เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก...

บทที่ 126 ฉันต้องการให้เธอช่วย



บทที่ 126 ฉันต้องการให้เธอช่วย

ดังนั้น ภาพเหตุการณ์ข้างหน้าเป็นเหมือนพ่อครัวฝึกหัดที่เพิ่งจบ การฝึกฝนมาใหม่ๆ ที่นำอาหารที่ตัวเองทำเสร็จแล้วมาเสิร์ฟต่อหน้า ลูกค้า เห็นลูกค้ากินอย่างเอร็ดอร่อย ถึงได้ปรากฏรอยยิ้มกว้างขึ้น

มา

ภาพเหตุการณ์ฉากนี้ ทำไม ซูจิ๋ว ดูยังไงก็ยังรู้สึกว่าแปลก ประหลาด

ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

* ขอโทษที่ผมมาช้า” เสียงเย็นชาของผู้ชายดังขึ้นมาขัดจังหวะ

ซูจิ๋ว กับเส้นเฉียวชะงักไป และหันไปมองทางเสียงที่เพิ่งดังขึ้นมา

เยโม่เซินที่มีบุคลิกองอาจ และสวมใส่ชุดสูทสีดำที่ถูกรีดตรง กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น โดยมีเซียวซู่ที่เป็นคนเข็นออกมาตรงหน้า ผู้คน

เห็นเปโม่เซิน เสิ่นเฉียวก็เบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง ทำไมเขาถึง โผล่มาที่นี่ได้ละ?

เวลานี้ ไม่ใช่ว่าเขาควรจะอยู่ที่บริษัทหรอกหรอ? อีกอย่าง ภารกิจ นี้เขาก็มอบหมายให้เรามาทำแล้วนี่นา หรือเราทำผิดตรงไหนอีก? ”

พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เสิ่นเฉียวก็รีบลุกขึ้นยืนและ เดินไปหาเขาทันที ท่าทางที่เหมือนเมียน้อยนั้น ทำให้หานชิงที่นั่ง นึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเงยหน้าขึ้นมามองอย่างอดไม่ได้ดวงตาเย็นชาม องไปที่เสิ่นเฉียว

หลังจากนั้น ก็มองเลยไปทางด้านหลังของเสิ่นเฉียว หานชิงก็ได้ สบเข้ากับดวงตามีดครึ้มของเย่โม่เซิน

เปโม่เซ็น..

พอนึกถึงผลสำรวจครั้งนี้ ดวงตามืดครึ้มของหานชิงก็ปรากฏความ คิดขึ้นทันที

ไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นได้ ดวงตาของหานซิงถึงได้เพิ่มความพิจารณา

ขึ้นมา

ซูจิ๋ว ยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว: ” ประธานเย่ ถ้ารู้ว่าคุณมาด้วย ฉัน

คงจะ๑๑๑๑๑๑

สีหน้าของเย่โม่เซินเย็นชาไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก ผมแค่ มาดูว่าผู้ช่วยของผมเจรจาเรื่องงานไปถึงไหนแล้ว ” น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งมาก ฟังไม่ออกถึงอารมณ์อื่น

ซูจิ๋ว มองเสิ่นเฉียวอย่างเก้อเขิน เสิ่นเฉียวเดินไปด้านหน้าเยโม่เซิน และพูดขึ้นเสียงเบา: ” นายมาได้ยังไง? ”

สีหน้าประหลาดใจที่อยู่บนใบหน้านั้นเหมือนเด็กน้อยเลยก็ว่าได้ เย่โม่เซินหรี่ตาคมลงเล็กน้อย ทำไมเมื่อก่อนถึงไม่รู้สึกว่าผู้หญิงคน นี้ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันละ?

แต่ตอนนี้ ท่าทางและสายตาต่างๆของเธอทำให้เย่โม่เซินรู้สึก ถูกตาต้องใจเป็นอย่างมาก

และยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกถูกชะตามากด้วยเช่นเดียวกัน

เวร!

หรือเป็นเพราะความสัมพันธ์บนเตียง? ไม่ควรนี้นา!

คิดไปคิดมา เปโม่เซินก็โมโหอย่างน่าแปลกใจ และใช้น้ำเสียงที่ สามารถได้ยินแค่สองคนพูดตอบเธอ: ” มาดูว่าลับหลังผม คุณได้ยั่ว ผู้ชายคนอื่นหรือเปล่าไง ”

เสิ่นเฉียว: ”
ผ่านไปชั่วขณะ สิหน้าของเธอก็แข็งที่อไปทันที

และใบหน้าหล่อของเปโม่เซินเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เขาเป็นรถ เป็นไปที่หน้าโต๊ะอาหาร: ถ้าไม่ถือสา ขอร่วมโต๊ะด้วยได้หรือ เปล่า? ”

หานชิงวางซ้อมกับมีดที่อยู่ในมือลง ใบหน้าเคร่งขรึม

” ประธานเย่ เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เจอคุณ”

เปโม่เซินยกยิ้มมุมปาก: ” นานๆจะได้เจอ ”

และเสิ่นเฉียวที่ยืนอยู่ตรงนั้นยังคงรักษาท่วงท่าเดิม ได้ยินพวกเขา กำลังพูดคุยกันถึงจะตอบสนองกลับมา และหันหัวไปมองพวกเขา เล็กน้อย

เธอเดินไปนั่งลงที่ตำแหน่งเดิม ทุกคนนั่งลงอย่างเก้อเขิน สักพัก เสิ่นเฉียวถึงจะตอบสนองกลับมา บนโต๊ะมีเพียงอาหารที่อยู่ตรงหน้า หานซิง แต่เธอดันลืมอาหารของเธอกับ ซูจิ๋ว ไปสนิท

ขอโทษนะคะ ฉันขอไปเรียกพนักงานมาสั่งอาหารสักครู่! ”

หลังจากที่พนักงานมาแล้ว และเสิ่นเฉียวถามความคิดเห็นของทุก คนแล้ว ถึงค่อยโล่งใจขึ้น แต่เยโม่เซ็นกลับพูดเสนอขึ้นมาในเวลานี้: บรรยากาศดีขนาดนี้ ประธานหานไม่ดื่มสักหน่อยหรอครับ? ”

ซูจิ๋ว กำลังจะบอกว่าท่านประธานของพวกเธอไม่ดื่มเหล้า แต่ไม่ คิดว่าหานชิงจะตอบรับเสียก่อน: ” ได้ สิ”

เพราะฉะนั้น ก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟ ก็ได้เสิร์ฟเหล้าสองขวดก่อน

ตอนที่เสิ่นเฉียวเห็นเหล้าขวดนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็ก น้อย เธอถือโอกาสตอนที่พวกเขาดื่มเหล้าไปที่เคาน์เตอร์ และแอบ ถามราคาเหล้าขวดนั้น หลังจากที่รู้ราคาเหล้าแล้ว ใจของเสิ่นเฉียว ก็อยู่ไม่นิ่งอีกเลย

ที่นี่เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของเมืองเป่ย และล้วนเป็นพอครัวที่ มีชื่อเสียงทั้งสิ้น แค่ราคาอาหารขึ้นชื่อก็แพงมากพอแล้ว ไม่ต้องไป พูดถึงพวกเครื่องดื่มจำพวกไวน์เลย

ปกติแล้ว พนักงานทั่วไปจะไม่มาทานอาหารที่ร้านอาหารประเภท นี้ สถานที่มีระดับจะจัดให้กับคนที่มาเจรจาเรื่องงาน หรือการชักจูง ใจมาเป็นพวกทางการค้าเสียมากกว่า แต่เพราะอาหารของร้านนี้ ล้วนมาจากฝีมือของพ่อครัวชื่อดัง ดังนั้น คนที่มาทานอาหารที่นี่ก็มี

มากพอสมควร

และคนส่วนมากก็สามารถจ่ายไหว

แต่เห็นได้ชัดว่าเส้นเฉียวจ่ายไม่ไหว ถึงแม้ว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ฝ่ายการเงินจะทำเรื่องเงินทุนให้เธอ จำนวนหนึ่งแล้ว แต่ถ้าให้จ่ายค่าอาหารมื้อนี้ เงินก็อาจจะไม่พอ

เสิ่นเฉียวหันไปมองพวกเขาเล็กน้อย แอบถือโทรศัพท์และเดินไป ทางห้องน้ำอย่างเงียบๆ

ห้องน้ำหญิงไม่มีคนอื่น เสิ่นเฉียวจึงหยิบโทรศัพท์และกตโทรหา หานเสโยวหน้าห้องน้ำสะเลย

ตอนที่หานเสโยวกดรับโทรศัพท์เธอ ก็รู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย: ” เวลานี้ทำไมไม่ทำงาน แต่กลับโทรหาฉันละ หรือว่าจะชวนฉันร่วม รับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน?”

เสิ่นเฉียวไม่มีเวลาหยอกล้อกับเธอ สำหรับเธอแล้ว ตอนนี้เป็น สถานการณ์คับขัน

“เสโยว ฉันต้องการให้เธอช่วย ให้ฉันยืมเงินหน่อยนะ!”

หานเสโยว: ” .เกิดอะไรขึ้น? ”

เสิ่นเฉียว: เรื่องมันยาว แต่ตอนนี้ฉันต้องการเงิน ”

* ได้ แล้วเธอต้องการเท่าไหร่? ฉันจะโอนไปให้เธอตอนนี้เลย” หานเสโยวตอบรับเธออย่างตรงไปตรงมา เพราะทั้งสองคนรู้จักกันนานแล้ว ตั้งแต่หานเสโยวเข้าไปใน ตระกูลหาน ก็คิดอยากจะชดเชยเสิ่นเฉียวมาตลอด เธอบอกกับเสิ่น เฉียวอยู่เสมอว่าถ้ามีเรื่องอะไรเธอจะช่วยเส้นเฉียว แต่เสิ่นเฉียวไม่ เคยพูดขอยืมเงินเธอเลยสักครั้ง และไม่เคยขอให้เธอช่วย

แม้แต่ตามหาชายแปลกหน้าคนนั้น ก็เป็นหานเส่โยวเองที่พูดเสนอ ว่าจะช่วยเธอตามหา

เพราะฉะนั้น ครั้งนี้เสิ่นเฉียวบอกว่าจะยืมเงินเธอ หานเส่โยวดีใจ มากจริงๆ เพราะอย่างน้อยเธอก็บอกกับหานเส่โยวเอง จึงทำให้หาน เสโยวหาโอกาสที่จะชดเชยเธอได้แล้ว ใจของหานเส่โยวจึงไม่ได้ รู้สึกไม่ดีอีกต่อไป

ดังนั้น เธอจึงโอนเงินไปให้เสิ่นเฉียวอย่างรวดเร็ว ตอนที่เสิ่นเฉียว ได้รับข้อความ ก็พูดขอบคุณเธอ: ” ขอบคุณเธอมากนะ”

หานเสโยวจึงพูดถามขึ้น” เธอยังไม่บอกฉันเลยนะว่าด้องการเงิน ไปทำอะไร? ต่อให้เรื่องมันยาว แต่อย่างน้อยก็บอกกันสักนิดสิ”

พูดถึงเรื่องนี้ เสิ่นเฉียวจึงหัวเราะออกมา: เรื่องมันยาวจริงๆ ครั้ง ก่อน ที่ฉันเคยบอกเธอว่าจะเลี้ยงอาหารพี่ชายของเธอไง? ”

ได้ฟังดังนั้น เหมือนมีอะไรมากระทบในใจของหานเส่โยว เธอจึง พยักหน้าช้าๆ: ใช่ ใช่แล้ว ทำไมหรอ? ” ” บริษัทตระกูลเปจะร่วมมือกับบริษัทตระกูลหาน เพราะฉะนั้น วัน นี้ฉันโชคดีมากที่สามารถเชิญพี่ชายของเธอให้มาทานอาหารได้นะ

“เธอ เธอบอกว่าอะไรนะ?? ”

เสิ่นเฉียวเพิ่งพูดเสร็จ หานเสโยวก็ตกใจจนหน้าซีด เสิ่นเฉียว ได้ยินเธอที่อยู่ในสายเหมือนพลั้งมือปัดของตก เธอจึงถามขึ้นอย่าง แปลกใจ: ” เป็นอะไรไป? ”

“เธอกับพี่ของฉัน….เจอกันแล้ว? ” น้ำเสียงของหานเส่โยวดู กระวนกระวายมาก เส้นเฉียวจึงรู้สึกประหลาดใจ และขมวดคิ้ว

คิดอะไรออก เสิ่นเฉียวจึงรีบพูดอธิบายทันที: ” เธอวางใจได้ ฉัน ไม่ได้รบกวนงานของพี่ชายเธอ ที่พวกเรามีโอกาสพบกันก็เพราะมา เจรจาเรื่องงาน”

” ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน? ” หานเส่โยวถามขึ้นอย่างกะทันหัน

” ว่าไงนะ?”

” บอกฉันมาสิ ไม่ใช่ว่าพวกเธอกำลังทานอาหารกันอยู่หรอ ร้าน ไหนละ? ” หานเสโนวไม่ได้สังเกตเลยว่าเสียงของตัวเองกำลังสั่น

เสิ่นเฉียว: ” ..ร้านอาหารชื่อดังในเมืองเป่ย…” ประโยคหลังยังพูดไม่จบ หานเสี่ยวก็กดตัดสายไปเลย: เธอรอ ฉันก่อน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ