ตอนที่ 209 ยอมมองไม่เห็น
ตอนที่ 209
ยอมมองไม่เห็น
ในเวลาเช้าตรู่ นีรชาตื่นขึ้นมาแต่เช้า พบว่าตัวเองนอนหลับไปบนโซฟา ภัส กรณ์ก็นอนพิงอยู่ที่ด้านข้างของเธอ แขนของเขาโอบกอดเอวของเธอไว้แน่น
นีรชาเอามีอดีที่หัวของตัวเอง เมื่อวาน เหนื่อยมากจริงๆ เธอคิดแค่ว่าจะนั่งพัก บนโซฟา ไม่คิดเลยว่าจะเผลอหลับ ยาว จนถึงตอนเช้า
นีรชาเงยหน้าขึ้นมองปาลที่อยู่ด้านข้าง เห็นเขานอนหลับอย่างสบาย ขน ตายาวๆ ก่าลังปิดซ้อนกันอยู่ ช่างดู งดงามดึงดูดหัวใจคนเสียจริง
มีรชาร้องบางปาลที่บอบอยู่อย่างไม่ละ สายตา น้ำตาที่ยังไม่ทันจะแห้งก็ไหล ออกมาอีกครั้ง
ปาลเป็นลูกของเธอจริงๆหรอ ทรมานมา เป็นเวลานาน สิ้นหวังมาแล้วตั้งหลายหน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ลูกชาย ที่รักของ เธอไม่ได้จากเธอไปไหน แต่กลับแอบ เติบโตอย่างช้าๆด้วยความงดงามเหมือน กับเทวดา
ภัสกรณ์ก็ตื่นแล้วเช่นกัน เห็นน้ำตาของ นีรชา ก็เอานิ้วมือเช็คที่ดวงตาของ เธอ”ร้องไห้ทำไม เมื่อวานคุณหมอก็ บอกแล้วไม่ใช่หรอ ว่าปาลไม่ได้เป็นอะไร แล้ว”
นีรชาพยักหน้า หันไปถามภัสกรณ์ด้วย ความอยากรู้ ผลตรวจDNA จะออกมา ตอนไหนเหรอคะ ปาลจะเป็น ลูกชาย ที่แท้จริงของฉันไหมคะ” “วันมะรืนก็รู้ผลแล้วแหละ”ภัสกรณ์จ้อง มองที่ใบหน้าของนีรชาด้วยความตั้งใจ และหันกลับไปมองที่ปาล มัน ช่างคล้าย กันเสียจริงๆ
ไม่ต้องรอผลออกมาเป็นแบบลาย ลักษณ์อักษร เขาก็เกือบจะมั่นใจแบบ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่านีรชาเป็นแม่แท้ๆของ ปาล
เสียงพูดคุยของทั้งสองคนคุยกัน ทำให้ ปาลตื่นขึ้นมา ขาอันเล็กๆของเขาค่อยๆ ขยับ เปลือกตาค่อยๆเปิดขึ้น และ มองไป รอบๆของห้อง นิ่งอึ้งไปเกือบครึ่งนาที อยู่ๆเสียงกรีดร้องของปาลก็ดังขึ้น
นีรชาและภัสกรณ์ตกใจจบเกือบกระโจน เข้าไปหา”ปาล หนูน้อย เป็นอะไรลูก” ดวงตากลมโตสีดำของปาลเบิกกว้างขึ้น เห็นแต่แสงสลัวๆ เขารีบจับมือของนีรชา และภัสกรณ์ และตะโกนร้อง ออกมา อย่างสุดเสียง พ่อครับ ทําไมไม่เปิดไฟ ครับ ผมกลัวความมืดจังเลยครับ รีบเปิด ไฟให้ผมหน่อยได้ไหม ครับ”
เสียงร้องออกมาด้วยความไร้เดียงสา ทําให้หัวใจของนีรชาเจ็บปวดหนักกว่า เดิม เจ้าเด็กโง่เอ๋ย เขายังไม่รู้ว่า ดวงดา ของตัวเองจะมองไม่เห็นในระยะหนึ่ง คิด ได้ยังไงว่ายังไม่ได้เปิดไฟห้อง
เห็นท่าทีที่หวาดกลัวของปาล ภัสกรณ์ รีบร้องขอให้นีรชาช่วย
นีรชา าลังนั่งตกใจอยู่ ก็รีบเอามือไป เตะที่หลังของเขาเบาๆ เพื่อให้เขารู้สึก ปลอดภัยและผ่อนคลาย จากนั้น ค่อยๆ อธิบายให้ปาลฟัง“หนูน้อย คนเก่งของน้า ตอนนี้ไม่ใช่ว่าไฟห้องกำลังปิดอยู่หรอก นะจ้ะ แต่ว่าดวงตาของ หนูจะมองไม่เห็น ชั่วคราว เดี๋ยวรอพักฟื้นไม่กี่วัน ก็จะกลับ มามองเห็นเหมือนเดิมเลย”
ภัสกรณ์รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่านีรชาจะพูด ความจริง เธอค่อยๆพูดความจริงกับปาล อย่างช้าๆและนุ่มนวล ทำให้เด็ก คนนี้มี ความเข้าเหมือนกับผู้ใหญ่ ที่จะสามารถ อดทนและรอคอยได้
ได้ยินเสียงของนีรชา เจ้าหนูปาล เหมือนได้รับความปลอบโยน แค่แป๊บ เดียวปาลก็เงียบเสียงลง เขาจับข้อมือ ของ นีรชาไว้แน่น
“ไม่เป็นไรนะจ้ะ น้าจะอยู่เป็นเพื่อนหนู เอง จะคอยอ่านหนังสือให้หนูฟัง ร้อง เพลงให้หนูฟัง ทำของอร่อยๆให้หนู กิน ดีไหมจ้ะ”นีรชาลูบไปที่เส้นผมนุ่มๆของ ปาล หัวใจของเธอสัมผัสได้ถึงความ หวานเหมือนกันน้ำผึ้ง
ดวงตาของปาลมองแบบโค้งๆ พูดด้วย รอยยิ้มแบบเด็กๆ“ถ้าคุณน้าน้ำอยู่เป็น เพื่อนหนูทุกวัน มองไม่เห็นตลอด ไปก็ ไม่เป็น………..
“อย่าพูดจาแบบนี้นะ! หนูปาลของน้าจะ ต้องหายภายในเร็วๆนี้”นีรชารีบหยุดคำ พูดของปาล ไม่ให้เขาพูดจนจบ
กลัวว่าปาลจะหิวเธอจึงเร่งให้ภัสกรณ์ กดปุ่มเรียกอาหาร
อาหารเช้าที่เรียบง่าย โจ๊กหนึ่งถ้วย ไข่ ต้มหนึ่งลูก นอกจากนี้ยังมีผักและผลไม้ อีกหนึ่งจาน ถึงแม้จะไม่ได้หรูหรา อะไร แต่สารอาหารก็ครบถ้วน นีรชาค่อยๆพยุง ปาลให้ลุกขึ้นนั่งทานข้าว ป้อนเขาทีละคำ ทีละคำ จากนั้นก็ปอก เปลือกไข่ให้เขาทาน
ภัสกรณ์หยิบช้อนขึ้นมา ค่อยๆเป่าโจ๊ก ให้คลายความร้อน ปาลนั่งอยู่ตรงกลาง ระหว่างเขาทั้งสองคน พูดจาหยอก ล้อ กันพร้อมเสียงหัวเราะ ช่างเป็นภาพที่น่า รัก บรรยากาศช่างอบอุ่นเสียจริงๆ จนทำ ให้นีรชาคิดว่า นี่เป็นเหมือน ภาพความ ฝันที่ หนึ่งครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ได้นั่งอยู่ ด้วยกัน
แต่น่าเสียดาย ที่ความรู้สึกแบบนี้ไม่ สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน เพียงช่วง เวลาแค่ไม่นานก็ต้องถูกทำลายลง นภ นัยเคาะประตูและเดินเข้ามา
เธอใส่กระโปรงสีเขียวเข้ม ฉีดน้ำหอม ของDiorที่ออกมาใหม่ล่าสุดของปีนี้ การ แต่งหน้าก็ดูสวยงามเหมาะสม มองยัง ไงก็เป็นลูกผู้ดีมีตระกูล ดูสง่างามเสีย จริงๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ