evil spirit นายปีศาจบอกให้รัก

ตอนที่ 113 เอาแต่ใจตลอด



ตอนที่ 113 เอาแต่ใจตลอด

ทันใดนั้นดวงตาของนีรชาก็ประสานกันกับ สายตาของภัสกรณ์ นีรชาไม่หลบหนี แต่กลับ เผชิญหน้ากับเขาอย่างกล้าหาญ

ในตอนนี้นีรชาลืมเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างเขากับภัสกณ์ที่มันยังราคาคาซังกันอยู่ เธอเป็นเพียงแค่พนักงานคนนึง ที่แสดงความเห็น ให้กับบริษัทรับฟัง และหวังว่าบริษัทจะได้รับ ความเสียหายน้อยที่สุด

เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะฉะนั้นเธอจึง กล้าเผชิญหน้ากับภัสกรณ์

แววตาของภัสกรณ์เปล่งประกายเป็นการ ชื่นชมเธอ คิดไม่ถึงเลยนีรชาเป็นแค่พนักงานใหม่ แต่เธอกลับมีมุมที่สุดยอดขนาดนี้ ในการรายงาน การประชุมเมื่อกี้นี้ ขนาดเขายังไม่ผิดสังเกตอะไร เลย แต่เธอ…กลับมองเห็นมัน

ภัสกรณ์มองที่นีรชา โดยที่ไม่อยากจะเชื่อ สายตาของตัวเอง

เขาพูดกับผู้จัดการฝ่ายธุรกิจว่า “คุณผู้จัดการ กลับไปตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง

นีรชารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ เธอได้ผลแล้ว

หลังจากที่การรายงานเสร็จสิ้นลง นีรชาอุ้ม สมุดบันทึกของตัวเองกำลังเดินออกจากห้อง ประชุม ฝีเท้าของภัสกรณ์กำลังก้าวเดินออกจาก ห้องประชุมพอดี เขามองแผ่นหลังนีรชาซึ่งอยู่ไม่ ไกล

นีรชาเงยหน้าขึ้นพอดี ทั้งเธอและเขาสบตา กัน เธอรู้สึกเสียวแปลับเข้ามาที่ใจ และรู้สึกดื่นๆ ขึ้นมาเล็กน้อย

“ท่านประธาน” ผู้อำนวยการอาวุโสเห็นภัส กรณ์มองคุณเลขาฯจากด้านหลัง นึกว่าภัสกรณ์ ยังมีธุระอะไรอยู่

ภัสกรณ์ยังคงจ้องมองที่นีรชา เขาพูดออก มาจากลำคอว่า “ให้รางวัลกับคุณเลขาฯนีรชาด้วย ตามข้อกำหนดของรางวัลสูงสุด

ธารีที่อยู่ด้านหลังของภัสกรณ์ ได้ยิน ประโยคนั้นอย่างชัดเจนเต็มสองหู เธอกัดที่ริม ฝากอันแดงของตัวเอง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วย ความอิจฉา
เห็นท่าทีที่ไม่พอใจของธารี ทำให้นีรชา รู้สึกไม่สบายใจ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยคิด จะทำงานเพื่อหวังเอาหน้า หรือหวังอะไรทั้งนั้น เพิ่งจะเข้ามาทำงานแท้ๆ ก็ดันมีศัตรูเกิดขึ้นโดยที่ ไม่ตั้งใจ

กลับถึงห้องทำงานของเลขาฯ นี้รชายังคง รู้สึกกังวลจันทร์ฉายมองเห็นสีหน้าของนีรชา ก็ รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ว่างานของเธอเกิดปัญหา อะไร จึงรีบเดินไปถามด้วยความเป็นห่วง “น้ำ แก โอเคใช่ไหม หรือว่าเมื่อกี้ในที่ประชุม เธอจด รายงานไม่ทัน”

“จันทร์ฉาย เธอหนะก็คิดมากไป เมื่อกี้คน เขาเพิ่งได้หน้ามา ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นคน โปรดของท่านประธาน” ธารีพูดขึ้นมาจากที่นั่ง ทำงานของเธอ ด้วยน้ำเสียงกระแซะเบาๆ

จันทร์ฉายเห็นท่าทีที่ทั้งอิจฉาทั้งโกรธของ ธารี ก็รู้ทันทีว่างานของนีรชาไม่ได้มีปัญหาอะไร เธอรู้สึกโล่งใจ ตบไหล่ของนีรชาเบาๆ และกลับ ไปที่ที่นั่งของตัวเอง

“จันทร์ฉาย เมื่อกี้ในห้องประชุมฉันเห็นการ รายงานผลผิดพลาด ของผู้จัดการฝ่ายกิจการ”

“ยัยน้ำ เมื่อกีในห้องประชุมแกทำอะไรของแก คุณธารีถึงมาท่าทีที่ทั้งโกรธ ทั้งอิจฉาแกแบบ นั้น” ทั้งสองคนมองหน้ากันและกันพูดคุยตอบโต้ กันไปมาอย่างสนุกสนาน

ธารีมองดูทั้งสองพูดคุยกัน มืออันเรียว และอ่อนนุ่มสีขาวของเธอกำแน่นไปที่แก้วน้ำ เล็บมืออันสวยงามได้รับแรงกดอย่างแรง จนหัก ออกมาหนึ่งนิ้ว

นีรชาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องประชุมให้กับ จันทร์ฉายฟัง จันทร์ฉายตื่นเต้นจนแทบจะ กระโดดโลดเต้น “ยัยน้ำ แกมันสุดยอดไปเลย สุด ยอดจริงๆ”

นีรชายิ้มแบบเขินอาย จันทร์ฉายเป็นคน ร่าเริง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอก็เป็นคนชอบชมเชย ผู้อื่น

อยู่ๆเงาของภัสกรณ์ก็โผล่มาตรงกระจก ของประตู เขากับผู้บริหารสองคนกำลังเดินออก จากห้องทำงาน

“ยัยน้ำ แกสุดยอดไปเลยยยยยย ท่าน ประธานออกไปแล้ว พวกเราช่วงบ่ายก็สบายขึ้น มาหน่อยนึ่ง” จันทร์ฉายดีใจจนดีไปที่หน้าต่าง เล็กๆของนีรชา
ธารีมองเห็นเงาของภัสกรณ์ผ่านกระจก ใบหน้าของนีรชาอยู่ในสายตาของเธอ กระพริบ ตาเล็กน้อย ลุกขึ้นและสะบัดตูดออกไปจากห้อง เดินไปที่ห้องน้ำชา

ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว จันทร์ฉายเดินมา อย่างดีใจ ตบที่ไหลของนีรชาเบาๆ “ยัยน้ำ ไป ปปป ไปกินข้าวกันเถอะ”

ร้านอาหารพนักงานของบริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ปจำกัด โดดเด่นจริงๆ นอกจากจะ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีมากมายหลายอย่าง ให้เลือก รสชาติก็อร่อยไม่แพ้ร้านอาหารที่มีชื่อ เสียง โภชนาการก็สูง

นี่คือเหตุผลว่าทำไมหลายๆคนถึงต่อแถว กันมาสมัครงานที่ บริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป จำกัด สวัสดิการดี ครอบครัวก็มีสุข มากไปกว่านั้น ประธานของบริษัทฯก็มีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเกิน คำบรรยาย แถมโสดอีกด้วย ผู้หญิงหลายๆคนที่ ยังไม่ได้แต่งงาน เข้ามาทำงานที่นี่ก็หวังเพื่อจะ ได้ใกล้ชิดกับท่านประทานมากขึ้น อย่างเช่น ธารี เป็นต้น

เธอกับภัสกรณ์เคยมีค่ำคืนที่น่าหลงใหล ด้วยกัน แต่น่าเสียดาย มันก็แค่คืนเดียวเท่านั้น
แต่เธอไม่ได้เต็มใจ เธอต้องควบคุมหัวใจ ของตัวเอง เธอไม่เชื่อใจภัสกรณ์อีกแล้ว

นีรชาและจันทร์ฉายนั่งอยู่ในมุมที่ค่อนข้าง ห่างไกลจากผู้คน คุยไปด้วยและกินไปด้วย มี ความสุขแบบบรรยายไม่ถูก นานแล้วที่นีรชาไม่ ได้มีความสุขแบบนี้ ได้นั่งคุยกับเพื่อนสนิท ช่างมี ความสุขจริงๆ

ธารีเดินมาจากทางด้านข้าง บนถาดข้าวมี น้ำซุปร้อนๆที่เพิ่งออกมาจากเตาอยู่หนึ่งถ้วย

เธอเดินสะบัดไปสะบัดมาจนมาถึงที่ด้าน ข้างของนีรชา อยู่ๆมือก็อ่อนแรง ถาดข้าวเอียงลง น้ำซุปร้อนๆในถ้วยทั้งหมดคว่ำลงโดนที่แขนของ นีรชา

“โอ้ยยยยยยย!” เสียงของนีรชาร้องดังขึ้น มา ธารีร้องเสียงขึ้นมาอย่างดังว่า “นีรชา ฉัน ขอโทษ ขอโทษจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ”

“โอ้ยยยยย แสบร้อนมากๆเลย” น้ำซุป ร้อนๆลวกที่แขนของนีรชาทำให้ที่แขนของเธอ กลายเป็นสีแดง

“เฮ้ย น้ำ แกโอเคไหม” จันทร์ฉายรีบเอา ถาดข้าวออกและดูที่แนของนีรชา รอยแดงๆที่เกิดจากการถูกน้ำร้อนลวกเริ่มพองขึ้นมา “น้ำ

แขนแกพองแล้ว” จันทร์โกรธแบบสุดขีดและ หันไปพูดกับธารี “ทำไมเธอไม่ระวังเลย เห็นไหม แขนของน้ำพองหมดแล้ว”

ธารีใจแคบสุดๆ เธอแกล้งทำเป็นขอโทษ “ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ”

เห็นท่าทางที่เสแสร้งของธารี จันทร์ฉายก็ รู้สึกโกรธเป็นฟื้นเป็นไฟ “ไม่ใช่ว่าเธอไม่ตั้งใจ หรอก ฉันเห็นเต็มๆกับตา ว่าเธอตั้งใจทำมัน”

“จันทร์ฉาย” นีรชาดึงจันทร์ฉายไว้และร้อง เสียงออกมาแบบกลั้นความเจ็บปวด ถ้าหากไม่ดึง จันทร์ฉายไว้เธอคงตบธารีอย่างแน่นอน

ทุกคนก็คือเพื่อนร่วมงานกันมั้งหมด นีรชา ไม่ได้เก็บเรื่องราวในห้องประชุมมาเป็นเรื่องใหญ่ ในหัวใจจะว่าไป บางทีธารีอาจจะไม่ได้ตั้งจริงๆ ก็ได้

ผู้คนที่ท่านข้าวอยู่โรงอาหารเริ่มมองเห็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนจำธารีได้ ก็ซุบซิบ นินทากัน “แม่นกขนพองของท่านประธานแผลง ฤทธิ์พาลใส่คนอื่นอีกแล้ว”

“อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ยัยผู้หญิงคนนั้นที่โดนน้ำซุปหกใส่เป็นแค่คนธรรมคนนึง วันนี้ในการประชุม ใหญ่ เธอก็ได้หน้า ได้รางวัลมาชุดใหญ่”

ได้หน้า ได้รางวัลแล้วยังไงหรอ พวกแก ไม่รู้ล่ะสิว่าคุณธารีกับท่านประธานเขาเป็น อะไร. .”

อยู่ๆทุกเสียงซุบซิบนินทาก็เงียบลง เงียบ สงัดจนทำให้บรรยากาศตรึงเครียด

เสียงฝีเท้าเดินของรองเท้าหนังเริ่มเข้าใกล้ มาเรื่อยๆ

นีรชาเงยหน้าขึ้นมอง เธอถึงกับต้องตก ตะลึงอ้าปากค้าง ภัสกรณ์!

เขาและผู้บริหารอีกไม่กี่คนกำลังเดินตรงมา ทางนี้

“เฮ้ย ทำไมท่านประธานถึงเข้ามาในโรง อาหารของพนักงานได้เนี่ย” จันทร์ฉายพูดเสียง เบาๆ

โรงอาหารของบริษัทที.เอส พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ปจำกัดมีทั้งหมดสามชั้น โดยปกติท่านประธาน จะใช้ห้องอาหารด้านบน ส่วนชั้นล่างสุดจะเป็น ของพนักงานทั่วไปอย่างพวกเรา

ไม่แปลกหรอกที่จันทร์ฉายจะตกใจ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นท่านประธานลงมา ที่โรงอาหารชั้นล่าง

ภัสกรณ์เดินเข้ามาในโรงอาหารของ พนักงาน ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งซุบซิบและชี้ไปที่มุม

ขวา

ภัสกรณ์มองเห็น นีรชาและธารีเหมือน กำลังมีปากเสียงกัน และเลขาฯอีกนที่ยืนข้างๆ ก็ ทำท่าทางเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

นีรชาขมวดคิ้วด้วยท่าทีที่เจ็บปวด

ภัสกรณ์ขมวดคิ้ว คิดในใจว่า ยัยตัวดี เธอ ก่อเรื่องอะไรอีกนะ

ภัสกรณ์เดินเข้าไป และถามด้วยความเย็น ชาว่า “พวกเธอทำอะไรกัน”

เขาหันไปมองนีรชาและธารี เห็นใบหน้าที่ เคร่งขรึมของภัสกรณ์ ที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังพวก เธอ

ทั้งสองคนพร้อมใจกันเดินถอยหลังคนละ ก้าว ภัสกรณ์ดูโกรธอย่างมาก

นีรชาพยายามพูดออกมาว่า “อ่อ ไม่มีอะไร ค่ะ ฉันแค่ไม่ระวังทำน้ำซุปหกใส่แขนเฉยๆ คุณ เลขาฯจันทร์ฉายกำลังจะพาฉันไปห้องปฐมพยาบาลค่ะ”

จันทร์ฉายรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่กับสิ่งที่นีรช าพูด เธอก็เลยชี้ไปทางธารีพูดว่า “ไม่ค่ะ นีรชาไม่ ได้ทำน้ำซุปหกใส่ตัวเอง ธารีต่างหากที่เป็นตั้งใจ คนทำน้ำซุปร้อนๆ หกใส่นี้รชา”

เธอไม่กลัวและไม่สนใจว่าธารีคือคนรัก ของภัสกรณ์ วันนี้เธอจะต้องนำความยุติธรรม คืนให้กับน้ำให้ได้

นีรชาแขนไปซ่อนไว้ข้างหลัง ไม่อยากให้ ภัสกรณ์มองเห็น

ภัสกรณ์เดินก้าวเข้าไปใกล้ และเอาแขนที่ อยู่ด้านหลังออกมา แขนของนีรชาตรงที่โดนน้ำ ร้อนลวก ตอนนี้เริ่มพองเป็นจุดๆ

ภัสกรณ์ขมวดคิ้วและไม่พูดอะไร เขาใช้ สายตาอันดอันมองไปที่ธารี เอามือจับนี้รชาและ พยุงเธอขึ้นมาเพื่อพาไปห้องปฐมพยาบาล

ธารีและจันทร์ฉายต่างตกตะลึงกับภาพที่ เห็น ได้แต่มองทั้งสองคนจากด้านหลัง ใบหน้า ของจันทร์ฉายยังคงนิ่งอึ่งอยู่ ส่วนธารีใบหน้า ของเธอ เต็มไปด้วยความอึง ความโกรธและ ความหึงหวง
นีรชาใช้แรงที่มีสะบัดออก แต่มือของภัส กรณ์นั้นมีแรงเยอะมาก เธอรู้สึกอายกับหลายๆ สายตาที่มองมาที่เธอ แต่เธอไม่อาจขัดขืนได้ ทำได้เพียงปล่อยให้ภัสกรณ์จับมือเธอ และลาก เธอผ่านทุกสายเดินตรงไปที่ลิฟต์

พอเข้ามาในลิฟต์ นีรชาพยายามแกะมือ ออกอกจากภัสกรณ์ “ฉันไปห้องปฐมพยาบาลเอง ได้ คุณไปทำธุระของคุณต่อเถอะ”

ภัสกรณ์ไม่สนใจในสิ่งที่เธอกำลังพูด เขา สนใจแต่แขนของเธอ เขายกแขนของเธอขึ้นจ้อง มองด้วยความตั้งใจ แขนเริ่มแดงเป็นแผ่นๆ ผิว ของเธอเริ่มพองเป็นน้ำใสๆ คิดว่าเธอคงจะปวด แสบไม่น้อย

“อย่าขยับ!” ภัสกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ยัยนี่ดีแต่ทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วง ไม่สบายใจ เวลาผ่านไปแค่แปปเดียว ก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว หรอ

“ฉันไปห้องปฐมพยาบาลเองได้ เอายาใส่ นิดๆก็หายแล้ว ปล่อยมือฉันสักที” นีรชารู้สึกว่า ภัสกรณ์กังจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ ก็แต่น้ำร้อนลวกและพองนิดๆหน่อยๆเอง เมื่อ ก่อนตอนที่เธอทำงานในร้านอาหาร โดนน้ำร้อนเลวกมันเป็นเรื่องปกติ

“หุบปาก!” ภัสกรณ์ตะโกนอย่าดุดันใส่หน้า

เธอ

นีรชาคิ้วขมวด “คุณจะใส่อารมณ์ทำไม” ตา บ้านท่าทางจะสมองจะมีปัญหา เมื่อกี้ยังแกล้งทำ เป็นห่วง สักพักก็มาตะคอกใส่

“ทำไมเธอมันโง่แบบนี้ มองเห็นคนอื่นถือ น้ำซุปร้อนๆเดินมา ทำไมเธอไม่หลบห้ะ!” ภัสกรณ์ โกรธจนแน่นที่หน้าอก และเริ่มพูดกับเธอด้วย “ไม่ต้องมาทำเป็นสอน

เหตุผล

ฉัน ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง” นีราชาเริ่มโกรธจนหน้า แดง เธอไม่ได้ร้องขอให้ภัสกรณ์เขามาช่วยเหลือ เขาเข้ามาเอง และยังจะมาโมโหอารมณ์เสียใส่ เธออีก

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ เอาแต่ใจ ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น ทุกๆ อย่างก็ต้องอยู่บนความคิด ความต้องการของเขา

เมื่อไหร่เข้าจะเรียนรู้ที่จะรับฟังและเคารพ คนอื่นสักทีนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ