ตอนที่ 132 เธอไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้
หลงเชียวรับมือกับคำสรรเสริญเยินยอของคนรอบข้างอย่าง เหนื่อยหน่าย รอยเส้นบนริมฝีปากถูกขยายออกจนเรียบตึง รัศมี บนตัวฉู่ลั่วหานปกปิดไม่มิด เธอคือหยกที่ถูกเจียระไน เธอเก็บ ซ่อนได้ดี แต่หากล้ำเส้นของเธอ เธอจะเผยเขี้ยวเล็บอันแหลมคม
แล่อีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ เขาและเธอ คล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่า
เชื่อ
จี้ตงหมิงเพ่งพินิจการตอบโต้ของฉู่ ลั่วหาน เอ่ยชมอย่างอดไม่ ได้ “เจ้านาย นายหญิงเมื่อครู่ เท่ระเบิด”
หลงเซียวจิบไวน์แดงคำหนึ่ง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเขา
“นี่ไม่ใช่ความสามารถทั้งหมดของเธอ”
สู้กับคนพวกนั้น เธอไม่จำเป็นต้องงัดไม้เด็ดเข้าสู้ แต่ท่านเซียว กลับหลงไหลในความเหี้ยมโหดของเธอ ความดุเดือดในตัวเธอ
ไม่ เขาชอบความอ่อนโยนของเธอ ความอ่อนโยนภายใต้ ความดุเดือด ไม่ใช้ความอ่อนโยนภายใต้ความอ่อนแอ
“หลงเซียว”
ในขณะนั้นเอง บุคคลปริศนาที่หยิบแก้วเหล้าเข้ามาทักทาย อย่างถือวิสาสะ คือโม่ล่างคุน เขาซ่อนความเจ้าเลห์เจ้าแผนการ เอาไว้ไม่เปิดเผยตัวตน
“ลุงโม่” เขาตอบเรียบง่าย
โม่ล่างคุนยิ้มอย่างเป็นกันเอง “มีอะไรบางอย่าง ผมคิดว่าถึง เวลาแล้วที่จะต้องคุยกับคุณ คุณรู้ดี เฟยเฟยเป็นคนที่สำคัญที่สุด ของผม เธอมีหุ้นส่วนในบริษัทโม่ชื่อ20เปอร์เซ็น เป็นหุ้นส่วน ใหญ่อันดับสองของบริษัทโม่ชื่อ”
หลงเซียวขมวดคิ้ว เริ่มเล่นละครแล้ว ข้อเสนอชัดเจน “ลุงโม่ รักลูกดั่งดวงใจ นับถือจริงๆ” โม่ล่างคุนตบบ่าหลงเชียวเบาๆ “คุณเป็นคนฉลาด จะเลือกหุ้น
ส่วนที่ไร้ประโยชน์ หรือจะเลือกคนที่เพียบพร้อม คำตอบชัดเจน
มาก”
หุ้นส่วนที่ไร้ประโยชน์? โม่ล่างคุนแทงใจดำภรรยาตนเองเช่น นี้ เคยไตร่ตรองถึงผลลัพธ์บ้างไหม?
หลงเชียวเหล่มองที่ที่เขาสัมผัสผ่าน ขมวดคิ้ว สีหน้าไร้ความรู้ สึกใดๆ “ลุงโม่ ชีวิตคู่ไม่ใช่ธุรกิจ เงินทอง
สำหรับผมเป็นเพียงตัวเลข ข้อเสนอของคุณ ผมไม่สนใจ”
ตรงไปตรงมา ไม่พูดพร่ำทำเพลง
โม่ล่างคุนหัวเราะลั่น เหล่มองด้วยสายตาขุ่นมัว “ทวนกระแส น้ำเช่นนี้ มีแต่จะถูกชัดถอย หลงเชียว ยังหนุ่มแน่น อย่ามอง ความรักเป็นชีวิต โชคชะตา บางทีก็เลือกเองไม่ได้”
สายตาหลงเชียวคมลึก เขาเก็บซ่อนประสบการณ์ความหมาย ดำมืดราวหมึก “ชีวิตขึ้นอยู่กับตัวเราหาใช่ฟ้าดินไม่ ประโยคนี้ คุณคงคุ้นหู” จบคำ เขาเอ่ยเสริม “ลุงโม่ แทนที่จะเสียเวลากับ ผม เอาเวลาไปสั่งสอนหรูเฟยดีกว่า อย่าหลอกตัวเองอีกเลย”
ประโยคเหล่านี้ ไร้ความเกรงใจต่อเขา รู้ว่าเขาต้องโกรธจัด หลงถึงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเดินเข้ามา พลางตำหนิเสียงดัง ลั่น “หลงเซียว ขอโทษเดียวนี้!”
หลงเซียวเผยสายตาดุดัน “สมควรขอโทษจริงๆ ขออภัย ผม ขอโทษไม่เป็น”
หลงถึงถลึงตาโต หวังตำหนิลูกชายเดี๋ยวนั้น โม่ล่างคุนห้าม ปราม หัวเราะร่า “ยังหนุ่มดื้อรั้นเป็นธรรมดา อีกหน่อยจะเข้าใจ เอง จะเลือกเดินทางไหน ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน” %3D
“สหายโม่ เขาเอาแต่ใจจนเคยตัว อย่าถือสาเด็กเลย”
“ที่ไหนกัน เด็กอย่างหลงเชียว น่าดึงดูดที่สุดก็ตรงนิสัยนี่แหละ ผมชอบเขามาก!ฮ่าฮ่า!”
ท่านเชียวไม่สนใจในหัวข้อที่พวกเขาหาลือกัน พลางรินไวน์ ครึ่งแก้ว กระดกดื่มเพียงลำพัง
ตระกูลโม่และตระกูลหลง ในเรื่องงานหมั้น ไม่เหลือบ่ากว่า
แรง
เมื่อห้าปีก่อน หลงเซียวรับรู้เรื่องนี้
ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงทั้งสี่ ได้แก่หลง และโม่ที่ร่ำรวยที่สุด ธุรกิจหลักของตระกูลหลงคือธุรกิจการเงิน อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจหลักของตระกูลโม่คือการค้าวัสดุก่อสร้าง เหมืองแร่ ตระกูลโม่อาศัยเหมืองแร่ในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้องการตระกูลหลง ส่วนตระกูลหลงนั้นเสาค้ำทั้งสองข้างนั้น แข็งแกร่งยิ่ง ตระกูลโม่จะเป็นทับหลังที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ยังมีตระกูลเกาที่ทำธุรกิจเสื้อผ้าเป็นหลัก ตระกูลซุน อาศัยธุรกิจเครื่องเพชรเป็นหลัก
เพียงแค่ตระกูลเกา และตระกูลซุนก้มหน้าก้มตาทำเงินเพียง อย่างเดียว เริ่มมีหน้ามีตามีอำนาจในไม่ช้านี้
สนามรบได้เปิดเต็มรูปแบบแล้ว ใครจะกระชับมิตรด้วยวิธีการ
ใดได้ตามใจชอบ
นอกห้องโถง
ลู่ซวงซวงแตะไหล่เธอเบาๆ “นางฟ้าของฉัน วันนี้เท่ระเบิด! ฉัน ตกหลุมรักเธออีกแล้ว”
ฉู่ลั่วหานจิบไวน์แดง สายลมราตรีพัดผ่าน เส้นผมประปราย สยายพาดที่หน้าอก ปอยผมตีผ่านคาง ปาดวาดปลายคางที่ วิจิตร
เธอลูบไล้แก้มนวลที่ถูกตบเบาๆ เอ่ยอย่างเจ็บใจ “ทีหลังไม่ ต้องแสร้งเข้มแข็งหลอก ที่ดีวันนี้ฉันอยู่ หากวันใดฉันไม่อยู่ เธอ จะทำยังไง?”
ฉู่ลัวหานแสบจมูก เธอเหลือเวลาบนโลกใบนี้ไม่มากแล้ว แต่ กลับไม่สามารถบอกกับเธอได้
ลู่ซวงซวงหรี่ตาลง “เป็นไปได้อย่างไร! เวลามีเรื่องอะไร นางฟ้าของฉันปรากฏตัวทันทีเสมอแหละ!”
ฉู่ลั่วหานส่ายหน้า “ซวงซวง หากฉันไม่อยู่แล้วจริงๆ เธอต้อง เรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเอง”
ลู่ซวงซวงเบะปาก “พูดอะไรกัน หลอกใคร? !”
ขณะนั้นเอง ปรากฏเงาร่างสูงใหญ่ย่างกายเข้ามา ทั้งคู่เงย หน้าขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ประจันหน้ากับชายแปลกหน้า
ชายหนุ่มในชุดสูทสีเทา เน็คไทถูกปลดออกอย่างหลวมๆ คาง เรียวได้รูป สายตาดุร้ายอย่างไม่เป็นมิตร อายุไม่เกิน30 เต็มไป ด้วยกลิ่นคุณชายเพลย์บอยปกคลุมไปทั่ว
“คุณผู้หญิงแสนสวย ให้เกียรติเต้นรำกับผมจะได้ไหมครับ?” เธอเรียกสติกลับคืนมา ผู้คนเริ่มเต้นรำกันแล้ว
ฉู่ลั่วหานลากขาเรียวยาวนั่งลงบนเก้าอี้ พลางยกยิ้ม “เชิญฉัน เป็นคู่เต้นรำ? คุณช่างกล้าหาญจริงๆ”
ชายหนุ่มเบะปากลง ดวงตาเรียวดูหมิ่น “ทำไม? ไม่ให้เกียรติ กัน?”
ลู่ซวงซวงพูดเบาๆ “ฉันว่า นายเป็นหมูหรือเปล่า? รู้จักผู้หญิง ที่อยู่ตรงหน้าไหม? เธอเป็นภรรยาของหลงเชียว คุณหญิงตระกูล หลวง”
คิดว่าสถานะนี้จะทำให้เขาถอยห่างออกไปได้ หากแต่ไม่คาด คิดชายหนุ่มเพียงแค่กระตุก ลังเลเล็กน้อย “หลงเชียวอย่างนั้น หรือ เป็นตัวละที่เก่งกาจจริงๆนั่นแหละ แต่ใครกำหนดกันว่ามี สามีแล้วห้ามเป็นคู่เต้นรำกัน? แล้วก็นะ คุณชายหลงในตอนนี้ ไม่มีเวลาสนใจเธอหลอก”
คือ?
คู่ลั่วหานเสาะหาเงาร่างของหลงเซียว พลันเห็นเขานั่งอยู่บน โซฟาในห้องโถงของคฤหัสถ์ พร้อมหญิงสาวที่แต่งหน้าหนา เตอะนั่งขนาบข้าง ระยะห่างทั้งคู่ใกล้ชิดกันมาก ดูอบอุ่นจนเกิน ตา
ลู่ซวงซวงกัดฟันแน่น ” ให้ตาย เวลาสำคัญไอ้บ้าหลงเชียวใช้ ไม่ได้การเลย”
ฉู่ลั่วหานอารมณ์เสีย “โทษที ฉันก็ไม่มีเวลาสนใจนายเหมือน
กัน”
ชายหนุ่มกลับไม่สนใจคำปฏิเสธของเธอ เขาเอื้อมมือดึงรั้งมือ เรียวเอาไว้ ฉุดกระชากร่างบางต่อหน้าลู่ซวงซวง!
ชายหนุ่มแรงเยอะเหลือเฟือ คู่ลั่วหานถูกรั้งเข้าไปแนบชิดกับ ไหล่กว้างโดยไม่ทันตั้งตัว
ได้กลิ่นยาสูบจากร่างชายหนุ่มจางๆ และน้ำหอมของผู้หญิง เพลย์บอยหนุ่มเจ้าแผนการอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มรั้งประสาน มือเรียวและเอวบางของเธอเอาไว้ไม่ให้โอกาสเธอได้ต่อสู้
เธอขัดขืนสุดตัว อย่างไม่ชอบใจนัก!
เธอขยับก้าวตามฝีเท้าของเขา จังหวะเพลงวอลทซ์เริ่มไม่ ถึง30วินาที ฉู่ลั่วหานแสร้งเหยียบเท้าของเขาอยู่หลายรอบ แต่ เขาหลบเลี่ยงได้หมด!
บ้าเอ้ย!
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันขาวเรียงตัว สวยงาม ที่ไม่ถูกย้อมด้วยควันยาสูบเหลืองอร่าม น่าอิจฉานัก
“นายเป็นใคร?” ฉู่ลั่วหานจับจ้องเขาอย่างเพ่งพินิจ อันที่จริงแล้ว รูปลักษณ์ของเขาจัดว่าดีมาก โดดเด่นในหมู่
ผู้คนอย่างแน่นอน เพียงแค่กะล่อนเกินไป พลอยทำให้คนเกลียด
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “สาวน้อย บางทีรู้ชื่อผู้ชายไม่ส่งผลดีหลอก นะ ในสถานการณ์เช่นนี้ เพียงชั่วค่ำคืน เช้าตื่นมา เธอเป็นใคร? ฉันเป็นฉัน แค่หวังสนุกเท่านั้นแหละ”
เหอะ! ที่แท้ก็พวกล่อหญิงสาวไปวันๆ
สายตาที่แหลมคมของฉู่ลั่วหานจ้องทะลุไปที่ชายหนุ่ม สอดแนมเขาเล่นสนุกราวเด็กๆ ที่หัวเราะอย่างจริงจัง “คุณ ฉัน เป็นเอดส์”
เธอกล่าวอย่างจริงจัง เขากลับหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่า สวยน้อย นี่เป็นวิธีการปฏิเสธที่ทำร้ายตนเองมากที่สุด เท่าที่ฉันเกิดมา โรคเอดส์ บอกว่าตัวเองเป็นโรคซาร์สซะเลยสิ”
ชายหนุ่มไม่สนที่จะใส่ใจ ในด้านการทำร้ายตนเองนั้นฉู่ลั่วหา นโหดร้ายเสมอ พลอยทำให้รู้สึกหนาวเหน็บใจ
คู่ลั่วหานกลับยกมุมปาก “ที่ฉันพูด เป็นเรื่องจริง” กระนั้น เธอขยับริมฝีปาก ทำท่าทางประทับลงบนริมฝีปากเขา
ให้ได้
ชายหนุ่มตระหนกเล็กน้อย ไม่ได้กลัวเธอป่วยอะไรหลอก หาก เธอประทับลงมาจริงๆ ต่อให้ไม่ตายก็ถูกแล่เนื้อเป็นชิ้นๆ
ให้ตาย หลงเชียวนะหลงเซียว ผู้หญิงที่แกชอบ ต้องบ้าคลั่ง เช่นนี้เลยหรือ
หลงเชียวดีดตัวลุกขึ้นอย่างแขยง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา บรรจงเช็ดบนหัวไหล่ที่ถูกหญิงสาวแตะต้อง พลันขมวดคิ้วแน่น!
เขาเป็นโรครักความสะอาด โดยเฉพาะหญิงแปลกหน้า โดย เฉพาะผู้หญิงแต่งหน้าหนาเตอะที่แป้งหลุดทุกครั้งที่ขยับตัว ที่ คลุกคลีด้วยเมื่อครู่เป็นหนึ่งในสองคนนี้!
เขาจ้องมองออกไปยังทิวทัศน์นอกหน้าต่าง หลงเชียวกระพริบ ตา เขายึดตัวลุกขึ้น ยกขาเรียวขึ้นสาวเท้าเดินออกจากห้องโถง ด้วยความเร็วที่น่าตกใจ!
ชายหนุ่มปล่อยเอวและแขนของฉู่ลั่วหานให้เป็นอิสระอย่าง ประหลาดใจ ขณะที่เขาหัวเราะแห้งนั้น พลันถูกกระชากเข้าสู่ อ้อมอกแข็งแกร่งอบอุ่น!
“เพิ่งกลับมา คิดจะออกไปอีกแล้ว?” น้ำเสียงเย็นชาแหบทุ่ม ดังลอยเข้ามา พร้อมบรรยากาศเหี้ยมโหดราวนักฆ่า
ฉู่ลั่วหานรับรู้ได้แม้ไม่เงยหน้า กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่คุ้นเคย มีเพียงเขาเท่านั้น
แต่ประโยคเมื่อครู่ หมายความว่าอย่างไร
อะไร?
หรือทั้งคู่รู้จักกัน?
สายตาอันแหลมคมจับจ้องไปที่กู้เยนเซิน ไร้ความเกรงใจแต่ อย่างใด เขาคลุกคลีกับภรรยาเขา สิ่งนี้เขาทนไม่ได้ “ในเมื่อไม่ อยากไสหัวไปไหน ก็ทำตัวดีๆ อยู่นิ่งๆซะ”
กู้เยนเซินเบื่อหน่าย “ไม่เอาหน่า เมื่อกี้เมียแกบอกว่าเป็น เอดส์ ฉันตกใจหมดเลย ไม่ปลอบใจฉันหน่อยหรือ?”
อะไรนะ?
สายตาฉงนของท่านเซียว จ้องมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอด ผู้หญิงคนนี้พร่ำอะไรกัน?
คู่ลั่วหานหญิงสาวก้มหน้างุด ซ่อนงำความรู้สึก
“อยากเต้นรำจริงๆ หรือ” ประโยคนี้ เขาถามเธอ
คู่ลั่วหานปฏิเสธหนักแน่น “ไม่อยาก”
“งั้นหรือ? แต่ฉันอยาก”
ฟลอร์เต้นรำกลางแจ้ง พรุน้ำประดับด้วยดนตรี แสงไฟระยับ วับวาว ชุดราตรีทรงสง่า โดยเฉพาะแสงไฟที่เฉิดฉายลงบน ใบหน้าหญิงสาว แก้มขาว ชุ่มฉ่ำอิ่มนวลกว่าเดิม น่ากัดน่าฟัดดี นัก
เขาโอบรอบเอวบาง โยกย้ายไปตามดนตรีอย่างช้าๆ ท่าเต้น ที่เรียบง่าย เพราะเป็นหลงเชียวและฉู่ลั่วหาน ที่มีเสน่ห์ดึงดูด อย่างยิ่ง บรรดาแขกรับเชิญต่างจับจ้องไปที่พวกเขาทั้งคู่
พวกเขากลับทำราวไร้ผู้คนรอบข้าง จดจ่ออยู่กับดนตรีตรง
หน้า
“คำโกหกเมื่อครู่ ต่อให้เพื่อสลัดชายอื่น ก็ห้ามพูดออกมาอีก” เขาก้มหน้าลง เอ่ยข้างหูเธอ ลมหายใจร้อนผ่าวรดใบหูของเธอ จั๊กจี้อย่างด้านชา
ฉู่ลั่วหานเงยหน้า “หากฉันไม่ได้ล้อเล่น แต่เป็นเรื่องจริงหละ?” หลงเซียวจ้องลึกลงไปอย่างไตร่ตรอง ไม่คาดคิดว่าเธอจะตอบเช่นนี้ “หากเป็นเรื่องจริง งั้นฉันก็เป็นกับเธอด้วย การ ติดต่อของเอดส์ เธอและฉันเราเป็นด้วยกันทั้งคู่แล้ว”
แผ่นหลังเธอยึดแน่น เบิกตาโตด้วยความตะลึง
การติดต่อ เธอโง่เง่าถึงขนาดคิดว่าเพียงแค่ไม่มีอะไรลึกซึ้งต่อ กันก็ไม่เป็นไร….แต่เขาเคยจูบเธอตั้งนานแล้ว หรือว่า….ไม่!
หญิงสาวหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง หัวใจบีบรัดด้วยความเจ็บ ปวดใบหน้าขาวซีด ไม่!
“เธอเป็นอะไร?” เขาเอ่ยถามเสียงแผ่วเมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ เปลี่ยนไปของเธอ มือใหญ่โอบเอวหญิงสาวแน่น ไล่ถามด้วย เสียงนุ่มนวล
ฉู่ลั่วหานรวบรวมสติพละกำลังทั้งหมดเพื่อไม่ให้ตนเองบ้าคลั่ง ล้มลงเสียก่อน เธอพึมพำเสียงแผ่ว “หลงเซียว….”
“อืม?” คำตอบที่เซ็กซี่และอบอุ่น
“พวกเรา พวกเราอาจจะ…”
เธอพูดไม่ออก คำพูดมากมายติดอยู่ในลำคอ ตัวอักษรไหล เวียนถึงริมฝีปากได้แต่ขบเอาไว้แน่น!
“เป็นอะไร?”
ฉู่ลั่วหานหลับตาลง เม้มริมฝีปากแน่น ท้ายที่สุดกลับอดไม่ได้ “เมื่อครู่เพื่อนคุณคนนั้นบอกจะรอดูคุณเล่นใหญ่ มันหมายความ ว่ายังไง?”
คิ้วที่ขมวดแน่นของหลงเซียวค่อยๆคลายออก จับจ้องไปที่ สายตาอันใสวาว ดวงไฟที่กลางแจ้งมืดสลัวนิดหน่อย แต่ดวงตา ของเธอวับวาวราวหมู่ดาวที่ส่องแสงพร่างพราวในใจเขา
“เธอจะได้รู้ในเร็วๆนี้”
ดนตรีจบลง โม่ล่างคุนและสมาชิกครอบครัวทั้งสามยืนบน แท่นโต๊ะหินอ่อน เจ้าของงานเตรียมกล่าวประกาศ
หลงเซียวพยักหน้าให้กับจี้ตงหมิง จี้ตงหมิงเข้าใจความหมาย ก่อนฝ่าออกจากฝูงชน โม่ล่างคุนสิบนิ้วประชิดเข้าหากันแสดงความขอบคุณ พลาง
ฉีกรอยยิ้ม “ขอบคุณทุกคนที่มางานวันนี้ผมในค่ำคืนนี้ วันนี้
เป็น…”
สายตาเหล่าฝูงชนต่างจับจ้องไปที่เขา เหล่าบรรดานักข่าวต่าง ชูกล้องกดชัตเตอร์รัว สายลมพัดพลิ้วทิวทัศน์งามสง่า
ขณะที่เขาเอ่ยอย่างออกรสออกชาติ แสงไฟปริศนาสาดทิ่มเข้า มาจากในสวนของคฤหัสถ์!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ