เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่131 ไม่คู่ควร



บทที่131 ไม่คู่ควร

ทนมานาน เส้นเฉียวมองเขาด้วยดวงตาโกรธขึ้ง เธอกลับหลังหัน

เตรียมจะเดินจากไป

“หยุดเดี่ยวนี้!”

เปโม่เซินสั่งเธอ

เสิ่นเฉียวหยุดยืนอยู่ที่เดิม อย่างน้อยนี่เป็นคำสั่งของเขา ไม่ทำ ตามไม่ได้ แต่ถึงเธอจะหยุดเดินแต่กลับหันหลังให้เขา

แต่ผลปรากฏว่าวินาทีถัดมา เย่โม่เซินก็สวมกอดเธอแน่น เธอ

ตกใจจนร้องเสียงหลง

นิ้วร้อนของเย่โม่เซินแตะลงบนต้นคอของเธอน้ำเสียงนุ่มทุ้มดัง

ขึ้น

“บนตัวคุณยังสวมเสื้อผ้าขอผมอยู่เลยนะ มาหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาด

นี้ได้ถามผมบ้างหรือยัง?”

มือของเขายังคงรัดแน่นอยู่บนเอวของเธอราวกับเป็นโซ่ตรวน เธอเลยขยับไปไหนไม่ได้ เสิ่นเฉียวหันหน้าไปมองเขาด้วยความ

โมโห “ปูฉันหรอ!”

แววตาของเยโมเซินมาดร้าย เขาก้มลงไปชิดตัวเธอมากขึ้น “หรือ ว่าผมพูดผิด?”

“ยังไงเสียคุณก็ตั้งใจจะขู่ฉันอยู่ดี”

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาตั้งใจจะขู่เธอ แล้วทำไมไม่บอกเธอตั้งแต่แรกว่า ร้านอาหารร้านนั้นเป็นของตระกูลเย่ ทำไมต้องรอจนถึงตอนที่เธอ กำลังรีบร้อนออกไปแล้วค่อยบอกเธอว่าเป็นของตระกูลเย่ ตอนแรก พูดเป็นปมปริศนา ตอนหลังค่อยมาอธิบายให้เธอฟัง

มันน่าโมโหจริงๆ!

“ได้อย่างนั้นก็ถือว่าผมตั้งใจ คุณทนได้หรือเปล่าล่ะ?” เยโม่เซิ นพูดออกมาอย่างหน้าไม่อายจนทำให้คนฟังถึงกับอึ้งตาค้าง

“เมื่อกี้ในห้องน้ำที่ร้านอาหาร ผมบอกกับคุณว่ายังไง?” เปโม่เซิน ถอดสูทของเธอทิ้ง น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น “ผมมีอารมณ์”

เสิ่นเฉียวตาโต เธอทั้งเขินทั้งโมโห แน่นอนว่าเธอรู้ว่าที่เขาพูดมันหมายความว่ายังไง และต่อให้ไม่รู้ แต่การกระทำของเขามันก็บอกได้อยู่ดี

เพราะว่า! เปโม่เซินกำลังใช้ส่วนใดของส่วนหนึ่งของร่างกายถูเธอ ไปมา ท่าทางแบบนั้นกำลังบอกเธอว่าเขาต้องการอะไร…

เสิ่นเฉียวที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาหน้าซีดลงทุกที “เยโม่เชิน ตกลงคุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”

หลังจากที่สูทโดนออก มันก็โดนโยนทิ้งลงไปบนพื้นเย็นๆ

เย่โม่เซินใช้มือใหญ่ของเขาลูบไปบนหลังเกลี้ยงเกลาของเธอ เอ่ย ถามขึ้น “ตอนที่กลับมา สวมสูทตัวนี้ไว้ตลอดใช่ไหม? ผู้หญิงของเย่ โม่เซินไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมองได้หรอกนะ”

” ตกลงนี่เขาได้ฟังในสิ่งที่เธอพูดบ้างหรือเปล่า?

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มันกำลังบอกว่าเยโม่เซินไม่ได้ฟังเธอเลย

เขาก้มลงมาจูบลงไปบนต้นคอของเธอ เสิ่นเฉียวหมดความอดทน แล้ว เธอผลักเขาออก “คุณจะทำอะไร?” เปโม่เซินพูดขึ้นเสียงต่ำ “ทำต่อไง”

“ทำต่อ?”

“ตอนที่อยู่ในห้องน้ำ ยังทำไม่จบ”

พอโดนขัดจังหวะ คิ้วของเย่โม่เซินก็ขมวดขึ้น แสดงท่าทีไม่พอใจ เขากัดเธอไปเขี้ยวหนึ่ง เสิ่นเฉียวตกใจจนร้องออกมา

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันกะทันหันไปเสิ่นเฉียวคาดไม่ถึงว่าอยู่ๆเยโม่ เซินก็จะ… เอ่อ กระตือรือร้นจนถึงขนาดที่ถอดเสื้อผ้าเธอออก แล้วฝังหน้ามาบนต้นคอเธอ

ตัวเขายังคงทำต่อไปเรื่อยๆ แต่มือใหญ่ของเขาที่กำลังแตะลงบน ผิวเนื้อของเธอ มันทิ้งความร้อนรุ่มเอาไว้ทุกพื้นที่ที่โดนสัมผัส นั่น ทำให้เสิ่นเฉียวอาย

เขาไม่ได้ชอบเธอสักหน่อยนี่

แต่ก่อนก็เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเธอ เขามักจะใช้สายตาเหยียด หยามมองมาทางเธอประจำ ชอบพ่นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ เด็กใน ท้องของเธอก็ไม่ใช่ลูกของเขา และต่อให้เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนอื่น พวกเขาก็ไม่มีทางชอบผู้หญิงแบบเธอ แต่ว่า ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น การกระทำของเขาต่อเธอมันก็ เปลี่ยนไป เดี๋ยวก็กอดเธอ เดี๋ยวก็จูบเธอ เดี๋ยวก็แกล้งเธอ

เธอนึกถึงสิ่งที่พนักงานในบริษัทพูด เมียน้อย

เยโม่เซินไม่เคยมองว่าเธอเป็นภรรยาของเขาเลยสักครั้ง แค่พูดว่า เป็นผู้หญิงของเขา อีกครึ่งปีเธอก็จะจากไป ดังนั้นเขาก็เลยทำ เหมือนว่าเธอเป็นเมียน้อยของเขาหรือไง?

ไม่

เธอไม่ต้องการแบบนี้

เสิ่นเฉียวเบิกตากว้าง แล้วรีบผลักเย่โม่เซินออก

“ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันนะ!” เธอพูดขึ้นซ้ำๆแล้วก็ออกแรงผลักเขา เยโม่เซินเกือบจะถึงตอนสำคัญแล้ว ใครจะรู้ว่าอยู่ๆเธอก็ผลักเขา

ออก

จริงๆตอนแรก เขาจะเมินเธอก็ได้ แต่ว่าเขาโดนเธอสะกดเข้าเต็มๆ เขารวบมือเธอเอาไว้แล้วเอามาไขว้กันไว้ข้างหลัง ทำให้ตัวนุ่มนิ่ม ของเธอเบียดเข้ากับตัวเขามากกว่าเดิม เขาหรี่ตาลง “รู้หรือเปล่า ว่าตอนนี้คุณกำลังนั่งอยู่บนตักของใคร? ท่านั่งของ คุณในตอนนี้มันมีแต่จะทำให้มีอารมณ์มากขึ้…”

ฟังเขาพูดจบ สีหน้าของเสี่ยเฉียวเปลี่ยนไปเล็กน้อย “อย่าทำแบบ นี้ ไม่ใช่ว่าคุณเกลียดฉันหรือไง? ไม่ใช่ว่าเกลียดฉันแล้วต้องไม่แตะ ต้องฉันหรือไง? ตอนนี้คุณกำลังจะทำอะไร?”

พูดจบ เสิ่นเฉียวก็รู้สึกว่าตัวเองเสียการควบคุมเล็กน้อย “คุณมอง ว่าฉันเป็นของเล่นใช่ไหมล่ะ? เพราะฉันเคยหย่า แล้วในท้องฉันก็ ไม่ใช่ลูกคุณ อย่างนั้นคุณก็เลยใช้วิธีนี้ลงโทษฉันใช่ไหม?”

เย่โม่เซินที่ล็อกข้อมือเธอไว้นิ่งไปเสี้ยววินาที เขาหรี่ตามองเธอ ด้วยสายตาอันตราย “คุณคิดว่าผมกำลังทำโทษคุณอยู่?”

“ไม่ใช่หรือยังไงคะ?” เสิ่นเฉียวมองเข้าไปในดวงตาของเยโม่เซิน เสียงหวานเอ่ย “แต่ก่อนก็เห็นได้ชัดว่าคุณเกลียดฉัน ทำไมอยู่ๆคุณ ก็เปลี่ยนไป? เป็นเพราะเรื่องในคืนนั้นใช่ไหม? อย่างนั้นฉันจะบอก คุณให้นะว่า ถ้าเป็นเพราะเรื่องในคืนนั้น คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบ นี้ เพราะ..วันนั้นฉันโดนวางยา ฉันไม่ได้เต็มใจ”

ประโยคหลังที่เธอเอ่ยขึ้น สามารถทำให้สีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีอยู่ แล้วของเขาเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวได้เขากัดฟันโมโห “ไหนคุณ ลองพูดอีกทีสิ?” เสิ่นเฉียวกัดริมฝีปากของเธอไว้ดวงตาดื้อรั้นจ้องอยู่ที่นัยน์ตาของ

เขา

คางของเธอถูกเยโม่เชินบีบเขาไว้ แถมครั้งนี้เขาบีบมันแรงกว่า เดิมด้วย เขามองมาที่เธอด้วยสายตาอันตราย “อีม? คุณไม่ได้ เต็มใจ? เพราะฉะนั้นก็คือผมขึ้นใจคุณ?”

“ฉันไม่โทษคุณ” เสิ่นเฉียวอธิบาย “คืนนั้นในห้องมีเทียนหอม ยาสลบอยู่ ลู่สุนฉางตั้งใจจะเอาคืนคุณ เขาคิดว่าคุณไร้ สมรรถภาพ.. เพราะฉะนั้นเลยอยากให้คุณลองทนกับความเจ็บ ปวดที่ทนไม่ได้ดูบ้าง แต่คิดไม่ถึงว่าคุณจะ…

เสิ่นเฉียวไม่ได้พูดประโยคที่เหลือต่อ

ต่อให้คืนนั้นสติของเธอมันเลือนราง แต่ว่ายังคงนึกออกอยู่บ้าง แต่ ว่ามันก็แค่นิดเดียวเท่านั้น แต่อีกวันที่ตื่นมาแล้วเห็นรอยบนตัว รอยพวกนั้นคงไม่โกหกแน่

“คิดไม่ถึงว่าอะไร?” สายตาของเย่โม่เซินเข้มขึ้น แถมมันยังทอ ประกายเกรี้ยวกราด มือที่บีบอยู่ที่คางของเธอก็แรงขึ้นเรื่อยๆ “คืน นั้นคุณไม่ได้คิดเลยใช่ไหมว่าคนที่ไปช่วยจะเป็นผม หรือว่าจริงๆ แล้วคุณคิดถึงคนอื่น?”

“ฉัน..” เขาเป็นอะไร เขาพูดแบบนี้มันเหมือนกับเขากำลังหึง แต่ว่าเขา

ฟังใครกัน…

ไม่ใช่สิ เขาจะหึงเธอได้ยังไงกัน

ก็เธอเป็นคนที่เขาเกลียดนี่!

เธอรู้ความสำคัญของตัวเองดี และไม่ได้คิดไปไกล

เสิ่นเฉียวหันไป เธอเอ่ยขึ้น “ยังไงเสีย เรื่องวันนั้นคือฉันถูกบังคับ ช่างมันเถอะค่ะ อย่าเอามาใส่ใจอีกเลย”

“.คุณต้องการแบบนี้?”

เสิ่นเฉียวเม้มปาก เธอไม่ได้พูดอะไร

ตัวเธอเองอยากได้อะไร ในใจเธอก็ยังไม่รู้เลย แต่ว่าไม่ใช่เพราะว่า เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ก็เลยเป็นเย่โม่เซินที่กอดเธอ จูบเธอ

เธอไม่อยากได้อะไรแบบนี้

เธออยากได้..อยากได้. เสิ่นเฉียวหลับตา เลิกคิดได้แล้ว

เสิ่นเฉียว เธอไม่คู่ควรเลยสักนิด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ