ตอนที่ 51 เสพสุขให้ฉัน
เห็นนีรชาก้มหน้าไม่พูดอะไรออกมา ภัสกรณ์ก็แน่ใจใน การคาดเดาของตัวเอง หันกลับไปบิดคางของนีรชาให้หัน มาอย่างรุนแรง”หญิงสารเลว เธอลืมแล้วหรือไงว่าฉันถึงจะ เป็นคนที่คอยสนับสนุนด้านการเงินของเธอ? ชีวิตพ่อเธอก็ ถูกบีบอยู่ในกำมือของฉัน! เพียงแค่ฉันพูดคำเดียวว่าไม่ได้ ก็ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้ารับรักษาพ่อของเธอ!”
นีรชาตกใจ ภัสกรณ์รู้ว่าจุดอ่อนของเธออยู่ที่ไหนมากเกิน ไปแล้ว ดวงตากลมโตที่ตื่นตระหนกแหงนมองขึ้นไป นีรชา เอ่ยปากขอร้องเขาเป็นครั้งแรก “ขอร้องนะคะ ช่วยพ่อของ ฉันด้วย!”
เสียงที่ทั้งเล็กและนุ่มนวล มีพลังที่ทำให้คนไม่อาจจะต่อ ต้านหรือปฏิเสธได้
ภัสกรณ์ค้นพบว่าตนเองไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องวิง วอนใดๆของนีรชาได้ ในใจเกิดความโมโหต่อความใจอ่อน ของตัวเอง เขากระชากผมยาวของนีรชาอย่างแรง ดึง ใบหน้าของเธอให้เข้ามาใกล้เกือบจะแนบลงบนใบหน้าของตนเอง เอ่ยปากขึ้นอย่างเลือดเย็นว่า “ช่วยพ่อของเธอ น่ะได้ แต่นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอก็คือสาวใช้ที่ต่ำต้อย ที่สุด ตั้งใจเรียนรู้ว่าจะเอาใจฉันอย่างไรเถอะ!”
“ค่ะ ท่านประธาน” เสียงของนีรชาหมองหม่นราวกับถูก ปกคลุมด้วยฝุ่นหนา
ริมฝีปากของภัสกรณ์โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เย้ยหยัน กวาดตามองศีรษะนีรชาที่ก้มต่ำลงจากนั้นก็ลุกยืนขึ้น ร่าง อันสูงใหญ่นำพากลิ่นไอความหนาวเย็น ทำให้นีรชามี ความรู้สึกอึดอัดและกดดันอย่างบอกไม่ถูก
ภัสกรณ์ไม่ได้มองนีรชาอีกแม้แต่แวบเดียว ก้าวเท้ายาวๆ เดินไปทางห้องนอน ฝึก้าวที่หนักหน่วงเดินมาถึงหน้าประตู ห้องนอน หันกลับมาเห็นนีรชายังยืนเหม่อลอยอยู่ที่เดิมจึง พูดขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “ยังมัวยืนอึ้งอะไรอยู่? ฉันหิว แล้ว! รีบไปทำอาหารมือดึกมาสักหน่อยสิ!”
กระทั่งภัสกรณ์ปิดประตูเสียงดังปัง นีรชาจึงได้ถอน หายใจยาวเหมือนยกภูเขาออกจากอกก็ไม่ปาน ทั่วทั้ง ร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง ทั้งยังมีความรู้สึกพะอืดพะอม อยู่ลึกๆ คล้ายกับเริ่มมีอาการตอบสนองของการตั้งครรภ์แล้ว
ตอนนี้เธอกลัวภัสกรณ์เป็นอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าทำไมเห็น ดวงตาที่กระหายเลือดของเขาแล้ว เธอรู้สึกใจไม่เป็นสุข อย่างบอกไม่ถูก
เธอเคลื่อนไหวฝีเท้ารินน้ำให้ตัวเองแก้วหนึ่ง ดื่มเข้าไปที่ ละนิด ทีละนิด ฝืนทนความพะอืดพะอมดื่มจนหมดแก้ว ใน กระเพาะกลับส่งเสียงร้องจ๊อกๆออกมา ท้องเริ่มหิว ทั้งหิว ทั้งพะอืดพะอม ความรู้สึกแบบนี้ช่างยอดแย่จริงๆ!
เธอหาขนมปังก้อนเล็กๆจากตู้ติดผนังออกมาก้อนหนึ่งรีบ กินหมดภายในไม่กี่คำด้วยความรวดเร็ว ก็ยังรู้สึกไม่สบาย ปวดหัวเป็นอย่างมาก แต่พอนึกถึงคำสั่งของภัสกรณ์ ยังไง ก็ฝืนไปทำอาหารที่ห้องครัวจะดีกว่า
ข้าวสารและข้าวเหนียวผสมเข้าด้วยกัน ต้มเป็นโจ๊กข้าว ผสมที่เหนียวขันทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใบเซียงชุนที่เป็น สินค้ามาใหม่สับอย่างละเอียด โรยด้วยเกลือป่น ใส่จิ๊กโฉ่ว เข้าไปอีกเล็กน้อย ทำเป็นยำผักที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและ เย็นสบาย เธอไม่รู้รสนิยมการทานอาหารของภัสกรณ์ จึง ได้ทำแซนวิชขึ้นมาอีกหนึ่งชิ้น ทอดไข่เจียวที่เหลืองอร่ามอีกสองฟอง
ทำอาหารมือดึกแบบง่ายๆชุดนี้เสร็จ นีรชากลับไม่มีความ อยากอาหารเลยแม้แต่น้อย แค่ได้กลิ่นไข่เจียวก็ยังอยาก จะอาเจียนออกมา
เธอเคาะประตูห้องของภัสกรณ์ พูดด้วยเสียงที่นุ่มนวล โดยมีประตูห้องคั่นอยู่ว่า อาหารทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว รีบ ออกมาทานเถอะค่ะ!”
ไม่มีใครสนใจเธอ เธอจึงได้แต่พูดซ้ำอีกรอบ จากนั้นถึง ได้กลับไปเอนตัวลงยังห้องนอนอีกห้องหนึ่ง คุดคู้อยู่บน เตียงที่อ่อนนุ่ม ฟูกและผ้าห่มที่อบอุ่นนุ่มลื่นทำให้ความ พะอืดพะอมที่พัดหวนอยู่ในกระเพาะของเธอจางหายไป ไฟเล็กๆบนหัวเตียงเปล่งแสงสว่างไสวสีเหลืองอบอุ่นอยู่บน วอลเปเปอร์ที่เรียบง่ายทำให้ทั้งห้องมีความรู้สึกเงียบและ สงบสุข
บนโต๊ะอาหารได้หายไปแล้ว มีเพียงจานชามวางทิ้ง กระจัดกระจาย เธอทำความสะอาดโต๊ะ ทำอาหารเช้าที่ อุดมสมบูรณ์อุ่นเอาไว้ในหม้อ รอภัสกรณ์ตื่นขึ้นมา
อาหารเช้าอุ่นแล้วอุ่นอีก ภัสกรณ์ถึงได้เดินออกมาจาก ห้องนอน พอเห็นนีรชาก็เย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง
นีรชารีบนำอาหารเช้ายกขึ้นไปวางบนโต๊ะ ตักโจ๊กให้เขา เรียบร้อย แล้วลองยิ้มให้กับเขา รอยยิ้มกลับแข็งตึงเป็น อย่างยิ่ง “วันนี้ต้มโจ๊กหมูเห็ดหอมค่ะ”
ภัสกรณ์ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว นั่งลงด้านข้าง โต๊ะอาหาร ยกโจ๊กบนโต๊ะขึ้นมาใช้ช้อนตักกินอย่างช้าๆ ด้วยท่าทีสง่างามและสบายๆ ไม่ว่านีรชาจะอยู่ด้านข้างคอย ตักน้ำแกงเติมกับข้าวให้เขา แต่เขากลับไม่มองเธอตรงๆ เลยแม้แต่ครั้งเดียว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ