ตอนที่ 79 รักที่ลึกซึ้ง
รถสปอร์ตสีขาวมูลค่ามหาศาลวิ่งด้วยความเร็วบนถนนที่เงียบสงัด มือ ภัสกรณ์ข้างหนึ่งวางอยู่บนพวงมาลัยรถ อีกข้างหนึ่งกำลังเปิดหน้าต่างรถ ลมพัดโชยด้วยความเร็วพัดผมสั้นสีดำหล่อๆ
รูปทรงใบหน้าแบ่งแยกชัดเจน ใบหน้าหล่อเหลา ริมฝีปากบางๆเซ็กซี่ยก เล็กน้อย
นีรชาผู้หญิงคนนั้นกลับไปเองแล้ว เขาคิดอยากจะระบายอารมณ์กับผู้ห ยิ่งที่จู่โจมเข้ามาหาเขา แต่ถึงเปลี่ยนผู้หญิงสองคนแล้ว ความรู้สึกก็ยังไม่
ดี
ในใจของเขายังคงไม่สบายใจ เหมือนมีอะไรคาใจ หายใจไม่ค่อยมีความ
สุข
ช่างมันเถอะ กลับบ้านเถอะ ขึ้นเตียงกับผู้หญิงพวกนี้ ดูเหมือนว่ายังไม่มี ความสุขเท่ากับการได้ทะเลาะกับนีรชา
นีรชาไม่รักเขาไม่เป็นไร เขาจะคิดวิธีที่ทำให้เธอรักเขา แล้วสักวันหนึ่ง เขาจะได้ครอบครองนีรชาจริงๆซักที สิ่งที่เขาอยากได้ ไม่ใช่แต่ตัวของ เธอ เขาอยากได้ใจของเธอมากกว่า เมื่อสายตาที่ลึกลับมองไปที่กล่องขนาดใหญ่บรรจุอย่างสวยงาม ภัส กรณ์ค่อยๆนึกยิ้ม
เมื่อสองวันก่อนนี้รชาพูดว่าอยากจะซื้อเสื้อผ้าใช้ลูกไนท้องของเธอ แต่ ว่าไม่มีเวลาไปซื้อ เมื่อสักครู่เขาไปร้านขายของเด็กเล็กที่ดีที่สุดในเมือง รองนี้ ซื้อเสื้อผ้าเด็กสวยๆมาสองสามชุด
คิดถึงตอนที่นีรชาดีใจที่ได้เห็นเสื้อผ้านี้ ภัสกรณ์ยิ่งยิ้มออกมาอย่างดีใจ
โทรศัพท์บลูทูธดังขึ้น
“คุณภัสกรณ์ คุณsulia ตามหาตัวคุณตั้งนาน เธอให้ฉันมาบอกคุณ เธอ คิดถึงคุณมาก แต่ก่อนเธอยังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้เธอสำนึกผิดแล้ว ขอร้องให้ คุณภัสกรณ์ให้โอกาสเธอ ผู้ช่วยของภัสกรณ์แจ้งให้เขาทราบอย่าง ชัดเจน หยุดสักพัก น้ำเสียงของเธอกล้าๆกลัวๆ : คุณ sulia ยังพูดอีก ว่า เธอเพิ่งจะไปศัลยกรรมมา เธอบอกว่าคุณจะต้องชอบแน่ๆ ”
ภัสกรณ์โค้งมุมปากเยาะเย้ย
วินาทีนี้ เขาแค่อยากจะรีบกลับไปกินข้าวต้มของเขา นีรชา เขายอมรับ
ว่าเขาติดเธอ
“บอกเธอไปซะ ” ภัสกรณ์เหวี่ยงออกไป แล้ววางสาย โทรไปอีกเบอร์ หนึ่ง
* น้าแข นีรชาหลับหรือยัง ?
” คุณนีรชา ? คุณนีรชายังไม่ถึงบ้านค่ะ เธอไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงกับคุณ
เหรอคะ?
หัวใจถูกทุบอย่างแรง มือที่เรียวยาวสั่นอย่างรุนแรง เบรครถอย่าง กระทันหัน รถสปอร์ตสุดหรูชนเข้ากับกล่องจดหมายข้างทางจนกล่อง กระเด็นไปกลางอากาศ แล้วไปหยุดอยู่ที่กำแพง
วางสายโทรศัพท์แล้วโทรไปที่มือถือของนีรชา
ภัสกรณ์ขมวดคิ้ว กัดฟัน รีบรับโทรศัพท์ นีรชา
“ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้ ” เสียงผู้ หญิงแจ้งเตือนภัสกรณ์ ครั้งนี้ นีรชา หายตัวไปจริงๆแล้ว
นีรชาชกไปที่พวงมาลัยรถ นีรชา เธอไปอยู่ที่ไหนกันแน่ โทรศัพท์แบต หมดหรือว่าตั้งใจจะปิดเครื่อง
เตะประตูรถ ภัสกรณ์เดินลงรถพร้อมทั้งโทรศัพท์ไปหาระพินทร์
* นีรชาหายตัวไป ให้เครือข่ายของคนในเมืองรองทั้งหมดไปหาตัวเธอ มาให้ได้ ถ้าหากหาไม่เจอ นายก็อย่าหวังว่าจะได้มีชีวิตอยู่”
ในห้องที่เป็นสบายสดชื่น หลังจากที่นีรชาร้องไห้ฟูมฟายเสร็จ ในที่ี่สุดก็
สงบลง
รู้สึกอายนิดหน่อยที่เห็นเสื้อคลุมของสมภพถูกคราบน้ำตาและน้ำมูกของ เธอถูจนยับยู่ยี่ นีรชาสูดจมูก: ” ฟี่สมภพ ฉันอยากกลับบ้าน พี่ช่วยไปส่ง ฉันหน่อยๆ
” ไม่ สายตาเหลืองอำพันของสมภพจ้องตานีรชา เสียงนุ่มนวลมาก แต่
น้ำเสียงแน่วแน่
ในใจนีรชาเจ็บปวด
ลืมตาขึ้น เธอมองหน้าสมภพ พูดอย่างลำบาก : ฟี่สมภพ ฉันจะต้องกลับ
บ้าน
นีรชา เธอรักภัสกรณ์ไหม ? เธอรักเขาไหม ? สายตาสมภพสัมผัสได้ ถึงความเจ็บปวด เขาจ้องหน้านีรชา น้ำเสียงดูตั้งใจ
หัวใจ ในชั่วครู่สั่นอย่างรุนแรง
พี่สมภพ ฉันจะตอบคุณยังไง ? ถ้าหากฉันบอกว่าไม่รัก แล้วจะทำไม ? ถ้าหากบอกว่าไม่รัก คุณก็จะเลิกกับรวัลเหรอ? ถ้าหากบอกว่าไม่รัก ฉัน ก็จะออกมาจากภัสกรณ์แล้วมาอยู่กับคุณเหรอ ?
เป็นไปไม่ได้ เรื่องของเราเป็นอดีตไปแล้ว นีรชาในตอนนี้ ไม่ใช่สาวน้อย ที่ใสซื่อบริสุทธิ์เมื่อสามปีก่อนคนนั้น เธอในตอนนี้ เป็นแค่ผู้หญิงสกปรก คนหนึ่ง
นีรชากัดปากไว้จะเอาคลื่นลูกใหญ่ที่อยู่ในใจยัดไว้ในมุมที่ลึกที่สุดใน หัวใจ
* ใช่ค่ะ รักค่ะ น้ำเสียงเธอนิ่งมาก แต่สายตาที่เต็มไปด้วยหมอกคู่นั้น มี ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถซ่อนมันได้
สมภพเบิกตากว้าง เหมือนฝันไปและจะยื่นมือออกไปเบาๆ ปิดตาคู่นั้น ของนีรชา เสียงที่อบอุ่น ต่ำเหมือนกระซิบ: นีรชา คุณกำลังโกหก ถ้า หากรักจริงๆ สายตาของคุณทำไมถึงดูเสียใจขนาดนี้ ? ”
หัวใจของนีรชา เจ็บแปลบๆขึ้นมา
ทำไมนะ เขาถึงได้มองทะลุเข้าถึงมุมที่ลึกที่สุดของหัวใจเธอ ? เธอก็พูด แล้วว่ารักภัสกรณ์ แล้วทำไมยังไม่ปล่อยเธอไปอีก ทำไมต้องตื้อรั้นแบบ นี้ ?
อย่าทำดีกับเขา อย่าทำดีกับเขาอีก คัดจมูกไม่หาย นีรชาผลักสมภพออก ห่างจากเขาหน่อย อ้อนวอนขอว่า : ” พี่สมภพ พี่ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ”
สมภพขอร้องอย่างจริงใจกว่า : ” นีรชา ให้เวลาผมหนึ่งวันได้ไหม ? อยู่ กับผมหนึ่งวัน ผมแค่อยากขอเวลาหนึ่งวัน ”
นีรชาปฏิเสธสมภพที่เป็นแบบนี้ไม่ได้ปฏิเสธสายตาที่อบอุ่นจริงใจและ ความเจ็บปวดที่ลึกซึ้งและคำอ้อนวอนไม่ได้
ตาห้อยลง ปากของเธอยิ้มด้วยความเสียใจ : ิ ฉันตกลง
ฉันตกลง เพราะว่านี่จะเป็นวันสุดท้ายของพวกเรา
ฉันตกลง เพราะว่าต่อจากนี้ไป ฉันจะไม่มาเจอหน้าคุณอีก
ฉันตกลง เพราะว่า ต่อจากนี้ไป ฉันจะลบคุณออกไปจากความทรงจำ
ของฉัน
สมภพ ฉันตกลง
ไม่มีเวลาไปคิดว่าถ้าภัสกรณ์กลับไปแล้วไม่เจอตัวเธอจะคุ้มคลั่งขนาด ไหน นีรชาแค่อยากจะคว้าความอบอุ่นที่เพียงปลายนิ้วนี้ มีอของพี่สมภพ ขาว เรียวยาว สะอาด อบอุ่น เห็นว่าในที่สุดนีรชาก็ตกลงอยู่ต่อ สายตาที่อบอุ่นของสมภพเฮอสันไป
ด้วยความสุข
“หิวหรือยัง ? เอาใจใส่และช่วยเธอจัดทรงผม ผมต้มโจ๊กให้คุณกินดี
ไหม ?”
ควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างสุดชีวิต นีรชาสายหน้า น้ำเสียงนิ่งๆ : ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่หิว
ได้ยินน้ำเสียงนิ่งๆของนีรชา มีอของสมภพที่กำลังแบ่งผมนีรชาก็สั่น ถามอย่างอึดอัดใจ : ผมบังคับให้คุณอยู่ต่อแบบนี้ คุณวังเกียจผมไหม ?
นีรชากัดปาก ยิ้มอ่อนๆให้สมภพแล้วส่ายหน้า สายตาเจ็บปวดจนพรั่งพรู
น้ำตาออกมา
เธอจะรังเกียจเขาได้ยังไงล่ะ ? เธอคอยคิดถึงพี่สมภพมาโดยตลอด เธอ จะเกียจลงได้ยังไง ? เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา แล้วจะเกียจเขาได้ยัง ไง ?
เธอก็แค่ กลัวว่าเขาจะรังเกียจเธอก็เท่านั้น เธอไม่ได้ดีอย่างที่เขาคิด เธอ ไม่ใช่องค์หญิงที่ดีเลิศเหมือนเมื่อสามปีก่อน ชีวิตของเธอ ถูกทำลายจน พังไปตั้งนานแล้ว
* นีรชา ทันใดนั้นสมภพถอนหายใจเบาๆ พิงมาที่เธอ โอบไหล่เธอ เบาๆ ก็แต่กอดเบาๆเท่านั้น ไม่ได้ทำไม่ดีไม่ร้ายอะไร
ทั้งตัวของนีรซากรู้สึกแน่นขึ้นมา แข็งจนขยับไปไม่ได้ ระหว่างหายใจ ทั้งตัวของเขามีกลิ่นมินต์เย็นๆ
ต้องควบคุมอารมณ์ชั่ววูบของตัวเองที่อยากจะเอาหน้าไปซบในอ้อมกอด เขา สายตากระพริบปริบๆของนีรชา เสี่ยงขึ้นจมูกหน่อยๆ : สมภพ ฉัน ฉันรู้สึกหิวแล้ว”
* ได้ ผมไปทำอะไรให้คุณกิน คุณอยากกินอะไร ? ผมจำได้ว่าแต่ก่อน คุณชอบกินเนื้อตุ๋นมะเขือเทศมากที่สุด ผมทำให้คุณกินดีไหม ? เสียง ของสมภพเต็มไปด้วยความอบอุ่นเหมือนกับพระอาทิตย์ ใบหน้าที่หล่อ เหลา แสดงรอยยิ้มที่มีความสุข
* อ็ม ค่ะ นีรชาหันกลับไป ก้มหัวลง ปล่อยให้น้ำตาร่วงจากเปลือกตาถึง พื้นโดยตรง
นี่เป็นวันสุดท้ายของเธอกับพี่สมภพ เธอจะร้องไห้ไม่ได้ เธอจะต้องมี ความสุข เหมือนเมื่อสามปีก่อน
เห็นสมภพใส่ผ้ากันเปื้อน ตั้งใจหั่นผักอยู่ในห้องครัว นีรชายิ้มออกมาจน ดวงตาค่อยๆชุ่ม นี่แหละพี่สมภพ พี่สมภพของเธอ ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้า เธอ ใกล้กับเธอมาก เธอแค่เอื้อมมือออกไป ก็จะกอดเขาได้แล้ว
แต่ว่า เธอไม่สามารถเอื้อมมือไปได้ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเอื้อมมือออกไป ตั้งนานแล้ว
หันกลับไปอย่างเงียบๆ นีรชาพยายามบังคับให้เสียงของตัวเองดูปกติ : พี่สมภพ ฉันขอเดินดูบ้านนี้ได้ไหมคะ ?”
* เดินดูได้ตามสบาย เหนื่อยแล้วก็พักหน่อยนะ กับข้าวใกล้จะเสร็จแล้ว” ผมของสมภพย้อมเป็นสีน้ำตาลบลอนด์อ่อนๆ เข้ากับสีตาของเขามาก แสงอาทิตย์จากหน้าต่างส่องไปที่หน้าของเขา หล่อเหลาอย่างกับเจ้าชาย ในเทพนิยาย
นีรชาไม่กล้ามองเขาต่อไป ก้าวขาเดินไปทางชั้นสอง บ้านหลังนี้ใหญ่ มาก โทนสีหลักเป็นสีชมพูเหมือนในฝัน นีรชาแปลกใจเล็กน้อย สมภพ ทำไมตกแต่งห้องเหมือนสไตล์สาวน้อยในฝัน คนที่ไม่รู้จักเขา คงจะคิดว่า เจ้าของบ้านเป็นสาวน้อยอายุ18สินะ
เดินขึ้นไปตามลูกกรงเหล็กดัดที่แกะสลักด้วยความประณีต นีรชาหยุด ยืนอยู่ตรงช่องบันไดชั้นสอง สักพักสายตาก็เบิกกว้าง ตกใจจนพูดอะไร ไม่ออก
ยืนอยู่ต่อหน้าผนัง วาดภาพผู้หญิงวัยรุ่น สวมใส่กระโปรงสาว ผมยาวๆสี ดำปล่อยสยายอยู่ด้านหลัง ยิ้มอย่างสดใสและมีความสุขกลางแดด ใบ หน้าขาวๆ จมูกสวยๆ ปากสีแดง ดวงตาคู่นั้นชัดเจนจนมองทะลุไปถึงใจ คน วินาทีนี้กำลังมองนีรชาอยู่
สายตาที่เหมือนกันทั้งสองคู่ คู่หนึ่งอยู่บนกำแพง อีกคู่หนึ่งอยู่ตรงหน้า บันไดมองกันอย่างนี้ ระหว่างสองสายตาคู่นี้ ถึงแม้ว่าระยะเวลาจะห่างกัน
สามปี แต่ว่ายังไงก็เป็นนีรชา
สมภพ วาดภาพเลียนแบบเมื่อตอนนี้รชาอายุ 18ปีอยู่บนกำแพง
ทุกเส้นละเอียดมาก ทุกจุดที่ใช้สีนั้นละเอียดลออมาก คนที่วาดภาพนี้ ต้องวาดด้วยความรักและความหลงใหล เพราะว่า ตอนนี้นีรชาซาบซึ้งใจ จนน้ำตาไหลเต็มหน้า
ควบคุมอารมณ์อยู่ตั้งนานในที่สุดก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง นีรชานั่งอยู่มุม บันได ร้องไห้เงียบๆอย่างกับจะขาดใจ
ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย ในใจของเธอเหมือนถูกคลื่นพายุพัด กระหน่ำ รุนแรงยิ่งกว่าสินามิระดับ 10
พี่สมภพ ถ้าหากไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว ชีวิตนี้ฉันคงไม่มีโอกาสได้เห็น ภาพวาดผืนนี้ใช่ไหม ? หากฉันดื้อรั้นจะไป ชีวิตนี้ฉันก็คงไม่มีทางรู้ แท้จริงแล้ว รักของพี่ฝังลึกขนาดนี้ ดุเดือดขนาดนี้ ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ