ตอนที่ 109 ไม่มีมือหรือ
นีรชาเขินจนหน้าแดง มองผ่านช่องว่างระหว่างแขนของภัสกรณ์ พยาบาลคนหนึ่งที่ถือถาดเหล็กเข้ามา มองภัสกรณ์อย่างรู้สึกผิด : ” คุณผู้ชาย คุณต้องเปลี่ยนยาแล้ว ”
พูดจบ ดวงตายังคงเหลือบมองนีรชาที่อยู่ในอ้อมกอดของภัสกรณ์
นีรชาอยากจะหารูมุดเข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ !
ภัสกรณ์ใช้สายตาอย่างกับจะกินคนมองพยาบาล : “ฉันไม่
ต้องการ ! ”
นีรชารีบดึงแขนเสื้อของภัสกรณ์ : “ รีบกลับไปนอนให้ยาเถอะ ! ไม่อย่างนั้นแผลของคุณจะหายเมื่อไร ? เจ้าปาลคงจะคิดถึงพ่อแล้ว คุณไม่อยากรีบกลับไปหาเขาเหรอ ? “
นีรชาค้นพบแล้ว ว่าเจ้าปาลเป็นจุดอ่อนของภัสกรณ์ แค่เอาเจ้าตัว เล็กมาอ้าง ภัสกรณ์ก็จะฟังและทำตาม
ได้ยินนีรชาพูดถึงเจ้าตัวเล็ก ภัสกรณ์ก็กลับไปนอนบนเตียง อย่างไม่เต็มใจ ให้พยาบาลช่วยเขาใส่เข็มเปลี่ยนยา
นีรชาช่วยห่มผ้าห่มให้เขา
ทันใดนั้นก็ถูกภัสกรณ์จับมือไว้แน่น นรชาเงยหน้ามองด้วยความ สงสัย มุมปากของภัสกรณ์ยิ้มอย่างชั่วร้าย ชี้ไปที่กระดูกไหปลาร้า ของตัวเอง
รี้กระดูกไหปลาร้าทำไม ? กระดูกไหปลาร้าไม่ได้หัก
ในใจของนีรชาคิดตำหนิ แต่ก็ขี้เกียจจะคิดอะไรมาก
พยาบาลข้างๆก็รีบมองไปที่กระดูกไหปลาร้าของนีรชา หน้าแดง ขึ้น แล้วรีบเดินออกไป
นีรชามองภัสกรณ์อย่างสงสัย จับกระดูกไหปลาร้าของตัวเองดู ก็ ไม่มีอะไรสักหน่อย
หันกลับไป ก็เห็นพยาบาลคนนั้นเดินเข้ามาหาตัวเอง มือยื่นผ้าพัน แผลให้เธอ
นีรชาคิดในใจ พยาบาลคนนี้สายตาดีเขียว เธอสังเกตเห็นสะเก็ด แผลที่หลุดอยู่ตรงแขนเสื้อ เปลี่ยนแขนเสื้อของภัสกรณ์ เอาผ้าพันแผลติดไปที่แผลที่ตก สะเก็ดแล้ว
ในที่สุดภัสกรณ์ก็หัวเราะเสียงดังออกมา : ” นีรชา อันนี้ให้คุณ ! ”
นีรชาเงยหน้ามองอย่างงงๆ : “อ้อ ? ให้ฉัน ? ”
ภัสกรณ์ชี้ไปที่หน้าอกของนีรชา หัวเราะจนพูดไม่รู้เรื่อง : ” คุณ ลอง มองไปข้างใน ฮ่าๆ”
นีรชารีบเข้าไปในห้องน้ำ ส่องกระจกดู บนกระดูกไหปลาร้าของ เธอมีรอยจูบสีสดๆที่สะดุดตามาก !
ไม่น่าล่ะเมื่อสักครู่พยาบาลดูท่าทางเหมือนเขินอายอะไร ถึงว่าล่ะ ภัสกรณ์ถึงได้หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ !
ผู้ชายคนนี้สมควรตายจริงๆ ระบายอารมณ์ไปทั่ว ! ทำให้เธอถูก มองไม่ดีในสายตาคนอื่น !
สองสามวันนี้ไม่ได้พักผ่อนเต็มที่สักที เมื่อนีรชาไปถึงเตียงก็หลับ
ทันที เขานอนฝันอยู่นาน ในฝัน ก็ย้อนกลับไปในมหาวิทยาลัยในอดีต เธอกับพี่สมภพนั่งอยู่ใต้ต้นซากุระ อ่านหนังสือด้วยกัน ตอนนั้น พวก เขายังวัยรุ่นมาก สมภพ ยังเป็นเด็กหนุ่มที่ยังใสซื่อ
ในฝันแสงแดดกำลังพอดี ผู้ชายในฝันอบอุ่นนุ่มนวลเหมือนน้ำ
ตื่นขึ้นมาก็เก้าโมงกว่าแล้ว หลังจากที่รีบอาบน้ำ ก็เดินตรงไปห้อง พักฟื้นของภัสกรณ์ที่อยู่ข้างๆ
บรรยากาศในห้องพักฟื้นหดหูมาก
ลุงจริมยืนตาห้อยอยู่ข้างๆ พยาบาลก็ยืนเรียงเป็นแถวอยู่หน้า เตียงภัสกรณ์ ดูท่าทางภัสกรณ์กำลังอารมณ์เสีย
เห็นนีรชาเดินเข้ามา ลุงจริมก็ถอนหายใจ มองนีรชาเพื่อขอความ ช่วยเหลือ “ คุณนีรชา คุณช่วยพูดกับคุณชายหน่อย เขาไม่ยอมกิน
ยา ”
นีรชาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ
ไม่ยอมกินยา เด็กน้อยต่างหากที่จะเป็นแบบนี้ ? เท่าที่จำได้ ก็มีแต่ เด็กต่ำกว่าสิบขวบที่จะปฏิเสธไม่ยอมกินยา ? เห็นหน้านีรชาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเขา ภัสกรณ์ไม่พอใจหัน ไปตวาดใส่ลุงจริม : “ ลุงจริม ! คุณหัวเราะอะไร !
ลุงจริมรีบก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไร
เหล่าพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆก็ก้มหน้าลงด้วย มองพื้น กลัวว่าจะทำ
ให้ภัสกรณ์ไม่พอใจอีก
ยาเม็ดหล่นกระจายเต็มพื้น ดูท่าทางเมื่อสักครู่ภัสกรณ์โมโห
อาละวาดหนัก
ในใจนีรชาแอบหัวเราะเยาะ แต่เห็นท่าทางภัสกรณ์โมโหร้าย ก็ เลยต้องกลั้นอารมณ์ไว้ เดินไปข้างๆภัสกรณ์ พูดด้วยเสียงนุ่มนวล : ” คุณป่วยแล้วทำไมถึงไม่กินยาล่ะ ? กินยาถึงจะได้หายเร็วๆไง ! ยา นี้ไม่ขมเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เชื่อคุณลองชิมดู
นีรชารู้สึกว่าตัวเองเป็นคุณครูโรงเรียนอนุบาล และนักเรียนก็เป็น
เด็กอนุบาล !
ภัสกรณ์มองนีรชา : “ ฉันบอกว่าไม่กินก็คือไม่กิน ! ”
นีรชาอึ้งพูดไม่ออก เด็กน้อยในชั้นอนุบาลก็ยังเชื่อฟังคุณครูใช่ไหม ?
ภัสกรณ์ แม้แต่เด็กชั้นอนุบาลก็สู้พวกเขาไม่ได้เหรอ
ภัสกรณ์สีหน้าบูดบึ้งมาก ปฏิเสธไม่ยอมกินยาอย่างเด็ดขาด
นีรชายักไหล่ กำลังจะยอมเขา แต่กลับมองเห็นสายตาที่ลุงจริม อ้อนวอนขอร้องเธอ ใจก็อ่อน อดทนพูดกับภัสกรณ์ที่หน้าตาบูดบึ้ง : ” แล้วทำยังไงคุณถึงจะยอมกินยา ? ” ”
ภัสกรณ์พูดไปอย่างไม่เกรงใจ : “ อย่าพูดเลย ให้พวกเขาออกไป ! ” ชี้ไปที่พยาบาลที่ยืนเรียงกันอยู่
ช่างมันเถอะ ยังไงเธอก็ขอร้องคุณชายของเขาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้น
ก็ยอมเขาเถอะ
นีรชามองลุงจริมด้วยท่าทางที่หมดหนทาง ทันใดนั้นรู้สึกว่าท้อง เริ่มหิว เมื่อเช้าตื่นขึ้นมาก็มาสวมบทคุณครูโรงเรียนอนุบาล เธอหิว
จริงๆ
“ลุงจริม ฉันอยากจะไปทานอะไรที่ร้านอาหารหน่อย ร้าน อาหารไปทางไหนคะ ? ”
ทานอาหาร ? ภัสกรณ์หันมามองนีรชา ผู้หญิงคนนี้ไม่เห็นเขากำลัง นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยหรือไง เขาก็ยังไม่ได้กินอาหารเช้านะ !
ยังไม่เข้าไปถามเป็นห่วงเขาอีก ยังจะทิ้งเขาแล้วไปกินข้าวเช้า
อีก ?
เธอยังมีหัวใจอยู่ไหม !!
นีรชา ! ” ภัสกรณ์จ้องนีรชา กัดฟันตะโกนออกไป
“หือ ? นีรชาหยุดเดิน หันหน้าไปมองภัสกรณ์ คิดว่าเขาเรียกเธอ เพราะมีธุระอะไร
“ คูณกล้าเดินออกไปแม้แต่ก้าวเดียวก็ลองดู ! ” น้ำเสียงของภัส กรณ์เผด็จการมาก สีหน้าบูดบึ้งที่สุด
ลุงจริมและเหล่าพยาบาลเห็นสถานการณ์ไม่ปกติ ต่างก็ก้าวถอย ออกไป
นีรชาขมวดคิ้ว ทำไมน้ำเสียงถึงได้ป่าเถื่อนแบบทุกครั้งเลย เธอแค่อยากจะไปกินข้าวเท่านั้น ไปทำอะไรให้เขาโกรธอีก ?
ถามอย่างไม่เข้าใจ : “คุณหมายความว่าอะไร ? ไม่ให้ฉันไปกิน ข้าว ? ”
ภัสกรณ์ตวาดเสียงเย็นชา สายตาลึกลับนั้นจ้องเธอ : ” ให้ลุงจริม สั่งอาหารเข้ามาให้ คุณกินกับผม !
พูดจบ เขามองนีรชาด้วยสายตาหยาบคาย ปรับเตียงให้ตรง นอน ลงไปอย่างสบายอกสบายใจ
งี่เง่า ! งี่เง่ายิ่งกว่าเด็กโรงเรียนอนุบาลซะอีก!
นีรชาสายหน้าหมดหนทาง ได้แต่กดกริ่งให้ลุงจริมช่วยสั่งอาหาร เข้ามาให้
ได้พบเจอผู้ชายเผด็จการแบบนี้ เธอช่างโชคร้ายจริงๆ !
ไม่นาน ลุงจริมก็เข็นรถอาหารมากมายเข้ามาในห้องพักฟื้น
สีสันของอาหารบนรถเข็นอาหารมันดูสวยงาม น่ากินมาก
นีรชานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเตียง ก้มหน้าลง ไม่พูดจา ไม่ มองอาหารพวกนั้นเลย
“ นีรชา กินข้าว ! ” ภัสกรณ์เงยหน้าตวาดใส่นรชา “ เมื่อสักครู่
ไม่ใช่จะรีบไปกินข้าวเหรอ ? ”
กินก็กิน ! นีรชาเธอหิวจริงๆ
เดินไปดื่มน้ำผลไม้ก่อนหนึ่งแก้ว น้ำผลไม้หวานๆเย็นๆไหลลงไป ในลำคอ สบายท้องสบายกระเพาะอาหาร สบายจริงๆ ! น้ำผลไม้ หนึ่งแก้วตกถึงท้อง ทันใดนั้นน้ำย่อยของนีรชาก็เริ่มทํางาน หยิบ ขนมปังโฮลวีตอบจนเหลือง ที่วางอยู่ในตะกร้าขึ้นมากิน
แล้วก็กินสลัดผักสีสันสดใสเข้าไป นีรชากินอย่างมีความสุข ไม่ได้ สนใจสีหน้าบูดบึ้งของผู้ชายที่อยู่บนเตียง
“นีรชา ! ” ตวาดเสียงดัง
นีรชาขมวดคิ้ว อะไรอีก ยังกินไม่เสร็จเลย ขัดจังหวะการกินของ เธอจริงๆ !
“อะไรอีกคะ คุณชาย ?
“ มาป้อนนผมสิ ! ” ถูกคนเย็นชาขัดขวางอย่างไม่พอใจ นีรชาส่ายหน้า จริงๆเลย กระดูกซี่โครงเขาหัก ไม่ใช่แขนหัก ตัว เองไม่มีแขนหรือไง ? โตป่านนี้แล้ว ยังจะให้คนอื่นป้อนเขาอีก!
มองหน้ากัสกรณ์ที่ซีดเซียวเผด็จการด้วยความเย่อหยิ่ง นีรชา อยากจะเอาสลัดในจานโยนใส่หน้าเขา
แต่กลับมาคิดแล้ว นีรชาก็ต้องยอมหยิบสลัดจานหนึ่งเดินไปข้างๆ ภัสกรณ์ ใช้ช้อนป้อนเขา
ภัสกรณ์อ้าปากอย่างพึงพอใจ กลืนอาหารที่นีรชาป้อน น้ำสลัดติด ขอบปากเขา ดูแล้วเหมือนเด็ก นีรชาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ยื่นมือ หยิบทิชชู่ช่วยเขาเช็ดปาก
แล้วตักสลัดอีกข้อนหนึ่งป้อนเขา ภัสกรณ์อ้าปากแล้วกินเข้าไปทั้ง *คำนีรชากำลังจะป้อนคําที่สาม แต่ภัสกรณ์กลับไม่อ้าปาก
อะไรของนาย ? นีรชาทนไม่ขมวดคิ้ว เห็นท่าทางบงการเจ้ากี้เจ้า การของภัสกรณ์ ใช้นิ้วชี้ไปที่ปากของตัวเอง : “ นีรชา เช็ดปาก ”
นีรชาอยากจะอาเจียน ! เช็ดปากเช็ดปากอะไรกัน เช็ดอะไรอีก ! รอบปากคุณก็ดูสะอาดไม่มีอะไรติดจะเช็ดทำไม ! นีรชาพูดอย่างใจเย็น : ปากคุณสะอาดแล้ว ไม่ต้องเช็ดอีก ”
คิ้วหนาๆของภัสกรณ์ตั้งขึ้น มองหน้านีรชา : ” ผมบอกว่าให้เช็ด ปากก็คือเช็ดปาก ! ”
นีรชาทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าเขากำลังเล่นตลกอะไร ได้แต่หยิบทิช ซูเช็ดปากให้เขาโดยที่ปากนั้นก็สะอาดอยู่
บนหน้าของงภัสกรณ์ก็ส่งรอยยิ้มอย่างผู้ชนะออกมา ท่าทางที่ นีรชาช่วยเขาเช็ดปากเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เขามีความสุขมาก เหมือน กับแม่เข็ดปากให้เขาตอนเด็กๆยังไงอย่างนั้น
ความรู้สึกถูกรัก ความรู้สึกที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ เขาชอบความ
รู้สึกนี้มาก
เห็นท่าทางของภัสกรณ์พอใจมาก เหมือนได้รับพรจากสวรรค์
อย่างนั้น
งี่เง่าจริงๆ
นีรชาเบะปาก
“ นีรชา หน้ายื่นเข้ามา ” ทันใดนั้นภัสกรณ์เอ่ยปากพูด นีรชาเอียงไปข้างๆปากของภัสกรณ์ เธอคิดว่าภัสกรณ์มีอะไรจะ
บอกกับเธอ
ทันใดนั้น ริมฝีปากที่ร้อนผ่าวของกัสกรณ์จูบไปที่เธอ
ติดรสหวานๆของสลัด ปากของเขาเสียไปที่ใบหน้าสวยๆของเธอ
แผลของภัสกรณ์จะต้องพักฟื้น กินข้าวเสร็จ ภัสกรณ์ก็กลับไปพัก
ในห้อง
ตอนเช้าที่สดใส แสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็ส่องผ่านเข้าไปในห้อง
นีรชาถูกภัสกรณ์บังคับให้นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยกัน มือข้างหนึ่ง ของเขาโอบแขนเธอ ทั้งสองคนนั่งพิงกันอ่านนิยายด้วยกัน
หนังสือเรื่องราวความรักที่ทำให้คนประทับใจ นีรชาอ่านอย่าง ตั้งใจ เห็นเรื่องราวที่เศร้าโศก ขนตาค่อยๆมีน้ำตาคลอ
ภัสกรณ์โอบเธออยู่ข้างๆ อ่านด้วยกัน
เป็นภาพที่สวยงามและอบอุ่นมาก แน่นอน ถ้าภัสกรณ์ไม่ได้ใช้มือคว้าไปมาจับปูนจับนี่อยู่ใต้ผ้าห่ม นั้น ทุกอย่างก็คงจะดีมากกว่านี้
นีรชายังคงตั้งใจอ่านหนังสือ แต่มือของภัสกรณ์จับไปทุกส่วนของ
ร่างกายเธอเพื่อกระตุ้นอารมณ์
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ