ตอนที่ 144 กระตุ้นการพิชิต
ตอนที่ 144 กระตุ้นการพิชิต
เอ่อ ? นีรชารู้สึกประหลาดใจ พร ยศ ชื่อนี้เหมือนไม่เคยได้ยินมา ก่อน
ครุ่นคิดอยู่แวบนึง ก็ยังนึกไม่ออก ว่าเคยรู้จักคนชื่อพรยศมาก่อน เปล่า
พรยศเห็นนีรชาดูกังวลและมีท่าที เริ่มอึดอัด ก็เริ่มรู้สึกแอบผิดหวัง เล็กๆ แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียง สุภาพอ่อนโยน พลางส่งยิ้มให้นีรช
า : ” น้ำ เธออยู่สำนักข่าว T ใช่รึ เปล่า ? ผมอยู่สำนักข่าว S มีอยู่ปี นึงที่เราเคยนั่งสัมมนาด้วยกัน แล้ว เธอก็นอนหลับไง. . ”
อ่าาา นีรชานึกออกแล้ว ตอนนั้น นีรชาทำงานพิเศษอยู่ 3 ที่ แล้วก็ โดนเพื่อนที่ชื่อเมษา ลากไปเข้าฟัง สัมมนานั่นแหละ แล้วสุดท้ายก็ เพราะว่าเหนื่อย เลยผล็อยหลับไป ไม่รู้ตัว ทำให้ทุกคนพากันขำใหญ่
นีรชาหน้าแดงเป็นลูกตำลึง : ขอโทษจริงๆ มะกี้นึกไม่ออกเลย จริงๆค่ะ ”
พรยศมองหน้าสวยหวานของเธอ
ตาไม่กระพริบ แรกเริ่มเดิมที เขารู้สึกถึงความน่า รักบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของนีรชา ตั้ง แต่เห็นเธอหลับ เขาเคยนึกอยาก จะจีบเธอ แต่นีรชามัวแต่ยุ่งๆ เขา เลยไม่มีโอกาสที่จะลงมือจีบเธอ ซักที
ต่อมา ได้ยินว่านีรชามีคนเลี้ยง ดูแล้ว แล้วก็ได้ยินอีกว่าเธอ หายตัวไปจากโรงเรียน……..
พรยศไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโชคดี ขนาดนี้ ผ่านไป 5 ปี อยู่ๆนีรชาก็มา ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า และกำลังจะ กลายมาเป็นลูกน้องเขานี่เอง
สายตาของพรยศทำให้นีรชาเริ่ม รู้สึกอึดอัด ก็เลยต้องจำเป็นต้องยิ้ม กลบเกลื่อนพูดว่า : ” คุณพรยศคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันกลับได้รึยัง คะ ?
พรยศพยักหน้ารับ : ” วันนี้ทาง บริษัทเอฟเอสของเราเปิดให้เยี่ยม ชมภายในบริษัทได้ คุณสามารถ เดินชมได้ทั่วเลยนะ จะได้ทำความ รู้จักบริษัทให้มากขึ้น จะได้เรียนรู้ วัฒนธรรมองค์กรและโครงสร้าง ของบริษัทเรา ”
ดีจังค่ะ ! นีรชาออกอาการดีใจ : ” โอเคค่ะ ขอบคุณที่บอกฉันนะ คะ ” บริษัทเอฟเอสเปิดให้เยี่ยมชม ภายในบริษัทได้ตลอดทั้งวัน นีรชา อยากทําความรู้จักบริษัทนี้ให้มาก ขึ้นอีกหน่อย ก็เลยเดินดูนั่นนี่ ไปถึงเวลาปิด
เมื่อเดินออกมาจากประตูใหญ่ ของบริษัทเอฟเอส นีรชาเริ่มรู้สึก จิตใจหดหู่
จู่ๆ ฝนก็ตกลงมาแบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อเช้าตอนออกจากบ้านมา อากาศก็ดี แดดยังจ้าอยู่เลย ร่มสัก คันเลยไม่ได้พกมา
ช่างมันเหอะ ใกล้ๆนี่ก็มีป้าย รถเมล์ เดี๋ยววิ่งไปหลบฝนตรง ป้ายรถเมล์ก็แล้วกัน ถ้าโชคดีก็คง โดดขึ้นรถเมล์กลับบ้านได้
นีรชาหิวจนท้องร้องจ๊อกๆ
เอากระเป๋าขึ้นมาถือไว้เหนือหัว วิ่งแน่บไปทางป้ายรถเมล์ ดี หน่อยที่ฝนไม่ได้ตกแรงมาก
เธอยืนนิ่งหลบฝนอยู่ตรงนั้น ฝน ยิ่งตกแรงขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้น รถตู้สีดำวิ่งฝ่าฝนมาจาก ฝั่งตรงกันข้าม ไฟรถสะท้อนเข้าตา
เธอ ” แย่จริงๆ รถส่วนบุคคลมาวิ่งใน ช่องทางรถเมล์ได้ไงเนี่ย ” นีรชา สบถออกมาเบาๆ แบบไม่ได้ใส่ใจ อะไร
แต่รถคันนั้นกลับมาหยุดอยู่ตรง หน้าเธอ ประตูรถเปิดออก ชายคน หนึ่งชะโงกหน้าออกมาจาก
หน้าต่าง : ” นีรชา ขึ้นรถเร็ว ! ”
ภัสกรณ์นั่นเอง
นีรชาตกใจ จนทำอะไรไม่ถูก
สภาพของนีรชาตอนนี้ดูย่ำแย่ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เสื้อผ้า
เปียกปอน ” ไม่เป็นไร ฉันรอรถเมล์อยู่ ” นีรช ารีบปฏิเสธทันควัน
ภัสกรณ์ไม่พูด แต่ดวงตานั้น จดจ้องมาที่เธอ : ” ขึ้นรถ ! ผม ไม่กินคุณหรอกน่า ! ”
ท่าทีแข็งกร้าวเผด็จการ กลับมา อีกแล้ว
นีรชาขมวดคิ้วแบบเซ็งๆ ความดื้อ รั้นเริ่มมา : ” ฉันบอกว่าไม่ไป ไง! เชิญคุณภัสกรณ์ตามสบาย ”
เธอเบนหน้าไปทางอื่น ไม่สนใจ
เขา ช่วงห้าปีที่ผ่านมา ภัสกรณ์ใจเย็น ลงกว่าแต่ก่อนเยอะ แต่สุดท้าย สัญชาตญาณที่ฝังลึกลงไปใน กระดูก ก็แก้ไม่หาย
ภัสกรณ์จ้องมองไปที่เธออย่างไม่ ลดละสายตา มุมปากเม้มแน่น
ขณะที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อน ข้อให้แก่กันและกัน พรยศถือร่มวิ่ง มาหานีรชา : ” นีรชา ! เป็นคุณ จริงๆด้วย ! ทำไมคุณถึงออกมา ป่านนี้ ? ”
ที่แขนของเธอยังมีป้ายแท็กสี เหลืองติดอยู่ เธอลืมดึงมันออก พร ยศยื่นมือออกไปช่วยเธอดึงมัน ออกอย่างรู้งาน
ภัสกรณ์ที่นั่งอยู่ในรถมองดูการก ระทำของพรยศ มือที่กำพวกมาลัย อยู่นั้น ยิ่งกำแน่นขึ้นไปอีกจนนิ้ว ซีดขาว เห็นเส้นเลือดสีเขียวๆปูด โปนออกมา
พรยศไม่ทันสังเกตเห็นภัสกรณ์ที่ อยู่ในรถที่จอดอยู่ข้างๆ เพราะมัว แต่จดจ่ออยู่กับนีรชา พรยศส่งร่ม ให้เธอ : ” พอรถมาแล้ว คุณก็รีบ ขึ้นรถเลยนะ ! กลับถึงบ้านรีบ เปลี่ยนเสื้อผ้า ระวังจะป่วยล่ะ ” นีรชารู้สึกอึดอัด ที่การสนทนา ระหว่างเธอกับพรยศ ต้องอยู่ใน สายตาของภัสกรณ์แบบนี้ ใจอยาก คืนร่มให้พรยศ : ” ไม่เป็นไรค่ะ รถเมล์จอดตรงหน้าทางเข้าบ้านฉัน พอดีค่ะ ”
รถมาแล้ว พรยศรีบดันเธอขึ้นไป บนรถเมล์ : ” ไม่ต้องเกรงใจ รีบ กลับบ้านเถอะ !”
นีรชาขึ้นรถเรียบร้อย พรยศยังคง ยืนอยู่ตรงฟุตบาทโบกมือให้เธอ
ภัสกรณ์ค่อยๆถอยหลัง แล้วก็ เหยียบส่งคันเร่ง ในชั่วพริบตา รถตู้ สีดำขับสาดเอาน้ำโคลนกระเด็น เปื้อนพรยศไปทั้งตัว !
เห็นได้ชัดว่าภัสกรณ์จงใจทำแบบ นี้ !
นีรชาเห็นเต็มสองตา โมโหจน เกือบจะหัวเราะออกมา ภัสกรณ์ยัง เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ! จอม เผด็จการ ดื้อรั้น เอาแต่ใจ !
รถตู้สีดำค่อยๆขับไปจนถึงบ้าน หมื่นสา ชั่วครู่ต่อมา ภัสกรณ์ก็โผล่ มาที่ประตูด้วยเนื้อตัวเปียกปอน
น้าแขเปิดประตูออกมาเห็นสภาพ ของภัสกรณ์ก็ตกใจ : ” คุณชาย ทำไมเปียกโชกมาอย่างนี้ล่ะคะ ? รีบเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ ค่ะ เดี๋ยวน้าจะไปต้มน้ำขิงร้อนๆมา ให้ ” ” ไม่ต้องล่ะครับ ” ภัสกรณ์ใบหน้า เปียกชุ่ม ดูเศร้าหมอง เดินดื่ม เข้าไปข้างในบ้าน
น้าแขรีบปรี่มาคุยด้วย : 11 คุณชาย คุณนภนัยมาน่ะค่ะ นั่งรอ คุณอยู่ทางด้านโน้นแน่ะ เธอ ตั้งใจตุ๋นซุปมาให้คุณเลยนะคะ ! ”
ชายหนุ่มสะดุดกึก คิ้วขมวด เข้าหากัน
น้าแขถอนหายใจ ใจก็คิดว่าคุณ นภนัยมีอะไรไม่ดีงั้น หน้าตาก็ สะสวย ชาติตระกูลก็ดี นิสัยใจคอก็ น่ารัก ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆนะ สมัยนี้ แต่ดูเหมือนคุณชายจะไม่ ค่อยสนใจในตัวคุณนภนัยสักเท่า ไหร่
ภัสกรณ์ ! คุณกลับมาแล้วเห รอ ! ตายแล้ว ทำไมเนื้อตัวถึงได้ เปียกโชกไปหมดอย่างนี้ล่ะค่ะ ? ในรถคุณก็มีร่มนี่ค่ะ ? ” นภนัยย่น คิ้ว ยิ้มแหยๆ พลางมองไปที่เสื้อผ้า เปียกโชกของเขา
ภัสกรณ์หันไปมองนภนัย ด้วย สายตาว่างเปล่า ก่อนจะพูดด้วย น้ำเสียงเย็นชา : ” ลืมหยิบมาใช้ น่ะ ”
ฝนตกแท้ๆ ในรถก็มีร่มแต่กลับไม่ ใช้เนี่ยนะ ? ไม่อยากจะเชื่อเลย นภนัยแอบนึกสงสัย
อะไรทำให้เขาถึงกับลืมได้ขนาด นั้นนะ ?
ก่อนที่จะรีบเดินมาช่วยเขาถอด เสื้อนอกออก พร้อมกับผลักดันตัว เขาให้เดินขึ้นบันไดไป : “รีบๆขึ้น ไปอาบน้ำอุ่นๆ ฉันทำซุปเยื่อไผ่มา ให้ เดี๋ยวดื่มซะหน่อยนะคะ กำลังร้อนๆอยู่เลย ”
เข้าไปในห้องนอนได้ ก็จัดแจง เปิดตู้เสื้อผ้า เตรียมเสื้อคลุมอาบ น้ำให้เขาพร้อม
ภัสกรณ์ยืนมองเธออยู่ข้างๆ พยายามที่จะสงบสติอารมณ์ที่ กำลังหงุดหงิดอยู่ตอนนี้ : ” ผมจะ อาบน้ำ คุณไม่ออกไปก่อนเห รอ ? ”
นภนัยส่งยิ้มกลับ : ” ทำอย่างกับ
ไม่เคยเห็น ……
ภัสกรณ์เลิกคิ้ว พลางเริ่มถอด เสื้อผ้า
เสื้อเชิ้ตถูกถอดโยนลงไปกองอยู่ บนพื้น เผยให้เห็นอกขาวนวล เปลือยเปล่ากำยำ เขาเลื่อนมือลง ไปปลดหัวเข็มขัด ด้วยคิดว่าทำแบ บนี้แล้วนภนัยคงรีบเผ่นออกจาก ห้องไปแน่ๆ แต่สุดท้ายกลับยิ่งเข้า ทางเธอ : ” ให้ฉันช่วยคุณมั้ย ? ”
ปลายนิ้วขาวนุ่มของเธอสัมผัสลง บนหัวเข็มขัด ค่อยๆบรรจงปลดที่ หัวเข็มขัด หัวเข็มขัดเปิดออ กดังคลั๊ก หญิงสาวค่อยๆเลื่อนมือ ลงต่ำ สัมผัสอย่างเบามือ ค่อยๆ ถอดกางเกงขายาวของเขาออ กช้าๆ
กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย ลอยขึ้น มาแตะจมูกภัสกรณ์ เขารีบคว้ามือ ของนภนัย : ” นี่คุณใช้น้ำหอม อะไร ? ”
นภนัยยิ้มกริ่ม : ” เมื่อกี้ฉันเห็น น้ำหอมขวดนึงวางอยู่ตรงโต๊ะ เครื่องแป้ง ดูเหมือนจะเก่ามาก แล้วด้วย เห็นขวดมันสวยดี ฉันก็ เลยเอามาลองฉีดดูหน่อย ไม่คิด เลยว่ามันจะยังหอมขนาดนี้ ”
ท่าทีของภัสกรณ์เปลี่ยนเป็นแข็ งกร้าว : ” น้าแขไม่ได้บอกคุณเห รอ ว่าห้ามแตะต้องน้ำหอมขวด นั้น ? ”
เมื่อเห็นท่าทางเกรี้ยวกราดของ ภัสกรณ์ นภนัยแอบกลัว ได้แต่ ยกมือพลางกอดออดอ้อนเขา : ” ภัสกรณ์ ทำไมคุณต้องโมโหขนาด นี้ด้วยล่ะคะ ? ก็แค่น้ำหอมเก่าๆ ขวดนึงเอง ฉันก็แค่อยากลองฉีดดู เฉยๆเองค่ะ นภนัยลูบไล้แผ่วเบาไปบนแผง หน้าอกของภัสกรณ์ กลิ่นหอมที่คุ้น เคยค่อยๆลอยมาแตะจมูกของเขา หัวใจเริ่มเต้นถี่
5 ปีมาแล้ว ที่เขาไม่ได้สัมผัสกลิ่น
นี้
น้ำหอมขวดนั้น เป็นน้ำหอมที่นีรช าชอบใช้อยู่ประจำ หลังจากที่เธอ ไม่อยู่แล้ว วันใดที่เขาคิดถึงเธอจน จับใจ เขาจะฉีดพรมน้ำหอมนั้นไป ที่หมอนของเขา
หากได้กลิ่นหอมอ่อนๆนั้น ราวกับว่าเธอกำลังนอนอยู่ข้างๆ เขา เขาถึงจะหลับตาลงได้ นภนัยเห็นท่าทางของภัสกรณ์ดู ผ่อนคลายลง เธอคิดว่าวิธีหว่าน เสน่ห์ของเธอมันได้ผล ก็ยิ่งเพิ่ม สัมผัสเคล้าคลึง ลูบไล้ไปที่หน้าอก เขา : ” ภัสกรณ์ อย่าโกรธฉันเลย นะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะ……
ภัสกรณ์ค่อยๆหลับตาลง ปล่อย ให้กลิ่นน้ำหอมคละคลุ้งโอบล้อม ตัวเขาอยู่อย่างนั้น
นภนัยใช้ปลายนิ้วลูบไล้เบาๆ เคล้าคลึงไปตามแผ่นอกกำยำ
” น้ำ ! ” ภัสกรณ์เพ้อเรียกชื่อเธอ ออกมา ก่อนจะก้มกัดไปที่ซอกคอ
ของนภนัย ความรู้สึกเจ็บแปลบ แต่เหมือน ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ให้พลุ่งพล่าน
สําหรับนกนัยแล้ว ภัสกรณ์เป็น ผู้ชายที่ดูลึกลับน่าค้นหา มันกระตุ้น ให้เธอรู้สึกอยากจะพิชิตใจเขาให้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ