evil spirit นายปีศาจบอกให้รัก

ตอนที่ 150 โมโหจนเกือบตาย



ตอนที่ 150 โมโหจนเกือบตาย

กลับมาถึงบริษัท นีรชาง่วนอยู่กับงานได้พัก หนึ่ง ก็จะได้เวลาเลิกงานแล้ว

” นีรชา วันนี้ที่แผนกมีนัดกินข้าวกันนะ เมื่อ ตอนบ่ายเธอไม่อยู่ ฉันก็เลยลืมบอกเธอไปเลย” ปารมี ผู้ช่วยฝ่ายประชาสัมพันธ์เดินเข้ามาหานีรช า : “ร้านอยู่ใกล้ๆบริษัทนี่เอง ที่ชื่อเฮก้นะ กิน ข้าวกันก่อน แล้วไปต่อคาราโอเกะกัน ”

“ปารมี บอกคุณพรยศให้ที่ ว่าฉันคงไม่ไป

ล่ะ”

นีรชารู้สึกลำบากใจ เมื่อตอนบ่ายก็มัวแต่ ยุ่งวุ่นวายอยู่กับภัสกรณ์ แล้วยังมีงานอีกเพียบที่ ยังทำไม่เสร็จ กะว่าคืนนี้คงต้องอยู่ยาว

ปารมีรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่ง : ” ได้ ไว้ฉันจะ บอกคุณพรยศให้แล้วกัน”

ปารมีเดินจากไปได้ไม่ทันไร พรยศก็ต่อ สายมาหาเธอ

” น้ำ กิจกรรมกลุ่มของเรา ทำไมเธอถึงไม่

ไปล่ะ ? ”

นีรชาแอบงง ไม่ใช่แค่ไปกินข้าวร้องเพลงแค่นั้นเองหรอก รี ทำอย่างกับเป็นกจกรรม อะไรสำคัญๆขนาดนั้นเชียว …

นีรชากำลังจะอ้าปากอธิบาย พรยศก็พูดเข้า มา : ” คุณเพิ่งจะเข้ามาใหม่ ทางที่ดี ควรจะทำ กิจกรรมกับเพื่อนร่วมงานบ่อยๆนะ จะได้สร้าง ความคุ้นเคยกับเพื่อนๆ ”

พรยศชะงักไปชั่วครู่ก่อนพูดเสริมว่า : ” จริงๆแล้ว ผมเองก็อยากให้คุณไปนะ

ประโยคสุดท้ายของเขา พรยศพูดอย่างไว น้ำเสียงเบาลงจนนีรชาได้ยินไม่ถนัด เธอคิดๆ ดูแล้ว ที่พรยศพูดไปก่อนหน้านั้นก็มีเหตุผล นีรชา รีบตอบพรยศ : ” อืม เดี๋ยวขอฉันเคลียร์ตรงนี้ เสร็จแล้วจะรีบตามไปค่ะ

ร้านเฮก็อยู่ไม่ไกลจากตึกเอฟเอส นีรชา เดินหยอกล้อไปกับบรรดาเพื่อนร่วมงาน ปารมี จองห้องใหญ่ไว้สองห้องหลังจากกินบุฟเฟ่ต์ เสร็จแล้วก็พากันเล่นทอยลูกเต๋า กินเหล้าร้อง เพลง

นีรชาออกไปอยู่เมืองนอกมาตั้ง 5 ปี เพลง ดังๆในประเทศที่เขาฮิตๆกันก็ร้องไม่ค่อยจะได้ ก็ เลยได้แต่ถือแก้วเครื่องดื่ม นั่งเงียบๆฟังคนอื่น เค้าร้องกันไป
“น้ำ ทำไมไม่ร้องเพลงกับเพื่อนๆละ 2 ฟรี ยศเดินเข้ามานั่งข้างๆนีรชา

“เอ่อ คือฉันร้องเพลงไม่เป็นนะค่ะ คุณพร ยศร้องเพลงเพราะดีนะคะ” นีรชาชมจากใจ เมื่อกี้พรยศร้องเพลงๆหนึ่งได้เพราะพริ้งกินใจ ทำเอาทุกคนพากันปรบมือให้เขา

“จริงเหรอครับ ? ” พรยศยิ้มแก้มปริ สายตาระยิบเป็นประกาย

นีรชารู้สึกเริ่มอึดอัด สายตาที่พรยศมองเธอ มันช่างชัดเจนเกินไปแล้ว เธอเองก็ไม่ได้โง่ที่จะ ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

อย่าไปสบตา เธอยิ้มและพยักหน้าให้เขา ตอนนี้เธอรู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวๆ เหมือนจะเป็นไข้

นีรชาหญิงสาวใบหน้างดงาม แก้มสีชมพูระ เรื่อ ขนตาโค้งงอน ยาวเรียงเป็นแผง ใครเห็นเป็น ต้องหลงใหล พรยศนั่งอยู่ข้างๆชื่นชมกับความ งามของนีรชา เสน่หาในตัวเธอเพิ่มขึ้นทวีคูณ

กว่าจะร้องเพลงกันเสร็จ ก็ปาเข้าไปห้าทุ่ม กว่า ทุกคนก็ค่อยๆแยกย้ายเหมือนนกกระจอก แตกรัง !

“น้ำ ให้ผมไปส่งคุณนะ ! ” พรยศมองดู หญิงสาว โอกาสแบบนี้ใช่จะหาไดง่ายๆ เขา อยากกระชับความสัมพันธ์กับนีรชาให้มากกว่านี้ อีกหน่อย

” ไม่ต้องหรอกค่ะ บ้านฉันอยู่ใกล้ๆนี่เอง เดี๋ยวเรียกรถแถวๆนี้กลับก็ได้ค่ะ ” นีรชารีบปฏิเสธ

เพื่อนๆรอบๆตัว พากันหายไปหมด เหลือ อยู่แค่เธอกับพรยศสองคนเท่านั้น

พรยศยังไม่ลดละความพยายาม : “ได้ยัง ไงล่ะน้ำ นี่มันก็ดึกแล้ว ผู้หญิงตัวเล็กๆจะกลับบ้าน ตามลำพังคนเดียวมันไม่ปลอดภัย อีกอย่างก็ใช่ ว่าจะไกล ทางผ่านผมอยู่แล้ว

แสงที่มาจากด้านข้าง ทำให้นีรชามองเห็น พรยศได้ชัดขึ้น จมูกโด่งเป็นสัน กำลังยิ้มที่มุม ปาก ดวงตาของเค้า ถ้ามองจากมุมมนี้ช่างคล้าย สมภพเอามากๆ !

นีรชากำลังล่องลอยอยู่ในภวังค์ นั่งมอง หน้าของพรยศอย่างเหม่อลอย

พรยศถูกนีรชาจ้องเอาแบบนั้นก็รู้สึกอายๆ ขยับแว่นแก้เขินพลางยิ้มให้นีรชา : ” น้ำ หน้าผม มีอะไรผิดปกติรึเปล่า ?”

นีรชากลับคืนสติ นี่ตัวเองเผลอไปจ้องมองหน้าของพรยศแบบนั้นได้ยังไงเนย

“เอ่อม ไม่ค่ะ ไม่มีค่ะ . ทุกอย่างปกติดี ค่ะ . ” นีรชารีบหลบสายตา ทำตัวไม่ถูก แต่ใน ใจก็รู้สึกแอบเศร้าอยู่นิดๆ

พี่สมภพ

จริงๆก็นานมากแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวของพี่ สมภพเลย เขากับธวัลน่าจะแต่งงานไปแล้วล่ะ มั้ง ? แล้วก็น่าจะลูกด้วยกันคนนึงแล้ว มีชีวิต ครอบครัวที่แฮปปี้มีความสุข

สองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกัน บรรยากาศดู เงียบงัน น่าอึดอัด

ฝั่งตรงข้ามถนน มีรถ SUV สีดำคันหนึ่ง จอดอยู่ หน้าต่างรถเปิดกระจกไว้เพียงครึ่งเดียว ควันบุหรี่ค่อยๆลอยออกมาจากข้างใน เผยให้เห็น ไฟสีแดงที่ปลายมวนบุหรี่ ชายหนุ่มดวงตาคมเข้ม คมกริบดุจใบมีด

” ไปกันเถอะน้ำ ” พรยศจับข้อศอกเธอไว้ 11 แล้วค่อยๆพาเธอให้ลุกขึ้นเดินออกไป

นีรชาในคืนนี้ ช่างงดงามจับใจ ท่ามกลาง ความเงียบ แต่ในใจของพรยศกลับเต้นโครม ครามหวั่นไหวอย่างเหลือเชื่อ
นีรชายังคงอยู่ในสภาวะที่จิตใจเศร้าหมอง หดหู เลยเดินขึ้นรถพรยศไปกับเขาอย่างว่าง่าย

SUV สีดำคันนั้น ขับตามหลังรถของพรยศ มาติดๆ บ้านของนีรชาอยู่ไม่ไกล พรยศพยายามขับ

ให้ช้าที่สุดเท่าที่จะช้าได้ แต่ด้วยเพราะใกล้ ไม่

นานก็ถึงบ้านนีรชา

คุณพรยศ ขอบคุณมากค่ะที่มาส่งฉัน ! ฉันขอตัวก่อนนะคะ คุณก็ขับรถกลับบ้านดีๆล่ะ ” นีรชายิ้มขอบคุณพรยศ เตรียมตัวเปิดประตูลง จากรถ

เท้าข้างหนึ่งของนีรชาก้าวออกจากประตู รถไปแล้ว จู่ๆพรยศก็ตะโกนเรียกเธอ : “น้ำ !

ไม่ร่ำลากันหน่อยเหรอ ?

พรยศพูดพลางยื่นมือออกมาจับมือกับนีรช อย่างนุ่มนวล

อ่า ? จับมือเพื่อร่ำลากันเนี่ยนะ นี่มัน มารยาทหรือประเพณีอะไรกันเนี่ย ? นีรชายังไม่ กลับคืนสติดี พรยศก็ปล่อยมือเธอ ใบหน้ายิ้มกริ่ม บอกกับนีรชา : ” คุณรีบเข้าบ้านเหอะ รีบพักผ่อน

ล่ะ
SUV สีดำที่ขับตามมาข้างหลัง ชายคนนน นิ่งเงียบจ้องมองอยู่

จากตรงนี้ เขามองเห็นสองคนนั้นกำลังจับ มือกันอยู่ ดูแล้วก็น่าจะจับมือกันเพื่อร่ำลา

นีรชาลงรถไปแบบมึนๆงงๆ แล้วก็เดินงงๆ

เข้าบ้านไป

คิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี นีรชาส่าย หัว ช่างมันเหอะอย่าไปคิดถึงมันเลย ถือซะว่า เป็นการร่ำลาแบบใหม่แล้วกัน

พรยศขับรถห่างออกไป แววตาเป็นประกาย ใบหน้าเปื้อนยิ้มด้วยความสุขใจ

นีรชาเดินไปถึงหน้าประตู รูดเปิดซิปกระเป๋า หยิบเอากุญแจออกมา ขณะที่กำลังไขเปิดประตู

นั้น จู่ๆก็มีคนมาคว้าแขนเธอไว้จากด้านหลัง

นีรชา ! คุณนี่พัฒนาการดีนะ โกหกผม ซะแนบเนียนเลย ! ” ภัสกรณ์ดึงตัวนีรชาให้หัน มาหาเขา กรามกัดเกร็งแน่น ลึกเข้าไปในแววตา เขา ลุกโชนไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

ภัสกรณ์ ? คุณมาที่นี่ได้ยังไง ? นีรชายิ่ง ปวดหัวหนักกว่าเก่า

“คุณรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่ ?” นีรชาพูดพลางสลัดแขนตัวเองให้หลุดจากเขา

ฝ่ามือใหญ่หนาราวคีมเหล็กแข็งแกร่งของ เขา กำลังบีบแขนเรียวเล็กของเธอ ทำให้เธอ ขยับไปไหนไม่ได้น้ำเสียงเยือกเย็นและเกรี้ยว กราด : ” ผมไม่เพียงแต่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ แต่ผมยังรู้ อีกว่าชู้รักของคุณเพิ่งจะกลับไป ! น่าแปลกนะ ทำไมคุณไม่เชิญเค้าเข้ามานั่งในบ้านก่อนล่ะ ทำไมไม่ชวนเค้ามาใช้เวลาร่วมกันซักคืนล่ะ ?”

ชู้รักงั้นเหรอ ? ภัสกรณ์ทำให้นีรชาโกรธ ขึ้นมาจริงๆละนะ !

หญิงสาวจ้องเขาเขม็ง : “ภัสกรณ์ ! คุณ พูดให้ดีๆ ! ฉันกับคุณไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกัน ฉันจะคบกับใคร หรือฉันจะนอนกับใคร คุณไม่มี สิทธิ์มายุ่งเกี่ยว ! 11

ภัสกรณ์หรี่ตามองหญิงสาว เสมือนดั่งเสือชี ต้า ที่กำลังสะสมพละกำลังทั้งหมดของมัน ก่อนที่ วิ่งไปตระครุบเหยื่อยังไงยังงั้น : ” นีรชา คุณ โกหกผมว่าจะทำล่วงเวลา เพื่อที่จะไปกับผู้ชาย คนนั้นใช่มั้ย ? คุณคงจะขาดผู้ชายไม่ได้สินะ ? ตลอดห้าปีที่อยู่เมืองนอก คงจะผ่านผู้ชายมานับ ไม่ถ้วนใช่มั้ย ?”

นีรชาโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม พูดออกไปด้วยความโกรธ : “มันเรื่องอะไรของคุณ !ออกไป เดี๋ยวนี้ ! นี่มันบ้านของฉัน และฉันไม่ต้อนรับ คุณ !”

สองคนยืนอยู่ที่ประตู เธอพยายามออกแรง สุดชีวิตเพื่อผลักเขาออกไป แล้วเธอเองจะได้รีบ วิ่งเข้าบ้าน ขอแค่ปิดประตูได้ เธอก็ปลอดภัยจาก เขาแล้ว !

“อย่างงั้นเหรอ ! ไม่ต้อนรับผมใช่มั้ย ? ผมอยากจะดูซิว่า สุดท้ายแล้วคุณจะต้อนรับผม มั้ย ! “ภัสกรณ์ดวงตาแดงกำเต็มไปด้วยความ โกรธ เขาผลักเธอเข้าไปในบ้าน กระแทกบาน ประตูปิด !

คุณจะทำอะไร ! คุณบุกเข้ามาในบ้านฉัน แบบนี้ ฉันจะแจ้งตำรวจ ! คุณมันบ้า ! คุณมัน โรคจิต ! นีรชาล้วงมือเข้าไปควานหามือถือใน กระเป๋า ตั้งใจจะกดเรียก 191

ขณะที่คว้ามือถือได้ เตรียมจะกดตัวเลขที่ แป้นพิมพ์ ภัสกรณ์เข้ามาแย่งปัดมือถือออกจาก มือหญิงสาว มือถือของนีรชา ตกกระแทกพื้น !

หน้าจอมือถือแตกละเอียด นีรชาโมโห

สุดขีด จนไม่สามารถควบคุมสติและอารมณ์

ได้

!
หญิงสาวพุ่งไปหาภัสกรณ์พร้อมตีเขาอย่าง บ้าคลั่ง : “คุณมันไอ้โรคจิต ! ออกไปเดี๋ยวนี้ นะ ! ไปให้พ้น ! ”

แววตาที่เคยสดใสเป็นประกาย บัดนี้เปลี่ยน เป็นสีแดงด้วยความโกรธเคือง เธอกัดเข้าไปที่ แขนของภัสกรณ์อย่างเต็มแรง !

ภัสกรณ์อดกลั้นความเจ็บปวด น้ำเสียงของ ปีศาจร้าย กระซิบที่ข้างหูเธอ : ” นีรชา ผลลัพธ์ ของการทำให้ผมโกรธ คุณน่าจะรู้ดี …

นีรชารู้สึกกลัวขึ้นมาทันที !

“ช่วยด้วยค่ะ ! ช่วยด้วย !” นีรชาทันได้ ตะโกนออกมาประโยค นึ่ง ก่อนที่จะโดนอุ้งฝ่ามือ หนาอุดปากไว้

ลมฝนสงบ สองคนพักรบ ภัสกรณ์อุ้มร่าง หญิงสาวที่ตอนนี้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเข้าไปในห้องน้ำ

ภัสกรณ์อุ้มเธอกลับมาวางลงที่เตียง

นีรชาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อหุ้มตัวเอง ไม่ยอม ลืมตามอง นภัสกรณ์ ก่อนพูดเสียงเบา : ” โอเค ปล้ำฉันเสร็จแล้วนี่ ออกไปได้แล้ว !”
อะไรนะ ? ดวงตาของภัสกรณ์ดูเยือกเย็น

: “นีรชา คุณพูดอะไรของคุณ ?”

“ฉันบอกว่า ปล้ำฉันเสร็จแล้ว ก็ออกไปได้ แล้ว !” นีรชาพูดช้าๆ ทีละคำๆ

ภัสกรณ์โกรธจนแทบจะกระอักเลือด !

” นี่ใช้งานผมเสร็จ ก็รีบไล่ผมเลยเหรอ ? นี่ คุณเห็นผมเป็นเปิดรีไง ?” พูดจบถึงได้รู้ว่าตัวเอง พูดอะไรออกไป น่าขำจริงๆ

ภัสกรณ์ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด จ้องไปที่ หญิงสาวที่นั่งหลับตาปี่อยู่บนเตียง

นีรชารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเยอะแล้ว เธอ ลืมตามองไปที่เขา : ” คุณภัสกรณ์ ประธาน กรรมการผู้จัดการใหญ่ คุณบุกเข้าบ้านฉันยาม วิกาล คุณเพิกเฉยต่อการต่อต้านจากฉัน และ กระทำชำเราฉัน ตอนนี้ทำเป็นมาแกล้งทำเป็น ไม่รู้ไม่ชี้ คุณไม่รู้จักอายบ้างเลยรึไง ?”

นีรชาดึงผ้าขึ้นมาปิดที่หน้าอก เอื้อมมือไป ที่ลิ้นชักข้างหัวเตียง หยิบตัวสีชมพูที่อยู่ในซอง จดหมายออกมาใบหนึ่ง ส่งให้ภัสกรณ์ : “อ่ะ เพิ่งรู้ว่าคุณอยากจะเป็นเป็ด งั้นก็รับนี่ไว้ซะ “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ