evil spirit นายปีศาจบอกให้รัก

ตอนที่ 146 เขาบ้าไปแล้ว



ตอนที่ 146 เขาบ้าไปแล้ว

เป็นเวลากว่าครึ่งเดือนแล้ว ที่นีรชาเข้ามา ทำงานที่เอฟเอส ในฐานะหัวหน้าแผนกวางแผน นีรชาทำงานด้วยความราบรื่น ส่วนโปรเจกต์ใหญ่ ที่เธอดูแลให้กับทางบริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ก็สามารถผ่านการประเมินรอบแรกไปแล้ว เรียบร้อย พรยศชื่นชมในประสิทธิภาพการทำงาน และความคิดสร้างสรรค์ของเธอ

นีรชาเองก็โล่งใจไม่น้อย ถึงแม้ว่าตึกเอฟ เอสจะอยู่ติดกับตึกที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป แต่ ทว่าในช่วงครึ่งเดือนมานี้ เธอไม่เคยเจอภัสกรณ์ เลยสักครั้ง

แต่เรื่องที่ทำให้นีรชาไม่สบายใจ กลับเป็น เรื่องของพรยศ ! พรยศแสดงท่าที่เหมือนจะคิด กับเธอมากกว่าการเป็นเพื่อนร่วมงานธรรมดาทั่วๆ ไป ทุกครั้งที่นีรชาต้องอยู่ทำล่วงเวลา เขาก็อยู่ทำ ล่วงเวลาด้วย พอเลิกงานก็อาสาไปส่งเธอที่บ้าน บอกว่าเป็นทางผ่านพอดี

ตอนแรกเธอก็คิดว่าคงเป็นทางผ่านจริงๆ แต่ที่ไหนได้ พอได้ยินทางฝ่ายบริหารเค้าคุยกัน โดยบังเอิญว่า บ้านของพรยศอยู่ไปทางใต้ของเมือง

แต่บ้านของนีรชา อยู่ทางเหนือ !

ที่พรยศบอกว่าทางผ่านนะ เป็นเพียงแค่ข้อ อ้างเท่านั้น

นีรชาพยายามรักษาระยะห่างกับพรยศ เพราะเธอชอบในวัฒนธรรมองค์กรของเอฟเอส อีกทั้งยังชอบงานนี้เอามากๆ ความรักในที่ทำงาน เป็นเรื่องที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย

แต่ละวันก็ผ่านไปแบบนี้จนมาถึงวันนี้ เลขาของพรยศโทรภายในมาหานี้รชา : “คุณ นีรชา คุณพรยศเรียกพบคุณค่ะ รบกวนเอาแผน งานของโปรเจกต์ที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ปมาด้วย นะคะ”

คาดว่าน่าจะคุยเรื่องติดตามความคืบหน้า ล่ะมั้ง นีรชาเลยไม่คิดอะไรมาก หยิบคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คเดินไปที่ห้องทำงานพรยศ

น้ำ เดี๋ยวคุณไปที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กับผม หน่อย ” พรยศบอกกับนีรชา

นีรชารู้สึกกังวลขึ้นมา เลยเอ่ยปากถามพร ยศว่า : “คุณพรยศคะ เราจะไปทำอะไรที่ตึก ที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ปคะ ? ”
การประเมินรอบแรกก็ผ่านไปแล้ว ส่วน แผนรอบสองก็ยังไม่ได้ทำ ก็ต้องยังไม่มีการ ประเมินสิ แล้วต้องไปทำอะไรที่ที.เอส พร็อพเพ อร์ตี้กรุ๊ป ?

พรยศพูดพลางขมวดคิ้ว : “ก็ประธาน กรรมการของที.เอส พร็อพเพอร์ตี้เพิ่งกลับมาจาก ไปดูงานมา พอได้อ่านแผนงานก็เลยยังไม่ค่อย พอใจเท่าไหร่ ทางเลขาก็เลยเรียกพวกเราเข้าไป พบท่านประธานน่ะ ”

นี่รชารู้สึกประหลาดใจว่า รายละเอียดของ เรื่องนี้ต้องถึงมือประธานกรรมการ ลงมาจัดการ เองเลยเหรอ ?

พรยศมองออกว่านีรชาเองก็รู้สึกสงสัยอยู่ ไม่น้อย เขาถอนหายใจ แล้วพูดว่า : “คุณภัส กรณ์เป็นจอมเผด็จการ ไม่ค่อยฟังใคร จะว่าไป เรื่องแบบนี้ไม่ต้องให้เขาออกโรงเองหรอก ไม่รู้ ว่าทำไมเหมือนกัน เขาย้ำแล้วย้ำอีกว่า ต้องให้ ผู้รับผิดชอบโปรเจกต์ไปพบเขาด้วยตัวเอง แต่ก็ ช่างเหอะ อย่าคิดมากเลย รีบไปเตรียมตัวแล้วอ อกไปกัน ”

ก็นีรชานี่ไง ที่เป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์นี้

ภัสกรณ์ต้องเห็นชื่อเธอในแผนงานของโปรเจกต์นี้แน่ๆ

นี่คุณต้องการอะไรกันแน่ ภัสกรณ์ ! เรื่อง มันก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว ตัวเองก็มีแฟนใหม่แล้ว แล้วทำไมยังไม่ปล่อยเธอไปสักที ?

นีรชารู้สึกโกรธเบาๆ

เมื่อถึงบริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ปจำกัด พนักงานที่ล็อบบี้พานีรชากับพรยศไปที่ชั้น 18 ซึ่ง เป็นห้องทำงานของประธานกรรมการใหญ่ พร้อม กับเสิร์ฟน้ำชาให้พวกเขา : ” ท่านประธานกำลัง ประชุมอยู่ค่ะ อีกสักเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ รบกวนนั่ง รอสักครู่นะคะ”

นีรชาวางโน้ตบุ๊คไว้บนโต๊ะน้ำชา ออกเดิน สำรวจไปรอบๆห้องทำงานของภัสกรณ์

พรมสีดำทอง ผนังห้องสีขาวมุก ตู้หนังสือ โบราณสีพีชวางตั้งอยู่ริมผนังทั้งสามด้าน ตรง กลางห้องประดับด้วยโคมไฟระย้าคริสตัลสุดหรู บนโต๊ะหนังสือวางเรียงด้วยต้นไม้น่ารักๆหลาย ชนิด มองแล้วสบายตา นอกจากนั้นยังมีอ่าง กระบองเพชรน่ารักๆวางอยู่ด้วย

ช่างหรูหรา ละเอียดอ่อน บ่งบอกถึงความ ใส่ใจในทุกๆรายละเอียดจริงๆ
นีรชาอดนึกถึงห้องทำงานของภัสกรณ์เมื่อ 5 ปีที่แล้วไม่ได้ : มีแต่ข้าวของไฮคลาสทั้งนั้น ทว่าดูแมตซ์กัน แถมยังโล่งโปร่งสบายตา

ห้องทำงานของภัสกรณ์ดูหรูหราทันสมัย มี สไตล์ น่าจะเป็นผลงานของนภนัยด้วยล่ะมั้ง ?

นีรชาจินดาการไปเรื่อยเปื่อย แล้วทันใดนั้น พรยศที่นั่งอยู่ข้างๆกัน ก็ลุกขึ้นยืน : “สวัสดีครับ คุณภัสกรณ์ !”

ภัสกรณ์ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว แขนเสื้อพันขึ้น มาถึงข้อศอก ดูราวกับเป็นวายร้ายจอมขี้เกียจใน คราบเทพบุตร เขายื่นมือออกมาทักทายกับพรยศ

ถึงแม้ว่าพรยศจะเป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่ ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่วายที่จะคอยแอบมองนีรชา อยู่ตลอดเวลา

นีรชากัมหน้ากัมตา ใจจดใจจ่ออยู่กับผล งานชิ้นนี้ของตัวเอง นั่งฟังภัสกรณ์กับพรยศหารือ เกี่ยวกับโปรเจกต์นี้อยู่เงียบๆ

พอมีจุดไหนเธอจำเป็นต้องอธิบาย เธอถึง จะปริปากพูดออกมาบ้าง แทบอยากจะให้เอง กลายเป็นกระจกใสไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้นเลยที เดียว
แต่ยิ่งฟังๆไป นีรชายิ่งรู้สึกเคารพในความ คิดและทัศนคติของเขา จากที่เคยคิดว่าเขาเป็น คนเรื่องมาก จู้จี้จุกจิก แต่สุดท้ายพอได้ฟังความ คิดของเขาแล้ว นีรชากลับรู้สึกเขามีแนวคิดมุม มองที่กว้างไกล

หลังจากได้รับคำชี้แนะจากภัสกรณ์ ทำให้ แผนงานของเธอดูมีความแปลกใหม่น่าสนใจยิ่ง ขึ้นเยอะ

นีรชาอดใจไม่ไหว เงยหน้าหันไปมองภัส กรณ์ จังหวะเดียวกันกับที่เขาก็มองมาที่เธอพอดี แววตาที่มองเธอนั้นพราวระยับ ทำให้นีรชาถึงกับ ใจเต้นรั้วระทึก

หลังจากหารือเรื่องโปรเจกต์กันเสร็จ พรยศ เตรียมตัวเก็บข้าวของจะกลับบริษัท ก่อนจะหันไป คุยกับภัสกรณ์ : “คุณภัสกรณ์ครับ เดี๋ยวพวกเรา กลับไปแล้ว จะรีบนำข้อเสนอแนะของคุณไปปรับ แก้ไขอีกทีครับ เสร็จแล้วทางผมจะส่งกลับมา ให้ทางคุณภัสกรณ์ตรวจดูอีกทีนะครับ”

เสร็จแล้วใช่มั้ย จะได้กลับซะที นีรชารู้สึก ผ่อนคลายขึ้นทันตาเห็น

คุณพรยศ คุณกลับไปก่อนแล้วกัน พอดี ผมมีปัญหาอีกนิดหน่อยที่อยากจะคุยกับคุณนีรชาเป็นการส่วนตัว ” ภัสกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ เฉย ทว่าดวงตานั้นทอประกายร้อนแรงดุจเปลว เพลิง

พรยศรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ทันมีเวลาได้คิด อะไรมาก เลยหันมาหันมาพยักเพยิดกับนีรชา : ” น้ำงั้นผมไปก่อนนะ คุณเสร็จธุระแล้วค่อยกลับ บริษัทก็แล้วกัน

“เอ่อ คือ .. คุณทรยศ ฉัน . ” นีรชาไม่ คิดมาก่อนว่าภัสกรณ์จะเอ่ยปากตรงๆให้เธออยู่ ต่อแบบนี้ เล่นเอาเธอนั้นประหม่าจนไม่รู้จะหาข้อ อ้างยังไงเลย

ทางด้านพรยศเอง ก็นึกว่านีรชารู้สึกตื่นเต้น กังวล เลยเอามือยื่นไปแตะไหล่เธอเบาๆ : “น้ำ ไม่ต้องกังวลนะ คุณมีความคิด มีไอเดียอะไร ก็ พูดเสนอไปได้เลย คุณภัสกรณ์เค้าชื่นชมผลงาน คุณมากเลยนะ”

ดวงตาคมเข้มของภัสกรณ์ กำลังมองดูพร ยศที่กำลังวางมือแตะอยู่ที่ไหล่ของเธอ

พรยศเดินออกไปแล้ว ห้องนั้นเงียบสงัดใน บัดดล

คุณภัสกรณ์ เมื่อคุณบอกว่ามีปัญหาอะไรอยากจะคุยกับฉันเหรอคะ ?” นีรชาเดินไป อีกมุมของโซฟา พยายามอยู่ให้ห่างจากเขา

ภัสกรณ์ยืนกอดอกนิ่ง สายตามุ่งตรงมาที่ เธอ : ” นี่คุณจะหลบผมไปไหน ? กลัวผมจะกิน คุณรีไง ?”

นีรชาเริ่มหงุดหงิด นี่เธอมาทำงานนะ ไม่ใช่ มาเพื่อให้เขาเล่นสนุก ! คุณภัสกรณ์ ถ้าคุณไม่มีธุระอะไร งั้นฉัน

ขอตัวกลับก่อน ”

เธอเดินตรงไปที่ประตู เตรียมจะเปิดประตู ออก

มีอของภัสกรณ์เอื้อมมาจากด้านหลังของ นีรชา ประตูถูกล็อคเรียบร้อย

“นี่คุณคิดจะทำอะไร ! ” นีรชาตกใจ

ที่นี่เป็นห้องทำงานของภัสกรณ์ ถ้าเขาเกิด บ้าอะไรขึ้นมา คิดจะทำอะไรไม่ดีกับเธอขึ้นมาจะ ทำยังไง เธอไม่อยากจินตนาการเลย

ร่างกายบอบบางของเธอ แนบชิดอยู่ ระหว่างประตูที่เพิ่งถูกปิดล็อค กับวงแขนของเขา ใบหน้าหล่อๆนั้น ทำเอาเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
“มิน่าล่ะ วันนั้นผมถึงเห็นคุณอยู่ตรงป้าย รถเมล์ ที่แท้คุณก็มาทำงานที่เอฟเอสนี่เอง ” ภัสกรณ์พูดอย่างสบายอารมณ์ เพลิดเพลินอยู่กับ การมองดูนีรชาที่กำลังทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้า เขา

” ภัสกรณ์ ! นี่คุณต้องการอะไรกันแน่ ! หลีกไปนะ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้ !”

นีรชาจ้องเขาด้วยความไม่พอใจ พลางออก แรงผลักไปที่แขนภัสกรณ์

” ถ้าอยากให้ผมหลบไป งั้นคุณก็อย่ามาอยู่ ตรงหน้าผมแบบนี้สิ ! คุณหนีผมไปตั้งไกล มา ตอนนี้กลับมาอยู่ที่เอฟเอสใกล้ๆผมนี่เอง ! แล้ว ยังมารับงานของบริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป ซะด้วย คุณคิดว่าไงล่ะ ?” ภัสกรณ์พูดออกมา อย่างกับคนเสียสติ

นีรชาไม่อยากสนใจกับนิสัยอันธพาลของ เขา เธอคิดแต่ที่จะพยายามผลักแขนเขาออกไป ให้พ้นทาง : ” หลีกไปนะ ! อย่ามาขวางทาง ฉัน ! ”

ภัสกรณ์ขยับแขนเข้ามาแนบชิดประตูขึ้นไป

อีก !
กลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆจากกายเขา ลอย มาแตะจมูกของเธอ ยังคงเป็นกลิ่นนั้นที่แสนคุ้น เคย

ความหวาดกลัวในใจ ผุดขึ้นมาอีกแล้ว

5 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก เธอคิดว่าตัวเอง ได้กลายเป็นคนเข้มแข็งแล้วนะ แต่แล้ว พอได้มา เจอกับภัสกรณ์อีก เล่นเอาเธอไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะไปยังไงต่อเลย ..

“เอามือออกไปนะ ! ถ้าขึ้นยังไม่หลีกไป ความกลัวเอาไว้ พยายามพูดด้วยน้ำหนักแน่น

ล่ะก็ ชั้นจะร้องจริงๆนะ ! ” นีรชาพยายามสะกด

จริงจัง

“งั้นคุณก็ร้องเลย !”ภัสกรณ์จ้องหน้าเธอ เขม็งอย่างอารมณ์ดี เขายิ้มบางๆที่มุมปาก นีรชาเริ่มสลด เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าภัส กรณ์ชอบที่จะออกแบบให้ห้องทำงานเป็นแบบ ห้องเก็บเสียง

ภัสกรณ์ ! จะต้องให้ฉันทำยังไง คุณถึง จะปล่อยฉันออกไป ? คุณเป็นถึงผู้บริหาร เป็นถึง ประธานกรรมการใหญ่ ส่วนฉัน ก็แค่พนักงานธร รมดาๆคนนึง คุณเองก็มีแฟนสาวสวยเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว สวยกว่าฉัน น่ารักอ่อนหวานกว่าฉัน มี ดีกว่าทุกอย่าง ! แล้วทำไมคุณยังจะมาทำให้ฉัน รู้สึกลำบากใจแบบนี้อีก ?”

นีรชายิ่งพูดยิ่งรู้สึกน้อยใจ น้ำใสๆเริ่มคลอ อยู่ที่ดวงตา จนทำให้สายตาเธอเริ่มพร่ามัว

ภัสกรณ์เห็นแล้วถึงกับใจอ่อน

เขาค่อยๆปล่อยมือ คลายวงแขนกำยำออก จากประตู : “นีรชา ผมมันน่ากลัวมากรึไง ? ทุก ครั้งที่คุณเห็นผม ก็พยายามที่จะหลบเลี่ยงผม ตลอด ! ครั้งก่อนที่ร้านอาหารก็เหมือนกัน ! ครั้ง นี้ก็อีก !”

นีรชาสุดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกลำบากใจ ทำตัวไม่ถูก อีดนิดเดียวเธอก็เกือบจะร้องไห้โฮ ออกมาต่อหน้าเขาแล้ว !

ฉันตั้งใจที่จะหลบหน้าคุณจริงๆค่ะ ! เพราะฉันไม่อยากเจอคุณ ไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ อะไรกับคุณอีก ! เรื่องที่ผ่านมา ฉันลืมมันไปนาน แล้ว ! ฉันก็หวังว่าคุณเองก็ควรรีบๆลืมมมันไปให้ เร็วที่สุดเช่นกัน !”

นีรชาพูดออกไปจนหมด

ฝ่ามือของภัสกรณ์จับบีบไปที่ปลายคางของเธอ มุมปากของเขาบิดโค้งด้วยความ หงุดหงิดขุ่นเคือง แววตาแฝงไปด้วยความโกรธ

: ” นี่คุณลืมไปนานแล้วงั้นเหรอ ? เรื่องที่ผ่านมา จำมันไม่ได้แล้วจริงๆใช่มั้ย ?”

น้ำเสียงของเขาทุ่มต่ำ จ้องเขาไปในแววตา ของเธอ ปลายจมูกเขาชนกับจมูกเล็กๆของเธอ

“ฉัน . ” นี้รชาทันได้เปล่งเสียงออกมา แค่คำเดียว ภัสกรณ์ประกบริมฝีปากบดขยี้ลงบน ปากของหญิงสาว !

จากที่ภัสกรณ์รู้สึกถึงความผิดหวังและ โกรธเกรี้ยว อยากจะลงโทษนีรชา แต่สุดท้าย รส จูบจากนีรชา ลมหายใจที่พลุ่งพล่านออกมานั้น ทำให้เขาควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ เขาหยุดมันไม่ ได้

มือนึ่งจับรวบแขนของหญิงสาว พาดขึงไว้ บนหัวเธอ อีกมือหนึ่งโอบรัดกระชับท้ายทอยของ เธอไว้ เขาค่อยๆลดความรุนแรงเกรี้ยวกราดลง บรรจงจูบลิ้มรสชาติของหญิงสาว

นีรชาอาศัยจังหวะที่เขาผ่อนคลายลง กัด ไปที่ลิ้นของเขาอย่างแรง !

รสจูบหอมหวานแพร่ซ่านไปทั่วโพรงปากของทั้งสอง ภัสกรณ์นิ่งเงียบไม่ขยับ สายตา จดจ้องไปที่นีรชาอยู่อย่างนั้น

รูม่านตาของเธอ สะท้อนแววตาหรี่เล็กของ เขา ที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธและเคลิบเคลิ้ม ยากจะคาดเดา

นีรชามองไม่เห็นที่ท่าว่าเขาจะยอมปล่อย เธอง่ายๆ เธอยิ่งกัดเขาแรงขึ้น ! รสจูบยิ่งเร่าร้อนขึ้นไปอีก ภัสกรณ์ไม่เพียง

แต่ไม่ปล่อยเธอ เขากลับโอบรัดเอวเธอแน่นขึ้น

ไปอีก ลิ้นยิ่งตวัดลึกเข้าไปในอุ้งปากเธอ !

บ้าไปแล้ว ! อิตาบ้าน บ้าไปแล้วจริงๆ !

นีรชามองดูเขาด้วยรู้สึกหวาดกลัว เธอไม่ อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น ส่วนเขาก็ไม่รู้สึกเจ็บบ้าง เลยรึไง ! นี่เขายอมทนเจ็บแบบนี้ เพื่อที่จะรังแก เธอให้ได้อย่างงั้นเหรอ !

ทำไมฉันต้องมาเจอกับผู้ชายโรคจิตแบบนี้

ด้วย !


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ