evil spirit นายปีศาจบอกให้รัก

ตอนที่ 127 ใกล้ตาย



ตอนที่ 127 ใกล้ตาย

ทันใดนั้นแสงไฟจากระยะไกลก็ส่องเข้ามา เสียงของจันทร์ฉายก็สะท้อนมา”น้ำ เธออยู่ไหน น้ำ.”

นีรชาจึงรีบคว้าโทรศัพท์ที่ภัสกรณ์นั้นได้กดปิดไป ขึ้นมา จันทร์ฉายหาเธอไม่เจอต้องกังวลมากๆแน่ กำลังคิดจะโทรหาจันทร์ฉายทันใดนั้นเธอก็คิดได้

ว่าตัวเธอนั้นยังไม่ได้สวมเสื้อผ้านีรชาจึงรีบหยิบเสื้อผ้า

ขึ้นมาสวม

“น้ำ กลับบ้านกับผมนะ”ภัสกรณ์จับมือของนีรชา ไว้ไม่ให้เธอสวมเสื้อผ้า

เมื่อกี้นั้นเขาพอใจมากแต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่พอ

“ไม่ได้ค่ะ ไม่ใช่ว่าเราเลิกกันแล้วเหรอคะ ทำไม ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”เมื่อได้ยินเสียงของจันทร์ฉายใกล้เข้า มาเรื่อยๆนีรชาจึงลุกลี้ลุกลน ดึกขนาดนี้แล้วจันทร์ฉาย คงหาเธอไปทุกที่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจะทำยังไง

“ผมรับไม่ไหวจริงๆผมเสียใจ”ภัสกรณ์ลังเลอยู่ครู่ ถึงจะพูดประโยคนี้ออกมา

คำพูดและน้ำเสียงแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนั้นให้ดี ให้ตายยังไงภัสกรณ์นั้นก็ไม่พูดมันออกมา แต่ในวันนี้

เขากลับยอมว่างท่วงที่ของเขาเพื่อนี้รชา

ภัสกรณ์เขาใช้คำพูดกับผู้หญิงตั้งแต่เมื่อไหร่กันเพราะมีแต่ผู้หญิงนั้นที่พูดอ้อนวอนกับเขาแบบนี้ ที่ไหน กันที่เขาจะมาขอร้องอ้อนวอนผู้หญิง

เมื่อดูจากการแสดงออกและการตอบรับของนีรช าภัสกรณ์จึงมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านีรชานั้นจะยอม ตกลง

ความโกรธที่เธอมีต่อเขาก็ค่อยๆจางหายไปเธอ เปลี่ยนใช้ไม้อ้อนด้วยเสียงที่อ่อนโยนทิฐิในตัวเธอก็น้อย ลง

นีรชาแกะมือของภัสกรณ์ออกและรีบสวมเสื้อผ้า

สองวันก่อนนั้นละแวกใกล้ๆนี้มีคดีฆาตกรรมเกิด ขึ้นว่ากันว่ามีคนร้ายขมขื่นผู้หญิงถ้าหากคนไหนขัดขึน พวกมันก็จะฆ่าทั้งก่อน

นีรชาไม่ได้สนใจสิ่งที่ภัสกรณ์กำลังพูด เธอทั้ง สวมเสื้อผ้าทั้งพูดอย่างรีบๆไปด้วย

“คุณแทนเราไม่เหมาะสมกันค่ะเราเป็นเพื่อนกัน จะดีกว่านะคะ”

นีรชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปุ่มเปิดเครื่องและ กดเบอร์โทรออกหาจันทร์ฉาย

“น้ำ”ความรู้สึกของเขาทั้งหมดนั้นได้ถูกนีรชาม องข้าม ภัสกรณ์รู้สึกว่าตัวเองนั้นขี้ขลาดจริงๆ

ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่มีเหตุผล จิตใจเย็นชา เพียง สวมเสื้อผ้าแล้วก็กลับทำเป็นไม่รู้จักกัน

ภัสกรณ์คว้าโทรศัพท์จากมือของนีรชา เขาเปิดประตูหน้าต่างแล้วโยนโทรศัพท์ออกไปไกล

ทางด้านจันทร์ฉายที่กำลังรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล น้ำ เธออยู่ไหน”เสียงดีใจและแปลกใจดังออกมา

นีรชาได้ยินเสียงของจันทร์ฉายเพียงคำว่า “ฮัล โหล”ตัวเธอเองนั้นยังไม่ทันได้อ้าปากพูดโทรศัพท์ก็ถูก ภัสกรณ์โยนออกไป

“คุณแทน คุณรู้ไหมว่าตัวเองนั้นกำลังทำอะไร อยู่”นีรชานั้นโกรธจนตัวสั่น เธอตะโกนใส่เขา “คุณเป็น บ้าหรอ ฉันไม่กลับไปกับคุณ ไม่มีวันกลับไปกับคุณ”

เธอผลักภัสกรณ์และกำลังจะลงจากรถ

ประโยคที่ว่า “ไม่กลับไปกับคุณ”ทำให้ปลุกเร้า ความอดทนกลั้นความโกรธไว้ของภัสกรณ์ขึ้นมา

มือใหญ่ผลักนีรชาไปที่เบาะหลังเขาใช้มือฉีก กระโปรงชุดนอนตัวบางจนขาดเป็นชิ้นๆ

“ได้ น้ำ นี่เป็นสิ่งที่เธอขอเองนะ”ภัสกรณ์พูดด้วย น้ำเสียงโหดเหี้ยมและบิดแขนของเธอแน่น

“คุณแทน คุณบ้าไปแล้วเหรอ คุณมันคนบ้าฉัน เกลียดคุณ”นีรชาเอื้อมมือออกไปจับหน้าของภัสกรณ์ตัว เธอเองนั้นก็เกินใจอ่อนขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด มันเป็นแค่ เพียงพริบตาเดียวผู้ชายคนนี้แท้จริงแล้วก็คือคนโรคจิต คนหนึ่ง เป็นคนบ้า”

นีรชาไม่สามารถตีเขาได้เพราะมือทั้งสองข้าง ของเธอถูกควบคุมโดยเขาและเขาก็เป็นคนบังคับมือนั้น
สายตาเย็นชาของนีรชาจ้องไปที่หลังคารถเธอ กลายเป็นตุ๊กตาที่ไร้ความรู้สึกและความคิด

นรุตม์ที่หลับไปแล้วต้องตื่นอีกครั้งเพราะเสียง โทรศัพท์ “มีอะไร”เขารับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงโมโหแต่

เมื่อได้ยินเสียงคู่สนทนาเขากลับลดเสียงลงอย่างนุ่ม

นวล “อ่า คุณจันทร์ฉายเป็นอะไรไปครับ อย่าร้องเลย

ครับ”

จันทร์ฉายร้องไห้ออกมาเสียงสะอึกสะอื้น “คุณ นรุตม์ น้ำเขา..ต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับน้ำแน่ๆเลย..ฉัน โทรหาเขาเมื่อกี้ เขา…เขากำลังรับโทรศัพท์….แต่สายมัน ก็ตัวไป มันกระทบกับอะไรสักอย่าง..ฉันสงสัยว่า สงสัย ว่าน้ำจะถูกลักพาตัวไปค่ะ”

นรุตม์ขมวดคิ้วขึ้นมา ถ้าหากว่านีรชาอยู่กับภัส กรณ์ก็ไม่น่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ

หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ?

“คุณนรุตม์ คุณต้องช่วยฉันนะ ช่วยฉันตามหาน้ำ คุณไป.คุณไปดูคุณภัสกรณ์ .ว่าเขาอยู่บ้านหรือ เปล่า …น้ำอาจจะถูกเขาลักพาตัวไป”จันทร์ฉายร้องไห้ไม่ หยุด

เธอกังวลใจมาก

“เอาละเอาละ เด็กดีไม่ต้องร้องนะ คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมรีบไปหา “นรุตม์ม์นั้นเป็นคนอ่อนไหวง่ายเพียง ได้ยินเสียงจันทร์ฉายร้องไห้ก็รู้สึกเจ็บปวดจึงรีบไป
ปลอบเธอ

จันทร์ฉายที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนแปลงปลูกดอกไม้ เพียงเธอเห็นนิรุตม์ลงจากรถมาก็อดกลั้นน้ำตาไว้นาน มากแต่มันกลับไหลพรั่งพรูออกมา

“คุณนรุตม์ ฉันทำน้ำหายไปแล้ว..

จันทร์ฉายร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างปวดใจหัวไหล่ บางตั้งตระหง่านน้ำตาไหลอาบสองแก้ม มองไปที่ตา ของนิรุตม์เหมือนเด็กที่กำลังหลงทางที่กำลังต้องการ ความช่วยเหลือและกำลังตามหาแม่ของตัวเอง

ทันใดนั้นใจของนรุตม์ก็เริ่มอ่อนบางเดินเข้าไปหา จันทร์ฉายยึดร่างบางของเธอไว้จันทร์ฉายนั่งข้างนอน เป็นเวลานานทำให้ตัวของเธอนั้นเย็นมาก

นรุตม์ถอดเสื้อคลุมของเขาคลุมตัวของจันทร์ฉาย

ไว้และใช้มืออุ่นปาดน้ำตาบนหน้าเธอ “เด็กดีไม่ต้องร้อง

แล้วนะผมจะช่วยคุณหาคุณน้ำเอง ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

กับคุณน้ำหรอก คุณวางใจเถอะนะ”

แต่ไหนแต่ไรรอยยิ้มบนใบหน้าของนรุตม์นั้นหา ได้ยากที่จะแสดงออกอย่างมั่นคงเช่นนี้ มองไปที่ร่างสูง ของนรุตม์ในใจของจัทร์ฉายเวลานี้ก็รู้สึกสงบขึ้นมาก

นรุตม์กดโทรศัพท์โทรหาภัสกรณ์แต่ภัสกรณ์นั้น กลับปิดเครื่องภัสกรณ์จึงโทรไปที่บ้านของภัสกรณ์แม่ บ้านบอกว่านายน้อยของเธอนั้นยังไม่กลับบ้าน

น่าแปลกจริง ภัสกรณ์ไปไหนของเขานะ
ต้องการที่จะหาคุณน้ำแต่ตอนนี้ไม่มีเบาะแสใดๆ ของทั้งสองคนเลยจึงต้องเริ่มหาจากภัสกรณ์แต่ภัสกรณ์ ก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้

“จันทร์ฉาย คุณได้หาพวกเขาในระแวกใกล้บ้าน คุณหรือยัง”นรุตม์ถามขึ้นมา

ถ้าหากว่าภัสกรณ์กลับไปหานีรชาจริงๆ ถ้าอย่าง นั้นพวกเขาต้องนั่งอยู่ในรถของภัสกรณ์แน่ๆและอาจจะ อยู่ในระแวกนี้

“อ่า ฉันยังไม่ได้หาในชุมชนแถวนี้เลยค่ะ”คำพูด ของนรุตม์ทำให้จันทร์ฉายนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นั้นที่เธอลง มาจากตึกดูเหมือนว่าจะมีรถคันนึงจอดอยู่แต่ว่ามันมีด มากและโดนเงาของต้นไม้บังอยู่ทำให้เธอนั้นไม่ได้ สังเกตอย่างละเอียด

ตอนนี้คิดได้ว่ารถคันนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นรถของ

ภัสกรณ์

เธอ จึงดึงนรุตม์ขึ้นและวิ่งกลับไป

แสงส่องสว่างของไฟฉายฉายไปที่ทะเบียน รถยนต์ นรุตม์ตกใจหันไปมองหน้าจันทร์ฉาย “นั้นมันรถ ของแทน”นรุตม์จึงจับมือของจันทร์ฉายวิ่งไปที่รถคันนั้น

ภัสกรณ์กำลังเคลิบเคลิ้มแต่ทันใดนั้นก็ถูกแสง สว่างจ้าส่องสว่างมาที่ตา

“Shit!” ภัสกรณ์สบคำหยาบออกมา ใครกันนะ ดึกขนาดนี้แล้วยังถือไฟฉายมาส่องไปทั่ว ถ้าหากไม่ใช่ ช่วงเวลาสำคัญเขานั้นอยากจะลงไปต่อยคนนั้นสักที
จันทร์ฉายถือไฟฉายวิ่งไปกับนรุตม์เพื่อไปที่รถ ของภัสกรณ์

“คุณภัส…กำลังพูดออกมาได้ครึ่งคำตาของเธอ กลับมองไปเห็นฉากในรถ คาดไม่ถึงว่าภัสกรณ์และนีรชากำลังทำเรื่องแบบ

นั้นในรถ

ทันใดนั้นใบหน้าของจันทร์ฉายก็เปลี่ยนเป็นสี แดงอยากจะดีตัวเองสักทีที่ส่องไฟเข้าไปในรถ

นรุตม์ก็เห็นเหตุการณ์ในรถเขากรอกสายตาอย่าง อึดอัดและดึงจันทร์ฉายไปทางด้านข้าง

นีรชาที่อยู่ในรถนั้นก็ตกใจมากเลือดไหลเวียนขึ้น หน้า

ต้องเป็นจันทร์ฉายแน่ๆ จันทร์ฉายเห็นเธอกับภัส กรณ์แล้วนีรชารู้สึกอยากตายเหลือเกิน

ชีวิตนี้คงไม่มีหน้าไปพบใครแล้ว

จันทร์ฉายและนรุตม์นั่งอย่างอึดอัดบนม้าหินอ่อน ไกลๆหน้าของจันทร์ฉายแดงเหมือนผ้าสีแดงโชคดีที่ ท้องผ้ามีเมฆดำ นรุตม์คงจะมองเห็นหน้าเธอไม่ชัด

ผู้ชายนั้นมีสัญชาตญาณของสัตว์ที่เพิ่งเห็น เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้เลือดทั่วร่างของนรุตม์นั้นลุกโชน ขึ้นมา

ผู้หญิงที่นั่งด้านข้าง กลิ่นหอมจางๆลอยมาตาม ลมในยามค่ำคืนนรุตม์จึงรู้สึกคันๆในหัวใจรสชาติของจันทร์ฉายนั้นคงจะดีไม่เบา

“พวกแกมาทำอะไรกันตรงนี้”ภัสกรณ์ดเสียงดัง ทำให้นรุตม์และจันทร์ฉายรีบเงยหน้าขึ้นมา

ภัสกรณ์ยืนอยู่ด้านหน้าของพวกเขาด้วยความ โกรธ ดวงตาแหลมคมแทบจะแทงทะลุงใบหน้าของพวก เขา

“แทน..ฉันขอโทษ….พวกเราไม่คิดว่าพวกแก เหอะๆ”นรุตม์ตอบไปอย่างวางตัวไม่ถูก ใครก็ตามที่ทำเรื่องแบบนั้นแล้วมีคนมาเห็นเขา

คงไม่ชอบใจนรุตม์นั้นเข้าใจภัสกรณ์

จันทร์ฉายกลับอึดอัดไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ใบหน้าของภัสกรณ์นั้นอึมครึมไม่น่ามองอยากจะ ชกนรุตม์สักที

“น้ำละคะ?”จันทร์ฉายรวบรวมความกล้าถาม เพราะเมื่อครู่นั้นที่เธอเห็นสีหน้าของนีรชานั้นสิ้นหวัง และไร้ความรู้สึกทำให้เธอเป็นห่วงนีรชามาก

ภัสกรณ์ไม่ตอบหมุนตัวกลับขึ้นรถอย่างเย็นชา สีหน้าของผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นทำให้เขารู้สึก ตกใจเล็กน้อย ในใจของเขานั้นก็รู้สึกประหม่า

เขาเปิดประตูรถใบหน้าของภัสกรณ์กลายเป็นสี ขาวซีด “น้ำ!”เสียงร้องตกใจของเขาแทบทำให้ใจคน แตกเป็นเสี่ยงๆ

“กรด”เสียงร้องแหลมน่าเวทนาของจันทร์ฉายที่ยืนอยู่ด้านหลังของภัสกรณ์

ภายในรถเต็มไปด้วยเลือดนีรชาสวมเสื้อผ้าที่ฉีก ขาดนอนหายใจโรยราอยู่ที่นั่งด้านหลังของรถในมือเธอ นั้นถือมีดตัดกระดาษไว้

ข้อมือด้ายซ้ายของเธอมีรอยแผลลึกอย่างน่าน่า

ตกใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ