ตอนที่29 โล่งใจ
ท่าทีของเธอทำให้ภัสกรณ์เริ่มไม่พอใจ มือใหญ่จับไปที่ คางของนีรชา ออกแรงดึงหน้าเธอเข้ามาใกล้ เพื่อเผชิญ หน้ากับเขา
“พูด..อย่าให้ฉันหมดความอดทน “ความอดทนของภัส กรณ์ใกล้หมดลงแล้ว
“เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับคุณมิทราบ ปล่อยฉัน” เธอ ถลึงตาใส่เขา
“ไม่เกี่ยวกับฉันงั้นเหรอ”ภัสกรณ์แสยะยิ้มอย่างเย็น ชา”อย่าลืมสิ ว่าเธอเป็นนางบำเรอของฉัน นางบำเรอ ก็ต้อง ปฏิบัติตามกฎที่ควรปฏิบัติ”
นางบำเรอ
ใช่สิ..เธอเป็นได้แค่นางบำเรอ แล้วยังจะเรียกร้องศักดิ์ศรี
อะไร
นีรชารู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เขลานัก นี่เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถ้าไม่ใช่นางบำเรออย่างที่เขาว่า
ฟันขาวกัดริมฝีปากซีดๆ ของตัวเองแน่น นีรชาเงยหน้าขึ้น มา น้ำเสียงของเธอเยือกเย็นจนน่ากลัว”ใช่…ฉันมันก็แค่ นางบำเรอของคุณ ฉันไม่ควรมีศักดิ์ศรี ฉันไม่ควรมีอิสระ ฉันจน ฉันต่ำต้อย ไม่มีแรงที่จะต่อต้านใคร คนอย่างท่าน ประธานหันมาเหลียวแลฉัน ก็นับว่าเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในชีวิตของฉันแล้ว ฉันควรจะเชื่อฟัง ถ้าคุณบอกให้ไปทาง ซ้าย ฉันต้องไม่ไปทางขวา ถ้าคุณพูดว่าอากาศดี ฉันต้อง ไม่พูดว่าฝนตก ถูกต้องไหมคะ?”
คำพูดเหล่านั้น ทำให้ภัสกรณ์ถึงกับหน้าเหวอ
เขามองดูเธออย่างตกใจ และในความตกใจนั้น เขารู้สึก ราวกับว่าถูกล้างสมอง ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กำลังพูดอะไร?
ตั้งแต่ภัสกรณ์ยอมเข้ามาสืบทอดธุรกิจตอนอายุสิบแปด ก็ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงประชดประชันแบบ นี้ แถมยังเป็นคำพูดที่หลุดออกจากปากเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ดูอ่อนแอคนหนึ่ง
ร่างสูงเฝ้ามองเธออยู่นาน ก่อนรอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย จะปรากฏขึ้นที่มุมปาก
รอยยิ้มนั้นช่างเยือกเย็น
“นีรชา เธอกล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้ เธออย่าลืมนะ ว่าสิทธิ์ชานนพ่อของเธอ ยังนอนแน่นิ่งรอการรักษาอยู่บน เตียง ค่าหมอ ค่ายาทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับฉัน แค่ฉันกระดิกนิ้ว เธอก็เตรียมตัวซวยได้เลย”
รอยยิ้มของเขาน่ากลัว ราวกับซาตานที่ผุดขึ้นมาจากนรก
“คุณคิดจะทำอะไร?”เธอพูดเสียงสั่นเครือ พยายามระงับ ความหวาดกลัวในใจของตัวเอง
เขาหรี่ตามองหญิงสาว ค่อยๆ เอานิ้วมือเสยคางของเธอ ให้เงยหน้าขึ้น”เธอเป็นผู้หญิงฉลาด น่าจะเข้าใจในสิ่งที่ฉัน พูดนะ…ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอต้องปฏิบัติตามกฎสิบข้อ”
“กฎของการเป็นนางบำเรอน่ะเหรอคะ?”เธอจ้องเขาตา เขม็ง ใบหน้าเล็กๆ ซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยม่านหมอกแห่งความไม่พอใจ
“ข้อที่หนึ่ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอต้องเลิกทำงาน พาร์ทไทม์ แล้วย้ายไปอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลธนกิจ โกศล”
“ข้อที่สอง ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ต้องรายงานให้ฉันรู้ ให้ ฉันอนุญาตก่อนถึงจะไปได้
“และข้อที่สาม ห้ามโกหกฉันเด็ดขาด”
“ตอนนี้เอาแค่สามข้อนี้ไปก่อน อีกเจ็ดข้อที่เหลือเดี๋ยว ค่อยว่ากันที่หลัง”ภัสกรณ์ไม่เปิดโอกาสให้นีรชาคัดค้าน ใดๆ เลย
เธอได้แต่ก้มหัวลง ผมยาวสลวยลงมาปกหน้า ปิดบัง ความรู้สึกของเธอเอาไว้ ภัสกรณ์เองก็รู้สึกหวันไหวในใจ ไม่น้อย
เขาปัดผมของเธอออก เผยให้ใบหน้าที่สวยงาม ภัสกรณ์ กระซิบเสียงนุ่มที่ข้างหูของนีรชาว่า “ตอนนี้ บอกฉันได้ หรือยังว่าผู้ชายคนเมื่อคืนเป็นใคร? ใช่รุ่นพี่คนนั้นที่เธอจำ ฝังใจไม่ลืมหรือเปล่า?
รุ่นพี่พี่ภพน่ะเหรอ? เธอรู้สึกจุกขึ้นมาในหัวใจทันที
พี่ภพ…เขาหายไปจากชีวิตของเธอตั้งนานแล้ว และทั้ง ชีวิตนี้ อาจจะไม่มีทางได้เจอกันอีกเลยก็ได้
นีรชาแสยะยิ้ม และพูดออกมาเบาๆ ว่า “ไม่ใช่หรอกค่ะ เขาเป็นแค่เพื่อนนักศึกษาธรรมดาๆ คนหนึ่ง”
ดวงตาคมกริบของภัสกรณ์จ้องมองนีรชาไม่วางตา เหมือนว่าต้องการมองให้ลึกเข้าไปถึงข้างในหัวใจของเธอ
ในแววตาของนีรชามีแต่ความเฉยเมย แสดงว่าเธอไม่น่า จะโกหก และหัวใจของภัสกรณ์ ก็โล่งอย่างบอกไม่ถูก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ