ตอนที่ 152 ใช้ปัญญาไปแก้ไข
ตอนที่ 152 ใช้ปัญญาไปแก้ไข
จันทร์ฉายส่ายหัว : “ อย่าเพิ่งลา ออกเลย ! เอฟเอสเป็นที่หนึ่งใน สายงานนี้ เธอออกมาจากเอฟเอส จะหางานใหม่ได้ดีอย่างนี้ไม่ใช่ เรื่องง่ายเลยนะ ”
นีรชาเกาหัวด้วยความหงุดหงิด : “ แล้วฉันต้องทำยังไง ! ฉันไม่เข้า ใจจริงๆ ภัสกรณ์ก็มีนภนัยอยู่แล้ว แล้วทำไมยังต้องมาวุ่นวายกับฉัน อีก ! ”
“ เขารู้สึกดีกับเธอใช่ไหม ! แต่ยัง กินข้าวในชามแล้วก็มองอาหารใน หม้อไปด้วย บ้านของนภนัยเขา เป็นชาติตระกูลที่ดี แน่นอนว่าเขา จะไม่ปล่อยไปแน่ๆ ” จันทร์ฉายกัด นิ้วแล้วคิดทบทวน : “ น้ำ ตอนนี้มี หนทางเดียว ”
“ วิธีอะไร ? ” สายตานีรชาเปล่ง ประกาย จับมือจันทร์ฉายแทบทน ไม่ไหวอยากจะถามต่อ
“เธอทำตามที่เขาต้องการเถอะ ” จันทร์ฉายพูดอย่างจริงจัง
นีรชาทำตามองบนใส่เธอ : “ ถ้า จะทำตามเขา ฉันทำตามเขาไป ตั้งแต่ห้าปีที่แล้วแล้ว ! ตอนนั้นก็ ยังไม่มีแฟน ! จันทร์เธอก็รู้ว่า นิสัย ของเขากับฉันไม่เหมาะกันเลย ! ”
จันทร์ฉายกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ : ผู้หญิงโง่ ฉันล้อเล่น ! เธอคิด จริงจัง ? พูดจริงนะ มีวิธีเดียวก็คือ เธอต้องรีบหาแฟนแล้วแต่งงานซะ ถ้าภัสกรณ์ยังจะเผด็จการอีก ยังไง เขาก็คงไม่กล้าไปแย่งภรรยาของ คนอื่นหรอก ? ”
นีรชาคิดอยู่สักพัก เพิ่งจะถอน หายใจด้วยความหมดหวัง : “ ก็คง ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้วสินะ ”
จันทร์ฉายรีบจับตามองเธอ : “ ถ้า อย่างนั้นฉันจะนัดเธอกับเรวัตให้มา เจอกัน ? เมื่อก่อนเขาก็มาถามข่าว คราวของเธออยู่บ่อยๆ ! ”
“ เรวัต ? ” นีรชารีบส่ายหน้า : “ ครั้งล่าสุดที่ไปบ่อน้ำพุร้อน เขาเห็น ฉันกับภัสกรณ์อยู่ด้วยกันแล้ว แบบ นี้คงไม่ดีหรอก ?
จันทร์ฉายเบิกตากว้าง : “ น้ำ ! นี่ เธอก็กลับมาจากต่างประเทศ ทำไมยังมีความคิดล้าสมัยแบบนี้ ? ใครไม่มีอดีต ? อายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบ แปดแล้ว เคยมีแฟนก็เป็นเรื่อง ปกตินะ ? วางใจเถอะ เรวัตเขาไม่ ได้สนใจเรื่องนี้หรอก ! ”
นีรชาถอนหายใจด้วยใบหน้าที่ เป็นกังวล : “ตกลง ฉันคิดมากเกิน ไปสินะ ภัสกรณ์กำลังจะทำให้ฉัน คุ้มคลั่งตายแล้ว ! ”
ทั้งสองคนทานอาหารมื้อเที่ยง เสร็จแล้วเดินออกจากร้าน สายลม เบาๆพัดมา พัดผ่านมาโดนตัว รู้สึกเย็นสบายมาก
นีรชากำลังจะบอกลาจันทร์ฉาย ก็ พบว่าจันทร์ฉายจ้องไปที่คอของ เธอ
แย่แล้ว ! หรือว่า นีรชารีบเอาผม มาปิดไว้ที่หน้าอก ปกปิดคอขาวๆ ของตัวเอง จันทร์ฉายจ้องมองด้วยความ สงสัย : “ น้ำ ! รอยแดงก่ำๆที่คอ ของเธอเป็นรอยอะไร ? ดูแล้ว เหมือน รอยจูบเลย ? ”
นีรชาลำบากใจจนหน้าแดง : “ อ้อ ไม่ใช่หรอก ยุงกัด ถูกฉันเกาจน เป็นแบบนี้ ”
จันทร์ฉายเบิกตากว้างจ้องตาของ เธอ : “ น้ำ เธอโกหกไม่เนียนเลย ดูสิ หน้าแดงหมดแล้ว !
ภายใต้การซักถามและสอบสวน ของจันทร์ฉาย นีรชาก็อธิบายอย่าง ตรงไปตรงมาเรื่องระหว่างเธอกับ ภัสกรณ์ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เมื่อคืน
จันทร์ฉายตื่นเต้นจนถามต่ออีก ว่า : “ อะไร ! เจ็ดครั้ง ? เธอจำไม่ ผิดนะ ? เจ็ดครั้งจริงๆเหรอ ? *
เสียงดังเกินไป จนผู้คนข้างๆหัน มามองพวกเธอด้วยสายตาที่สงสัย
นีรชาทนไม่ไหวแทบจะหาหลุม มุดเข้าไป ยื่นมือไปปิดปากจันทร์ ฉาย : “ จันทร์ฉาย ! เธอพูดเบาๆ หน่อย ! ”
หน้าตาจันทร์ยังคงสงสัย : “ ฮะ ! เจ็ดครั้ง ! คืนหนึ่งเจ็ดครั้ง ! ดูไม่ ออกจริงๆเลยว่า ภัสกรณ์ที่อายุ สามสิบกว่าแล้ว ยังมีแรงฮึดขนาด
นีรชาขี้เกียจสนใจเธอ แล้วหัน หน้าแล้วเดินหนีไป
อยู่กับเพื่อนไม่ดีอย่างนี้ น่าขาย หน้าจริงๆเลย !
จันทร์ฉายตามเธอมาติดๆอย่าง กับโจรขโมยของ : “ เฮ้ๆ ! น้ำ ! ความจริงแล้ว ฉันคิดว่าควรจะ พิจารณาภัสกรณ์หน่อยนะ ! เธอคิด ดูสิ ทั้งหล่อทั้งรวย เรื่องบนเตียง ยังเด็ดขนาดนี้ ! โอ้โห ! พูด ง่ายๆว่าเป็นสามีในอุดมคติอันดับ หนึ่งเลยนะ ! ” นีรชาเร่งฝีก้าว ปล่อยให้จันทร์ ฉายที่ตื่นเต้นไม่หายไว้ข้างหลัง อย่างไม่ใยดี
ถึงบริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป จำกัด ส่งกล่องกระดาษให้ พนักงานต้อนรับเสร็จเรียบร้อย กำชับเธอให้ส่งคืนภัสกรณ์ นีรชา ถึงจะโล่งใจยกภูเขาออกจากอก ถอนหายใจเฮือกใหญ่
หลังจากที่ตั้งใจทำงานมาสอง วัน พอถึงตอนบ่ายของวันศุกร์ แผนงานรอบที่สองก็ทำสำเร็จ ตอนที่นีรชาเอาแผนงานส่งให้พร ยศ สายตาชื่นชมของพรยศก็ ปกปิดไว้ไม่อยู่ : “ น้ำ คุณมีศักย ภาพจริงๆ ! ”
นีรชายิ้มอย่างถ่อมตน : “ ล้วน เป็นผลงานของเพื่อนร่วมโครงการ ที่ช่วยกันทำออกมา ไม่ใช่ผลงาน ของฉันคนเดียว
ใบหน้าขาวๆของเธอยิ้มหวาน ดวงตาบ้องแบ๊วทั้งสองข้างดำเป็น ประกาย ราวกับว่าเธอ สามารถมองลึกถึงข้างในจิตใจ ของคนได้
ในใจของพรยศชื่นชม อดไม่ได้ที่ จะโพล่งเอ่ยปากออกมา : “น้ำ วัน เสาร์คุณมีธุระไหม ? ” วันเสาร์ ? ทันใดนั้นนีรชานึกถึง นัดของภัสกรณ์ขึ้นมาทันที
แต่ว่า เขาออกไปทำงานต่าง จังหวัด แล้วจองตั๋วกลับมาเที่ยว บินวันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ ?
นีรชาส่ายหน้า : “วันเสาร์ไม่มี ธุระอะไร คุณพรยศคะ หรือว่า แผนกเราจะจัดตารางทำโอทีเหรอ คะ ? ”
พรยศยิ้ม : “ ไม่ใช่ คือผมมีบัตร
เข้าชมคอนเสิร์ตอยู่สองใบ เดิมที จะไปชมกับเพื่อน แต่ว่าเพื่อนผมมี ธุระด่วนเลยไปไม่ได้ จะทิ้งบัตรไป ก็เสียดาย ก็เลยอยากจะถามคุณว่า ว่างไหม จะนัดคุณไปดูคอนเสิร์ต ด้วยกันเลย ”
นีรชากัดริมฝีปาก
เมื่อเปรียบเทียบกับภัสกรณ์ที่ เผด็จการแล้วละก็ พรยศก็นุ่มนวล ไปเลย ทุกครั้งที่เขานัดเธอ ก็จะมี เรื่องบังเอิญตลอด ทำให้เธอไม่ กล้าเอ่ยปากปฏิเสธเขา
กลุ้มใจจริงๆ
เห็นท่าทางของนีรชาลังเล สายตาของพรยศก็ฉายแววตาผิด หวัง รีบแก้ต่างโดยเร็ว : “ ไม่ เป็นไรไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่สะดวก ผมไปคนเดียวก็ได้ ”
เห็นท่าทางของพรยศแบบนี้ นีรช
าก็ใจอ่อนขึ้นมา ได้แต่ยิ้ม แล้วอธิบาย : “ ไม่ใช่อย่างนั้น ฉัน แค่ไม่ค่อยสนใจเรื่องคอนเสิร์ต เท่าไรนัก ”
ที่จริงแล้วเป็นการปฏิเสธทางอ้อม แต่พรยศเห็นนีรชาใจอ่อน รีบยิ้ม แล้วพูดว่า : “ แล้วอาหารมื้อค่ำล่ะ น่าสนใจไหม ? ผมฟังคอนเสิร์ต เสร็จ ก็บังเอิญผ่านไปทางบ้านของ คุณพอดี ถ้าเป็นอย่างนั้นกินมื้อค่ำ ด้วยกันดีไหม ?”
ทางผ่านอีก นีรชาพยักหน้าอย่าง จำใจ : “ อย่างนั้น ถึงเวลา แล้วค่อยนัดแล้วกัน ! ”
ถ้าถึงเวลานั้นค่อยหาข้ออ้างหลบ หนีก็แล้วกัน ความจริงแล้วเธอไม่ อยากจะปฏิเสธเขาติดต่อกันถึง สองครั้ง
หลังเลิกงานวันศุกร์เป็นช่วงเวลา ที่ผ่อนคลายที่สุด จำได้ว่าไม่ได้ทำ กับข้าวกินเองมาตั้งนาน ระหว่าง ทางกลับบ้านนีรชาก็แวะซื้อผักปลา ในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อเตรียมไป ทําอาหารอร่อยๆให้รางวัลกับตัว เอง
ขณะที่นีรชาถือถุงอาหารสดแล้ว เดินออกจากลิฟต์นั้น ภาพมืดหาย กับตาไปจริงๆ ราวกับภาพลวงตา ดั่งฝันสลาย
ชายคนหนึ่งพิงประตูเธออยู่ ขา ยาวๆเหยียดยื่นออกมาอย่าง สบายใจ ถ้าไม่ใช่ภัสกรณ์แล้วจะ เป็นใครไป ?
ไม่ใช่จะกลับมาวันอาทิตย์เหรอ ? ทำไม วันศุกร์ก็กลับมาแล้ว !
ลิฟต์ยังไม่ขึ้นมา นีรชาก็ร้อนรน รีบถือถุงอาหารวิ่งไปทางบันได
ผู้ชายบ้าๆคนนั้นก็จับตัวเธอไว้ได้ ระหว่างช่องบันไดมืดๆสลัวๆ : “ นีรชา ! เธอจะวิ่งไปไหน ! ทำไม เจอผมแล้วต้องหลบ ด้วย ! ”
นีรชารำคาญ หันกลับไปแล้ว ตวาดว่า : “ คุณมีสิทธิ์อะไรมายืน ขวางประตูทางเข้าของฉัน ? คุณ มันช่างน่ารำคาญจริงๆเลย ! ”
ภัสกรณ์ก็โมโห : “ผมตั้งใจ ทำงานหนัก เพื่อที่จะรีบกลับมาหา เธอ เธอก็แสดงอารมณ์แบบนี้ใส่ ผมเหรอ ? ”
มือของเขาแข็งอย่างกับโลหะ บีบ นีรชาจนรู้สึกเจ็บ ใช้แสงที่ส่องผ่าน ช่องบันไดสลัวๆ ก็มองเห็นสายตา ของเขาร้อนเป็นไฟได้อย่างทันที นีรชาเสียใจ เธอทำไมถึงลืมล่ะว่า จะต้องใช้ไม้อ่อนกับผู้ชายคนนี้ จะ ใช้ไม้แข็งมาชนกับไม้แข็งไม่ได้ ?
พูดอยู่ในใจ “ ฉันสั่งให้คุณทำงาน ล่วงเวลาเหรอ ? ฉันขอให้คุณกลับ มาหาฉันเหรอ ? ” นีรชาก็พูดด้วย เสียงนุ่มนวลว่า : “ฉันแค่ ไม่ชอบให้ใครมาขวางประตู ทำให้ ฉันรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว เหมือนถูก จับจ้องอยู่ตลอดเวลา ”
เห็นว่าน้ำเสียงของนีรชาอ่อนลง พละกำลังในมือก็ลดลงไปด้วย : ‘ เธอยังกลับมาถามผมอีก ! ผมขอ ถามเธอ โทรศัพท์มือถือที่ผมให้ เธอทำไมเธอถึงไม่รับมันไว้ ? ” นีรชาตอบกลับอย่างมีเหตุมีผล : โทรศัพท์แพงขนาดนั้น จะใช้ก็ ลำบาก กินน้ำก็กลัวจะเปียก นั่ง รถไฟใต้ดินก็กลัวโดนขโมย ไม่ เหมาะกับคนประมาทอย่างฉัน หรอก
“ แล้วเธอซื้อโทรศัพท์ใหม่หรือ ยัง ? ” ภัสกรณ์ถามกลับ
นีรชาพยักหน้า : “ ซื้อแล้ว ”
“ แล้วทำไมเธอถึงไม่บอกเบอร์ ใหม่กับผม ! ” น้ำเสียงของภัสกรณ์ เริ่มฟังดูไม่ดี
นีรชามองไปรอบๆ : “ ทางเดินที่ มืดสลัว มีแต่ขั้นบันได อยากจะวิ่ง ก็วิ่งไม่ได้ ! ”
ต้องใช้ปัญญาเข้าสู้เขา จะต่อปาก ต่อคำไม่ได้ !
อ้อ ฉันไม่รู้เบอร์เธอ แล้วจะบอก เธอได้ยังไง ? ” นีรชาแกล้งทำเป็น ไร้เดียงสา
ภัสกรณ์ลูบหัวเธอ : “ ก็ได้ เห็นว่า เธอไม่ได้ตั้งใจและทำผิดครั้งแรก ผมไม่ถือโทษคุณแล้วกัน”
นีรชาถอยหลังไปหนึ่งก้าว รู้สึก อับอายขายหน้าในใจ ท่าทางลูบ หัวแบบนี้ ไม่ได้เอาไว้ใช้กับแมว หมาหรือว่าเด็กเหรอ ?
“เธอถือของอะไรเยอะแยะ
มากมาย ? ” ภัสกรณ์เพิ่งจะเห็นถุง ที่นีรชาถืออยู่ในมือ ขมวดคิ้ว แล้ว รับถุงมาจากมือเธอ ถือเอาไว้ในมือ ตัวเอง
ข้างในถุงเป็นอาหารทั้งหมด น้ำ หนักไม่เบา ภัสกรณ์ยิ่งหน้านิ่วคิ้ว ขมวด : “ ทำไมถึงหนักอย่างนี้ ? ข้างในคืออะไร ?
“ เป็นอาหารสดทั้งหมด มีผักผล ไม้บะหมี่แล้วก็เครื่องปรุงทั้งนั้น ”
จะให้เขารู้จักรังเก่าของตัวเอง คงจะไม่สบายเอามากๆ !
นีรชาเพิ่งจะพูดจบ ท้องของภัส กรณ์ก็ร้องจ๊อกๆขึ้น
นีรชาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ยิ้มจน ตาหยี : “ ฮ่าๆ ไม่น่าใช่นะ ? ท่าน ประธานภัสกรณ์ ทำไมถึงปล่อยให้ ท้องร้อง ? บริษัทที.เอส พร็อพเพ อร์ตี้กรุ๊ปจำกัดจะปิดตัวลงแล้วเห รอ ? แม้แต่ข้าวกล่องหนึ่งยังไม่ได้ กิน ? ”
“ ยัยบื้อ ! ” ภัสกรณ์ลูบหัวเธออีก
ครั้ง
ความสูงห่างกัน 14 เซนติเมตร เอามือลูบหัวเธอง่ายดายมาก
“เฮ้ๆ ! อย่ามาเตะต้องนะ ! เดิมที ฉันฉลาดนะ ถูกคุณลูบจนโง่แล้ว !
* นีรชาถอยหลังหนึ่งก้าว จ้องมอง เขา
เธอเองไม่ได้ตระหนักว่า ตัวเอง กำลังพูดเรื่องขำขันกับภัสกรณ์อยู่
เธอไม่ได้คิดอะไร แต่ภัสกรณ์เขา รับรู้มัน มุมปากของเขายิ้มอย่างมี ความสุข : * ถ้าบริษัท ที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ปจำกัดปิด ตัวลงจริงๆ เป็นเพราะเธอเป็นคน ทำนะ !” พูดๆไป ก็เอามือไปจับมือเธอโดย ปริยาย : “ ในเมื่อเธอซื้ออาหารสด มาแล้ว ก็รีบไปทำอาหารมื้อค่ำ แสนอร่อยให้ประธานอย่างผมกิน เป็นการไถ่โทษสิ ! ”
บริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป จำกัดปิดตัวลงเพราะเธอ ? เธอยัง จะต้องทำอาหารเย็นไถ่โทษ ?
มันเรื่องอะไรกัน ? นีรชาคิดแล้ว คิดอีกก็คิดไม่ออกว่ามันเกี่ยวข้อง อะไรกัน
ภัสกรณ์รีบฉกกระเป๋าของเธอมา หากุญแจ เหมือนว่าจะเข้าบ้านตัว เอง แล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างกับ เป็นเจ้าของบ้าน ! ท่าทางดูลื่นไหล อย่างกับน้ำ นีรชาจ้องมองด้วย ความตกตะลึง !
ภัสกรณ์ดึงให้เธอข้าไปในห้อง : “ เข้ามานั่ง ไม่ต้องเกรงใจ ! ”
ยิ้มได้อย่างชั่วร้ายมาก
“เฮ้ ! คุณนี่แสดงความเป็นเจ้า เข้าเจ้าของมากไปหน่อยไหม ? ” นีรชาสาบานได้ว่า เธอเกิดมาจน อายุ27ปี เพิ่งจะเคย เห็นผู้ชาย หน้าด้านอย่างนี้ครั้งแรก !
“ หิวมาก รีบไปทำอาหารมาให้ผม กินเถอะนะ ! วันนี้ทั้งวันยังไม่ได้กิน ไม่สนใจอะไร ท่าทางมุ้งมิ้งโดย
ไม่รู้ตัว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ