่นเฉียวอยากจะหัวเราะ
“ หัวหน้านี่ไม่ใช่เรื่องที่รู้อยู่แล้วหรอ? เสิ่นเฉียวเม้มปากตอบด้วย เสียงนิ่งๆ ประโยคนึง”
ฟังแล้ว สีหน้าสวี่เกี่ยวก็ค่อยๆ เปลี่ยน : “หมายความว่าไง? เสิ่นเฉียว
เธอ…..ไม่อยากกับฉัน?”
เงินเฉียวขมวดคิ้ว ถอยหลังไปสองสามก้าวรักษาระยะห่างระหว่าง เขา : “หัวหน้า ปัญหานี้ฉันบอกคำตอบกับคุณไปแล้ว”
ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้วิเคราะห์ให้เธอไปแล้วหรอ? ถึงแม่ก่อนหน้านี้ คุณมีอะไรกับประธาน แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการเธอแล้ว อีกอย่าง ฉันสวี่เลี่ยวไม่ดีตรงไหน? ต่อไปเธอต้องทำงานอยู่ที่แผนกนี้”
“เสิ่นเฉียว เธอรู้ไหมเธอกำลังพูดอะไรอยู่? เธออยู่กับฉัน ฉัน สามารถพึ่งฉันได้! “ฉันไม่ต้องการพึ่งใคร ขอบคุณ” เงินเฉียวไปลากประตูเตรียมจะไป
สวี่เคี่ยวกดประตูไว้ : “เธอจะไม่ลองคิดดูอีกทีจริงๆ หรอ ปฏิเสธกัน ง่ายแบบนี้เลยหรอ?”
“เจ้านาย ปล่อยฉันไปเถอะ” เสิ่นเฉียวพูดด้วยสีหน้าไม่ดี
โดนปฏิเสธหลายครั้ง อีกอย่างไม่ไว้หน้ากันสักนิด สวี่เคี่ยวค่อนข้าง โกรธมาก กัดฟันพูด : “เธออย่าหน้าด้าน!”
นี่คือโกรธแล้วหรอ? เสิ่นเฉียวเงยหน้าขึ้นมาชาเลืองมองอีกฝ่าย “หลีกไป
“ ฉันสามารถให้เธอพึ่งได้ และยังให้เธออยู่ในแผนกนี้ไม่ได้เช่นกัน”
“หรอ? เงินเฉียวค่อยๆ ยิ้ม : “ก็เหมือนฉันมาวันแรกอะหรอ? เล่น ละครต่อหน้าประธาน เป็นคนฉลาด หัวหน้า ฉันแนะนำให้คุณ อย่า เป็นเพราะฉันทำให้สูญเสียตำแหน่งที่ตัวเองไต่ขึ้นมาอย่างยาก นํามาก”
“ เธอ!” สวี่เลี่ยวคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดได้ไม่เข้าหูขนาดนี้ หน้าเขียว หน้าซีดไปหมด เสิ่นเฉียวลากประตูเดินออกไปแล้ว
เขาทนไม่ไหวด่าตามหลังเธอไป : “แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์สูงส่ง แต่ เป็นแค่ถูกคนพิการทอดทิ้งเฉยๆ มีคนอยากได้เธอก็ไม่เลวแล้ว ยังจะ กล้าปฏิเสธ! เธอเป็นคนไร้ความปรานีและฉันก็จะไม่ชอบธรรม ฉันจะ คอยดูว่าเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไปอย่างไร! ผู้หญิงเลว! ”
เสิ่นเฉียวก็ไม่รู้ว่าการปฏิเสธของตัวเองจะทำให้อีกฝ่ายโกรธถึง ขนาดนี้ แต่ว่าเธอคิดถึงผลของการปฏิเสธมาก่อนแล้ว เธอก็ทําใจ ยอมรับมาบ้างแล้ว
เริ่มตั้งแต่วันที่เธอถูกเย่โม่เซ็นถอนตำแหน่ง เธอก็ทำใจไว้ทั้งหมด
แล้ว
ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับอะไร เธอต้องตอบสนอง จัดการด้วยความ
ใจเย็น
ใส่รหัสผ่าน เสิ่นเฉียวเข้าสู่โหมดทำงานอีกครั้ง
ตอนกลางวันตอนกินข้าว เสี่ยวเหยียนพูดด้วยความตื่นเต้น : “บริษัท ของพวกเราใกล้จะถึงวันครบรอบแล้ว ถึงเวลาจะมีการจัดงานวันครบ รอบ ตระกูลเย่จะต้องจัดงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่”
พอได้ยิน เสิ่นเฉียวก็หยุดงานเลี้ยงหรอ?
“ถึงตอนนั้นทุกคนก็ไปได้ เฉียวเฉียว เธอคิดหรือยังว่าจะใส่ชุดไหน
ไป?”
“ฉัน?” เสิ่นเฉียวยิ้ม : “ตอนนี้ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดา ไปงาน เลี้ยงได้หรอ?”
“ไปได้ นี่เป็นงานวันครบรอบ เพราะฉะนั้นพนักงานสามารถเข้าไป
ได้ เธอไม่รู้ ปีที่แล้ว
ศึกบนเวทีเดียวกัน น่ากลัวมาก!”
ศึกบนเวทีเดียวกัน? ”
คำนี้ทําให้เงินเฉียวคิดไม่ถึง เธอทนไม่ไหวหัวเราะออกมา : “มัน ขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ไม่มีได้ไง? ถึงแม้เป็นงานของตระกูลเย่ แต่เธอคิดว่าคนที่มามีแค่ คนในตระกูลเย่หรอ?
นอกจากนี้ยังมีบุคคลชั้นสูงหลายคนที่ได้รับเชิญจากตระกูลเย่ ถ้า หากสามารถดึงดูดหนึ่งในนั้น ชีวิตหลังจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะดี หรือไม่ดีแล้ว?” เสี่ยวเหยียนอธิบาย
ฟังแล้ว เสิ่นเฉียวอึ้งไปสักพัก “ดึงดูดได้คนหนึ่งชีวิตหลังจากนี้ก็ไม่ ต้องกังวลแล้ว?”
“แน่นอนสิ ถ้าหากดึงดูดได้คนหนึ่ง ก็คือแต่งงานกับครอบครัวที่ ร่ำรวยไง ผู้หญิงที่แต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวย ยังจะต้องกังวล อะไร? ใครก็อยากจะเป็นคุณหญิงบ้านคนรวยทั้งนั้น” “รวมถึงเธอด้วยไหม?”
เสี่ยวเหยียนถูกถามด้วยคำถามนี้แล้ว อึ้งไปสักพักใหญ่ถึงหัวเราะว่า เสิ่นเฉียวประโยคนึง : “ฉันจะเทียบกับพวกเขาได้ยังไง? ฉันกลับหัว ไม่เป็นนะ ฉันต้องหาคนที่เหมาะสมกับฉันสิ มีแต่เงินไม่มีความรักฉัน ก็ไม่แต่งหรอก”
มีแต่เงินไม่มีความรัก
เธอกับเย่ไม่เขินตอนนี้ไม่ใช่หรอ?
เธอแต่งงานกับเย่โม่เซิน เป็นเพราะเงินก็ไม่ได้มีความรัก
ไม่ใช่สิ ไม่มีเงินตรงนี้พูดผิดแล้ว ตอนนี้ทั้งห้างก็เป็นของเธอ เงิน เยอะขนาดนั้น
คิดถึงตรงนี้ เธอเม้มปาก เสี่ยวเหยียนอยู่ดีๆ ก็ลากเธอแล้วถาม : เอางี้ไหมหลังเลิกงาน พวกเราไปห้างซื้อชุดกันเถอะ? ไปร้านที่อยู่ ภายใต้บริษัทตระกูลเย่!”
เสิ่นเฉียวสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยน “ที่เธอพูดคือร้านนั้นหรอ?”
“ยังมีร้านไหนอีก? ก็ร้านนั้นเป็นห้างที่ใหญ่นี่นา ! ต้องเป็นห้างชั้นนำ”
เนเฉียว: “.….……. งั้นไม่ใช่ที่เปโมเซ็นให้เธอห้างนั้นหรอ?
เสี่ยวเหยียนบางบังเอิญ หรือว่าเธอรู้แล้วมาทดสอบเธอ?
ทําไมถึงอยากไปห้างนั้นล่ะ?”
เธอโง่หรอ ของในนั้นคือของดีที่สุดของเมืองเป่ย และทันสมัยที่สุด อีกอย่างมีเพียงที่นั่นที่จะซื้อชุดและชุดแต่งงานจากดีไซน์เนอร์ต่าง ประเทศได้ เธอนี่ช่างไม่รู้ข่าวคราวอะไรซะเลย?”
เสิ่นเฉียว : “…..ใช่สิ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่อง”
ในฐานะเจ้าของใหม่ของห้างนั้น เธออะไรก็ไม่รู้ทั้งนั้น “แบบนี้ละ กัน ตอนเย็นพวกเราหลังเลิกงานไปด้วยกัน ข่าวเกี่ยวกับห้างนี้เธอ สามารถบอกฉันทั้งหมดได้ไหม?”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้า : “ไม่มีปัญหา งั้นเลิกงานแล้วค่อยมาหาเธอ”
สองคนนัดกันดีแล้ว เสิ่นเฉียวก็กลับไปที่แผนก
รอเลิกงานค่อยไปห้างที่มีคำแนะนำกับเสี่ยวเหยียน
ระหว่างทางเสี่ยวเหยียนพูดให้เธอฟังห้างสรรพสินค้าและกิจกรรมที่ เกี่ยวข้องมากมาย เสิ่นเฉียวฟังไปจดไป อิงจากที่เสี่ยวเหยียนพูด ขอลงที่ดีที่สุดในเมืองเบี้ยต่างรวมตัวกัน อยู่ในห้างนี้ ไม่ว่าเป็นของกินของใช้ก็มีหมด
เพราะว่าห้างนี้อยู่ในนามของนามสกุล——เป
แม้ว่าผู้ผลิตหลายรายและดีไซน์เนอร์สู้จนหัวปักหัวป่าอยากขาย ของที่นี่ แต่มีการตรวจสอบคุณภาพ ระดับมืออาชีพ เพราะฉะนั้นเลย ไม่ผ่าน หรือว่าใครก็ตามที่พยายามจะผ่านมันไปจะไม่ผ่าน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ