Perfect Match!สามีเพอร์เฟ็กต์ของฉัน

ตอนที่ 142 ไม่อยากเจอเขา



ตอนที่ 142 ไม่อยากเจอเขา

5 ปี ต่อมา ณ สนามบินเมือง C

นีรชาปรากฏตัวอยู่ท่ามกลางฝูง ช่น ณ อาคารผู้โดยสารขาออก ยืน มองซ้ายมองขวา ผมยาวสะบัดพริ้ว ไปมา แววตามีชีวิตชีวาทว่านิ่งสงบ นีรชาในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกง ยีนส์ กับแจ๊คเก็ตสีดำ สบายๆแต่ดู ดี มีสไตล์

“น้ำ ! ” ท่ามกลางฝูงชน นอก ราวกั้นโซนผู้โดยสารขาออก จันทร์ ฉายโบกมือไปมา ตะโกนเรียก เพื่อนด้วยความดีใจ

น้ำเห็นจันทร์ฉายพอดี เลยพยัก หน้าให้พร้อมกับส่งยิ้มให้เพื่อน ทั้ง คู่วิ่งโผเข้ากอดกันกลม

” จันทร์ฉาย ขอบใจนะที่มารับ ฉัน ! ” นีรชามองดูเพื่อนรักที่ไม่ ได้เจอกันมานาน รู้สึกขอบคุณ เพื่อนจากใจจริง : ” สีหน้าเธอดู สดชื่นแจ่มใสมากเลยนะ คุณนรุตม์ ต้องดีกับเธอมากๆเลยใช่มั้ย ? ”

จันทร์ฉายทำท่ากระหยิ่มยิ้ม ย่อง : ” มันแน่นอนอยู่แล้ว ! ตอนนี้เขาก็เหมือนลูกไก่ใน เมือ ฉันดีๆนี่เอง ! ” จันทร์ฉายสำรวจมองไปรอบๆตัว เพื่อน ก่อนจะพูดอย่างอารมณ์ดี : น้ำ เธอนี่สวยขึ้นทุกวันๆเลยนะ ! ดู เธอตอนนี้สิ หนุ่มๆหล่อๆรวยๆ ที่ไหนได้มาเห็น เป็นต้องสยบแทบ เท้าเธอแน่ๆ ! ”

นีรชาอมยิ้ม : ” จริงอ่ะ ? ตลาดหา คู่ในบ้านเราไม่ใช่ว่าไม่ยินดียินร้าย กับสาวโสดขึ้นคานหรือ กรี้ ? ฉันล่ะเป็นกังวลจริงๆ !

จันทร์ฉายช่วยนีรชาลากกระเป๋า มือนึงก็ดึงแขนพานีรชาเดินไปข้าง หน้า : ” เธอน่ะ ทั้งสวยทั้งเก่ง เค้า เรียกว่าเป็นเพ็ชรเม็ดงามต่างหาก หนุ่มโสดบ้านเราได้เห็น คงคงจะ จิตใจล่องลอย วิญญาณออกร่าง เลยทีเดียว ! ”

” ฮ่าๆๆๆ ! เธอนี่ก็ยอฉันเกินไป แล้วนะ ! ” นีรชาขำเพื่อนยกใหญ่ จันทร์ฉายมักทำให้นีรชามีความสุข ทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วย เธอเป็นคนมี เสน่ห์ เลยทำให้บรรยากาศ รอบๆตัวเธอมีแต่ความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา

ทั้งสองคุยไปหัวเราะไปจนพากัน ขึ้นรถ นีรชามองออกไปนอก หน้าต่าง ดูถนนหนทาง ด้วยความ ตื่นเต้นประหลาดใจ : ” จันทร์ฉาย เมือง C ของเรามันเปลี่ยนไปมาก ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ฉันเกือบจะ จำไม่ได้แน่ะ ! ”

จันทร์ฉายเอง มือหนึ่งก็ขับรถไป อีกมือก็ชี้โน่นชี้นี่ข้างทางให้เพื่อน สาวดู : ” เป็นไงบ้าง ? ไม่น้อยห น้านิวยอร์คใช่มั้ยล่ะ ? นั่น ข้าง หน้านั่นคือใจกลาง CBD ธุรกิจ สถานบันเทิงของนรุตม์ก็อยู่ตรงนั้น แหละ ตึกที่สูงสุดสีขาวๆข้างๆกัน นั่นก็คือ บริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป จำกัด…….…….”

พูดยังไม่ทันจบ จันทร์ฉายก็เม้ม ริมฝีปากตัวเอง แอบชำเลืองมอง ไปที่เพื่อนสาวของตน

นีรชาจ้องมองไปที่ตึกสูงระฟ้านั้น โลโก้สีทองของ บริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป จำกัด ส่องสว่าง ท่ามกลางแสงอาทิตย์เจิดจ้า

นีรชาหันไปมองที่เพื่อนรัก ยิ้ม อ่อน : ” จันทร์ฉาย เธอไม่ต้องทำ แบบนี้หรอกน่า เรื่องมันก็ผ่านไป นานแล้ว ไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับ บริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป หรือผู้ชายที่ชื่อภัสกรณ์ สำหรับฉัน ตอนนี้ มันก็เป็นแค่เศษเสี้ยวหนึ่ง ของอดีต ฉันลืมมันไปนานนาน แล้ว ”

จันทร์ฉายค่อยโล่งอก แลบลิ้นยิ้ม แหยๆให้เพื่อน : ” ก็ 5 ปีมานี้ฉัน เห็นเธออยู่เป็นโสดนี่นา ฉันก็เลย คิดว่าเธออาจจะยังทำใจไม่ได้ ! ”

นีรชาหัวเราะออกมาเบาๆ : ” ที่ ฉันยังโสดอ่ะ ก็เพราะยังไม่เจอคน ที่ใช่ ก็แค่นั้นเอง ใครจะไปชีวิตดี้ ดีแบบเธอล่ะ ได้เจอผู้ชายดีๆ แบบ คุณนรุตม์น่ะ ”

จันทร์ฉายยิ้มอย่างเหนียมอาย

: ” ก็ฉันออกจะเสน่ห์แรงแบบนี้ ไง ! ถ้าไม่มีคุณนรุตม์ ก็ยังมีคุณนริ ตม์ คุณนรัตม์ ต่อคิวอยู่อีกเป็น พรวนเลยล่ะ!”

นีรชาขำเพื่อนตัวเอง เอื้อมมือไป หยิกแก้มจันทร์ฉายเบาๆ : ” หน้า ไม่อายจริงๆเพื่อนฉัน ! ” จันทร์ฉายเช่าห้องพักให้นีรชา อยู่ ใกล้ๆกับ CBD มีรถไฟใต้ดิน การ เดินทางไปไหนมาไหนแสนจะ สะดวก แถวๆนั้นยังมีสวนสา ธารณะกว้างๆ บรรยากาศดี ให้ไป เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ

น้ำ เธอเข้าไปดูเร็ว ดูสิว่าถูกใจ เธอมั้ย ” จันทร์ฉายลากกระเป๋า ใบใหญ่ของเพื่อนสาวเข้าไปใน ห้อง

ห้องหันหน้าไปทางทิศใต้ ห้อง ครัวและห้องน้ำมีแสงสว่างส่อง เข้ามาอย่างทั่วถึง ห้องรับแขก ประดับด้วยกระจกชมวิวด้านนอก บานใหญ่ ลมเย็นโชย ผ้าม่านสีขาว สบัดพริ้วตามแรงลม พื้นไม้เรียบ สะอาดเป็นมันวาว โซฟาตัวใหญ่ หนานุ่มแสนสบาย ชั้นวางหนังสือสี ขาวเต็มไปด้วยหนังสือและต้นไม้ เล็กๆสดชื่น ทุกอย่างมันช่างสดชื่น ละมุมละไม

ว้าวววว ! จันทร์ฉาย ! ขอบคุณ เธอจริงๆนะ ฉันโคตรชอบเลย ยย ! ” นีรชาทิ้งกระเป๋าในมือได้ ก็ โยนตัวลงไปนอนบิดขี้เกียจอยู่บน โซฟาตัวใหญ่หนานุ่ม : ” เดี๋ยววัน นี้ฉันจะพาเธอไป เลี้ยงอาหารสุดหรูสักมือเป็นการ ตอบแทนเธอสะหน่อย ! ”

ฮ่าๆๆๆๆ จันทร์ฉายหัวเราะเสียง ดัง : ” ถ้างั้น ไหนๆก็จะได้ไปกิน อาหารหรูๆละ ฉันพาคนที่บ้านไป ด้วยได้ป่ะเนี่ย ? ”

นรุตม์เองก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่านีรชา จะกลับมาถึงวันนี้ ก็เลยคิดจะพา นีรชาไปดินเนอร์เลี้ยงต้อนรับเธอ อยู่แล้ว

นีรชานอนขี้เกียจชิลๆอยู่บนโซฟา อย่างสบายอารมณ์ : ” เธอ จะพาคุณนรุตม์ไปด้วยเหรอ ? ได้ สิ ฉันไม่ซีเรียสนะถ้าจะมีก้างขวาง คอเพิ่มมาอีกหนึ่ง ”

มื้อค่ำวันนี้ เราไปกินกันแถวบ้าน พักของนีรชา เป็นร้านอาหารร้าน หนึ่ง

ว่ากันว่าร้านนี้เป็นร้านอาหาร ชาววัง ที่สืบทอดต้นตำรับมาจาก ในวังเลยทีเดียว วันหนึ่งจะทำ อาหารอยู่เพียง 3 อย่าง ยิ่งไปกว่า นั้นคือ ไม่มีเมนูให้เลือก เชฟทำ เมนูอะไร ลูกค้าก็ต้องกินแบบนั้น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ ไม่เหมือนใครของร้านนี้เลยล่ะ

อากาศช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิช่าง เย็นสบาย นีรชา นั่งอยู่ใต้ต้นดอกวิ สทีเรียกับนรุตม์ และจันทร์ฉาย จิบ ไวน์รสเยี่ยม เพลิดเพลินไปกับ สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ … นาน มากแล้ว ที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลาย แบบนี้

5 ปีกับการใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก เธอคว้าปริญญามาสองใบ วันๆเธอ ก็หมกมุ่นอยู่กับการอ่านตำรากับหา ทำงานพิเศษ เพราะไม่อยากปล่อย ให้ชีวิตมีช่วงว่างมา

นั่งคิดอะไรฟุ้งซ่าน เธออยากจะ ลืมๆอดีตอันแสนโหดร้ายไปให้ หมดสิ้น

นรุตม์มองดูนีรชา ในใจแอบถอน หายใจเบาๆด้วยความเสียดาย

5 ปีที่ผ่านมา กาลเวลาไม่สามารถ ทำลายความสวยของเธอได้เลย แม้แต่น้อย อีกทั้งยังเติมเต็มเธอ ด้วยสติปัญญาและความเป็น ผู้ใหญ่ ท่วงท่าอันสง่างามละเมียด ละไม เมื่อเทียบกับนีรชาสมัยที่ยัง เป็นสาวน้อยไร้เดียงสา ไวน์ก็ เหมือนหญิงสาว นีรชาใน ตอนนี้ดูเจิดจรัสเลอค่า เปรียบ เสมือนไวน์ชั้นเลิศที่รสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม

ถ้าภัสกรณ์ได้มาเห็นนีรชาในตอน นี้ เขาจะรู้สึกเสียดายมั้ยนะ?

ความคิดในหัวนรุตม์ผุดขึ้นมา อย่างไม่ขาดสาย ทันใดนั้นมือถือ บนโต๊ะก็ดังขึ้น

นรุตม์หยิบมือถือขึ้นมาดู สีหน้า ท่าทางแลดูกระอักกระอ่วน เพิ่ง นึกถึงอยู่มะกี้ พูดถึงโจโฉ โจโฉก็ มา ! เป็นสายจากภัสกรณ์โทรเข้า

มา

นรุตม์รับสาย แล้วลุกขึ้นเดินออก ไปด้านนอก เพื่อให้เลี่ยงสายตาจา กนีรชา

จันทร์ฉายย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ให้ พูดถึงภัสกรณ์ต่อหน้านีรชา เขา เลยไม่อยากฝืนคำพูดเธอ

” ภัสกรณ์ นายมีธุระอะไร เปล่า ? ” นรุตม์พูดพลางชำเลือง มองนีรชาอยู่เนืองๆ นีรชากำลังคุยสนุกสนานอยู่กับ จันทร์ฉาย เลยไม่ทันสังเกตว่าทาง นี้เป็นยังไงกัน

นรุตม์ค่อยโล่งอกไปที

” นายอยู่ไหน ? ออกมาดื่มกัน หน่อยมั้ย ? ฉันมีไวน์เบอร์กันดี ปี 1990 รสเลิศอยู่ขวดนึง ” เสียงภัส กรณ์ลอดมาตามสาย

ฉันกำลังกินข้าวอยู่กับจันทร์ฉาย น่ะ นายลองชวนคนอื่นไปดื่มเป็น เพื่อนนายป่ะ ” นรุตม์ออกตัว ปฏิเสธเพื่อน

นายก็พาจันทร์ฉายมาด้วยกัน สิ ? ทำยังกับไม่รู้จักกันงั้นแหละ ” ภัสกรณ์พูดออกแนวหยิ่งๆแปลกๆ

จังหวะนรุตม์กำลังจะปฏิเสธอยู่ พอดี ด้านหลังก็ได้ยินเสียงจันทร์ ฉายตะโกนว่า : “เฮ้ยย ! ยัย น้ำ ! เอาคืนชั้นมาเดี๋ยวนี้นะ!

ตายห่าน ! ภัสกรณ์ต้องได้ยิน แน่ๆ ! นรุตม์รีบหันตามเสียงไป มอง ก็ได้เห็นนีรชากำลังยื้อแย่งดู มือถือของจันทร์ฉาย ทั้งสองกำลัง แกล้งหยอกล้อกันอยู่

นรุตม์เริ่มยืนไม่ติดละ ก็ในมือถือ ของจันทร์ฉายมีรูปนู้ดเขาอยู่น่ะ สิ ! ถ้าเกิดนีรชาไปเห็นเข้าคงจะ อับอายขายหน้า ไม่รู้จะเอาหน้าไป มุดที่ไหนแน่ๆ !

นรตม์รีบบอกกับภัสกรณ์ : ” ฉัน กำลังยุ่งๆอ่ะ ฉันวางก่อนนะ !

“เฮ้ย ! นรุตม์ ! เมื่อกี้ใช่เสียง จันทร์ฉายมัย ? เธอตะโกนชื่อใคร อ่ะ ? ” นําเสียงภัสกรณ์ตึงเครียด ปนๆประหลาดใจ นมาทันใด

‘ ไม่ใช่แล้ว นายฟังผิดแล้ว 11

ล่ะ ! ” นรุต รีบกดวางสาย รีบวิ่ง กลับไปที่โต๊ะ แล้วเข้าไปช่วยจันทร์ ฉายยื้อแย่งมือถือจากนีรชาอย่าง เมามัน ” ฮ่าๆๆๆ ! พวกเธอโดนหลอก แล้ว ! ” นีรชาเห็นนรุตม์วิ่งแจ้นปรี่ เข้ามา ก็ขำไม่ออกรีบเลิกเล่นแล้ว ส่งมือถือคืนให้จันทร์ฉาย : ” ดู พวกเธอสองคนร้อนรนใจกันขนาด นี้ ฉันว่าในมือถือต้องมีรูปนู้ดเก็บไว้ แน่ๆ ! ”

จันทร์ฉายรีบคว้ามือถือมาดู ปรากฏว่ามือถือไม่ได้เปิดด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้ก็รู้ตัวละว่าโดนนีรชาต้ม ซะเปื่อย จันทร์ฉายอายจนหน้า แดง : ” ฉันก็ว่า เธอจะมารู้ พาสเวิร์ดฉันได้ยังไง ! ที่แท้ก็ หลอกฉันนี่เอง ! เล่นซะเนียนเลย นะเธอน่ะ ! นี่ไปอยู่เมืองนอกมา 5 ปี เพื่อนฉันกลายเป็นยัยขี้แกล้งไป ซะแล้ว ! ”

นีรชาติหน้าขรึม : ” จันทร์ฉาย อะไรที่ไม่เหมาะจะให้เด็กเล่น ก็ อย่าเอาไปเก็บไว้ในมือถือ วันดี คืนดีมีอถือหายขึ้นมาหรือโดนใคร ขโมยไปนะ…….. อูยยยย เธอลอง นึกถึงเคสของ Edsion ดิ …… อย่างอนาถเลย !”

จันทร์ฉายหน้าแดงระเรื่อ แสร้ง ทำเป็นโกรธ : ” Edsion คือใคร อ่ะ ? ฉันไม่เห็นจะรู้จัก ! ฉันยัง เป็นสาวบริสุทธิ์อยู่นะเธอ ! ”

ฮาๆๆๆ …… นรุตม์กับนีรชาพากัน ขำกลิ้ง มื้อค่ำอันแสนสุขเสร็จสิ้น แต่ใน ใจนรุตม์กลับรู้สึกสังหรณ์ใจตะ หงิดๆ เพิ่งจะกินข้าวกันเสร็จหมาด แต่นรุตม์กลับรบเร้าให้ทุก คนรีบลุกออกจากร้าน

จันทร์ฉายขมวดคิ้ว : ” นั่งต่ออีก หน่อยเหอะนะ ! ก็ไม่เห็นมีคนรอ ต่อคิวเลย คุณจะรีบไปไหนเนี่ย ? ”

นีรชาเหลือบตามองนรุตม์แล้วอม ยิ้ม ก่อนหันไปพูดกับจันทร์ฉาย : ‘ 11 โอเคๆ ฉันว่าคุณนรุตม์คงอยากใช้ เวลาอยู่ตามลำพังกับเธอแล้วนะ ! พวกเราเช็คบิลกันเหอะ ฉันเองก็ เพิ่งจะกลับมาถึง ต้องกลับไป เคลียร์เสื้อผ้าสัมภาระของฉันซะ หน่อย ”

จันทร์ฉายก็เพิ่งนึกขึ้นได้ เพื่อน บินยาวคงจะเหนื่อยแน่ๆ เลยหัน ไปบอกนรุตม์ : ” คุณชายนรุตม์ รีบๆเรียกเช็คบิลเถอะค่ะ ! ”

นรต เปรยยิ้ม เอื้อมมือไปกดกริ่ง เรียกพนักงาน

เสียงประตูไม้ตรงหน้าซุ้มดอกวิส ทีเรียเปิดออก เสียงฝีเท้าแผ่วเบา กําลังเดินตรงเข้ามา

ทั้งสามคิดว่า เป็นเสียงของ พนักงานเดินมาเช็คบิลที่โต๊ะ เลย ไม่ได้เอะใจ ทั้งสามนั่งเล่นกันอยู่ กันบนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ คยกันไป เรื่อยเปื่อย ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เป็นกิจจะลักษณะอะไร

เสียงฝีเท้าหยุดนิ่งอยู่หน้าโต๊ะ แต่กลับไม่เหมือนเสียงของเด็ก เสิร์ฟ

นรต กําลังพูดคุยอยู่กับจันทร์ ฉาย ก็เลยไม่ทันสังเกตเห็น ทว่า นีรชารู้สึกแปลกๆ เลยเงยหน้าขึ้น ไปมอง

ชายหนุ่มสวมเสื้อสีฟ้าเข้ม ยืนนิ่ง อยู่หลังต้นไม้มองมาที่เธอ

ใต้เงาของร่มไม้ยามอาทิตย์ อัสดง แววตาคู่นั้นมองลึกเข้ามาใน ดวงตาสีดาสนิทของเธอ

นีรชาตัวเบาล่องลอย มือไม้มัน สั่นเบาๆ รู้สึกอึดอัดแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก จนเธอหน้าซีด

ภัสกรณ์

เป็นภัสกรณ์จริงๆ

วันแรกที่กลับมา ก็ต้องมาบังเอิญ เจอเขาเนี่ยนะ

“น้า เธอเป็นไรน่ะ ? เธอไม่สบาย ตรงไหนรึป่าว ? ” จันทร์ฉายเป็น คนแรกที่สังเกตเห็นความผิดปกติ ของนีรชา ใจหนึ่งก็พะวงอยู่กับการ ซักไซ้อาการของเพื่อน สายตาก็ มองตามหลังไปในทางที่สายตา ของเพื่อนกำลังเพ่งมอง

ภัสกรณ์ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ ตรงนั้น สายตาจดจ้องอยู่ที่นีรชา แต่เพียงผู้เดียว ราวกับว่าที่นั่นไม่มี ใครอื่น มีเพียงเธอและเขา

จันทร์ฉายอึ้งจนพูดไม่ออก ให้ ตายเถอะ ภัสกรณ์มาอยู่นี่ได้ไง เนี่ย ? เธอมั่นใจได้เลยว่านีรชาไม่ อยากเห็นหน้าเขาแน่ๆ

” ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ? จันทร์ฉายจ้องมองไปที่เขาด้วย อารมณ์ไม่สู้ดี นรุตม์รีบลุกขึ้นยืน เขาหัวเราะ พลางลุกเดินไปหาภัสกรณ์ : ภัสกรณ์ บังเอิญจริงๆ นายไปไงมา ไงเนี่ย มาๆๆ มานั่งคุยกันก่อน ”

ภัสกรณ์ทำเหมือนนรุตม์กับ จันทร์ฉายไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น เขา มุ่งตรงมาหานีรชา ลึกเข้าไปใน ดวงตานั้นดูมีจุดหมายบางอย่าง เสียงนั้นเบาจนคาดเดาอารมณ์ไม่ ถูก : ” นีรชา ไม่เจอกันนานเลยนะ

นรุตม์กับจันทร์ฉายมองหน้ากัน ทั้งสองพากันมองไปที่นีรชา ด้วย รู้สึกเป็นห่วงกังวล
191251457_848149659384613_8652516012920462145_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ